“มาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko)” แมวกวักนำโชคของญี่ปุ่น

JUL20_maneki_neko02
JUL20_maneki_neko04

หลายท่านอาจจะเคยพบเจอหรือสังเกตเห็นรูปปั้นแมวน่ารักๆ แบบนี้กันมาบ้าง เวลาที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะตามสถานที่ต่างๆ ทั่วไป หรือตามร้านค้า หรือแม้กระทั่งตามร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยเราก็มักจะพบเจอรูปปั้นนี้อยู่เสมอ

รูปปั้นแมวนี้คือ “มาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko)” หรือแมวกวักนำโชคของญี่ปุ่นนั่นเอง ถ้ายังไม่เคยรู้จักประวัติและที่มาของแมวกวักนี้อย่างลึกซึ้ง ลองมาทำความรู้จักกับแมวกวักของญี่ปุ่นให้มากขึ้นในบทความนี้กันดู

ประวัติและความเป็นมาของมาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko)

JUL20_maneki_neko09
JUL20_maneki_neko10

ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า “แมว” เป็นสัตว์นำโชคมาตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วน “มาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko)” หรือแมวกวักของญี่ปุ่นนั้นเป็นรูปปั้นแมวที่ยกมือขึ้นมาหนึ่งข้าง มีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่นชนิดหนึ่งซึ่งไม่มีหาง

ตำนานเกี่ยวกับที่มาของแมวกวักนั้นมีหลายตำนานความเชื่อ แต่เรื่องที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดคือเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยเอโดะ มีเรื่องเล่าว่ามีหญิงชราคนหนึ่งฐานะยากจนมาก เลี้ยงแมวอยู่หนึ่งตัว ถึงแม้จะรักแมวมากแต่ก็ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จึงจำเป็นต้องนำแมวไปปล่อย ในคืนนั้นหญิงชรานอนร้องไห้ทั้งคืนและฝันว่าแมวมาบอกว่าให้ปั้นรูปปั้นแมวแล้วจะโชคดี วันรุ่งขึ้นนางจึงปั้นรูปปั้นแมวและก็มีคนมาขอซื้อตุ๊กตาแมว และหลังจากนั้นก็ปั้นต่ออีกเรื่อยๆ จึงเริ่มมีเงินจากการขายตุ๊กตาแมว และสุดท้ายก็สามารถพาแมวสุดที่รักกลับมาอยู่ด้วยกันได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นตุ๊กตาแมวกวักจึงเป็นตัวแทนของความโชคดีและได้รับความนิยมสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน เชื่อกันว่าแมวกวักจะช่วยนำพาโชคลาภและเงินทองมาให้ สำหรับร้านค้าหรือกิจการต่างๆ นิยมนำแมวกวักมาวางไว้ เพื่อช่วยเรียกลูกค้าให้เข้าร้านคล้ายกับนางกวักของไทย

ความหมายของการกวักแขน

JUL20_maneki_neko05
JUL20_maneki_neko06

ถ้าลองสังเกตดีๆ จะพบว่าแมวกวักนั้นจะมีทั้งที่กวักแขนข้างซ้าย กวักแขนข้างขวา หรือกวักแขนทั้งสองข้างอีกด้วย ลองมาดูความหมายที่ซ่อนเอาไว้กันดีกว่า

  1. กวักแขนข้างซ้าย หมายถึง ช่วยเรียกแขกหรือลูกค้า กิจการรุ่งเรือง
  2. กวักแขนข้างขวา หมายถึง ช่วยดึงดูดเงินทองและโชคลาภต่างๆ
  3. กวักแขนทั้งสองข้าง หมายถึง ช่วยเรียกทั้งโชคลาภ และลูกค้าให้กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมๆ กัน

นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่ายิ่งแมวยกแขนสูงเท่าไรก็จะยิ่งดี โชคลาภและเงินทองจะเข้ามาเร็วขึ้น

ความหมายของแมวกวักสีต่างๆ

JUL20_maneki_neko04
JUL20_maneki_neko11

แมวกวักสีขาวเป็นสียอดนิยมที่เรามักพบเห็นโดยทั่วไป แต่นอกจากนี้ก็ยังมีแมวกวักสีอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละสีนั้นก็จะบ่งบอกถึงโชคด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • แมวกวักสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ช่วยให้โชคดี
  • แมวกวักสีทอง หมายถึง ส่งเสริมโชคลาภด้านการเงิน ช่วยให้ร่ำรวย
  • แมวกวักสีน้ำเงิน หมายถึง ช่วยให้แค้วคลาดปลอดภัยจากการเดินทาง
  • แมวกวักสีชมพู หมายถึง ช่วยให้สมหวังด้านความรัก
  • แมวกวักสีดำ หมายถึง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ
  • แมวกวักสีแดง หมายถึง ส่งเสริมด้านสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคภัย
  • แมวกวักสีเหลือง หมายถึง ช่วยให้มีมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดี
  • แมวกวักสีเขียว หมายถึง ช่วยให้คนในบ้านปลอดภัยอยู่เย็นเป็นสุข

วัดโกโตคุจิ (Gotokuji Temple), โตเกียว (Tokyo)

JUL20_maneki_neko01
JUL20_maneki_neko03

วัดโกโตคุจิ (Gotokuji Temple)  ตั้งอยู่ในย่านเซตะกะยะ (Setagaya) ของโตเกียว (Tokyo) เป็นวัดที่ได้รับการเล่าขานต่อกันมาว่าเป็นต้นกำเนิดของมาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko)

รูปปั้นแมวที่วัดแห่งนี้มีสีขาวและยกแขนข้างขวา มีตำนานเล่าว่าช่วงสมัยเอโดะไดเมียว (เจ้าเมือง) ที่มีชื่อว่า อีอิ  นาโอทะกะ (Ii Naotaka) เดินทางผ่านมาที่วัดแห่งนี้ และสังเกตเห็นแมวของนักบวชนั่งอยู่หน้าวัดกำลังกวักแขนมาทางเขาราวกับเรียกให้เข้ามาหา ด้วยความสงสัยจึงเดินตามแมวตัวนั้นเข้ามาในวัด หลังจากนั้นพายุฝนก็โหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ท่านไดเมียวและคณะจึงปลอดภัย เพราะได้เข้ามาหลบฝนภายในวัด จึงได้ตอบแทนแมวตัวนี้ด้วยการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ และแต่งตั้งให้วัดแห่งนี้เป็นวัดประจำตระกูลของท่านตั้งแต่นั้นมา

ปัจจุบันด้านประตูทางเข้าหลักของวัดโกโตคุจิ (Gotokuji Temple) เมื่อเข้าไปด้านในจะพบกับเอมะ (Ema) หรือ แผ่นไม้ขอพรที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งลายที่อยู่บนแผ่นไม้ขอพรนั้นเป็นลายของมาเนกิเนะโกะ และโดยรอบวิหารมีแมวกวักขนาดน้อยใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนเต็มอยู่ที่พื้น ซึ่งรูปปั้นแมวกวักในวัดโกโตคุจิ (Gotokuji Temple) นั้นเป็นรูปแบบธรรมดา มีตัวสีขาว และกวักมือขวา และใส่ปลอกคอสีแดงเพียงอย่างเดียว ลักษณะอันเรียบง่ายนี้จะทำให้รู้สึกสบายใจ โดยรูปปั้นแมวกวักทั้งหมดนี้มาจากผู้คนที่นำมาถวายเป็นเครื่องสักการะ หลังจากที่มาบนบานหรืออธิษฐานขอพรแล้วสมหวังตามที่ขอไว้

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Gotokuji Temple
2-24-7 Gotokuji, Setagaya, Tokyo 154-0021
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Chuo Line ลงสถานี Shinjukuจากนั้นโดยรถไฟสาย Odakyu ลงสถานี Gotokuji ใช้เวลา 15 นาทีเดินต่ออีก 8 นาที
เวลาทำการ เวลาเข้าชม : 6:00 – 18:00 น.
แผนกต้อนรับ : 9:00 – 16:30 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.city.setagaya.lg.jp/theme/kanko/002/003/002/d00006127.html
https://www.kanko-setagaya.jp/?p=we-page-guidemap&spotlist=16286
https://tesshow.jp/setagaya/temple_gotokuji_gotokuji.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1111_manekineko.html
https://www.tofugu.com/travel/gotokuji-temple/
https://livejapan.com/en/in-tokyo/in-pref-tokyo/in-shimokitazawa/article-a0001417/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/manekineko/
https://www.gotokyo.org/th/new-and-now/new-and-trending/191125/topics.html
https://www.odakyu.jp/thai/sightseeing/itineraries/shrine/

ศาลเจ้าอิมะโดะ (Imado Shrine), โตเกียว (Tokyo)

JUL20_maneki_neko13
JUL20_maneki_neko12

ศาลเจ้าอิมะโดะ (Imado Shrine) เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับวัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) โตเกียว (Tokyo)  ได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่สถิตของเทพเจ้าคู่สามีภรรยา เทพอิซานางิ และเทพอิซานามิ ต้นกำเนิดของเทพแห่งญี่ปุ่นตามตำนานเก่าแก่ เทพทั้งสององค์เป็นเทพเจ้าแห่งการสมรส ศาลเจ้าแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในเรื่องการขอพรเรื่องความรักและคู่ครอง

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าที่นี่ถือเป็นต้นกำเนิดอีกแห่งของมาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko) หรือแมวกวักนำโชคที่เป็นตำนานซึ่งถูกกล่าวถึงมากที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยเอโดะ มีเรื่องเล่าว่ามีหญิงชราฐานะยากจนคนหนึ่ง เลี้ยงแมวอยู่ แต่ก็ไม่มีเงินเลี้ยงแมว จึงจำเป็นต้องนำแมวไปปล่อย ในคืนนั้นหญิงชรานอนร้องไห้ทั้งคืนและฝันว่าแมวมาบอกว่าให้ปั้นรูปปั้นแมวแล้วจะโชคดี วันรุ่งขึ้นนางจึงปั้นรูปปั้นแมวและก็มีคนมาขอซื้อตุ๊กตาแมว และหลังจากนั้นก็ปั้นต่ออีกเรื่อยๆ จึงเริ่มมีเงินทอง และสุดท้ายก็สามารถพาแมวสุดที่รักกลับมาอยู่ด้วยกันได้

นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ศาลเจ้ายังมีรูปปั้นคู่รักแมวยกแขนขวา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้คนรักครองคู่กันตลอดไป และยังมีเอมะหรือแผ่นป้ายขอพรรูปแมวกวักเป็นจุดเด่นของที่นี่อีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Imado Shrine
1-5-22 Imado, Taito, Tokyo 111-0024
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟสาย Ueno-Tokyo ลงสถานี Ueno จากนั้นโดยรถไฟสาย Ginza ลงสถานี Asakusa ใช้เวลา 18 นาที แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://imadojinja1063.crayonsite.net/
http://www.asakusa7.jp/imado.html
http://www.tokyo-jinjacho.or.jp/taito/3222/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.asakusastation.com/imado-jinja-the-matchmaking-shrine-of-lucky-cats/
http://tokyostory.net/spot/imado-shrine/
https://trip.pref.kanagawa.jp/destination/imado-shrine/1084
https://authentic-tokyo.com/spot/detail?spot_id=140095
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.womjapan.com/column/trend/update-trend/3-shrines-to-help-your-love-life-in-japan/
http://www.planet789.com/2019/10/imado-shrine.html

พิพิธภัณฑ์มาเนกิเนะโกะ (Maneki-Neko Museum), ไอจิ (Aichi)

JUL20_maneki_neko07

© Aichi Prefecture

JUL20_maneki_neko08

© Aichi Prefecture

พิพิธภัณฑ์มาเนกิเนะโกะ (Maneki-Neko Museum) ตั้งอยู่ในเมืองเซโตะ (Seto) จังหวัดไอจิ (Aichi) การออกแบบของอาคารแห่งนี้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะเนโอคลาสสิกในยุคไทโชของญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมแมวกวักไว้มากที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ในสมัยโบราณการผลิตแมวกวักจะทำด้วยมือทีละตัวๆ แต่ที่เมืองเซโตะ (Seto) นี้จะขึ้นชื่อในเรื่องการทำเครื่องปั้นดินเผา จึงได้มีการผลิตแมวกวักโดยใช้เทคนิคโดยเฉพาะ ทำให้สามารถผลิตแมวกวักได้ครั้งละจำนวนมาก ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งแมวกวัก”

พิพิธภัณฑ์แมวกวักนำโชคแห่งนี้จัดแสดง แมวกวักแบบเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ ไปจนถึงผลงานของศิลปินในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ผู้ที่มาเยี่ยมชมยังสามารถร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อประบายสีแมวกวักในแบบที่ตัวเองชอบได้ เมื่อระบายสีเสร็จแล้วสามารถนำแมวกวักที่มีชิ้นเดียวในโลกนี้กลับบ้านไปได้อีกด้วย และอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือโซนคาเฟ่ มีการเสิร์ฟน้ำชารูปทรงแมวกวักแสนน่ารักอีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Maneki-Neko Museum
2 Yakushimachi, Seto, Aichi 489-0821
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Nagoya โดยสารรถไฟ JR Chuo ลงสถานี Ozone ใช้เวลา 12 นาทีจากนั้นโดยรถไฟสาย Meitetsu Seto ลงสถานี Owari Seto เดินต่ออีกประมาณ 8 นาที
เวลาทำการ 10:00 – 17:00 น. (เข้าชมก่อน 16:30 น.)
วันหยุด ทุกวันอังคาร (ยกเว้นวันอังคารที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์) และวันที่ 29 ธันวาคม – 4 มกราคม
ค่าใช้จ่าย
ชั้น 1 เข้าชมฟรี
ชั้น 2 มีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์
ผู้ใหญ่ 300 เยน
นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษา 200 เยน
นักเรียนมัธยมต้นและระดับต่ำกว่า เข้าชมฟรี
สำหรับผู้ที่มาเป็นหมู่คณะ (20 คนขึ้นไป)
ผู้ใหญ่ 240 เยน
นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษา 160 เยน
นักเรียนมัธยมต้นและระดับต่ำกว่า เข้าชมฟรี

*กิจกรรมเวิร์คช็อปมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.luckycat.ne.jp/
https://www.aichi-now.jp/spots/detail/103/
http://www.seto-marutto.info/spot-post/招き猫ミュージアム/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.luckycat.ne.jp/eng/index.html
https://www.aichi-now.jp/en/spots/detail/103/
https://www.japan.travel/experiences-in-japan/en/1263/
https://go-centraljapan.jp/route/monozukuri/en/28.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.aichi-now.jp/th/spots/detail/103/
https://www.pref.aichi.jp/kokusai/thai/about/th001.pdf
จดหมายข่าวอื่นๆ