นั่งรถไฟ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีเหลือง

ชิบะ | chiba

จังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ โอบล้อมด้วยทะเลถึง 3 ด้าน ทำให้ในฤดูร้อนอากาศเย็นสบายและในฤดูหนาวก็จะค่อนข้างอุ่นสบายกว่าที่อื่น บริเวณคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ของฤดูใบไม้ผลิชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟสายโคะมินะโตะ (Kominato Railway) ที่จะได้นั่งรถไฟโทะรกโกะ (Torokko Train) ไปท่ามกลางทิวทัศน์ทุ่งดอกนาโนะฮะนะ (Nanohana) ที่ย้อมพื้นที่ทั่วบริเวณให้กลายเป็นสีเหลืองสดใส ซากุระที่ปราสาทโอทะกิ (Otaki Castle) หรือจะเป็นตลาดเช้าคัทสึอุระ (Katsuura Morning Market) ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดเช้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้บริการมาตั้งแต่สมัยโบราณเป็นเวลานานกว่า 400 ปี เรียกได้ว่าแค่ได้ไปเยือนก็รู้สึกสดชื่นแจ่มใสอารมณ์ดีขึ้นมาได้เลยทีเดียว

แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในจังหวัดชิบะ (Chiba) ได้แก่

  • หุบเขาโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Ravine)
  • ตลาดเช้าคัทสึอุระ (Katsuura Morning Market)
  • หาดคุจูคุริ (Kujukuri Beach)
  • พิพิธภัณฑ์แห่งการสัมผัสประสบการณ์โบโซโนะมุระของจังหวัดชิบะ (Experience Museum Chiba Prefectural Boso-no-Mura)
  • ภูเขาเค็นคง (Mt. Kenkon)
  • วัดนาริตะซังชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)

ทุ่งดอกนะโนะฮะนะแห่งอิชิงะมิ (Ishigami Nanohana Field), ชิบะ (Chiba)

ทุ่งดอกนะโนะฮะนะแห่งอิชิงะมิ (Ishigami Nanohana Field) ซึ่งเป็นทุ่งที่แผ่กว้างอยู่ระหว่างสถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) และสถานีคะซุสะโอคุโบะ (Kazusa Okuba Station) ของการรถไฟโคะมินะโตะ (Kominato Railway) สามารถเดินจากสถานีโยโรเคโคะคุไปได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อไปถึงจะเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังตั้งตารอคอยให้รถไฟแล่นผ่านมาเพื่อจะได้เก็บภาพสวยๆ ของรถไฟโทะรกโกะ (Torokko Train) หน้าตาน่ารักแล่นไปท่ามกลางทุ่งดอกนะโนะฮะนะแสนสวยที่ดูคล้ายกับพรมสีเหลืองผืนใหญ่โดยมีภาพท้องฟ้าสีฟ้าสดใสเป็นแบ็คกราวด์ สามารถชมความงามของดอกไม้ชนิดนี้ได้ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ทุ่งดอกนะโนะฮะนะแห่งนี้ไม่ใช่ดอกไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นดอกนะโนะฮะนะที่ผู้คนในท้องถิ่นมาหว่านเมล็ดพันธุ์ปลูกไว้ และควรรักษามารยาทในการชมดอกไม้โดยไม่เหยียบย่ำเข้าไปในทุ่ง นอกจากนี้ที่สถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) ยังมีบ่อน้ำแร่สำหรับแช่เท้าไว้สำหรับผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย

ข้อมูลแนะนำ

บ่อน้ำแร่สำหรับแช่เท้าที่สถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) นั้น ผู้โดยสารรถไฟสามารถใช้บริการได้ฟรี สำหรับบุคคลทั่วไปก็สามารถใช้บริการได้โดยชำระค่าบริการจำนวน 140 เยน (หรือ 70 เยนสำหรับเด็ก) ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน อากาศยังคงหนาวเย็นอยู่ ขอแนะนำให้ลองแช่เท้าในบ่อน้ำแร่เพราะจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ มีผ้าขนหนูจำหน่ายในราคาผืนละ 100 เยน


การเดินทาง

จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Sobu Line ไปลงที่สถานี Goi ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถไฟ Kominato Railway ไปลงที่สถานี Yoro-Keikoku ใช้เวลา 1ชั่วโมง จากนั้นเดินไปถึงทุ่ง Nanohanabatake ใช้เวลาประมาณ 10 นาที


เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม

ภูมิภาค : คันโต (Kanto) ท่องเที่ยวแบบเจาะลึกกรุงโตเกียว และภูมิภาคคันโต กุมมะ อิบะระกิ และชิบะ คู่มือท่องเที่ยวจังหวัดชิบะประเทศญี่ปุ่น

นั่งรถไฟซะโตะยะมะโทะรกโกะ (Satoyama Torocco Train) ไปบนเส้นทางรถไฟสายโคะมินะโตะ (Kominato Railway), ชิบะ (Chiba)

นั่งรถไฟโทะรกโกะ (Torokko Train) ไปท่ามกลางแสงแดดฤดูใบไม้ผลิที่สดใสอบอุ่น ในขอบเขตเส้นทางเดินรถจากสถานีคะซุสะอุชิคุ (Kazusa Ushiku Station) เชื่อมไปถึงสถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) ขบวนรถไฟโทะรกโกะแบบเปิดโล่งไร้หน้าต่างจะโลดแล่นไปท่ามกลางทุ่งดอกนะโนะฮะนะ (Nanohana) สีเหลืองสด แม้อากาศจะยังรู้สึกเย็นอยู่บ้าง แต่การได้สัมผัสกับสายลมของฤดูใบไม้ผลิและได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าอิ่มเอมไปกับกลิ่นอายธรรมชาติขุนเขาในชนบทจะมอบความสุขให้คุณอย่างแน่นอน รถไฟขบวนนี้วิ่งให้บริการเฉพาะวันที่กำหนดเท่านั้น จึงควรจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์ แล้วมาชำระค่าโดยสารในวันเดินทางจริง ที่สถานีรถไฟที่ใช้บริการ ตัวรถไฟจะจอดให้ขึ้น-ลงได้เพียง 4 สถานีเท่านั้น คือ สถานีคะซุสะอุชิคุ (Kazusa Ushiku Station) สถานีซะโตะมิ (Satomi Station) สถานีทสึกิซะกิ (Tsukizaki Station) และสถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) ไม่สามารถขึ้น-ลงที่สถานีอื่นได้

เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม : Satoyama Torocco