แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ

กลับมาเปิดใหม่อีกครั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโจเอ็ทสึ อุมิงะตะริ (Joetsu Aquarium Umigatari), นีงะตะ (Niigata)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโจเอ็ทสึ (Joetsu Aquarium) ในเมืองโจเอ็ทสึ (Joetsu City) ของจังหวัดนีงะตะ (Niigata) ที่เคยโด่งดังในฐานะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สามารถมองเห็นทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) และได้ปิดปรับปรุงไปเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ได้เวลากลับมาประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้งภายใต้ชื่อ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโจเอ็ทสึ อุมิกะตะริ (Joetsu Aquarium Umigatari) โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือฝูงปลาจำนวนมหาศาลที่ว่ายวนอยู่ในแท็งก์น้ำขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนกับอุโมงค์ใต้น้ำ รวมถึงการแสดงโชว์เพนกวินมาเจลลัน (Magellanic penguin) และวาฬเบลูกา (Beluga) ที่หาชมได้ยาก และหากวันไหนอากาศดีฟ้าโปร่งจะได้เห็นภาพพระอาทิตย์ตกค่อย ๆ จมลงสู่ทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) จากบริเวณระเบียงอีกด้วย

ไกด์ภาษาอังกฤษพาชมภายในพระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace), โตเกียว (Tokyo)

บริเวณใจกลางกรุงโตเกียว (Tokyo) เป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวงโตเกียวหรือพระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace) ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า โคเคียว (Kokyo) ประกอบไปด้วย โกะโชะ (Gosho) หรือราชสำนักอันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิ และพระตำหนักที่ใช้สำหรับการจัดงานราชประเพณีต่างๆ พระราชวังหลวงโตเกียวนี้มีสวนป่าและคูน้ำล้อมรอบ และแต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะ (Edo Castle)

พระราชวังหลวงโตเกียวเปิดให้เข้าชมภายในเขตพระราชวังทั่วไป (ไม่เข้าในตัวอาคาร) วันละ 2 รอบ คือรอบเช้าเริ่มเวลา 10:00 น. และรอบบ่ายเริ่มเวลา 13:30 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำพระราชวังเป็นไกด์พาชมพร้อมอธิบายในจุดสำคัญ และเนื่องจากปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กว่าครึ่งของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นชาวต่างชาติ ทางพระราชวังจึงได้จัดให้มีทัวร์พาชมเป็นภาษาอังกฤษ

แม้ว่าจะสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าชมได้ภายในวันเดียวกัน แต่การให้บริการจะเป็นไปตามลำดับก่อนหลัง จึงขอแนะนำให้ลงทะเบียนออนไลน์ไว้ก่อนล่วงหน้า (กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วันก่อนวันเข้าชมจริง)

ยกเลิกการเก็บค่าผ่านประตูสวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland), ยะมะนะชิ (Yamanashi)

สวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) เป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมด้วยเครื่องสุดยิ่งใหญ่อลังการที่แสนน่าตื่นเต้นหวาดเสียวมากมาย เช่น

• รถไฟเหาะขนาดยักษ์ “Fujiyama”
• รถไฟเหาะที่มีหอคอยสูงเสียดฟ้าอย่าง “Dodonpa”
• รถไฟเหาะที่ทำมุมสูงชันที่สุดในโลกอย่าง “Takabisha”
• บ้านผีสิง ‘Super Scary Labyrinth of Fear”
• เกมหนีตายจากเขาวงกต “Ultimate Fort”

ซึ่งการได้แข่งกันกรีดร้องสุดเสียงโดยมีภาพภูเขาฟูจิอยู่เบื้องหน้าจะช่วยคลายความเครียดได้เป็นอย่างดีทีเดียว นอกจากนี้ที่นี่ยังพรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นอีกมากมาย สามารถสนุกกับเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจได้อย่างสุดเหวี่ยงตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมปีนี้เป็นต้นไป ทางสวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) จะยกเลิกการเก็บค่าผ่านประตูซึ่งที่ผ่านมาเก็บค่าผ่านประตู 1,500 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 900 เยนสำหรับเด็ก (3 ขวบ – ชั้นประถม) โดยต่อจากนี้จะสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้แล้วแต่ทั้งนี้ราคาของบัตร Free Pass (บัตรที่สามารถใช้เล่นเครื่องเล่นทุกชนิดได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในวันนั้นๆ) จะยังคงราคาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จึงเป็นสถานที่ๆ น่าแวะไปเที่ยวเล่นเมื่อวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) เป็นอย่างยิ่ง

เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ “มินเนียน ฮะชะ-เมะชะ ไอซ์ (Minion Hacha-Mecha Ice), โอซาก้า (Osaka)

มินเนียนพาร์ค (Minion Park) ของสวนสนุกยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว กำลังจะเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ล่าสุด “มินเนียน ฮะชะ-เมะชะ ไอซ์ (Minion Hacha-Mecha Ice)” ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ให้ผู้เล่นได้สนุกสนานท้าทายไปกับการขับยานสร้างน้ำแข็งสำหรับ 4 คนนั่งไล่ล่ากันกับเหล่ามินเนียนจอมป่วนไปบนลานน้ำแข็ง (ในจินตนาการ) ความตื่นเต้นเร้าใจที่ต้องคอยหลบหลีกให้พ้นจากปืนไจแอนท์ฟรีซกัน (Giant Freeze Gun) ของเหล่ามินเนียนนั้นช่างเหมาะกับสภาพอากาศในฤดูร้อนที่กำลังจะถึงนี้เหลือเกิน สำหรับสิ่งที่มีอยู่ก่อนแล้วอย่าง มินเนียน ฮะชะ-เมะชะ ไรด์ (Minion Hacha-Mecha Ride) และ มินเนียน ฮะชะ-เมะชะ กรีทติ้ง (Minion Hacha-Mecha Greeting) นั้นก็ยังอยู่คอยสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนเช่นเคย

กลับมาเปิดใหม่อีกครั้งถนนมิซุกิ ชิเงะรุ (Mizuki Shigeru Road), ทตโตริ (Tottori)

ถนนมิซุกิ ชิเงะรุ (Mizuki Shigeru Road) เป็นถนนสายช้อปปิ้งและท่องเที่ยวภายใต้คอนเซ็ปต์ของ “ภูติพราย” จากการ์ตูนเรื่อง “อสูรน้อยคิทาโร่ (Gegege no Kitaro)” ผลงานของชิเงะรุ มิซุกิ (Shigeru Mizuki)เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ นักเขียนการ์ตูนชื่อดังผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดทตโตริ (Tottori) บนเส้นทางจากหน้าสถานีรถไฟถึงถนนช้อปปิ้งยาว 800 เมตรเต็มไปด้วยรูปปั้นสำริดรูปภูติพรายมากมายถึง 174 ตัวกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่เพื่อมาชมถนนสายนี้มากถึง 3 ล้านคน ในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมและจะเปิดใหม่อีกครั้งในวันที่ 14 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยยังคงบรรยากาศแบบย้อนยุคไว้ และปรับหน้าถนนให้กว้างขึ้น มีจุดให้แวะพักผ่อนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถเดินได้กันสะดวกสบายขึ้น ในช่วงกลางคืนก็จะมีการประดับไฟไลท์อัพตามรูปปั้นภูติพรายต่างๆ และยังมีการฉายภาพโปรเจ็คชันเป็นรูปเงาของภูติพรายเหล่านี้อีกด้วย