ทริปครอบครัวสุขสันต์ที่อิเสะ-ชิมะ (Ise-shima) จังหวัดมิเอะ (Mie)

สนุกกับการย้อนเวลากลับไปในยุคของนินจาที่อาณาจักรนินจาอิเสะ (Ninja Kingdom Ise) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ (Ise) จังหวัดมิเอะ (Mie) ธีมพาร์คแห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1993 โดยจำลองบรรยากาศ สถาปัตยกรรม หรือการแต่งกายในช่วงยุคอะซึชิ-โมโมยะมะ (Azuchi-Momoyama) หรือราว 400 ปีก่อนหน้านี้ของประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่คือการเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อผ้าสมัยโบราณ ซึ่งมีทั้งของผู้ใหญ่และเด็ก เดินเที่ยวชมภายในอาณาจักรนินจาอิเสะ (Ninja Kingdom Ise) แห่งนี้

ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กๆ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาญี่ปุ่นในสมัยโบราณ ชมการแสดงสดที่โรงละครนินจา สัมผัสวิถีแห่งนินจา ผจญภัยในป่านินจา ตื่นตาตื่นใจไปกับอาวุธต่างๆ ทั้งดาวกระจาย ธนู พร้อมสนุกกับกิจกรรมท้าทายต่างๆ มากมาย ทำให้รู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในยุคนินจาจริงๆ เลยทีเดียว
นอกจากนี้อีกทั้งยังมีอาหารทะเลสดๆ หรืออาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่ออย่าง “อิเสะอุด้ง” ให้ได้ลิ้มลอง พร้อมช้อปปิ้งซื้อของฝากได้ที่ร้านขายของที่ระลึก และสำหรับคนที่ชื่นชอบการแช่น้ำพุร้อนที่นี่ก็มีอนเซ็นไว้ให้บริการอีกด้วย เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวก็สนุกครบทุกรสเลย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมะมารีนแลนด์ (Shima Marineland) ตั้งอยู่ที่เมืองชิมะ (Shima) ในจังหวัดมิเอะ (Mie) ที่นี่มีการจัดแสดงปลานานาชนิดมากมายกว่า 2,500 ตัว ราว 50 สายพันธุ์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีจัดแสดงปลาไว้ในแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ให้ได้ชื่นชมกันอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ปลาฉลาม ปลาบุริ (ปลาหางเหลือง) แมงกะพรุน หรือไฮไลท์สำคัญของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ก็คือ การได้ชม “ปลาแสงอาทิตย์” ซึ่งเป็นปลาที่มีรูปร่างแปลกตา มีลำตัวขนาดใหญ่เป็นทรงกลม ตัวแบน แต่มีครีบสั้นๆ บนและล่างลำตัว ซึ่งเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดใหญ่ได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว และไม่ค่อยพบเห็นในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไป โดยภายในพิพิธภัณฑ์น้ำชิมะมารีนแลนด์ได้มีการสร้างแท็งก์น้ำสำหรับปลาแสงอาทิตย์ขึ้นมาโดยเฉพาะจึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

นอกจากนี้ยังมีโชว์ให้อาหารสัตว์ เช่น การให้อาหารนกเพนกวินแสนน่ารัก และที่นี่ยังมีซากฟอสซิลของสัตว์น้ำหลากหลายชนิดให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของสัตว์น้ำในอดีต นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับความน่ารักของสัตว์น้ำนานาชนิดแล้ว ยังได้ความรู้กลับไปได้อีกด้วย

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือการเปิดประสบการณ์สปาปลาโดยปลาการารูฟา (Garra Rufa) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “Doctor Fish” เนื่องจากปลาชนิดนี้จะช่วยกินเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของมนุษย์ได้

อามะ (Ama) เป็นชื่อเรียกอาชีพดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ดำน้ำลงไปในทะเลโดยไม่ใช้อุปกรณ์ดำน้ำใดๆ เพื่อจับปลา หอย หรือของทะเล เนื่องจากร่างกายของผู้หญิงมีชั้นไขมันมากกว่า สามารถทนความหนาวเย็นของนํ้าได้ดีกว่า และปอดของผู้หญิงก็สามารถกลั้นหายใจได้ดีกว่าผู้ชาย อามะบางคนสามารถดำลงไปได้ลึกถึง 10-15 เมตรเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้จักกับอามะให้มากยิ่งขึ้นก็สามารถมาได้ที่กระท่อมอามะซาโตมิอัน (Ama Hut SATOUMIAN) เดิมทีกระท่อมของอามะนั้นเป็นกระท่อมสำหรับพักผ่อน และเป็นที่สำหรับผิงไฟให้ความอบอุ่นกับร่างกายหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการดำน้ำ และยังเป็นสถานที่สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเตรียมพร้อมก่อนไปดำน้ำ ในยามว่างอามะก็จะมาพักทานอาหาร และใช้เวลาคุยสัพเพเหระไปพลางระหว่างผิงไฟให้ความอบอุ่นที่กระท่อมนี้

แต่ในปัจจุบันหลายที่ได้ประยุกต์ให้เป็นสถานที่สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว กระท่อมของนักดำน้ำอามะซาโตมิอัน (Ama Hut SATOUMIAN) ตั้งอยู่ที่เมืองชิมะ (Shima) จังหวัดมิเอะ (Mie) ได้รับรางวัล COOL JAPAN AWARD 2019 สาขา NATIONAL PARK กระท่อมแห่งนี้สร้างขึ้นมาโดยจำลองจากกระท่อมอามะของจริง ผู้ที่มาเยือนสามารถมาดื่มด่ำกับอาหารทะเลสดใหม่ที่อามะเก็บมาจากทะเลอิเสะชิมะ (Ise shima) พร้อมฟังเรื่องเล่าจากเหล่าอามะ เกี่ยวกับการจับปลา และประสบการณ์ที่พบเจอจากท้องทะเลให้ฟังขณะทานอาหาร อาหารทะเลสดใหม่ที่อามะตั้งใจย่างให้บนเตาถ่าน ผสมผสานกับบรรยากาศแห่งมิตรภาพในกระท่อม เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจซึ่งไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังสามารถสนุกกับการลองสวมชุดดำน้ำของอามะ หรือถ่ายรูปกับอามะตัวจริงเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้

หมู่บ้านสเปนชิมะ (Shima Spain Village) เป็นธีมปาร์คตั้งอยู่ที่เมืองชิมะ (Shima) จังหวัดมิเอะ (Mie) ที่มาในคอนเซ็ปต์ประเทศสเปน ไม่ว่าจะมองไปทางไหน การประดับตกแต่ง หรือมุมถ่ายรูปก็ได้รับการออกแบบในแนวสเปนทั้งสิ้น ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ในประเทศสเปนเลยก็ว่าได้

ภายในสวนสนุกแห่งนี้มีเครื่องเล่นหลากหลายรวมกันมากถึง 28 ชนิด สามารถสนุกสุขสันต์กันได้ทั้งครอบครัว ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ชอบความหวาดเสียวสุดท้าทาย อีกทั้งยังมีโชว์แสนอลังการ ขบวนพาเหรดให้ชม ท่ามกลางบรรยากาศที่มีกลิ่นอายตะวันตกจากสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ รอบตัว สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายพลาดยิ่งไม่ควรพลาดการโพสท่าถ่ายภาพกับศิลปะบนกำแพง แล้วอวดภาพเก๋ ๆ ลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารสเปนต้นตำรับแสนอร่อยให้ได้ลิ้มลอง และร้านขายของที่ระลึกให้ได้ช้อปปิ้งของฝากกลับบ้านกันได้อีกด้วย

สำหรับคนที่มาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านสเปนชิมะ (Shima Spain Village) สามารถมาเข้าพักที่โรงแรม Hotel Shima Spain Mura ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน และผ่อนคลายไปกับการแช่อนเซ็น “ฮิมะวะริ โนะ ยุ (Himawari no Yu)” ได้

เกาะคาชิโคจิมะ (Kashikojima) เป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวอาโกะ (Ago Bay) ทางตอนใต้ของคาบสมุทรชิมะ (Shima Peninsula) ในเมืองชิมะ (Shima) ของจังหวัดมิเอะ (Mie) นับเป็นจุดชมวิวเกาะต่างๆ ที่อยู่บริเวณอ่าว และชายฝั่งทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง

ถ้าอยากชมทัศนียภาพของเกาะแห่งนี้อย่างเต็มอิ่มขอแนะนำให้สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือ “เอสเปรันซา (Esperan-za)” ซึ่งเป็นเรือสำราญที่สร้างจำลองเรือสำเภาของสเปนในยุคศตวรรษที่ 16 การล่องเรือสำราญหนึ่งรอบจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที โดยเรือจะแล่นผ่านชายฝั่งทะเลที่มีลักษณะเว้าแหว่งสวยงาม รวมถึงแพเพาะเลี้ยงหอยมุก สามารถชมกระบวนการผลิตมุก และยังสามารถเลือกซื้อไข่มุกได้จากร้านจำหน่ายที่มีไข่มุกคุณภาพดีให้เลือกมากมาย นอกจากนี้ยังแวะผ่านพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมะมารีนแลนด์ (Shima Marineland) โดยผู้โดยสารบนเรือสามารถแวะชมปลาแสงอาทิตย์ เพลิดเพลินกับโชว์การให้อาหารปลาโดยอามะ หรือจะตื่นเต้นไปกับความน่ารักของเหล่าเพนกวินได้อีกด้วย