อาหารท้องถิ่นของฮอกไกโด (Hokkaido)

อาหารที่จะช่วยให้ร่างกายอันหนาวเหน็บในฤดูหนาวของฮอกไกโดอบอุ่นขึ้นได้ก็คือราเม็งสักชาม ตามเมืองใหญ่ๆ ในฮอกไกโดอย่างที่ อะซะฮิคะวะ (Asahikawa) คุชิโระ (Kushiro) หรือ ฮาโกะดาเตะ (Hakodate) ล้วนแต่มีราเม็งสูตรพิเศษของแต่ละท้องถิ่นกันทั้งนั้น ตัวเด่นของที่นี้คือ “มิโซะราเม็ง (Miso Ramen)” ที่ทานกันในเมืองซัปโปโร นอกจากจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแล้ว ก็ยังได้รับความนิยมจากผู้คนในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน ด้วยน้ำซุปใสที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูพร้อมด้วยวัตถุดิบต่างๆ นำมาปรุงรสด้วยมิโซะ และบะหมี่เส้นหยักหนา สำหรับท้อปปิ้งนั้นอาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ร้าน แต่โดยมากมักใส่ผักผัด ข้าวโพด เนื้อสัตว์สับผัดด้วยมิโซะ สาหร่ายวากาเมะ และเนย เป็นต้น น้ำซุปรสชาติเข้มข้นนี้จะช่วยให้ร่างกายที่หนาวเหน็บในฤดูหนาวอบอุ่นขึ้นได้เป็นอย่างดี

หากพูดถึงข้าวราดแกงกะหรี่ของญี่ปุ่นแล้ว เราจะนึกถึงสีอะไรคะ? คงไม่มีใครจะคิดว่าที่ฮอกไกโดนั้นมีเมนูแกงกะหรี่สีขาวหรือ “White Curry” ให้ลองทานด้วย  เมนูแกงกะหรี่สีขาวนี้เป็นเมนูชื่อดังในท้องถิ่นฮอกไกโด แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด หลักๆ คือ “รสอาหารทะเล” และ “รสเห็ด” และเนื่องจากไม่ค่อยใช้เครื่องเทศมากนัก จึงมีรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ และบางร้านก็เสิร์ฟแกงกะหรี่มากับข้าวสีเหลืองที่หุงด้วยแซฟฟรอน (Saffron) ด้วย

“เนื้อย่างเจงกิสข่าน” ที่นับว่าเป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณของชาวฮอกไกโดนั้น เป็นการนำเอาเนื้อแกะมาย่างในหม้อเหล็กที่มีลักษณะเฉพาะ โดยเนื้อแกะที่ใช้นั้นจะมีทั้งแบบ แลมบ์ (lamb) ที่นุ่มและปราศจากกลิ่นสาบ และแบบ มัตตัน (mutton) ซึ่งเป็นเนื้อลูกแกะที่อายุ 2 ปีขึ้นไป และในปัจจุบันก็มีบางร้านที่เสิร์ฟเนื้อที่แปลกออกไปอย่าง เนื้อกวางเอโซชิกะ (Ezo-Shika Deer) ด้วยเช่นกัน

ในการทานเนื้อย่างเจงกิสข่านนั้น จะต้องเรียงผักชนิดต่างๆ อย่างเช่นหอมใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น และถั่วงอก ลงไปรอบๆ หม้อเหล็ก จนเมื่อความร้อนกระจายทั่วถึงหม้อดีแล้วจึงนำเนื้อแกะมาใส่ลงตรงกลาง เมื่อสุกดีแล้วจึงคีบขึ้นมาทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ เมนูนี้สามารถหาทานได้ทั่วไปในฮอกไกโด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวเมืองซัปโปโร (Sapporo City) จะมีร้านขายเนื้อย่างเจงกิสข่านให้เลือกลิ้มลองอยู่มากมาย

เมนูจากวัตถุดิบแสนอร่อยของฮอกไกโดที่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว “ไคเซนด้ง (Kaisen-don)” เป็นเมนูที่นำเอาอาหารทะเลสดๆ มาโปะลงบนข้าวสวยจนแทบจะล้นในชามหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ดมบุริ (Donburi) ไม่ว่าจะเป็นไข่ปลาแซลมอนหมักโชยุ (Shoyu) ไข่หอยเม่นสดๆ เนื้อปู หอยเชลล์สด ปลาหมึก เนื้อปลาแซลมอน หรือปลาทูน่า (Maguro) นอกจากนี้ยังสามารถเลือกวัตถุดิบได้เองตามใจชอบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึก หรือหอยชนิดต่างๆ ไคเซนด้งบางร้านก็อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบหลากหลายชนิดโปะรวมกัน เมนูนี้สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารและร้านซูชิทั่วไปในเมือง แต่หากตื่นเช้าสักหน่อยก็แนะนำให้ลองไปเดินตลาดดู จะได้ทานไคเซนด้งสดๆ แสนอร่อยอย่างแน่นอน

ในบรรดาอาหารทะเลฮอกไกโดหลากหลายชนิดนั้น สิ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ “ปู” นั่นเอง จะทานสดๆ แบบซาชิมิ (sashimi) ก็อร่อย หรือจะต้มทำเป็นหม้อไฟ หรือจะนำมาย่างก็อร่อยเลิศไม่แพ้กัน

ปูทาราบะ (King Crab)

ปูทาราบะ (King Crab) เป็นปูที่มีลักษณะเปลือกเป็นตะปุ่มตะป่ำ บางตัวเมื่อกางขาออกอาจมีขนาดใหญ่กว่า 1 เมตรทีเดียว ด้วยรสชาติอร่อยเข้มข้นทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชาแห่งปู (King Crab)”
สำหรับชื่อ “ทาราบะ (Taraba)” นั้นก็มาจากการที่ปูชนิดนี้มักอาศัยอยู่ตามเขตท้องทะเลที่จับปลาค้อด (Cod) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าปลาทาระ ได้มากนั่นเอง

ปูซุไว (Snow Crab)

ปูซุไว (Snow Crab) เป็นปูที่มีขาเรียวเล็ก เนื้อแน่นเด้ง มีรสหวานกลมกล่อม นิยมนำมาต้มหรือทานสดๆ เป็นซาชิมิ หรือจะนำมาทำเป็นหม้อไฟก็อร่อยเช่นกัน

ปูขน (Hairy Crab)

ชื่อปูขน (Hairy Crab) นั้นมาจากลักษณะของปูที่มีขนาดเล็กและมีเส้นขนเล็กๆ ขึ้นอยู่เต็มตัว เนื้อและมันปูรสชาติอร่อยเข้มข้น นอกจากนี้ยังนำมาต้มทำน้ำซุปได้อร่อยอีกด้วย นอกจากจะทานสดๆ หรือนำมาย่างแล้ว ยังนิยมนำมาใส่ในหม้อไฟ หรือใส่ในราเม็งด้วยเช่นกัน