ขบวนรถไฟสายพิเศษ ผ่านใจกลางขุนเขาภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku)

ชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari)

คือขบวนรถไฟขบวนพิเศษที่วิ่งเชื่อมระหว่างสถานี JR ทะโดะทสึ (JR Tadotsu Station) ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) กับสถานี JR โอโบเคะ (JR Oboke Station) ในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ซึ่งเรียกว่าเป็นเส้นทางที่ตัดข้ามผ่านใจกลางภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) อย่างแท้จริง

ให้คุณได้ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยความงดงามหลากหลายตั้งแต่แถบชนบทในเมืองซะนุกิ (Sanuki City) ไปจนถึงหุบเขาในเมืองอาวะ (Awa City) พร้อมเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการท่องเที่ยวที่จะได้ใช้เวลาอย่างหรูหราท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ พร้อมสัมผัสทิวทัศน์ท้องทุ่งและประวัติศาสตร์รวมถึงประเพณีของญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่

รถไฟชิโกะคุมันนะกะ เซ็นเน็นโมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) ขบวนนี้ให้บริการ

• เดินรถไปกลับระหว่างสถานีทะโดะทสึ (Tadotsu Station) และสถานีโอโบเคะ (Oboke Station)
• บนเส้นทางรถไฟสายJR โดะซัง (JR Dosan Line)
• ช่วงสุดสัปดาห์ (ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์) และวันหยุดราชการ วันละ 1 รอบ
• เที่ยวเช้าออกจากสถานีทะโดะทสึ(Tadotsu Station)
  ขบวนชื่อ “โซระโนะซาโตะ คิโค (Sora-no-sato Kiko)” แปลว่าบันทึกการเดินทางสู่ดินแดนแห่งท้องฟ้า
• เที่ยวบ่ายออกเดินทางจากสถานีโอโบเคะ(Oboke Station)
  ขบวนชื่อ “ชิอาวาเซะโนะซาโตะ คิโค (Shiawase-no-sato Kiko)” แปลว่าบันทึกการเดินทางสู่ดินแดนแห่งความสุข

ขบวนรถไฟทั้ง 2 เที่ยวนี้แวะจอดให้ขึ้นลงได้ที่สถานีเซ็นซือจิ (Zentsuji Station) และสถานีโคะโตะฮิระ (Kotohira Station) ผู้โดยสารจึงสามารถแวะสักการะนมัสการวัดเซ็นซือจิ (Zentsuji Temple) และศาลเจ้าโคะโตะฮิระกู (Kotogira-gu Shrine) ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้จากโอโบเคะยังสามารถเดินทางต่อไปยังดินแดนเร้นลับอย่างแถบอิยะ (Iya) ได้อีกด้วย

ขบวนรถไฟประกอบด้วยตู้โดยสาร 3 ตู้ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและใช้การตกแต่งภายในแต่ละตู้โดยสารด้วยโทนสีที่แตกต่างกัน โดยตู้แรกเน้นตกแต่งด้วยสีเขียวซึ่งสื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ตู้ที่ 2 สีฟ้าให้บรรยากาศของฤดูร้อนและฤดูหนาว ส่วนตู้ที่ 3 เน้นไปในโทนสีของใบไม้เปลี่ยนสีเพื่อให้บรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วง การตกแต่งภายในเน้นวัสดุไม้ให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับบรรยากาศเหมือนกับกำลังนั่งอยู่ในบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณ

ขบวนรถไฟโซระโนะซาโตะ คิโค (Sora-no-sato Kiko) ตู้โดยสารหัวขบวนสีเขียว คือขบวนรถไฟขาล่องซึ่งออกเดินทางจากสถานีทะโดะทสึ (Tadotsu Station) ในช่วงเช้ามุ่งหน้าไปยังสถานีโอโบเคะ (Oboke Station) และชื่อ โซระโนะซาโตะ (Sora-no-sato) ซึ่งแปลว่าดินแดนแห่งท้องฟ้านั้นก็หมายถึงภูผาสูงชันทางฝั่งตะวันตกในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) นั่นเอง

จากสถานีทะโดะทสึรถไฟจะวิ่งมุ่งหน้าสู่วัดเซ็นซือจิ (Zentsuji Temple) ฝั่งขวามือจากมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาโกะกะคุ (Mt. Gogaku) และทางฝั่งซ้ายจะมองเห็นภูเขาอีโนะยามะ (Mt. Iinoyama) และจากวัดเซ็นซือจิ (Zentsuji Temple) วิ่งต่อไปประมาณ 5 นาทีก็จะถึงโคะโตะฮิระ (Kotohira) ประตูสู่ศาลเจ้าโคะโตะฮิระกู (Kotohira-gu Shrine) ซึ่งจะมีห้องรับรองและเครื่องดื่มไว้รอต้อนรับสำหรับผู้ที่จองชุดอาหารไว้ล่วงหน้าด้วย

หลังออกจากโคะโตะฮิระก็ถึงเวลาทานมื้อกลางวันกับ “โยฟูเรียวริ (Yofu Ryori)” ซึ่งหมายถึงอาหารสไตล์ตะวันตกกันแล้ว (สำหรับผู้ที่จองมาล่วงหน้าเท่านั้น) โดยจะเป็นอาหารแบบฝรั่งที่ปรุงจากวัตถุดิบชื่อดังของท้องถิ่นซะนุกิ (Sanuki) จัดแต่งมาอย่างสวยงามในภาชนะแบบกล่องชั้นเดียว และเมื่อรถไฟวิ่งข้ามเทือกเขาซะนุกิจนมาถึงสถานีทสึโบะจิริ (Tsubojiri Station) ที่แสนสันโดษแล้ว ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ของการเดินรถไฟที่วิ่งสลับรางไปมาหรือที่เรียกว่าสวิทช์แบ็ค (Switchback) หลังจากนั้นขบวนรถไฟจะวิ่งเลียบแม่น้ำโยชิโนะ (Yoshino River) ไปสู่โอโบเคะซึ่งเป็นดั่งประตูสู่ดินแดนเร้นลับ Unseen ของอิยะ (Iya) ไปเป็นเวลาราว 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยระหว่างทางจะได้ตื่นตะลึงกับทัศนียภาพอันงดงามมีชื่อเสียงโดดเด่นของหุบเขาโคะโบเคะ และโอโบเคะ (Koboke and Oboke Gorges) ที่อยู่เบื้องล่าง

ขบวนรถไฟชิอาวาเซะโนะซาโตะ คิโค (Shiawase-no-sato Kiko) ตู้โดยสารหัวขบวนสีแดง คือขบวนรถไฟขาขึ้นซึ่งออกเดินทางจากสถานีโอโบเคะ (Oboke Station) ในช่วงบ่ายมุ่งหน้าไปยัง สถานีทะโดะทสึ (Tadotsu Station) และชื่อชิอาวาเซะโนะซาโตะ (Shiawase-no-sato) ซึ่งแปลว่าดินแดนแห่งความสุขนั้นก็หมายถึงพื้นที่ชนบทอันแสนสงบสุขของซะนุกิ (Sanuki) นั่นเอง

ทันทีที่รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีต้นทาง ทางฝั่งซ้ายมือ ก็จะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของโอโบเคะ และเมื่อรถวิ่งผ่านหน้าบ้านโยไคและพิพิธภัณฑ์หิน (Yokai House & Stone Museum) ก็จะมีบรรดาโยไค (Yokai) หรือภูตผีปีศาจต่างๆ มายืนรอส่งอยู่ให้ได้โบกมือทักทายกันสนุกสนาน เมื่อรถไฟแล่นต่อไปให้ได้ชมทิวทัศน์ของหุบเขาโคะโบเคะ (Koboke Gorge) ก็จะมีช่วงเวลาที่จะได้พบปะทำความรู้จักกับผู้คนในท้องถิ่นที่สถานีอาวะ-คะวะงุชิ (Awa-Kawaguchi Station) จากนั้นก็ได้เวลาทาน นิฮงเรียวริ (Nihon Ryori) หรืออาหารญี่ปุ่นที่จัดมาในภาชนะกล่องสามชั้นที่มีชื่อเรียกว่า “ยุซันบาโกะ (Yusanbako)” อันโด่งดังของโทคุชิมะ (Tokushima) (สำหรับผู้ที่จองมาล่วงหน้าเท่านั้น)

เมื่อรถไฟแล่นผ่านอาวะอิเคดะ (Awa-Ikeda) ที่โด่งดังด้วยสาเกท้องถิ่น ข้ามสะพานเหล็กที่ทอดตัวยาวพาดผ่านแม่น้ำโยชิโนะ (Yoshino River) และไต่ขึ้นไปตามเนินลาดชันสักพักก็จะถึงทสึโบะจิริ (Tsubojiri) และเมื่อลอดอุโมงค์ยาวไกลบริเวณชายแดนจังหวัดออกมาก็จะถึงดินแดนซะนุกิ (Sanuki) โดยรถไฟจะวิ่งไปทางศาลเจ้าโคะโตะฮิระกู (Kotohira-gu Shrine) วัดเซ็นซือจิ (Zentsuji Temple) ไปสิ้นสุดที่สถานีทะโดะทสึ (Tadotsu Station) เป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

สำหรับการใช้บริการขบวนรถไฟชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) นอกจากค่าบัตรโดยสารแล้ว จะต้องชำระค่าตั๋วรถไฟด่วนพิเศษและตั๋วตู้โดยสารพิเศษหรือตู้โดยสารกรีนด้วย ซึ่งสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ JR ทั่วประเทศและตามบริษัททัวร์ชั้นนำทั่วไป นอกจากนี้ก็จะต้องซื้อบัตรจองอาหาร แยกต่างหากสำหรับทานอาหารบนรถไฟอีกด้วย ซึ่งสามารถจองได้ล่วงหน้าตั้งแต่ 1 เดือนถึง 4 วันก่อนวันโดยสารจริง

หมายเหตุ : ไม่สามารถใช้ร่วมกับบัตรโดยสาร ALL SHIKOKU R AIL PASS

ระหว่างเพลิดเพลินกับการเดินทางไปกับรถไฟขบวนนี้ ผู้โดยสารจะได้เอร็ดอร่อยกับอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น สำหรับการซื้อ “บัตรจองอาหาร” นั้น นอกจากบัตรโดยสารชิโกะคุมันนะกะ เซ็นเน็นโมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) แล้ว ยังต้องซื้อหรือแสดงตั๋วรถไฟด่วนพิเศษพร้อมตั๋วตู้โดยสารพิเศษอีกด้วย ซึ่งเริ่มจองได้ล่วงหน้าตั้งแต่ 1 เดือนถึง 4 วันก่อนวันโดยสารจริง สำหรับผู้ประสงค์จะคืนบัตรจองอาหาร หากนำบัตรมาคืนยังเคาน์เตอร์ที่ซื้อไปก่อนวันเดินทาง 4 วันจะได้รับเงินค่าบัตรคืนโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และหากคืนบัตรหลังจาก 3 วันก่อนวันเดินทางแล้วจะไม่ได้รับการคืนเงิน

[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]

• สัมผัสเสน่ห์เส้นทางรถไฟสายโยะซัน (Yosan Line), เอะฮิเมะ (Ehime)
• ตะลอนไปกับขบวนรถไฟที่แสนพิเศษในเส้นทาง เลียบชายฝั่งซันริคุ (Sanriku Coast)
• เที่ยวไปกับขบวนรถไฟนำเที่ยว “Echigo Tokimeki Resort-SETSUGEKKA” กันเถอะ
• นั่งรถไฟบนหิมะสีขาวกับขบวนรถไฟหัวรถจักรไอน้ำโบราณ (SL Fuyu-no-Shitsugen Train)
• “ทรานสวีท ชิกิชิมะ (TRAIN SUITE SHIKISHIMA)”–รถไฟตู้นอนสุดหรูระดับโรงแรมห้าดาว
• ท่องเที่ยวดินแดนใต้สุดของคิวชู ที่อิบุสุกิ (Ibusuki) พร้อมรถไฟสายพิเศษ
• ตะลอนบนรถไฟหัวจักรไอน้ำชิชิบุ (SL Chichibu Railway) และที่เที่ยวโดยรอบ
• เที่ยวคุมะโมโตะ (Kumamoto) ด้วยรถไฟด่วนพิเศษ “A-TRAIN” กันเถอะ
• เยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดื่มด่ำธรรมชาติ ทั่วเกาะชิโกะคุ
• ภูมิภาค : ชิโกะคุ (Shikoku)
• เมืองที่มีมนต์เสนห์น่าค้นหา เมืองโทคุชิมะ (Tokushima)
• ตะลุยเที่ยวธรรมชาติ ดื่มด่ำงานศิลปะ ที่คางาวะ (Kagawa)
• สำรวจเส้นทางแสวงบุญของ “โอะเฮ็นโระ (Ohenro)” ที่ ชิโกะคุ (shikoku) ในช่วงต้นฤดูร้อน
• เที่ยวไปในอิยะ (Iya), โทคุชิมะ (Tokushima)

ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน  2018