สถานที่เที่ยวชมดอกบ๊วย

สวนมิโตะไคระคุเอ็น (Mito Kairakuen Garden) ในเมืองมิโตะ (Mito City) จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki) คือ 1 ใน 3 สวนที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะสถานที่ชมดอกบ๊วยยอดนิยมอีกด้วย ภายในสวนงดงามไปด้วยต้นบ๊วยกว่า 100 สายพันธุ์รวมกว่า 3,000 ต้น แต่ละสายพันธุ์จะผลิดอกในช่วงเวลาที่ต่างกันไป โดยสายพันธุ์ที่เร็วหน่อยก็จะบานในช่วงกลางเดือนมกราคม ส่วนที่ช้าหน่อยก็จะบานในช่วงต้นเดือนเมษายน จึงมีเวลาให้ชมดอกบ๊วยได้ยาวนาน และหากได้มีโอกาสมาเยือนสวนมิโตะไคระคุเอ็น (Mito Kairakuen Garden) ก็ไม่ควรพลาดชม “6 ต้นไม้สวยแห่งมิโตะ” ซึ่งหมายถึงต้นบ๊วย 6 ต้นภายในสวนแห่งนี้ที่สวยงามโดดเด่นทั้งลักษณะกลีบดอก สีสัน ตลอดจนกลิ่นหอม ต้นบ๊วยทั้ง 6 ต้นล้วนมีรั้วหกเหลี่ยมกั้นไว้ จึงสังเกตเห็นได้ง่ายแม้อยู่ไกล และหากได้ไปเห็นของจริงกับตาคงจะหลงใหลไปกับความงามนั้นอย่างแน่นอน

นอกจากนี้มีงานเทศกาลชมดอกบ๊วยแห่งมิโตะ (Mito Plum Blossom Festival)ในระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคมจะมีกิจกรรมชงชาให้ได้เพลิดเพลินกับรสชาติของชาเขียวมัทฉะ (Matcha) แบบกลางแจ้งอีกด้วย

เมืองยุงะวะระ (Yugawara Town) ในจังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะแหล่งอนเซ็นที่เดินทางไปได้สะดวกจากโตเกียว (Tokyo) และในขณะเดียวกันก็เป็นจุดชมดอกบ๊วยยอดนิยมอีกด้วย ต้นบ๊วยที่ ป่าบ๊วยยุงะวะระ (Yugawara Forest Plum) จะเริ่มผลิดอกตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีและจะบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ภาพของต้นบ๊วยทั้งสีขาวและสีแดงกว่า 4,000 ต้นเต็มพื้นที่กว้างสุดสายตาราวกับปูด้วยพรมฟูนุ่มนั้นเป็นภาพที่งดงามจนต้องตะลึงทีเดียว และภายในสวนก็ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนโยนของดอกบ๊วยอีกด้วย

นอกจากนี้มีงานเทศกาลอุเมะโนะอุตะเงะ (Ume-no-Utage Festival) ในระหว่างวันที่ 2 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคมภายในงานแนะนำให้ลองชิมซอฟต์ครีมรสบ๊วยที่ไม่ควรพลาดและมีงานเทศกาลประดับไฟไลท์อัพในระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคมให้ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์พร้อมไฟไลท์อัพที่สวยงามราวกับความฝันแตกต่างไปจากตอนกลางวันอีกด้วย

สำหรับผู้ที่อยากหาสถานที่ชมดอกบ๊วยในโอซาก้า (Osaka) แนะนำให้ไปชมได้ที่ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ป่าบ๊วยที่ปราสาทโอซาก้านั้นนับเป็นป่าบ๊วยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก เต็มไปด้วยต้นบ๊วยกว่า 100 สายพันธุ์รวมกว่า 1,270 ต้น ซึ่งบางสายพันธุ์ที่บานเร็วก็จะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม และจะผลิดอกบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนมีนาคม และหากปีไหนสภาพอากาศเป็นใจก็จะยังคงบานให้ได้ชมกันจนถึงต้นเดือนเมษายนเลยทีเดียว ดังนั้นจึงอาจมีโอกาสชมทั้งดอกบ๊วยและดอกซากุระไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งนับเป็นเสน่ห์ของปราสาทโอซาก้าที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งที่นี่ยังมีต้นบ๊วยสายพันธุ์หายากให้ได้ชมอย่าง “โอะโมอิโนะมะมะ (Omoi no Mama)” ที่มีทั้งกลีบดอกสีแดงและขาวอยู่ในดอกเดียวกันอีกด้วย หากมีโอกาสมาชมความงามของดอกบ๊วยที่นี่ลองเดินหาชมต้นบ๊วยสายพันธุ์นี้ดูรับรองว่าจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

การปีนเขาเดินป่าเพื่อชมดอกบ๊วยเป็นการชมความงามของดอกบ๊วยที่น่าสนใจอีกแบบหนึ่งป่าบ๊วยอะโนะอุ (Anou Plum Grove) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ป่าบ๊วยที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนารา (Nara) นั้นปกคลุมไปด้วยต้นบ๊วยจำนวนมากตั้งแต่บริเวณเชิงเขาลูกเล็กๆ ไปจนถึงบริเวณยอดเขารวมทั้งหมดประมาณ 20,000 ต้นเลยทีเดียว ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนมีนาคมจะละลานตาไปด้วยดอกบ๊วยสีขาวบริสุทธิ์และสีแดงจางๆ และจะอบอวลด้วยกลิ่นหอมนุ่มนวลไปรอบบริเวณ การเดินเขาจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อรอบ และสำหรับใครที่ไม่พิสมัยการเดินป่าปีนเขานักก็เพลิดเพลินกับการชมความงามของดอกบ๊วยที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณเชิงเขาได้เช่นกัน