จุดชมซากุระที่อยากแนะนำ บริเวณญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก

Shiroishigawa-tsutsumi Hitome Senbonzakura, Cherry blossoms with snow-covered Zao Mountain in background along the bank of Shiroishi river in Funaoka Castle Ruin Park, Sendai, Miyagi prefecture, Japan

ซากุระกว่าพันต้นเรียงรายที่ฮิโตะเมะเซ็นบงซากุระ (Hitomesenbon zakura)

Amazing Landscape Night View Of Cherry Blossoms (Sakura) With River and Bridge Reflaction At Hirosaki Cherry Blossom Festival, Hirosaki Park, Aomori, Japan

ชมซากุระยามค่ำคืนที่สวนฮิโระซะกิ (Hirosaki Park)

ฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม มีสัญลักษณ์คือสีชมพูอ่อนของดอกซากุระ ซึ่งจะออกดอกผลิบานไล่จากทางตอนใต้สู่ภาคเหนือของญี่ปุ่น ในแต่ละพื้นที่จะมีช่วงเวลาที่ใบไม้เริ่มผลิบานแตกต่างกันออกไป และช่วงเวลาก็อาจจะคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี

ช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบาน ชาวญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมดั้งเดิมที่เรียกว่า ฮานามิ (Hanami) หรือการชมดอกไม้ มีเวลาเพลิดเพลินไปกับความงามของดอกไม้ โดยคนญี่ปุ่นจะชักชวนครอบครัว เพื่อน ๆ มาร่วมทานอาหารใต้ต้นซากุระกันอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสดชื่นของอีกหนึ่งฤดูกาลที่สวยงามที่สุด

ตารางแสดงข้อมูลโดยเฉลี่ยของระยะการชมซากุระ

**หมายเหตุ : การบานของดอกซากุระขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพอากาศของแต่ละปี**

ความต่างของดอกซากุระแต่ละสายพันธุ์

Cherry blossoms in full bloom, Someiyoshino

โซเมอิ โยชิโนะ
(Somei Yoshino)

สายพันธุ์ที่พบเจอได้มากที่สุดในญี่ปุ่น มี 5 กลีบ สีขาวอมชมพูอ่อน

ยาเอะซากุระ (Yaezakura)

ยาเอะซากุระ
(Yaezakura)

สายพันธุ์ที่ดอกมีขนาดใหญ่กว่าซากุระทั่วไป มีกลีบดอกสีชมพูอ่อน ถึงเข้ม สลับซ้อนกันตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 50 กลีบ

คะวะซุซากุระ (Kawazuzakura)

คะวะซุซากุระ
(Kawazuzakura)

สายพันธุ์ที่มีระยะเวลาในการเริ่มบานเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ มีกลีบดอกสีชมพูเข้ม และขนาดดอกที่ใหญ่

The name of these cherry trees is Taiwan cherry .

คังฮิซากุระ
(Kanhizakura)

อีกหนึ่งสายพันธุ์ดอกซากุระที่บานเร็วที่สุดในญี่ปุ่น พบมากที่โอกินาวะ (Okinawa) เนื่องจากมีอากาศอบอุ่น มีลักษณะเป็นรูประฆัง สีชมพูเข้ม

Cherry blossom of Edohigan in full bloom in Japan on one day of spring in 2018.

เอโดะ ฮิกังซากุระ
(Edo Higanzakura)

สายพันธุ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ลักษณะเด่นคือโคนดอกจะพองกลม และกลีบดอกเล็ก มีสีชมพูอ่อน

This cherry blossom is called "Oshimazakura" in Japan.

โอชิมะซากุระ
(Oshimazakura)

สายพันธุ์ซากุระที่มีสีขาว และมีกลิ่นหอม มีกลีบดอก 5 กลีบ ชั้นซ้อนกันเพียงเดียว ขนาดใหญ่

close up pink sakura (Yamazakura) blossom near Osaka castle

ยามะซากุระ
(Yamazakura)

สายพันธุ์ซากุระพบเห็นได้ทั่วญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ตามป่าเขา มีกลีบดอกสีขาว หรือสีชมพูอ่อน

Beautiful pink Shidarezakura(Weeping Cherry blossoms) on the Nicchu Line,Kitakata,Fukushima,Tohoku,Japan

ชิดาเระซากุระ
(Shidarezakura)

สายพันธุ์ที่มีกิ่งยาวย้อย โน้มลงดินเหมือนสายน้ำตก มีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกสีชมพู

การเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบผลิ

การเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบผลิ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10 – 14 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนมีนาคมก็ยังคงมีวันที่อากาศหนาวเย็นเป็นส่วนใหญ่ เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายนเป็นต้นไปท้องฟ้าจึงจะเริ่มโปร่ง มีแดดออก และอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นตามลำดับ เพื่อการชมดอกไม้อย่างเพลิดเพลินและปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็น ควรเตรียมเสื้อโค้ท หรือเสื้อแจ็คเก็ตที่มีความหนาพอสมควร รวมไปถึงเสื้อตัวนอกที่ใส่ง่าย อย่างเสื้อคาร์ดิแกนใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย

ฤดูใบไม้ผลิในบริเวณญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก (Japan East Area) จะเริ่มต้นช้ากว่าบริเวณญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก (Japan West Area) เล็กน้อย ดอกซากุระบริเวณนี้จะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ไล่จากทางตอนใต้สู่ขึ้นไปทางเหนือของญี่ปุ่น ในแต่ละพื้นที่จะมีช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบานแตกต่างกัน และอาจจะคลาดเคลื่อนในแต่ละปีตามสภาพภูมิอากาศ

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ได้แก่

  • สวมกิโมเดินชมซากุระและถ่ายภาพที่ระลึก
  • นั่งทานอาหารและดื่มสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ใต้ต้นซากุระ
  • แช่อนเซ็นพร้อมชมซากุระที่บานสะพรั่งอย่างเป็นส่วนตัวที่โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น
  • นั่งรถไฟท่องเที่ยวที่แล่นผ่านทุ่งดอกไม้ เพื่อชื่นชมดอกไม้อย่างใกล้ชิด
  • ชมงานเทศกาลประดับไฟไลท์อัพในยามค่ำคืน และมีกิจกรรมมากมายในฤดูใบไม้ผลิ
Tokyo, Japan - April 12, 2017:  Young women wearing traditional Japanese Kimono and Tokyo Skytree in public park at Sumida River near Asakusa, Tokyo

สวมกิโมเดินชมซากุระและโตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree)
ที่สวนสาธารณะสุมิดะ (Sumida Park), โตเกียว (Tokyo)

ชมซากุระไปพลางและแช่อนเซ็นไปพลางที่โอกะอนเซ็น (Oga Onsen), อะคิตะ (Akita)

ชมซากุระไปพลางและแช่อนเซ็นไปพลาง
ที่โอกะอนเซ็น (Oga Onsen), อะคิตะ (Akita)

แนะนำสถานที่สำหรับการชมดอกไม้ พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจแถบฝั่งญี่ปุ่นตะวันออก

  • ตื่นตาตื่นใจกับทุ่งดอกไม้และสนุกกับการแคมป์ปิ้งที่สวนดอกชิบะซากุระฮิงะชิโมะโคะโตะ (Higashimokoto Shibazakura Park), ฮอกไกโด (Hokkaido)
  • เช็คอินและถ่ายภาพที่ถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก (The World’s Longest Cherry-Lined Road) และปั่นจักรยานรอบเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama), อะโอโมริ (Aomori)
  • ชมซากุระอย่างเป็นส่วนตัวพร้อมผ่อนคลายกับการแช่อนเซ็นที่โอกะอนเซ็น (Oga Onsen), อะคิตะ (Akita)
  • เดินถ่ายรูปเล่นและนั่งรถไฟชมทุ่งดอกนะโนะฮะนะแห่งอิชิงะมิ (Ishigami Nanohana Field), ชิบะ (Chiba)
  • สวมกิโมเดินชมซากุระและโตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) จากบริเวณสวนสาธารณะซุมิดะ (Sumida Park) พร้อมล่องเรือสำราญชมวิวจากในแม่น้ำซุมิดะ (Sumida River), โตเกียว (Tokyo)
  • เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปดอกซากุระ ดอกทิวลิป ดอกนะโนะฮะนะ และภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนที่สวนอาซาฮิฟุนะคาวะ (Asahi Funakawa Park), โทยามะ (Toyama)

สวนดอกชิบะซากุระฮิงะชิโมะโคะโตะ (Higashimokoto Shibazakura Park), ฮอกไกโด (Hokkaido)

Higashimokoto Shibazakura Park

สวนดอกไม้สุดอลังการบนเนินเขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร

© Higashimokoto Shibazakura Park

Higashimokoto Shibazakura Park

พื้นที่สำหรับแคมป์ปิ้งและที่พักสุดพิเศษสไตล์บังกะโล

สวนดอกชิบะซากุระฮิงะชิโมะโคะโตะ (Higashimokoto Shibazakura Park) ตั้งอยู่ที่ฮอกไกโด (Hokkaido) สวนแห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงามของดอกชิบะซากุระ (Shibazakura) หรือพิงค์มอส (Pink Moss) ละลานตาที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งบนเนินเขาในช่วงเดือนพฤษภาคม

เมื่อดอกชิบะซากุระผลิบานเต็มที่ปกคลุมทั่วทั้งเนินเขาที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่า 100,000 ตารางเมตรก็จะกลายเป็นภาพที่งดงามดูราวกับพรมสีชมพูสดใสผืนใหญ่ที่ตัดกันกับสีฟ้าครามของท้องฟ้า บริเวณเนินดอกไม้ยังมีศาลเจ้ายะมะทสึมิ (Yamatsumi Shrine) ซึ่งมีเสาโทริอิ (Torii) สีชมพูสดใสตั้งตระหง่านเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของบรรดาคู่รักภายในสวนแห่งนี้มีกิจกรรมมากมายให้ได้เพลิดเพลิน เช่น การนั่งรถไปยังจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามา ขับรถโกคาร์ทโดยมีสนามโกคาร์ทขนาดระยะทาง 820 เมตร ซึ่งบริเวณรอบสนามรายล้อมไปด้วยดอกชิบะซากุระให้เราได้สัมผัสกับความรู้สึกสดชื่นสุดยอดเมื่อได้ขับรถแล่นไปพลางชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามนี้ได้อย่างใกล้ชิด รถโกคาร์ทมีแบบนั่งได้ 2 คน

นอกจากนี้อีกหนึ่งกิจกรรมแนะนำที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเมื่อมาที่นี่ก็คือการแคมป์ปิ้งบริเวณโซนที่พัก ซึ่งอยู่ติดกับสวนดอกไม้ การตั้งแคมป์มีให้เลือก 2 แบบ คือ

  1. ฟรีไซต์ (Free Site) คือแบบกางเต็นท์พักแรมในพื้นที่ที่กำหนด โดยจะต้องจอดรถบริเวณที่จอดรถเท่านั้น ไม่สามารถนำรถเข้ามาจอดได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ ได้แก่ โทรศัพท์ ร้านค้า และตู้ขายของอัตโนมัติ
    ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ 300 เยน ต่อคน, เด็ก 200 เยน ต่อคน (เด็กประถม), เด็กเล็กฟรี
  2. ออโต้ไซต์ (Auto Site) คือแบบที่สามารถขับรถบ้านแคมป์ปิ้งคาร์ (Camping Car) เข้ามาตั้งแคมป์พักแรมได้ โดยมีพื้นที่รองรับได้ 25 คัน *จำเป็นต้องจองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก
    พื้นที่สำหรับ 1 คัน: 1,500 เยน
    ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ 300 เยน ต่อคน, เด็ก 200 เยน ต่อคน (เด็กประถม), เด็กเล็กฟรี

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีที่พักสุดพิเศษสไตล์บังกะโล ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “ดรีมเฮาส์ (Dream House)” ราคา 4,500 เยน อยู่ทั้งหมด 3 หลัง ภายในดรีมเฮาส์ (Dream House) จะมีห้องครัว และสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 7-8 คน จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ ที่พักแบบดรีมเฮาส์ (Dream House) เปิดให้บริการปลายเดือนมิถุนายนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมของทุกปี
*จำเป็นต้องจองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Higashimokoto Shibazakura Park
393 Higashimokotosuehiro, Ozora, Abashiri, Hokkaido
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟ JR Limited Express Okhotsk ลงที่สถานี Abashiri ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นโดยสารรถ Abashiri Bus ลงที่ป้าย Higashimokoto ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นโดยสารแท็กซี่ไปอีก 6 นาที
เวลาทำการ 8:00 – 17:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ กลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย
  • ค่าเข้าชมสวนดอกไม้:
    ผู้ใหญ่ 500 เยน ต่อคน, เด็กชั้นประถม 250 เยน ต่อคน
  • รถชมภายในสวน (ไป-กลับ): ผู้ใหญ่ 300 เยน ต่อคน, เด็ก (ต่ำกว่าประถม) 150 เยน ต่อคน
  • โกคาร์ท: รถ 1 ที่นั่ง 300 เยน ต่อรอบ, รถ 2 ที่นั่ง 500 เยน ต่อรอบ
  • ตกปลา: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน ต่อชั่วโมง, เด็ก (ต่ำกว่าประถม) 1,000 เยน ต่อชั่วโมง
  • อนเซ็น: ผู้ใหญ่ 450 เยน ต่อคน, เด็ก (ต่ำกว่าประถม) 140 เยน ต่อคน, เด็กเล็ก 70 เยน ต่อคน
    (ห้องอาบน้ำหยอดเหรียญ 100 เยน)
  • บ่อแช่เท้า ฟรี
  • บังกะโล: 4,500 เยน ต่อคืน
  • Dream House: 4,500 เยน ต่อคืน
  • Auto Site: 1,500 เยน, ผู้ใหญ่ 300 เยน ต่อคน, เด็ก 200 เยน ต่อคน (เด็กประถม), เด็กเล็กฟรี
  • Free Site: ผู้ใหญ่ 300 เยน ต่อคน, เด็ก 200 เยน ต่อคน (เด็กประถม), เด็กเล็กฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.shibazakura.net/
http://www.ooz-kankou.com/01kankou/01kankou_d.html
https://www.visit-hokkaido.jp/event/detail/174
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.shibazakura.net/img/en.pdf
https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/gu900099/higashimokoto-shibazakura-park-a-flowery-oasis-in-northeastern-hokkaido.html
https://www.kyuhoshi.com/higashimokoto-shibazakura-park/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://www.shibazakura.net/img/thai.pdf
https://www.jnto.or.th/spring2019/doto.html
http://th.visit-eastern-hokkaido.jp/things_to_do/8209/

ถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก (The World’s Longest Cherry-Lined Road), อะโอโมริ (Aomori)

The World's Longest Cherry-Lined Road

ต้นซากุระเรียงรายซึ่งมีเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) เป็นฉากหลัง

© JNTO/Iwaki Mountain Association

The World's Longest Cherry-Lined Road

ต้นซากุระเรียงรายซึ่งมีเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) เป็นฉากหลัง

© JNTO/Iwaki Mountain Association

ถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก (The World’s Longest Cherry-Lined Road) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) ของจังหวัดอะโอโมริ (Aomori) สองข้างทางของถนนสายนี้เรียงรายไปด้วยต้นซากุระสายพันธุ์โอยะมะซากุระ (Oyamazakura) ประมาณ 6,500 ต้น ทอดยาวประมาณ 20 กิโลเมตร ต้นซากุระของที่นี่ปลูกขึ้นมาทุก ๆ ปี ด้วยความรักและตั้งใจของคนในท้องถิ่นที่ต้องการให้ถนนสายนี้เป็นถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก

ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมซากุระจะบานสะพรั่ง และมีทั้งผู้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติเดินทางมาชมความงดงามกันเป็นจำนวนมาก สีชมพูอ่อนของดอกซากุระที่มีเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) เป็นฉากหลังนั้นเป็นทัศนียภาพที่งดงามราวกับภาพวาด

กิจกรรมแนะนำที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับการชมซากุระอย่างเต็มที่ก็คือการปั่นจักรยานรอบ ๆ เชิงเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) สำหรับผู้ที่สนใจมาปั่นจักรยานสามารถเช่าจักรยานได้ที่ โรงแรม HOTEL GRAND MER SANKAISO นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแพ็คเกจห้องพัก อนเซ็น พร้อมจักรยานอีกด้วย บริเวณเส้นทางที่ต้องปั่นนั้นเป็นพื้นที่สูงต่ำ มีการไต่ระดับ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชำนาญในการปั่นจักรยานระดับหนึ่ง

ระยะทางในการปั่นจักรยานก็มีให้เลือก 3 แบบตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงระดับยาก คือ

  • Short Course เส้นทางปั่นจักรยานระยะทาง 15.9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  • Middle Course เส้นทางปั่นจักรยานระยะทาง 40.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  • Long Course เส้นทางปั่นจักรยานระยะทาง 72.6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5-7 ชั่วโมง

ซึ่งเส้นทางที่จะผ่านถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก (The World’s Longest Cherry-Lined Road) นั้นจะเป็นเส้นทางแบบ Long Course จึงเหมาะกับผู้ที่มีความชำนาญในการปั่นจักรยาน

นอกจากนี้ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีก็จะมีการจัดงานปั่นจักรยาน “Around Iwakiyama Fun Ride” ซึ่งจะผ่านบริเวณรอบ ๆ เชิงเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) โดยมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ศาลเจ้าอิวะคิยามะ (Iwakiyama Shrine) โดยปั่นตามเข็มนาฬิการอบภูเขา เป็นระยะทาง 47.4 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังมีสึงะรุ อิวะคิ สกายไลน์ (Tsugaru Iwaki Skyline) เส้นทางขับรถไปยังเขาอิวะคิยามะ (Iwakiyama) ชั้นที่ 8 ซึ่งประกอบด้วยโค้ง ทั้งหมด 69 โค้ง ปกติไม่อนุญาตให้จักรยานเข้า แต่สำหรับนักปั่นสามารถมาปั่นจักรยานบนถนนสายนี้ได้ในวันที่จัดงาน “Challenge Hill Climb Iwakiyama” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมิถุนายนของทุกปี

ข้อควรระวังในการปั่นจักรยาน

  • ขับขี่จักรยานชิดทางด้านซ้าย
  • เคารพกฎจราจร
  • ห้ามซ้อนท้ายจักรยาน
  • กรณีขับขี่บนทางเท้า ควรให้ผู้ที่เดินอยู่บนทางเท้าใช้ทางก่อน
  • ห้ามขี่จักรยานคู่ขนานไปพร้อมกัน 2 คัน
  • ห้ามฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ขณะขี่จักรยาน
  • ควรเปิดไฟหากขี่จักรยานตอนกลางคืน
  • ห้ามจอดจักรยานกีดขวางทางจราจร
  • ควรสื่อสารด้วยสัญญาณมือหรือการสบตาเพื่อบ่งบอกความตั้งใจของคุณกับผู้ขับขี่คนอื่นๆ บนท้องถนน
  • ควรสวมหมวกกันน็อคและระมัดระวังในการขับขี่เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ The World’s Longest Cherry-Lined Road
Hirosaki, Aomori
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Aomori โดยสารรถไฟ JR Ou Line Limited Express ลงที่สถานี JR Hirosaki ใช้เวลา 34 นาที จากสถานี JR Hirosaki โดยสารรถบัส Konan ลงที่ป้าย Komoriyamairiguchi ใช้เวลา 40 นาที
เวลาทำการ 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.iwakisan.com/touristinfo/2017/07/27/sekai1sakura/
https://www.tohokukanko.jp/sozaishu/detail_1007895.html
https://www.nihon-kankou.or.jp/sakura/detail/?ken__=aomori&shi__=02202&id__=S0209
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.en-aomori.com/scenery-023.html
https://cyclistwelcome.jp/en/2240
https://www.japancherryblossom.com/aomori-prefecture/the-world-s-longest-sakura-road-at-the-southern-foot-of-mt-iwaki
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

หมู่บ้านโอกะอนเซ็น (Oga Onsen), อะคิตะ (Akita)

ชมซากุระไปพลางและแช่อนเซ็นไปพลางที่โอกะอนเซ็น (Oga Onsen), อะคิตะ (Akita)

แช่อนเซ็นพร้อมชมซากุระที่บานสะพรั่งอย่างเป็นส่วนตัว

© JNTO

2103_sakura_02

อนเซ็นของที่นี่มีมีปริมาณโซเดียมคลอไรด์ สูงมีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณ

© JNTO

หมู่บ้านโอกะอนเซ็น (Oga Onsen) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโอกะ (Oga Peninsula) เมืองโอกะ (Oga) ของจังหวัดอะคิตะ (Akita) พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น แหลมนิวโด (Cape Nyudozaki) จุดชมวิวทะเลที่สวยที่สุดของเมืองและยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุด 1 ใน 100 แห่งของญี่ปุ่น
นอกจากนี้คาบสมุทรโอกะ (Oga Peninsula) ยังเป็นบ้านเกิดของปีศาจนะมะฮะเกะ (Namahage) จึงไม่ควรพลาดการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นะมะฮะเกะ (Namahage Museum) เรียนรู้ประวัติและตำนานทั้งหมดเกี่ยวกับปีศาลนะมะฮะเกะ พร้อมทั้งลองสวมชุดนะมะฮะเกะ และสามารถจองตารางเวลาไปชมโชว์ปีศาลนะมะฮะเกะตีกลองไทโกะ ที่โอกะอนเซ็นโกะฟุอีเวนท์ฮอล์ (Oga Onsen Gofu event hall) ได้อีกด้วย

การมาพักผ่อนที่หมู่บ้านโอกะอนเซ็น (Oga Onsen) สามารถดื่มด่ำกับวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ได้ที่หมู่บ้านนี้ ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบ่ออนเซ็น ซึ่งมีน้ำร้อนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีปริมาณโซเดียมคลอไรด์สูง ซึ่งช่วยรักษาความร้อนของน้ำ และยังเชื่อกันว่าน้ำนี้มีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง และช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้

อาหารขึ้นชื่อที่คุณควรทานเมื่อมาเยือนโอกะอนเซ็น (Oga Onsen) คือ “อิชิยากิ (Ishiyaki)” ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เชื่อกันว่าคิดค้นโดยชาวประมง จุดเด่นอยู่ที่การนำอาหารทะเล และวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่นนำไปใส่ในถังไม้แล้วปรุงอาหารให้สุกด้วยการใส่หินร้อน ๆ เข้าไป ที่น่าตื่นเต้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการใส่อาหารทะเลสดและส่วนผสมอื่น ๆ ลงในถังโยนหินสีแดงสดที่ร้อนระอุและเดือดปุด ๆ ทันที มีบ่อน้ำพุร้อนมากมายที่ให้บริการอาหารจานนี้

นอกจากนี้ บริเวณโอกะอนเซ็น (Oga Onsen) มีที่พักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีบ่ออนเซ็นให้แช่ผ่อนคลายได้หลายแห่ง บ่ออนเซ็นที่น่าไปแช่ในบริเวณนี้ได้แก่

Oga Hotel
น้ำร้อนในบ่ออนเซ็นของที่นี่มีส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์ เชื่อกันว่าช่วยในการบรรเทารักษาบาดแผล แผลไฟไหม้ หรือโรคผิวหนังเรื้อรังได้ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของอนเซ็นบ่อหินกลางแจ้ง “อิชิยามะโนะยุ (Ishiyama no Yu)” ซึ่งหันหน้าออกไปทางลานกว้างที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นก็สามารถแช่น้ำไปพร้อม ๆ กับเพลิดเพลินกับการชมซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมได้อย่างเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายอย่างที่สุด

Oga Kanko Hotel
น้ำร้อนในบ่ออนเซ็นแห่งใหม่ที่ไหลตรงจากต้นน้ำอิชิยามะโนะยุ (Ishiyama no Yu) ของโรงแรมในเครือเดียวกันอย่าง Oga Hotel ที่ตั้งอยู่ติดกัน น้ำร้อนของโรงแรมแห่งนี้มีโซเดียมคลอไรด์ คล้ายกับส่วนประกอบของน้ำทะเลและเกลือที่เกาะตามผิวหนัง หลังแช่น้ำจะป้องกันการระเหยของเหงื่อ จึงมีผลช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นสูง และผิวสวย จึงเป็นอนเซ็นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ที่นี่มีอนเซ็นทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง

Seiko Grand Hotel
ที่นี่มีทั้งอนเซ็นกลางแจ้งที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของแต่ละฤดูกาล และอนเซ็นในร่มที่คุณสามารถผ่อนคลายได้ น้ำร้อนของที่นี่มีส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์ จึงช่วยให้ผิวพรรณสวยและมีความชุ่มชื้นเช่นเดียวกัน

SKO Group Yumeguri (ใช้ได้กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน)
สำหรับผู้เข้าพักที่โรงแรมในเครือ SKO ทั้ง 3 แห่ง Oga Hotel, Oga Kanko Hotel และ Seiko Grand Hotel สามารถแช่อนเซ็นที่โรงแรมในเครืออีกสองแห่งได้ในราคา 300 เยน จากราคา 700 เยน (ต่อโรงแรม) โดยสามารถติดต่อซื้อตั๋วนี้ได้ที่แผนกต้อนรับของโรงแรมที่คุณเข้าพัก
เวลาทำการ: 15:00-21:00 น. และเช้าวันถัดไป 6:30-8:30น.
*อาจมีบางกรณีที่ไม่สามารถใช้ได้ เช่น กรณีมีการปิดเหมาอนเซ็นทั้งหมด หรือมีการปิดซ่อมแซม

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Oga Onsen
13-1, Kusaki-hara, Kitaura-yumoto, Oga, Akita
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Aomori โดยสารรถไฟ JR Ou Line ลงที่สถานี JR Oga ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากสถานี JR Oga โดยสารรถชัทเทิลบัสของโรงแรม ใช้เวลา 30 นาที
เวลาทำการ เช็คอิน 15:00 น.
เช็คเอาท์ 10:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย แตกต่างตามประเภทของห้องพัก
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://e-ogaonsen.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1557.html
https://www.japan.travel/diving/en/travel/onsen/oga-onsen-akita/
https://e-ogaonsen.com/taiko/en/
https://oga-hotel.com/spa/
https://oga-kanko.com/en/spa/
https://oga-seiko.com/en/spa/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

ทุ่งดอกนะโนะฮะนะแห่งอิชิงะมิ (Ishigami Nanohana Field), ชิบะ (Chiba)

ทุ่งดอกนะโนะฮะนะสีเหลืองอร่ามบานสะพรั่งช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี

ทุ่งดอกนะโนะฮะนะสีเหลืองอร่ามบานสะพรั่ง
ช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี

รถไฟซะโตะยะมะโทะรกโกะ (Satoyama Torocco Train)

รถไฟซะโตะยะมะโทะรกโกะ (Satoyama Torocco Train)

ทุ่งดอกนะโนะฮะนะแห่งอิชิงะมิ (Ishigami Nanohana Field) ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ (Chiba) บริเวณระหว่างสถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) และสถานีคะซุสะโอคุโบะ (Kazusa Okuba Station) ของรถไฟโคะมินะโตะ (Kominato Railway) ทุ่งดอกนะโนะฮะนะกว้างใหญ่แห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากความตั้งใจของคนในท้องถิ่นที่มาช่วยกันหว่านเมล็ดพันธุ์ปลูกเอาไว้

ในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนดอกนะโนะฮะนะจะบานสะพรั่งเต็มทั่วท้องทุ่ง มีกิจกรรมแนะนำที่ไม่ควรพลาด คือ การชมดอกไม้ท่ามกลางทุ่งดอกนะโนะฮะนะแสนสวยที่ดูคล้ายกับพรมสีเหลืองผืนใหญ่โดยมีภาพท้องฟ้าสีฟ้าสดใสเป็นแบ็คกราวด์ พร้อมกับนั่งรถไฟขบวนแสนพิเศษ ด้วยการโดยสารรถไฟ 2 ขบวน ได้แก่

1.รถไฟซะโตะยะมะโทะรกโกะ (Satoyama Torocco Train)
รถไฟชมวิวแบบไร้หน้าต่างที่แล่นไปกลางทุ่งดอกนะโนะฮะนะ เพื่อสัมผัสกับสายลมและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด รถไฟซึ่งดูมีเอกลักษณ์แปลกตานี้จะจอดให้ขึ้นลงได้เพียง 4 สถานี เท่านั้น คือ สถานีคะซุสะอุชิคุ (Kazusa Ushiku Station) สถานีซะโตะมิ (Satomi Station) สถานีทสึกิซะกิ (Tsukizaki Station) และสถานีโยโรเคโคะคุ (Yoro-Keikoku Station) ไม่สามารถขึ้นหรือลงที่สถานีอื่นได้ ราคาค่าใช้จ่ายแล้วแต่การขึ้นลงสถานี แต่หากใช้แบบเหมาก็สามารถซื้อตั๋วได้เพียงคนละ 600 เยน รถไฟขบวนนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ตู้ รถไฟตู้ที่ 1 และตู้4 จะเป็นรถไฟที่นั่งธรรมดา ส่วนตู้ที่ 2 และ 3 จะเป็นตู้สำหรับชมวิวสองข้างทาง รถไฟขบวนนี้วิ่งให้บริการเฉพาะวันที่กำหนดเท่านั้น จึงควรจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์ แล้วมาชำระค่าโดยสารในวันเดินทางจริงที่สถานีรถไฟที่ใช้บริการ

2.รถไฟท่องเที่ยวมูมินอิซุมิ (MOOMIN Isumi Railway)
ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเก่าที่ถูกปรับปรุงขึ้นเพื่อเป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยว ซึ่งตกแต่งในธีมตามคาแรกเตอร์มูมิน(Moomin) ระยะทางทั้งหมด 26 กิโลเมตร รถไฟจะจอดให้ขึ้นและลง ได้เพียง 4 สถานี จุดเริ่มต้นของการเดินทางอยู่ที่สถานีโอฮะระ (Ohara Station) สถานีคุนิโยะชิ (Kuniyoshi Station) สถานีโอทะคิ (Otaki Station) ไปสิ้นสุดยังสถานีคะซุสะนะคะโนะ (Kazusa-Nakano Station) สถานีปลายทางของรถไฟอิซุมิ (Isumi Railway)

นอกจากดีไซน์ภายนอกรถไฟแล้วที่หน้าต่างกับประตูด้านในก็ยังมีเหล่ามูมินมาห้อมล้อมไปตลอดการเดินทาง ระหว่างทางไฮไลท์เด็ดอยู่ที่การแวะลงที่สถานีคุนิโยะชิ (Kuniyoshi Station) เพื่อพบกับ “VALLEY WINDS” ร้านขายของมูมินในสถานี ที่นี่มีสินค้าลิขสิทธิ์ของมูมินอยู่มากมาย รับรองว่าถูกใจสาวกมูมินและคนที่อยากซื้อของฝากอย่างแน่นอน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Ishigami Nanohana Field
225 Ishigami, Ichihara, Chiba
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Sobu Line ลงที่สถานี Goi ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถไฟ Kominato Railway ลงที่สถานี Yoro-Keikoku ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ กลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วรถไฟ 1 Day Pass ของ Kominato Railway
ผู้ใหญ่ 1,840 เยน เด็ก 920 เยน

ค่าตั๋วรถไฟ 1 Day Pass ของ Isumi Railway
วันธรรมดา: ผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน
วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 750 เยน

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.kominato.co.jp/tourism/yorokeikoku/ishigami/index.html
https://www.kominato.co.jp/satoyamatorocco/index.html
https://www.kominato.co.jp/train/guide/deal/index.html
https://www.isumirail.co.jp/ticket
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://digjapan.travel/en/featured/id=10377
https://zekkeijapan.com/article/index/871/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/spring2019/chiba.html

สวนสาธารณะสุมิดะ (Sumida Park), โตเกียว (Tokyo)

Tokyo, Japan - April 12, 2017:  Young women wearing traditional Japanese Kimono and Tokyo Skytree in public park at Sumida River near Asakusa, Tokyo

ดื่มด่ำฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่ด้วยการสวมกิโมเดินชมซากุระ

Tokyo, Japan - March 29, 2018: Tokyo Skytree Tower with cherry blossoms in full bloom at Sumida Park. There's a lot of cruise ship and water bus ride on Sumida River.

สัมผัสความงามในอีกรูปแบบด้วยการนั่งเรือสำราญ
ชมซากุระจากแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River)

สวนสาธารณะสุมิดะ (Sumida Park) เป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ (Asakusa) ของโตเกียว (Tokyo) สวนสาธารณะแห่งนี้มีผู้คนแวะเวียนมาอยู่เป็นประจำ ฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระ ซึ่งจะมีร้านค้าแผงลอยขายอาหารมาขายอาหารหรือขนม ชาวญี่ปุ่นก็มักนิยมซื้ออาหารแล้วไปปูเสื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระ นอกจากนี้มีตลาดนัด Flea Market รวมถึงมีโชว์เต้นหรือโชว์กลองญี่ปุ่นให้ชมอีกด้วย

ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนต้นซากุระมากกว่า 600 ต้น จะเบ่งบานอย่างเต็มที่ โดยมีแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และโตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) เป็นฉากหลังหากต้องการดื่มด่ำฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่เหมือนกับคนญี่ปุ่นขอแนะนำให้สวมชุดกิโมโนแล้วซึมซับกับบรรยากาศของซากุระสีชมพูสดใสและทิวทัศน์รอบตัวอย่างไม่ต้องเร่งรีบเดินเล่นริมฝั่งแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) สำหรับคนที่อยากเช่าชุดกิโมโนสามารถไปเช่าได้ที่ร้านเช่ากิโมโนที่มีมากกว่า 10 ร้าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอบๆ สถานีอาซากุสะ (Asakusa Station) และวัดเซนโซจิ (Sensoji) โดยราคาค่าเช่าโดยทั่วไปจะเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 3,000 เยนต่อคน ในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟไลท์อัพที่ต้นซากุระ ในช่วงนี้โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) และสะพานก็จะมีการประดับไฟด้วยเช่นกัน

กิจกรรมแนะนำที่ไม่ควรพลาดลองนั่งเรือชมทัศนียภาพด้วยเรือสำราญยะกะตะบุเนะ (Yakatabune) โดยปกติการล่องเรือจะใช้เวลารอบละประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งรวมการทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมบนเรือ นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีบริการล่องเรือชมซากุระโดยเฉพาะ เพื่อเปิดประสบการณ์การชมดอกไม้ในอีกมุมมองจากแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) เรียกว่าเรือโอฮานามิยะกะตะบุเนะ (Ohanami Yakatabune) ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนเท่านั้น

ผู้โดยสารสามารถชมซากุระพร้อมกับทานอาหารบนเรือ ยิ่งในช่วงกลางคืนนั้นก็จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกและทิวทัศน์ที่งดงามไปอีกรูปแบบ
ค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ 11,000 เยน (รวมภาษี) ต่อคน เด็กประถมหรือต่ำกว่า 5,500 เยน (รวมภาษี) เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีไม่เสียค่าใช้จ่าย (ไม่มีอาหารและที่นั่งให้)
**สำหรับคนที่สนใจล่องเรือจำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า และมีหลายบริษัทให้บริการ**
https://www.yakatabune-kumiai.jp/en/index.php
https://www.gotokyo.org/en/destinations/waterfront/yakatabune-boat-cruises.html

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Sumida Park
1 Chome-3 Mukojima, Sumida, Tokyo
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Asakusa เดินอีก 7 นาที
เวลาทำการ 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.gotokyo.org/jp/spot/ev188/index.html
https://www.city.taito.lg.jp/event/kanko/sumidasakuramatsuri.html
https://www.amitatsu.jp/course/ohanami.htm
https://da-inn.com/sumidakouensakura-26269-2/
https://asakusa-hanaka.com/
https://vasara-h.co.jp/
https://yae-japan.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.japan.travel/en/spot/1688/
https://www.gotokyo.org/en/spot/ev188/index.html
https://en.activityjapan.com/blog/activityjapanblog_20190308_sumidagawa_cruise/
https://www.amitatsu.jp/english/
https://www.gotokyo.org/en/story/guide/hanami-guide/index.html
https://vasara-h.co.jp/en/
https://yae-japan.com/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.japan.travel/th/spot/1688/
https://www.gotokyo.org/th/spot/506/index.html
https://www.gotokyo.org/th/destinations/waterfront/yakatabune-boat-cruises.html

สวนอาซาฮิฟุนะคาวะ (Asahi Funakawa Park), โทยามะ (Toyama)

2103_sakura_15

สถานที่เดียวที่สามารถชมได้ครบทั้งดอกซากุระ
ดอกทิวลิป ดอกนะโนะฮะนะ และภูเขาอาซาฮี

© Asahi Town Tourism Association

2103_sakura_16

ซากุระพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino)
เรียงรายเป็นระยะทางกว่า 1.2 กิโลเมตร

© Asahi Town Tourism Association

สวนอาซาฮิฟุนะคาวะ (Asahi Funakawa Park) ตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮี (Asahi) จังหวัดโทยามะ (Toyama) เป็นจุดถ่ายภาพและจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิของจังหวัดโทยามะ (Toyama) นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับภาพความงดงามของซากุระพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) ที่เบ่งบานเรียงรายริมแม่น้ำฟุนะคาวะ (Funakawa River)แล้ว ในบริเวณนี้ยังมีสวนดอกทิวลิปแล้วก็ยังมีดอกนะโนะฮะนะ (Nanohana) สีเหลืองที่บานสะพรั่งไม่ยอมน้อยหน้า พร้อมทั้งยังมีฉากหลังที่เป็นภูเขาโซกะดะเคะ (Mt. Sogadake) ซึ่งปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ช่วยทำให้เหล่าหมู่มวลดอกไม้นานาชนิดดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพนั้นจะต้องไม่พลาดจุดไฮไลท์ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 จุด ได้แก่

    1. อุโมงค์ซากุระ ดื่มด่ำกับภาพความงดงามของซากุระพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) ราว 280 ต้น ที่เบ่งบานเรียงรายริมแม่น้ำฟุนะคาวะ (Funakawa River) เป็นระยะทางกว่า 1.2 กิโลเมตรแล้ว
    2. สวนดอกนะโนะฮะนะ (Nanohana) สีเหลืองอร่าม ตั้งอยู่ถัดจากอุโมงค์ดอกซากุระ
    3. สวนดอกทิวลิป ที่มีหลากสีสันสดใส ตั้งอยู่ถัดไปทางทิศเหนือของสวนดอกนะโนะฮะนะ (Nanohana) ในอดีตบริเวณนี้เคยมีสวนของเกษตรกรที่ปลูกทิวลิปเป็นจำนวนมากถึง 30 แห่ง แต่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
    4. ภูเขาโซกะดะเคะ (Mt. Sogadake) ที่ปกคลุมด้วยหิมะตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังสุดของดอกทิวลิป สวนดอกนะโนะฮะนะ และอุโมงค์ซากุระ

ต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปีดอกไม้จะพร้อมกันบานสะพรั่ง เรียกได้ว่าถ้ามาเยือนที่นี่ที่เดียวก็สามารถเพลิดเพลินได้ทั้ง 4 สีสันสวยงาม จากดอกซากุระ ดอกทิวลิป ดอกนะโนะฮะนะ และภูเขาอาซาฮี พร้อมกันในหนึ่งฤดูกาล ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟไลท์อัพบริเวณต้นซากุระกลายเป็นภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Asahi Funakawa Park
Funagawashin, Asahi, Shimoniikawa, Toyama
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Hokuriku Shinkansen ลงที่สถานี Itoigawa ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 5 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Nihonkai-Hisui Line ใช้เวลา 27 นาที ลงที่สถานี Tomari จากนั้นโดยสารรถแท็กซี่หรือรถชัทเทิลบัสรับส่ง (ให้บริการในวันเสาร์และอาทิตย์) ไปอีก 10 นาที
เวลาทำการ 24 ชั่วโมง
การเปิดไฟไลท์อัพ 19:00 – 21:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.asahi-tabi.com/sijuusou/
https://www.asahi-tabi.com/pdf/2020shijyuso.pdf
https://www.town.asahi.toyama.jp/soshiki/shokokanko/1449207735697.html
https://www.info-toyama.com/event/80459/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://foreign.info-toyama.com/en/spot/?spot_id=114&ret_list_p=10
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/spring2018/detail/riverside_of_funakawa
จดหมายข่าวอื่นๆ