เดินวนที่ตลาดแหล่งรวมของกินแสนอร่อย

ตลาดปลามัตสึชิมะ (Matsushima Fish Market) ตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยะงิ (Miyagi) ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ตลาดปลามัตสึชิมะเป็นตลาดในร่ม เดินสะดวกทุกฤดูกาล ภายในจะรวบรวมวัตถุดิบจากท้องทะเลสด ๆ ให้เลือกซื้อถึง 1,500 ชนิด โดยเฉพาะปลามากุโระ และหอยนางรม ที่เป็นของขึ้นชื่อของเมืองมัตสึชิมะ เพราะเป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนักชิมสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบในตลาด และนำไปให้ร้านอาหารปรุงให้ทานได้ทันที โดยมีการจัดพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหารไว้ให้ด้วยที่ชั้น 2 นอกจากจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของฝาก หรือวัตถุดิบ และอาหารทะเลแสนอร่อยแล้ว บางวันจะมีโชว์แล่ปลามากุโระให้ชมกันอย่างตื่นตาตื่นใจ

เมนูที่ไม่ควรพลาดจะเป็นอะไรไปไม่ได้เสียจากเมนูหอยนางรม ที่ยากิคาคิ เฮ้าส์ (Yaki Gaki House) จะมีหอยนางรมกองโตย่างบนเตาเหล็กใหญ่ ๆ ตรงหน้า สามารถทานได้ไม่อั้นในเวลา 40 นาที หรือจะเป็นหอยนางรมสด หอยนางรมทอด เซ็ตอาหารกลางวันจากหอยนางรม หรือเบอร์เกอร์หอยนางรม เป็นต้น รวมถึงซูชิ และไคเซ็นด้ง (Kaizen Don) ที่เป็นข้าวหน้าปลาดิบต่าง ๆ สามารถเลือกปลาได้ตามใจชอบ

ตลาดปลาโทโยซุ (Toyosu Fish Market) ตลาดปลาแห่งใหม่ของโตเกียว (Tokyo) ย้ายมาจากตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Market) ในตำนานที่ถูกปิดตัวลงไปในปี ค.ศ. 2018 (เฉพาะโซนที่มีการประมูลปลาและตลาดค้าส่งอาหารทะเล) ทำให้ตลาดปลาโทโยซุได้กลายเป็นตลาดค้าส่งปลาที่ใหญ่เป็นอับดับหนึ่งของโลก

ภายในบริเวณตลาดปลาโทโยซุ (Toyosu Fish Market) แบ่งออกเป็น 3 อาคารได้แก่

1. อาคารประมูลปลา (Fish Wholesale Market Building) อาคารที่มีการประมูลปลาทูน่า รวมถึงร้านอาหารทะเลสด ๆ ที่คนทั่วไปสามารถเข้าชม
2. อาคารค้าส่งปลาสำหรับธุรกิจ (Fish Intermediate Wholesale Market Building) อาคารที่มีการซื้อขายอาหารทะเลสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ จะเต็มไปด้วยร้านขายอุปกรณ์ และร้านซูชิกว่า 40 ร้าน และคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาต่อคิวเข้าร้านเป็นพิเศษ นอกจากอาหารทะเลแล้ว ที่ชั้น 4 เรียกว่า “Uogashi Yokocho” เป็นโซนร้านขายผลิตภัณฑ์เฉพาะทางมากถึง 69 ร้าน เช่น มีดสำหรับเชฟมืออาชีพ ตะเกียบ สาหร่าย วาซาบิ ไข่หวาน ชีส อาหารแห้ง หรือของฝากของที่ระลึก และที่ชั้น 5 ของอาคารจะเป็นดาดฟ้า Green Roof Plaza ที่เป็นดาดฟ้ากว้าง ๆ ปูด้วยสนามหญ้า สามารถมาชมวิวทิวทัศน์ของกรุงโตเกียวได้อย่างกว้างไกล เห็นแลนด์มาร์คอย่างโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) และสะพานเรนโบว์บริดจ์ (Rainbow Bridge) หรือวันไหนที่อากาศแจ่มใสยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
3. อาคารประมูลผัก และผลไม้สด (Fruit and Vegetable Market Building) อาคารที่มีการประมูลผักและผลไม้สด จากทั้งในและนอกประเทศ

เพื่อความเข้าใจภาพรวม

• ทุกอาคารมีจุดให้ยืนชม ผ่านกระจก
• ทุกอาคารเข้าชมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
• ทุกอาคารมีโซนร้านอาหาร (มากน้อยต่างกัน)
• ทุกอาคารเชื่อมถึงกันสะดวกด้วย skywalk

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนคือ การชมการประมูลปลาทูน่าขนาดใหญ่ที่อาคารประมูลปลา (Fish Wholesale Market Building) สามารถชมได้ 2 วิธีคือ มองผ่านกระจกหน้าต่างจากทางเดินชั้นบนลงมาเห็นกิจกรรมการประมูล โดยจะเป็นกระจกหนาที่ไม่ได้ยินเสียง หรือกลิ่นของปลาในการประมูล และอีกจุดชมการประมูลที่ชั้นล่างติดกับห้องประมูล สามารถชมการประมูลได้แบบใกล้ชิด ได้เห็นการแล่ปลากันแบบชัด ๆ ได้ยินทั้งเสียง และกลิ่นของปลา ให้ความรู้สึกแตกต่างจากการดูบนทางเดิน โดยทั้งสองจุดจะจำกัดผู้เข้าชม เพราะฉะนั้นควรจองล่วงหน้า การประมูลปลามากุโระมีขึ้นในเวลาเช้า 5:30-6:30 น. ของทุกวันที่เปิดทำการ ที่ตลาดปลาโทโยซุจะเป็นระบบจองล่วงหน้า และจับสลาก สามารถลงทะเบียนสำหรับรอบเดือนถัดไปได้ทางเว็บไซต์ http://pia.jp/piajp/v/toyosushijou19/ (มีภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บไซต์) หรือโทรศัพท์

ตลาดโอะมิโจ (Omicho Market) เป็นตลาดที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1721 โดยในอดีตถือเป็นครัวสำหรับตระกูลมาเอดะแห่งแคว้นคะงะ (Kaga Domain) และเป็นครัวแห่งจังหวัดคานาซาวะที่ได้หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนในคานาซาวะมาเป็นเวลาเกือบ 300 ปี ภายในตลาดโอะมิโจมีอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผักท้องถิ่น รวมกว่า 180 ร้าน ที่นักชิมสามารถหาของอร่อยทาน พลางสัมผัสบรรยากาศคึกคักของพ่อค้าแม่ค้าได้ตลอดสองข้างทาง ประเภทอาหารที่จำหน่ายนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งซาชิมิ ซูชิ ของทอด ของย่าง รวมทั้งวัตถุดิบสดๆ ปลา กุ้ง ปู ไข่หอยเม่น และหอยนานาชนิด โดยเฉพาะเมนูปู ที่ได้รับความนิยมมากจนถึงขั้นมีจัดเทศกาลปูเลยทีเดียว และนอกจากอาหารอร่อยแล้ว ยังมีเครื่องใช้ในครัวเรือนมากมายให้ได้เลือกสรรอีกด้วย

เมนูที่ควรลองเมื่อไปเยือนยังตลาดแห่งคานาซาวะแล้ว คือ แกงกระหรี่สไตล์คานาซาวะ (Kanazawa Curry) ที่รสชาติ และรสสัมผัสของน้ำแกงกะหรี่แตกต่างจากแกงกะหรี่ทั่วไป เพราะมีลักษณะเข้มข้น เสิร์ฟมาในจานสเตนเลส พร้อมหมูทอดทงคัตสึราดซอสที่ท้อปปิ้งอยู่ด้านบน ยากิยากิคอร์นเนอร์ (YakiYaki Corner) ที่เป็นร้านขายอาหารเสียบไม้ รวมของดีของคานาซาวะไว้ที่นี่ เช่น ปลาฮาตะฮาตะย่าง (Hatahata / Sailfin Sandfish) หอยเชลล์ย่าง หอยซาซาเอะย่าง กุ้งย่าง หรือปลาไหลย่างเป็นต้น รวมไปถึงยังมี ข้าวหน้าปู (Crab Bowl) วัตถุดิบยอดฮิตของเมืองคานาซาวะที่สามารถหาทานได้ตามร้านซูชิทั่วไป ส่วนใหญ่มักจะเสิร์ฟขาปูเต็มๆ ชาม พร้อมไข่หอยเม่น หรือไข่ปลาอิคุระ และตบท้ายด้วยของหวานอย่าง ไอศกรีมจิโระอะเมะ (Jiro Ame Ice Cream) จากร้าน Tanatsuya ไอศกรีมที่ดัดแปลงจากขนมหวานเก่าแก่อย่าง จิโระอะเมะ มีส่วนผสมของข้าวเจ้า และข้าวบาร์เล่ และอามะสาเก ที่ทำจากข้าวมอลต์ ให้ความหวานแทนน้ำตาล

ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) เป็นตลาดเก่าแก่ที่เรียกได้ว่าเป็นครัวของจังหวัดเกียวโตมาตั้งแต่สมัยเฮอัน เริ่มจากการเป็นตลาดค้าส่งปลา และค่อย ๆ ขยับขยายเป็นตลาดค้าปลีก ร้านค้าส่วนมากล้วนเป็นร้านค้าดั้งเดิมที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นทำให้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม จนปัจจุบันมีมากกว่า 126 ร้าน ทั้งอาหารทะเล ผัก ผลไม้ อาหารเฉพาะฤดูกาล รวมถึงอาหารเฉพาะของเมืองเกียวโตอย่างขนมหวานญี่ปุ่น ของหมักดอง ปลาหมึกแห้ง และซูชิแบบเกียวโตอีกด้วย
พื้นที่ของตลาดนิชิกิ จะเป็นเส้นคู่ขนานไปกับถนนชิโจ (Shijo Street) รวมระยะทางกว่า 400 เมตร มีร้านค้าเรียงรายอยู่ตลอดซ้าย และขวาของทางเดิน และมีหลังคาบังแดดสีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ นักชิมทั้งหลายสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารแต่ละฤดูกาล และอาหารท้องถิ่นระหว่างการเดินเล่น รวมถึงสัมผัสบรรยากาศของสีสัน ความมีชีวิตชีวา และวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นได้อย่างไม่ซ้ำใคร สำหรับใครที่ต้องการมาเดินเล่น พร้อมกับตะลุยทานของอร่อยทั่วตลาด แนะนำให้มาช่วงเวลา 10:00- 15:00 น.

เมนูที่ควรลองเมื่อไปเยือนยังตลาดนิชิกิแล้วคือทาโกะ ทามาโกะ (Tako Tamago) เมนูเรียกน้ำย่อยขึ้นชื่อที่หาทานได้เฉพาะภูมิภาคคันไซนี้เท่านั้น เป็นปลาหมึกย่างที่มีจุดเด่นคือ หัวปลาหมึกอันอวบอั๋น ด้านในยัดด้วยไข่นกกระทา! ชาเขียวมัทฉะเข้มข้นจากร้าน Sawawa ที่รวมเอาขนมหวานหลายเมนูทำจากมัทฉะมาไว้ที่นี่ที่เดียว ทั้งโมจิไดฟุคุมัทฉะ, มัทฉะวาราบิ โมจิ (Matcha Warabi Mochi), ซอฟ์ทครีมมัทฉะ, เค้กมัทฉะ หรือแม้แต่มัทฉะลาเต้ ก็ดูน่าทานเหมาะเป็นของหวานตบท้าย และคนนะมนจะ (Konnamonjya) กับเมนูโดนัทจิ๋ว และไอศกรีมที่ทำจากนมถั่วเหลือง

ตลาดคะระโตะ (Karato Market) ตั้งอยู่ที่เมืองชิโมะโนะเซะกิ (Shimonoseki) เป็นเมืองติดทะเลทางตอนใต้ของเกาะฮอนชู บริเวณช่องแคบคัมมง (Kanmon Straits) ทำให้ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบสดใหม่มากมายทั้งผัก ผลไม้และโดยเฉพาะอาหารทะเลสดใหม่จากน่านน้ำบริเวณนี้ ซึ่งในทุกวันหยุดมักจะมีผู้คนมาเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศภายในตลาดค่อนข้างคึกคักพอสมควร นักชิมที่มาเยือนที่นี่ จะได้ลิ้มลองความอร่อยของอาหารทะเลสด ๆ แล้ว การซื้อก็ง่าย เดินเลือกร้านซูชิที่เราอยากทาน จะมีคนของร้านยื่นกล่องให้พร้อมที่คีบ อยากทานอะไรก็คีบใส่กล่องแล้วค่อยจ่ายเงิน พอซื้อเสร็จก็หิ้วออกมาด้านนอกตรงลานสวนนอกอาคาร ผู้ที่มาที่นี่เกือบทั้งหมดจะมานั่งทานกันตรงนั้น กินไปพลาง และชมวิวสะพานคัมมงไปพลาง (Kanmon Bridge)

เมนูที่ควรลองเมื่อไปเยือนยังตลาดแห่งเมืองชิโมะโนะเซะกิ คือปลาปักเป้า ภายในเมือง และภายในตัวตลาดเองก็จะเห็นปลาปักเป้าวางจำหน่ายอยู่บนแผงมากมาย รวมถึงยังมีซูชิหน้าปลาปักเป้า และเอกลักษณ์เด่นของตลาดปลาคะระโตะ คือ มีการขายซูซิมากมายหลากหลายหน้า ที่สามารถเลือกเองได้อย่างตามใจในราคาย่อมเยา
แนะนำมาแต่เช้าอาหารก็จะสด หลากหลายละลานตากว่า วันที่ดีที่สุดคือวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์เพราะมีแผงตั้งโต๊ะขายเบนโตะ ซาชิมิ และอาหารปรุงสุกอื่น ๆ ที่ทำจากปลาที่จับได้วันนั้น

ตลาดสาธารณะ มะคิชิ (Makishi Public Market) ตั้งอยู่ในบริเวณถนนโคคุไซโดริ (Kokusai Street) นับว่าเป็นครัวของชาวโอกินาวะเลยก็ว่าได้ เพราะเต็มไปด้วยปลาสดที่จับได้ในทะเลแถบโอกินาวะ เนื้อสัตว์ พืชผัก ผลไม้ต่าง ๆ ที่เป็นผลผลิตของเกาะ และอาหารประเภทผักดอง เครื่องเคียงท้องถิ่นรวมกว่า 130 ร้านค้า และบางร้านมีประวัติความเป็นมากว่า 60 ปี ด้านบนชั้น 2 ของตลาดสด เป็นบรรดาร้านอาหารมีร้านอาหารเรียงรายกันอยู่มากกว่า 10 ร้าน ลูกค้าสามารถนำวัตถุดิบที่ซื้อจากชั้นหนึ่ง เช่น ปลา มาให้ร้านบนชั้นสองปรุงเป็นอาหารให้ได้ตามชอบ (มีค่าใช้จ่ายในการประกอบอาหาร) ภายในตลาดแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่คึกคัก และมีชีวิตชีวาด้วยคนท้องถิ่นที่มาจับจ่ายใช้สอย และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตระเวนหาของกินอร่อย ๆ

เมนูที่ควรลองเมื่อไปเยือนยังตลาดสาธารณะมะคิชิแล้วคือ โอนิกิริหมูไข่ (Pork Tamago Onigiri Honten) ข้าวปั้นสอดไส้ SPAM (เนื้อหมูแปรรูปในกระป๋อง) และไข่ หรือไส้ของทอดต่างๆ มีรสชาติเค็มๆ อร่อยลงตัวเข้ากับข้าวญี่ปุ่น นับเป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นเองต้องมาทานเมื่อมาที่โอกินาวะ! สาหร่ายพวงองุ่น (Sea grapes) ที่หาทานได้ง่ายเป็นกับแกล้มเพลิน ๆ ตามร้านอาหาร หรือร้านข้างทางในตลาด เพราะโอกินาวะมีน้ำทะเลใสสะอาด จึงเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ชั้นดี หมูราฟุเต (Rafute) เนื้อหมูสามชั้นตุ๋นกับเหล้าท้องถิ่นอะวาโมริ (Awamori) และซอสถั่วเหลือจนนุ่มละมุน ตามปกติจะเสิร์ฟเป็นกับข้าว หรือบางแห่งนำไปท้อปปิ้งกับโซกิโซบะด้วย ซุปนาคะมิ จิรุ (Nakami jiru soup) ซุปเครื่องในหมูสไตล์โอกินาวะ โดยจะใช้ไส้ และกระเพาะหมูเป็นหลัก ต้มในน้ำซุปโชยุ และเติมเต้าหู้ หรือเห็ดชิทาเกะ ขิง เพื่อเพิ่มรสชาติความกลมกล่อม