คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเที่ยวญี่ปุ่น

ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ต้องขอวีซ่าแล้วอยู่ได้กี่วัน / ต้องแสดงเอกสารอะไรบ้างเมื่อถึงสนามบิน

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่มีวัตถุประสงค์ท่องเที่ยวและพำนักที่ประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ.2556

เอกสารที่ควรนำติดตัวไปเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่น
(หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้ร้องขอ ไม่ต้องแสดง)

  1. ตั๋วเครื่องบินขาออกจากประเทศญี่ปุ่น
  2. สิ่งที่ยืนยันว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น เงินสด บัตรเครดิต เป็นต้น)
  3. ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น คนรู้จัก โรงแรม และอื่นๆ)
  4. กำหนดการเดินทางระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น

รายละเอียดทั้งหมด ดูที่นี่ http://www.th.emb-japan.go.jp/th/jis/2013/1321-2.htm

*** หมายเหตุ หากท่านเดินทางเข้าญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากการท่องเที่ยว ท่านยังคงต้องดำเนินการขอวีซ่าตามปกติ และหากท่านต้องการพำนักในญี่ปุ่นนานกว่า 15 วัน ท่านต้องขอวีซ่า ***

เที่ยวด้วยตัวเองที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ควรเริ่มอย่างไรดี

เริ่มจากการอ่านข้อมูลจากเอกสาร “เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง” ที่นี่
(ไฟล์ PDF) https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2015/12/travel_japan_yourself.pdf

ภายในเอกสารให้ข้อมูลเตรียมตัวท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ช่วยคุณวางแผนตั้งแต่ 60 วันก่อนเดินทาง

  • จุดหมายการเดินทาง/ช่วงเวลาการเดินทาง
  • วิธีการเดินทางภายในประเทศญี่ป่น
  • การจองเครื่องตั๋วเครื่องบิน/ที่พัก/การตรวจคนเข้าเมือง
  • การเลือกพาสในการใช้งาน/สภาพอากาศและการแต่งกาย

การจองที่พักต้องทำอย่างไร หาแบบไหนดี และดูอย่างไรว่าใกล้สถานทีที่ไหน

คุณสามารถจัดจองที่พักโดยใช้บริการผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์ที่คุณไว้ใจ

หากคุณเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง คุณสามารถจองที่พักทางเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง หรือผ่านเว็บไซต์ผู้ให้บริการจัดจองโรงแรม อย่างไรก็ตาม ควรอย่างยิ่งที่จะจองที่พักก่อนวันเดินทาง เนื่องจากที่พักที่ญี่ปุ่นค่อนข้างเต็มตลอดทั้งปีโดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ควรดูข้อมูลโดยละเอียด เช่น ชื่อที่พัก ข้อมูลที่ตั้ง การเดินทางสถานีที่ใกล้ที่สุด จำนวนคนพัก และบริการต่างๆของโรงแรมให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

ดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของ JNTO
http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/accomodations/index.html

หาที่พักที่มีให้บริการโดยทั่วประเทศ

http://www.jnto.go.jp/ja-search/eng/index.php

http://www.japanican.com

http://travel.rakuten.com

http://www.j-hotel.or.jp/english/

พักโรงแรมเรียวคังทั่วญี่ปุ่น
http://www.ryokan.or.jp/lang/th/

โรงแรมเรียวคังเป็นอย่างไง

เรียวคัง (Ryokan) เป็นที่พักสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์พักโรงแรมแบบญี่ปุ่น โดยทั่วไปเรียวคังจะมีอนเซ็นหรือบ่ออาบน้ำรวมแบบญี่ปุ่นให้บริการ

ที่พักโรงแรมเรียวคังทั่วญี่ปุ่น
http://www.ryokan.or.jp/lang/th/

ข้อมูลเกี่ยวกับเรียวคังและวิธีการแช่ออนเซ็น (ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/newsletter/onsen-ryokan/

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเรียงคังและลิงค์ไปเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง (ภาษาอังกฤษ)
http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/accomodations/ryokan.html

ใช้ตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าเดินทางอย่างไร

ตู้ล็อคเกอร์ส่วนใหญ่มีกำหนดวันฝากสูงสุดได้ 3 วัน นับ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 24:00 – 24:00 นาฬิกาของอีกวัน แต่ขนาดของล็อกเกอร์และราคาอาจมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานี เช่น สถานีใหญ่อาจจะมีล็อกเกอร์ขนาดใหญ่

วิธีใช้ล็อคเกอร์โดยละเอียด (ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/newsletter/locker/

ใช้บริการขนส่งกระเป๋าอย่างไร

การใช้บริการขนส่งกระเป๋าระหว่างโรงแรมกับสนามบิน รวมทั้งระหว่างโรงแรมกับโรงแรมจะทำให้การท่องเที่ยวสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ใช้บริการส่งกระเป๋าของบริษัทต่างๆ เช่น

โดยบริษัทต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นจะมีเคาน์เตอร์อยู่ในสนามบิน

จะใช้บริการนี้อย่างไร ?

  1. หากคุณอยู่ที่โรงแรม ให้สอบถามพนักงานดูแลกระเป๋า (Bell Desk) หรือพนักงานโรงแรม แต่หากคุณอยู่ในสนามบิน ให้ไปที่เคาน์เตอร์บริษัทขนส่งกระเป๋า
  2. เช็คอินกระเป๋าเดินทางของคุณ โดย เตรียมที่อยู่ เบอร์โทรปลายทาง เลือกวัน-เวลาที่จะให้กระเป๋าไปถึง แล้วแจ้งพนักงานดูแลกระเป๋าของโรงแรม
  3. จ่ายค่าขนส่งกระเป๋า รวมค่าภาษี
  4. แจ้งจุดหมายปลายทางที่เราจะส่งไปให้ทราบล่วงหน้าว่ามีการจัดส่งกระเป๋าเดินทาง
  5. รับกระเป๋าเดินทางของคุณที่จุดหมายปลายทาง

ราคาค่าส่งขึ้นอยู่กับขนาดสัมภาระ และระยะทาง

การใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่น มีวิธีไหนบ้าง

  1. ใช้บริการ Wi-Fi ฟรี ตามโรงแรม ร้านกาแฟ สำนักงานท่องเที่ยว โดยถามรหัสได้จากพนักงานหรือเจ้าหน้าที่
  2. ใช้บริการ Wi-Fi ฟรี ผ่านจุดให้บริการต่างๆ ทั่วประเทศ
    อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    https://www.jnto.or.th/freewifi/
    http://www.ntt-bp.net/jcfw/en.html
    http://flets.com/freewifi/index.html
    http://www.freespot.com/users/map_e.html
  3. เช่าเครื่อง Wi-Fi router (ข้อดีคือ มี Wi-Fi router เครื่องเดียวแต่แบ่งสัญญาณให้ต่ออินเตอร์เนทได้หลายคนพร้อมๆ กัน คุณอาจเช่าเครื่องจากผู้ ให้บริการในไทย หรือเช่ากับบริษัทที่ญี่ปุ่นก็ได้)
  4. ใช้บริการ International Roaming แบบ แบบมีค่าใช้จ่าย จากการใช้บริการเครือข่ายที่ไทย หรือ ที่ญี่ปุ่น รายละเอียดแตกต่างกันตามแต่ละบริษัท

แนะนำ Application เที่ยวญี่ปุ่นสำหรับ iPhone (iOS)

  1. ขอแนะนำ Application ต่างๆ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่น ที่มีให้ดาวน์โหลดมาใช้ฟรี และที่ให้ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเจ้าของ Application เหล่านี้แต่อย่างใดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    https://www.jnto.or.th/newsletter/app-2013/

แนะนำ Application เที่ยวญี่ปุ่นสำหรับ Android

  1. ขอแนะนำ Application ต่างๆ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่น ที่มีให้ดาวน์โหลดมาใช้ฟรี และที่ให้ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเจ้าของ Application เหล่านี้แต่อย่างใดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    https://www.jnto.or.th/newsletter/application-android/

ใช้บริการรถแท็กซี่ได้อย่างไร

  1. อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    https://www.jnto.or.th/newsletter/taxi/

ไปชมภูเขาฟูจิที่ไหน อย่างไร

ภูเขาไฟฟูจิ มรดกโลกด้านวัฒนธรรม เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 3,776 เมตร บริเวณที่จะชมทิวทัศน์ได้ชัดมีหลายที่ ทั้งเมืองรอบๆ เขตอุทยานแห่งชาติฟูจิฮะโกะเนะอิซุ และรอบทะเลสาบทั้ง 5 ได้แก่ ทะเลสาบยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โมะโตะสุโกะ โชจิโกะ ไซโกะ รอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเดินทางไปโดยรอบได้ด้วยรถบัสและรถไฟสายเอกชนและผู้ที่สนใจไต่ภูเขาไฟฟูจิ ขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อม

ภูเขาฟูจิเปิดให้ขึ้นไปปีนเขาเที่ยวชมในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมของทุกปี

ในช่วงปีใหม่เที่ยวอะไร ที่ไหนได้บ้าง

ภูมิอากาศและอุณหภฺมิ แต่ละเมืองของญี่ปุ่นเป็นอย่างไร

ญี่ปุ่นประกอบด้วย 4 ฤดู ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาว สภาพอากาศและการแต่งกายจึงแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ช่วงที่ร้อนที่สุดในรอบปีคือเดือนสิงหาคม ช่วงที่หนาวที่สุดในรอบปีคือ เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนเดินทางควรวางแผนจัดเสื้อผ้าที่เหมาะสม นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะผอม ยาว ทำให้แม้ในช่วงเวลาเดียวกัน อุณหภูมิบริเวณเหนือสุดจนถึงใต้สุดของประเทศจะแตกต่างกัน ยกเว้นที่เกาะโอกินาว่า ที่อุณหภูมิอบอุ่นตลอดปี

อุณหภูมิแต่ละเมืองท่องเที่ยว สามารถตรวจดูได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้

อยากชมเทศกาลของญี่ปุ่น จัดขึ้นเมื่อไหร่

งานเทศกาลต่างๆ ของญี่ปุ่นมีทั่วประเทศ ตลอดทั้ง 4 ฤดู ในแต่ละปีการฉลองเทศกาลต่างๆ เผยให้เห็นถึงความนึกคิดของชาวญี่ปุ่น ซึ่งต้นกำเนิดของงานเทศกาลจะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ที่เตือนความทรงจำให้นึกถึงค่านิยมที่ยึดถือกันมานาน เช่น งานเทศกาล โอ-บง ในฤดูร้อน ผู้คนจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดและเคารพบรรพบุรุษ งานฉลองปีใหม่ในฤดูหนาว งานชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ และเทศกาลชมสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ดูข้อมูลเทศกาล และวันเวลาที่จัดได้ที่นี่
https://www.jnto.or.th/activities/festival/

จะชมซากุระในญี่ปุ่นได้ช่วงไหน

ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม เมษายน พฤษภาคม
อากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น แม้คนญี่ปุ่นจะถือว่าอบอุ่นแล้ว แต่ยังค่อนข้างเย็นสำหรับคนไทย

ดอกซากุระจะเริ่มบานจากทางภาคใต้ เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ ช่วงเวลาที่ระบุจึงเป็นเพียงการประมาณการณ์ ดอกซากุระจะบานช่วงปลายเดือนมีนาคมและเมษายนของทุกๆ ปี ระยะเวลาที่ดอกซากุระบานแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ใน 1 ปี ดอกซากุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

ดูพยากรณ์ช่วงเวลาที่ซากุระบาน
http://www.jnto.go.jp/sakura/eng/index.php

ชมรายละเอียดของจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีได้ที่
https://www.jnto.or.th/activities/sakura/

สถานที่ชมดอกซากุระที่ญี่ปุ่น
https://www.jnto.or.th/newsletter/hanami-sakura/

ชมซากุระพร้อมภูเขาไฟฟูจิ
https://www.jnto.or.th/newsletter/sakurafu/

เรื่องที่เที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ภาษาอังกฤษ
http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/category/season/spring/

Japan’s Four Seasons and Flowers
http://www.jnto.go.jp/eng/attractions/rest/hana/hana_p1.html

ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นมีอะไรน่าสนใจและมีที่ไหนแนะนำบ้าง

ฤดูร้อน : มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม
อากาศในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นอุณหภูมิอากาศคล้ายอยู่ที่เมืองไทย

ฤดูร้อนมีเทศกาลดอกไม้ไฟและงานวัดตามเมืองต่าง ๆ เช่น ร่วมชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีจัดเกือบทุกเมือง ชมระบำพื้นเมือง “Bon Odori” หรือ เทศกาลดวงดาวทะนะบะตะ (Tanabata) ที่จัดขึ้นทั่วประเทศ และเทศกาลที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างคือ เทศกาลแห่หุ่นโคมไฟ (Nebuta Matsuri) ทางภูมิภาคโทโฮคุที่จัดได้ยิ่งใหญ่ในทุกปี เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมในฤดูร้อน เช่น ชมดอกไม้ ไม่ว่าจะทุ่งดอกไม้สีม่วงลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปีที่เกาะฮอกไกโด หรือจะเป็นการทำกิจกรรมแบบปีนเขา ชมธรรมชาติดูนก เก็บผลไม้ เป็นต้น

แหล่งท่องเที่ยวฤดูร้อนในญี่ปุ่น
https://www.jnto.or.th/wp-content/uploads/2015/12/summer.pdf

หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นคือฤดูแห่งดอกไม้ไฟ
https://www.jnto.or.th/newsletter/summer-fireworks-2014/

มาสนุกไปกับเทศกาลในฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นกันเถอะ
https://www.jnto.or.th/newsletter/funny/

ฤดูร้อนนี้ไปเที่ยวสระว่ายน้ำใหญ่ๆที่ญี่ปุ่นกัน
https://www.jnto.or.th/newsletter/funpool/

ฤดูร้อนของฮอกไกโด มีสิ่งสุดพิเศษที่คุณคาดไม่ถึง
https://www.jnto.or.th/newsletter/hokkaido-2014/

แหล่งท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน (ภาษาอังกฤษ)
http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/category/season/summer/

ถ้าอยากชมใบไม้เปลี่ยนสีไปช่วงไหนจึงจะดี

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีไล่จากภาคเหนือลงมาทางภาคใต้ของญี่ปุ่น โดยทั่วไป เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

นักท่องเที่ยวสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ตามสวนสาธารณะ วัด ศาลเจ้า วนอุทยานแห่งชาติ แถบที่ราบสูงเทือกเขานอกเมือง ภูเขาต่างๆ เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น แถบนิกโก้ ทะเลสาบโทวะดะ เป็นต้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ภาษาไทย

จุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม
https://www.jnto.or.th/activities/autumn-season/

ตามรอยใบไม้แดง ณ เกียวโต
https://www.jnto.or.th/newsletter/autumn-leaves-kyoto/

ชมซากุระพร้อมใบไม้เปลี่ยนสีที่เมือง Obara
https://www.jnto.or.th/newsletter/obara-2013/

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี (ภาษาอังกฤษ)
http://www.jnto.go.jp/eng/indepth/seasonal/seasons_2004autumn-winter/

ที่เที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (ภาษาอังกฤษ)
http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/category/season/autumn/

พลาดไม่ได้แล้ว! โอกาสชมใบไม้เปลี่ยนสีครั้งสุดท้ายของปี!
https://www.jnto.or.th/newsletter/autumn-leaves/

ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีก่อนใครในญี่ปุ่นที่ฮอกไกโดกันเถอะ!
https://www.jnto.or.th/newsletter/hokkaido-kouyou/

แนะนำจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โทโฮคุ (Tohoku)
https://www.jnto.or.th/newsletter/touhoku-kouyou/

สัมผัสฤดูใบไม้เปลี่ยนสีผ่านมุมมองวิวปราสาทในญี่ปุ่น
https://www.jnto.or.th/newsletter/autumn-castle-view/

ไปลองนั่งรถไฟ Torokko สายหุบเขาคุโรเบะกันเถอะ
https://www.jnto.or.th/newsletter/torokko/

อยากไปสัมผัสหิมะที่ญี่ปุ่นควรไปเมื่อไรและมีที่ไหนแนะนำบ้าง

ฤดูหนาว : ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ ฤดูหนาวของญี่ปุ่น อุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวและมีหิมะตก
ฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะตามเมืองต่าง ๆ และการประดับไฟ เช่น เทศกาลหิมะที่ซัปโปโร เกาะฮอกไกโดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เทศกาลประดับโคมไฟที่ปราสาทฮิโระซะกิ (Hirosaki) และเทศกาลคะมะกุระ (Kamakura) มีที่เมืองโยะโกะเตะ (Yokote) จังหวัด Akita ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมกระท่อมหิมะยามราตรีที่สวยงามน่าประทับใจ

กิจกรรมในฤดูหนาว เช่น การเล่นสกี สโนว์บอร์ด,สโนว์โมบิล,การเล่นเพลิดเพลินกับหิมะ,แช่ออนเซนท่ามกลางหิมะ,ดูลิงแช่น้ำร้อน เป็นต้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ภาษาไทย

ข้อมูลการเล่นสกีทั่วประเทศได้ที่
https://www.jnto.or.th/newsletter/ski-resort/

สนุกกับการเล่นสกีที่ญี่ปุ่นกันเถอะ
https://www.jnto.or.th/newsletter/ski-resort-2016/

ข้อมูลการเล่นสกีทั่วประเทศได้ที่ ภาษาอังกฤษ
http://www.jnto.go.jp/eng/location/rtg/pdf/pg-802.pdf

ฤดูหนาวที่ญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ
http://www.jnto.go.jp/eng/indepth/seasonal/seasons_2004autumn-winter/winter/index.html

ที่เที่ยวในช่วงฤดูหนาว ภาษาอังกฤษ
http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/category/season/winter/

ชมดอกไม้ในฤดูหนาว
https://www.jnto.or.th/newsletter/sakura/

การใช้เจอาร์เรลพาสแบบทั่วประเทศ และบริษัทตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ

JAPAN RAIL PASS (JR PASS)  คือ ตั๋วโดยสารรถไฟท่องเที่ยวแบบไม่จำกัดระยะทาง ขึ้นเหนือล่องใต้ทั่วญี่ปุ่นได้สุดคุ้ม ใช้กับพาหนะของบริษัท JR Japan Railway 6 บริษัท ได้ทั้ง รถไฟ JR รถโดยสาร หรือเรือเฟอร์รี่ของ JR รวมถึงรถไฟฟ้าด่วนพิเศษชินคันเซน (ยกเว้นขบวน Nozomi, Mizuho และรถไฟใต้ดินตามเมืองต่างๆ)

การซื้อต้องซื้อนอกประเทศญี่ปุ่นและต้องเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นในระยะสั้นเท่านั้น จะมีบริษัทตัวแทนในประเทศไทยให้บริการจำหน่าย เมื่อซื้อจากบริษัทตัวแทนในไทยแล้วจะได้คูปองมา ต้องไปเปิดใช้ที่ญี่ปุ่นภายในสามเดือน เมื่อเอาคูปองให้เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ JR ที่ญี่ปุ่นเจ้าหน้าที่จะมอบตั๋ว Japan Rail Pass ให้คุณเอาไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่เวลาขึ้นรถลงไฟตามแต่ละสถานี

JAPAN RAIL PASS (JR PASS)  มีตั๋วให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน

JR Rail Pass แบ่งเป็นสองชนิดคือ :

  1. Green Class (สำหรับชั้น First Class Green Car)
  2. Ordinary Class (สำหรับชั้น Tourist Class)

ตารางราคาบัตรล่าสุดหลังจากมีการปรับภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราใหม่เรียบร้อยแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 1 เมษายน 2014)

contact-faq-01

รายละเอียดเพิ่มเติม :
http://www.japanrailpass.net/eng/en003.html

บริษัทตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

การจองที่นั่งโดยใช้เจอาร์พาสได้อย่างไร

วิธีการสำรองที่นั่งที่ช่องหน้าต่างสีเขียว (TICKET OFFICE)

contact-faq-02

หากต้องการที่จะสำรองที่นั่งรถไฟขบวนชินคันเซ็นหรือรถไฟแบบด่วนพิเศษและอื่นๆ สามารถนำตั๋ว JR Pass มาออกตั๋วล่วงหน้าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วเจอาร์ (JR Ticket Office)  ที่มีสัญลักษณ์หน้าต่างเขียว (MIDORI NO MADOGUCHI) กำกับอยู่ และควรแสดงบัตร JR PASS พร้อมระบุเที่ยวที่ต้องการจองแล้วรอรับบัตรระบุหมายเลขที่นั่งขบวนรถก่อนขึ้นสถานีไปโดยสารรถไฟทางไกลตามชานชลา แต่เมื่อที่นั่งสำรองเต็มท่านก็ยังสามารถใช้บริการที่นั่งแบบไม่สำรองได้

การสำรองที่นั่งต้องทำหลังจากที่ได้บัตร JR Pass แล้ว และไม่อาจสำรองจากนอกประเทศได้
นอกจาก JR EAST SHINKANSEN สำรองผ่าน : http://www.jreast.co.jp/e/eastpass/index.html

เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบเส้นทางการเดินทางต่างๆ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

การเดินทางโดยรถบัส ไปต่างจังหวัด

มีบริการรถบัสจำนวนมากและหลากหลายบริษัทที่ให้บริการโดยมีการเชื่อมระหว่างเมืองกับเมือง ตามสถานที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เดินทางโดยรถบัสทางหลวงจะราคาถูกกว่าการโดยสารเครื่องบิน/รถไฟเนื่องจากการเดินทางจะกินเวลานานกว่าเครื่องบิน/รถไฟและบ้างครั้งการจราจรก็ติดขัด มีทั้งรถบัสกลางวันและกลางคืน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งสะดวกและสามารถชมวิวได้ เพราะมีเส้นทางมากกว่า 1,500 เส้นทาง

รายละเอียดเพิ่มเติม

บริษัทที่ให้บริการ สถานที่ เว็บไซต์
Japan bus WEB ทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ : http://www.bus.or.jp/en/index.html 
Highway bus  net ทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น : http://www.kakuyasubus.jp/
Bus Willer Express ทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ : http://willerexpress.com/en/
Highway bus.com ทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น : https://www.highwaybus.com/rs-web01-prd-rel/gp/index
ภาษาอังกฤษ : https://www.highwaybus.com/rs-web01-prd-rel/gp/foreign/frgSelectLine?lang=en
VIP LINER ทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ : http://vipliner.biz/?&lang=ENG
kousokubus.net ทั่วประเทศญี่ปุ่น ภาษาญี่ปุ่น : https://www.kousokubus.net/PC/index.aspx
JR Bus Kanto Kanto ภาษาญี่ปุ่น : https://www.jrbuskanto.co.jp/
Nishitetsu Kyushu ภาษาอังกฤษ : http://www.nishitetsu.jp/en/index.html
Nohi Bus Takayama ภาษาอังกฤษ : http://www.nouhibus.co.jp/english
Fujikyu Bus Fuji Five Lakes ภาษาอังกฤษ : http://bus-en.fujikyu.co.jp
Meitetsu Bus Nagoya http://www.meitetsu-bus.co.jp/english/

ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารในญี่ปุ่น

ร้านอาหารประเภทต่างๆ

หากจะเริ่มสำรวจอาหารนานาชนิดที่มีให้เลือกมากมายในญี่ปุ่น ลองไปเดินเล่นแถวๆ สถานีรถไฟ แล้วคุณจะเห็นอาหารท้องถิ่นหลากหลายประเภทในแหล่งรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มบริเวณดังกล่าว ซึ่งมักจะมีราคาเหมาะสม

สำหรับผู้ที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ร้านอาหารหลายแห่งมีอาหารจำลองทำจากพลาสติกหรือขี้ผึ้งวางโชว์ไว้ที่ตู้โชว์หน้าร้าน หรือไม่ก็มีเมนูพร้อมรูปภาพ

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เป็นอีกแห่งที่เหมาะกับการซื้อหารอาหารราคาไม่แพง ซึ่งมักจะมีชั้นบนหรือชั้นใต้ดิน บริเวณทั้งชั้นเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายประเภท ร้านอาหารราคาถูกบางแห่งจะให้ลูกค้าซื้อตั๋วสำหรับอาหารแต่ละอย่างจากเคาน์เตอร์จ่ายเงินหรือเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ จากนั้นลูกค้านำตั๋วนี้ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ภายในร้าน นอกจากนี้ การให้ทิปไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติในญี่ปุ่น

ร้านอาหารชั้นสูง นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้ว ยังมีหลากหลายให้เลือกตั้งแต่อาหารจีนเลิศรสชั้นแนวหน้าไปจนถึงสุดยอดของอาหารฝรั่งเศส ร้านอาหารชั้นนำในญี่ปุ่นให้บริการได้ไม่เป็นสองรองใคร ร้านอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโรงแรมระดับท็อปหรือในย่านกลางเมืองที่ทันสมัย เช่น Ginza, Roppongi หรือ Akasaka ในโตเกียว นักกินจะได้ค้นพบรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน

ร้านอาหารยอดนิยม ร้านอาหารราคาไม่แพงจำนวนมากจะรวมตัวกันอยู่ที่ชั้นใต้ดินของอาคารสำนักงานใจกลางเมือง ชั้นร้านอาหารของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าในเมือง และห้างใต้ดินของสถานีรถไฟต่างๆ ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ในช่วงอาหารกลางวัน ร้านอาหารเหล่านี้จะเนืองแน่นไปด้วยพนักงานออฟฟิศ หลายคนชอบสั่งเทะโชะกุ หรืออาหารชุดราคาถูกเสิร์ฟมาบนถาด ในร้านอาหารส่วนใหญ่ คุณจะได้ใบแจ้งค่าอาหารเพื่อนำไปจ่ายตอนกลับ แต่บางร้านจะต้องซื้อคูปองอาหารก่อนแล้วค่อยยื่นให้พนักงานเสิร์ฟ ร้านพวกนี้จะรับเงินสด ยกเว้นบางร้านที่รับบัตรเครดิตด้วย ส่วนร้านอาหารราคาถูก ร้านกาแฟ และร้านฟาสต์ฟู้ดจะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น และไม่รับทิป

แห่งอื่นๆ สำหรับทานอาหารญี่ปุ่น

  • ข้าวกล่องมื้อกลางวันมีขายบนรถไฟ ซึ่งบางอย่างจะเป็นของเฉพาะท้องถิ่นนั้น
  • อาหารค่ำบนเรือที่แล่นชมอ่าวในตอนเย็นเป็นโอกาสที่คุณจะเห็นแสงไฟจากเมืองที่สะท้อนบนผืนน้ำ
  • ร้านแผงลอยข้างถนนซึ่งบางร้านมีเก้าอี้ให้นั่งด้วย มีขายอาหารทานเล่นอร่อยๆ ในราคาไม่แพง
  • อาหารค่ำพร้อมการแสดงที่โรงแรมหรู ให้คุณสัมผัสอาหารรสชาติเยี่ยมพร้อมชมการแสดงสด จะเป็นค่ำคืนที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป
  • ร้านสะดวกซื้อมีขายแซนด์วิช ข้าวกล่องมื้อกลางวัน และอาหารปรุงสำเร็จอื่นๆ ที่ซื้อกลับบ้านได้
  • ชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าเหมาะอย่างยิ่งกับการลองชิมอาหารหลากหลายชนิดแบบฟรีๆ
  • ไคเต็น ซูชิ (ซูชิ สายพาน): ลูกค้าจะนั่งรอบเคาน์เตอร์ที่เป็นวงกลม รอหยิบซูชิราคาถูกที่เวียนมาตามสายพาน

แหล่งรวมข้อมูลร้านอาหารทั่วญี่ปุ่น

เคล็ดลับหาของกินอร่อยๆ ราคาถูกที่ญี่ปุ่น

นักท่องเที่ยวต่างชาติมักคิดว่า อาหารที่ญี่ปุ่นราคาแพง คราวนี้ขอแนะนำเคล็ดลับ ทำอย่างไรจึงจะประหยัดค่าอาหารที่ญี่ปุ่น หากอยากประหยัดอาจซื้ออาหารได้ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือจะกินร้านข้าวหน้าเนื้อต่าง ร้านที่ซื้อคูปองจากตู้กดแล้วเอาไปยื่นให้พนักงาน ร้านราเม็งหรืออุด้งที่ต้องยืนกิน ขอนำเสนอเคล็ดลับใหม่ๆที่จะทำให้ได้กินของอร่อยในราคาที่ประหยัดกว่า
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.jnto.or.th/newsletter/trick-2013/

ร้านอาหารแสนสนุกในญี่ปุ่น

นอกเหนือจากการลิ้มรสอาหารอร่อยที่ญี่ปุ่นแล้ว ยังมีร้านอาหารอีกหลายรูปแบบที่อาจสร้างความสนุกสนานให้กับคุณและครอบครัวได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารนินจาที่ภายในร้านตกแต่งราวกับคุณได้เข้าไปอยู่ในป้อมปราการของเหล่านินจา นอกจากนี้ ทางร้านยังมีการจัดแสดงศิลปะนินจา
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.jnto.or.th/newsletter/funjapan/

ร้านอาหารมังสวิรัติ และ HALAL

บริเวณต่างๆทั่วญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่นิยมทานอาหารมังสวิรัติ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมสามารถเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสบายใจ โดยคุณสามารถหาข้อมูลร้านอาหารมังสวิรัติและร้านอาหาร Halal ในญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.jnto.or.th/activities/japan-food/halal-japan/

ข้าวกล่องบนรถไฟที่แสนอร่อย

เพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆจากหน้าต่างรถไฟทั้งสองข้าง พร้อมชิมอาหารรวมทั้งของดีของแต่ละท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.jnto.or.th/newsletter/box-lunch/

กินชูชิในราคาประหยัดแค่จานละ 100 เยน

หากเราพูดถึงชูชิที่ญี่ปุ่นนั้นมีมากมายหลายระดับ รสชาติก็แตกต่างกันไปตามราคา วันนี้จะกล่าวถึงชูชิสายพาน (Kaiten Sushi) ในราคาประหยัด คุณภาพเหมาะสมกับราคาที่จ่ายและอิ่มเต็มท้อง โดยราคาชูชินี้เริ่มต้นที่ 100 เยน มีหลายร้านที่ขายในราคาดังกล่าว เช่น ร้าน Kappa sushi ร้าน Akindo Sushiro ร้าน Kura-corpo เป็นต้น ซึ่งร้านเหล่านี้มีสาขามากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.jnto.or.th/newsletter/sushi/

ตัวอย่างการเดินทางแนะนำที่เป็นภาษาไทย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ตัวอย่างการเดินทางแนะนำที่เป็นภาษาอังฤกษ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่