จุดชมซากุระที่อยากแนะนำ บริเวณญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก

KYOTO - APRIL 4: Japanese people gather on April 4th, 2010 in Maruyama Park in Kyoto, Japan to celebrate "hanami", the Cherry blossom celebration. This park is the most famous hanami place of Japan.

ฮานามิ (Hanami) ที่สวนสาธารณะมะรุยะมะ (Maruyama Park)
ในเกียวโต (Kyoto)

Kyoto ~ cherry blossoms

ชมซากุระพร้อมงานประดับไฟไลท์อัพที่วัดโทจิ (Toji Temple)
ในเกียวโต (Kyoto)

ฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม มีสัญลักษณ์คือสีชมพูอ่อนของดอกซากุระ ซึ่งจะออกดอกผลิบานไล่จากทางตอนใต้สู่ภาคเหนือของญี่ปุ่น ในแต่ละพื้นที่จะมีช่วงเวลาที่ใบไม้เริ่มผลิบานแตกต่างกันออกไป และช่วงเวลาก็อาจจะคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี

ช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบาน ชาวญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมดั้งเดิมที่เรียกว่า ฮานามิ (Hanami) หรือการชมดอกไม้ มีเวลาเพลิดเพลินไปกับความงามของดอกไม้ โดยคนญี่ปุ่นจะชักชวนครอบครัว เพื่อน ๆ มาร่วมทานอาหารใต้ต้นซากุระกันอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสดชื่นของอีกหนึ่งฤดูกาลที่สวยงามที่สุด

ตารางแสดงข้อมูลโดยเฉลี่ยของระยะการชมซากุระ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพอากาศของแต่ละปี

ความต่างของดอกซากุระแต่ละสายพันธุ์

Cherry blossoms in full bloom, Someiyoshino

โซเมอิ โยชิโนะ
(Somei Yoshino)

สายพันธุ์ที่พบเจอได้มากที่สุดในญี่ปุ่น มี 5 กลีบ สีขาวอมชมพูอ่อน

ยาเอะซากุระ (Yaezakura)

ยาเอะซากุระ
(Yaezakura)

สายพันธุ์ที่ดอกมีขนาดใหญ่กว่าซากุระทั่วไป มีกลีบดอกสีชมพูอ่อน ถึงเข้ม สลับซ้อนกันตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 50 กลีบ

คะวะซุซากุระ (Kawazuzakura)

คะวะซุซากุระ
(Kawazuzakura)

สายพันธุ์ที่มีระยะเวลาในการเริ่มบานเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ มีกลีบดอกสีชมพูเข้ม และขนาดดอกที่ใหญ่

The name of these cherry trees is Taiwan cherry .

คังฮิซากุระ
(Kanhizakura)

อีกหนึ่งสายพันธุ์ดอกซากุระที่บานเร็วที่สุดในญี่ปุ่น พบมากที่โอกินาวะ (Okinawa) เนื่องจากมีอากาศอบอุ่น มีลักษณะเป็นรูประฆัง สีชมพูเข้ม

Cherry blossom of Edohigan in full bloom in Japan on one day of spring in 2018.

เอโดะ ฮิกังซากุระ
(Edo Higanzakura)

สายพันธุ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ลักษณะเด่นคือโคนดอกจะพองกลม และกลีบดอกเล็ก มีสีชมพูอ่อน

This cherry blossom is called "Oshimazakura" in Japan.

โอชิมะซากุระ
(Oshimazakura)

สายพันธุ์ซากุระที่มีสีขาว และมีกลิ่นหอม มีกลีบดอก 5 กลีบ ชั้นซ้อนกันเพียงเดียว ขนาดใหญ่

close up pink sakura (Yamazakura) blossom near Osaka castle

ยามะซากุระ
(Yamazakura)

สายพันธุ์ซากุระพบเห็นได้ทั่วญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ตามป่าเขา มีกลีบดอกสีขาว หรือสีชมพูอ่อน

Beautiful pink Shidarezakura(Weeping Cherry blossoms) on the Nicchu Line,Kitakata,Fukushima,Tohoku,Japan

ชิดาเระซากุระ
(Shidarezakura)

สายพันธุ์ที่มีกิ่งยาวย้อย โน้มลงดินเหมือนสายน้ำตก มีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกสีชมพู

Arashiyama, Togetsukyo Bridge and cherry blossoms in spring scenery of Kyoto, Japan

จุดชมซากุระที่อะระชิยะมะ (Arashiyama)

Cherry Blossom (Sakura) along Gojo river, Iwakura City, Aichi Prefecture, Japan

ดอกซากุระร่วงโรยบนแม่น้ำโกโจ (Gojo River)

การเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบผลิ

การเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบผลิ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10 – 14 องศาเซลเซียส และในช่วงเดือนมีนาคมก็ยังคงมีวันที่อากาศหนาวเย็นเป็นส่วนใหญ่ เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายนเป็นต้นไปท้องฟ้าจึงจะเริ่มโปร่ง มีแดดออก และอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นตามลำดับ เพื่อการชมดอกไม้อย่างเพลิดเพลินและปกป้องร่างกายจากความหนาวเย็น ควรเตรียมเสื้อโค้ท หรือเสื้อแจ็คเก็ตที่มีความหนาพอสมควร รวมไปถึงเสื้อตัวนอกที่ใส่ง่าย อย่างเสื้อคาร์ดิแกนใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย

ดอกซากุระในบริเวณญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก (Japan west Area) ที่ประกอบไปด้วยภูมิภาคคันไซ (Kansai) ภูมิภาคชูโงะคุ (Chugoku) ภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) และภูมิภาคคิวชู (Kyushu) เริ่มบานในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงเดือนเมษายน

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ได้แก่

  • ปิคนิค ทานข้าวกล่องใต้ต้นซากุระ
  • ชมงานเทศกาลประดับไฟไลท์อัพในยามค่ำคืน และมีกิจกรรมมากมายในฤดูใบไม้ผลิ
  • แช่อนเซ็นชมความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
  • ล่องเรือ หรือพายเรือแคนนูพร้อมชมดอกซากุระแบบใกล้ชิด
ล่องเรือชมซากุระรอบปราสาทฮิเมจิ  (Himeji Castle)

ล่องเรือชมซากุระรอบปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

Kyoto, Japan / April 1, 2018 : The Keifuku Randen Tram Line with Cherry blossom

ทางรถไฟเคฟุคุ กับอุโมงค์ดอกซากุระ
(Keifuku Randen in Sakura Blossom)

แนะนำสถานที่สำหรับการชมดอกไม้ พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจแถบฝั่งญี่ปุ่นตะวันตก

  • สัมผัสการย้อมธงลายปลาคาร์ฟแบบโบราณ ชมพาเหรดของรถขบวนแห่ในงานเทศกาล พร้อมชมซากุระริมแม่น้ำโกโจ (Gojo River), ไอจิ (Aichi)
  • เพลินเพลิดไปกับรถไฟเคฟุคุที่แสนจะธรรมดาที่แล่นผ่านอุโมงค์สีชมพูอ่อนของดอกซากุระ (Keifuku Randen in Sakura Blossom), เกียวโต (Kyoto)
  • ปล่อยใจไปกับกลางคูน้ำรอบปราสาท พลางชมดอกซากุระบานที่ร่วงโรย ที่ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle), เฮียวโงะ (Hyogo)
  • ดื่มด่ำดอกซากุระยามค่ำคืนที่จะสะท้อนแสงกับโคมไฟประดับ ณ สวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Utsubuki Park), ทตโตริ (Tottori)
  • นั่งเก้าอี้ลิฟต์ขึ้นไปชมปราสาท และล้อมวงปิคนิคทานข้าวกล่องใต้ต้นซากุระ ที่สวนสาธารณะมัตสึยะมะ ชิโระยะมะ (Matsuyama Shiroyama Park), เอะฮิเมะ (Ehime)
  • เดินเล่นกลางหุบเขาที่เร้นลับ ท่ามกลางทะเลหมอกของดอกซากุระที่วัดอิชชินจิ (Isshin-ji Temple), โออิตะ (Oita)

ซากุระริมแม่น้ำโกโจ (Cherry Blossoms of the Gojo River), ไอจิ (Aichi)

Cherry Blossom (Sakura) along Gojo river, Iwakura City, Aichi Prefecture, Japan

ดอกซากุระ และดอกนาโนะฮานะริมแม่น้ำโกโจ
(Cherry Blossoms of the Gojo River)

ซากุระริมแม่น้ำโกโจ  (Cherry Blossoms of the Gojo River), ไอจิ (Aichi)

ดอกซากุระร่วงโรยบนแม่น้ำโกโจ (Gojo River)

แม่น้ำโกโจ (Gojo River) เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางเมืองอิวาคุระ (Iwakura) ที่จังหวัดไอจิ (Aichi) โดยมีต้นทางมาจากเมืองทะจิมะ (Tajima) ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) มีความยาวลำน้ำประมาณ 28.2 กิโลเมตร

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ราวปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน สองฝั่งของแม่น้ำจะเต็มไปด้วยต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) กว่า 1,400 ต้น ออกดอกเบ่งบานสวยงามทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำ บนระยะทางกว่า 7.6 กิโลเมตร ทิวทัศน์ของซากุระที่แผ่กิ่งก้านมาชนกันจนดูเหมือนอุโมงค์ ทำให้ที่แห่งนี้ติด 1 ใน 100 อับดับจุดชมซากุระที่สวยงามของประเทศญี่ปุ่น และอีกไฮไลท์ของซากุระริมแม่น้ำโกโจ (Gojo River) แห่งนี้ก็คือทุ่งนาโนฮานะสีเหลืองที่บานตัดกับแนวซากุระสีชมพู เมื่อถึงช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ เวลาประมาณ 6 โมง – 3 ทุ่ม บริเวณโดยรอบจะถูกประดับประดาด้วยแสงไฟ ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศชวนฝันของภาพซากุระบานสะพรั่งที่ถูกแสงอัพสาดส่อง สะท้อนผิวน้ำของแม่น้ำโกโจ (Gojo River)

นอกจากนี้ ยังมีงานเทศกาลอิวาคุระ ซากุระ มัตสึริ (Iwakura Sakura Festival) ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่ผู้คนต่างเดินทางมาชมพาเหรดของรถขบวนแห่ และการแสดงนมโบริ อะราอิ (Nombori Arai) ที่เป็นหนึ่งในขั้นตอนในการย้อมธงโนโบริ (Nobori) หรือธงลายปลาคาร์ฟแบบโบราณ ซึ่งประเพณีนี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของเมืองอิวาคุระ (Iwakura) และเมื่อจัดตรงกับช่วงฤดูดอกซากุระ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะมารวมตัวกันเพื่อเพลิดเพลินกับภาพที่งดงามของช่างฝีมือที่ทำงานในแม่น้ำโกโจ (Gojo River)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Gojo River
2-1, Shimoichiba, Shimohommachi, Iwakura-City, Aichi
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Meitetsunagoya โดยสารรถไฟสาย Meitetsu Inuyama Line ลงสถานี Iwakura(Aichi) ใช้เวลา 14 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
เวลาทำการ เปิด 24 ชั่วโมง
การประดับไฟตอนกลางคืน 18:00 – 21:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน
*อาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพการบานของซากุระ*
การประดับไฟตอนกลางคืน 18:00 – 21:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.aichi-now.jp/spots/detail/207/
https://www.nippon.com/ja/guide-to-japan/sakura00123053/
https://www.aichi-now.jp/spots/detail/71/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.aichi-now.jp/en/spots/detail/207/
https://www.aichi-now.jp/en/spots/detail/71/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.aichi-now.jp/th/spots/detail/207/
https://www.aichi-now.jp/th/spots/detail/71/

ทางรถไฟเคฟุคุ กับอุโมงค์ดอกซากุระ (Keifuku Randen in Sakura Blossom), เกียวโต (Kyoto)

Kyoto, Japan / April 1, 2018 : The Keifuku Randen Tram Line with Cherry blossom

ทางรถไฟเคฟุคุ กับอุโมงค์ดอกซากุระ
(Keifuku Randen in Sakura Blossom)

Kyoto, Japan / April 1, 2018 : The Keifuku Randen Tram Line with Cherry blossom

ดอกซากุระกว่า 70 ต้น

ทางรถไฟเคฟุคุ (Keifuku Randen) เป็นทางไฟรถไฟระหว่างสถานีนารุทะคิ (Narutaki) และสถานีอุทะโนะ (Utano) ในจังหวัดเกียวโต (Kyoto) นับเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ ในเกียวโต (Kyoto) เลยก็ว่าได้ โดยสามารถมองเห็นรถไฟที่วิ่งมาจอดที่สถานีพร้อมกับวิวอุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทาง การไปถ่ายรูปให้ลงที่สถานีนารุทะคิ (Narutaki) แล้วเดินขึ้นไปยังสถานีอุทะโนะ (Utano) ไม่ไกลนักก็จะเจอจุดที่มีไม้กั้นเพื่อกันคนที่เดินผ่านไปมาให้สามารถยืนดักรอถ่ายรูปรถไฟพร้อมกับอุโมงค์ซากุระ

ในช่วงต้นเดือนเมษายนนั้น ดอกซากุระกว่า 70 ต้น ที่ขึ้นอยู่สองข้างริมทางรถไฟซึ่งมีความยาวประมาณ 200 เมตรก็จะบานพร้อม ๆ กัน จึงทำให้ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวถ่ายภาพขณะที่รถไฟกำลังวิ่งผ่าน และอีกไฮไลท์หนึ่งคือ หลังพระอาทิตย์ตกดินแล้ว อุโมงค์ซากุระจะสว่างไสวด้วยแสงไฟที่ประดับดา ส่องประกายงดงามอย่างน่าทึ่ง

beautiful sakura blossom at Ninna-ji temple, Kyoto, Japan

เจดีย์ 5 ชั้นในวัดนินนาจิ (Ninna-ji)

Cherry blossoms in Hirano-jinja shrine, Kyoto Japan

ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano-jinja)

นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถไฟเคฟุคุ (Keifuku Randen) ไปเที่ยวยังสถานที่ชมซากุระได้ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่

・วัดนินนาจิ (Ninna-ji)
เป็นหนึ่งในวัดที่ยิ่งใหญ่ในเกียวโต (Kyoto) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 888 เพื่อเป็นวัดหลักของโรงเรียนพุทธศาสนานิกายชินงอน (Shingon) ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของต้นซากุระที่บานช้าในช่วงกลางเดือนเมษายน เรียกว่าโอมุโระซากุระ (Omuro Sakura) ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์เตี้ย โดยจะออกดอกบานอยู่บริเวณรอบเจดีย์ 5 ชั้นภายในวัด ที่เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพ
วิธีการเดินทาง : ลงสถานี Omuro-Ninnaji เดินเท้า 3 นาที

・ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano-jinja)
มีชื่อเสียงเรื่องของการชมสวนซากุระที่มีหลากหลายสายพันธุ์ โดยต้นซากุระกว่า 400 ต้น กว่า 60 สายพันธุ์ที่ถูกปลูกขึ้นในสมัยเฮอัน (Heian) จะออกดอกบานสะพรั่ง เกิดสีชมพูอ่อน-เข้ม ไล่สีสันกันอย่างสวยงามในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลซากุระคอนเสิร์ต และเทศกาลชมซากุระโออุคะไซ (Ouka-sai) อีกด้วย
วิธีการเดินทาง : ลงสถานี Kitano-Hakubaicho เดินเท้า 7 นาที

・อะระชิยะมะ (Arashiyama)
จุดชมซากุระที่อะระชิยะมะ (Arashiyama) อยู่ที่สะพานไม้โทะเก็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge) โดยช่วงประมาณเดือนเมษายน สะพานแห่งนี้จะถูกล้อมรอบไปด้วยซากุระที่แย่งกันผลิบานทั่วเนินเขา และในช่วงพระอาทิตย์ตกดินจะมีการเปิดไฟไลท์อัพ สร้างบรรยากาศที่ดูสวยงามแปลกตา
วิธีการเดินทาง : ลงสถานี Arashiyama เดินเท้า 2 นาที

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Narutaki Station
Narutaki sagasonocho, Ukyo Ward, Kyoto
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟ JR Sagano Line ลงสถานี Uzumasa ใช้เวลา 14 นาที จากนั้นเดินไปสถานี Satsueisho-mae โดยสารรถไฟ Randen Kitano Line ลงสถานี Narutaki ใช้เวลา 3 นาที
เวลาทำการ ตามตารางการเดินรถไฟ
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน
*อาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพการบานของซากุระ*
การประดับไฟตอนกลางคืน 18:30 – 20:20 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://randen.keifuku.co.jp/saista/series.html
https://www.okeihan.net/recommend/sakura/detail/29_randen.php
https://sp.jorudan.co.jp/hanami/spot_663.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://randen.keifuku.co.jp/en/
https://www.keihan.co.jp/travel/en/sightseeing/seasonal-events/cherry-blossoms
https://www.kyotostation.com/the-keifuku-randen-tram-line/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle), เฮียวโงะ (Hyogo)

ล่องเรือชมซากุระรอบปราสาทฮิเมจิ  (Himeji Castle)

ล่องเรือชมซากุระรอบปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

Japan Himeji castle , White Heron Castle in beautiful sakura cherry blossom season

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ (Himeji) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก และ เป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ตัวปราสาทมีสีขาวโดดเด่นจึงถูกขนานนามว่าเป็น ปราสาทนกกระยางขาว และเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวดอกซากุระที่ได้รับความนิยมมาก
ในพื้นที่รอบปราสาทมีต้นซากุระหลากสายพันธุ์ เช่น โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) และ และชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) รวมกว่า 1,000 ต้นออกดอกสีชมพูช่วยประดับประดาปราสาทฮิเมจิให้สวยงาม และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “สถานที่ชมซากุระชื่อดัง 100 แห่งในญี่ปุ่น”

ช่วงเวลาบานเต็มที่ของดอกซากุระคือ ต้นเดือนเมษายน ในช่วงนี้จะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระ (Sakura Festival) พร้อมกับการบรรเลงเครื่องดนตรีโกโตะ (Koto) ที่บริเวณสวนรอบปราสาท และในส่วนตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟไลท์อัพอย่างสวยงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถหาซื้อของอร่อยแนวสตรีทฟู๊ดตามร้านแผงลอยขายอาหาร มานั่งปูเสื่อ ทานใต้ต้นซากุระได้อีกด้วย

หรือหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศการชมซากุระแบบเดิม ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการล่องเรือช้า ๆ บนคูเมืองรอบ ๆ ปราสาท ชมซากุระโดยไม่ต้องวุ่นวายกับฝูงชน เรียกได้ว่าโอบล้อมไปด้วยความงามของซากุระเสียจริง ๆ ซึ่งการล่องเรือชมซากุระนี้ จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Himeji Castle
68, Honmachi, Himeji City, Hyogo
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ LTD. EXP ลงสถานี Himeji ใช้เวลา 56 นาที แล้วเดินต่ออีก 20 นาที หรือนั่งรถบัส loop bus ใช้เวลา 4 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 16:00 น.)
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน
*อาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพการบานของซากุระ*
วันหยุด 29 – 30 ธันวาคม
ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าปราสาท
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน / เด็ก 300 เยน

นั่งเรือชมซากุระ
ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 600 เยน

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.himejicastle.jp/
https://www.himeji-kanko.jp/
https://www.city.himeji.lg.jp/castle/index.html
https://www.himeji-kanko.jp/tour/47
https://wasenkenzou-iinkai.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.himejicastle.jp/en/
https://whc.unesco.org/en/list/661/
https://www.okayama-japan.jp/en/spot/1159
https://www.travelhyogo.org.e.aas.hp.transer.com/things/events/e-014.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/himeji-400-years/

สวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Utsubuki Park), ทตโตริ (Tottori)

สวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Utsubuki Park)

สวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Utsubuki Park)

งานประดับไฟให้ดอกซากุระที่สะพานแดง สวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Light up at Utsubuki Park)

งานประดับไฟให้ดอกซากุระที่สะพานแดง
สวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Light up at Utsubuki Park)

© Kurayoshi Tourism Mice Association

สวนสาธารณะสวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Utsubuki Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาอุทสึบุกิ (Mt. Utsubuki) ซึ่งเป็นเขาที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองคุระโยะชิ (Kurayoshi) ในจังหวัดทตโทริ (Tottori) เปิดให้บริการเมื่อสมัยเมจิ ในปีค.ศ. 1905 เพื่อเป็นที่ระลึกในการมาเยือนของมงกุฎราชกุมาร และจักรพรรดิไทโชในอดีต

ภายในสวนมีทั้งทางเดินเล่น และเส้นทางเดินเทรคกิ้ง เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาอุทสึบุกิ (Mt. Utsubuki) ที่ระดับความสูง 204 เมตร บนระยะทาง 1.7 กิโลเมตร และยังมีบ่อน้ำฮะโกะโรโมะ (Hagoromo Pond) ที่รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวชอุ่ม ตัดกับสะพานสีแดงที่ดูโดดเด่น ทำให้บริเวณนี้ เป็นจุดยอดนิยมที่คนมักจะมาถ่ายภาพแต่งงาน

เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ทั่วบริเวณสวนจะถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพูสดใสของต้นซากุระร่วม 4,000 ต้น และกุหลาบพันปีอีกกว่า 40,000 ต้น สร้างสีสันสวยงามจนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ชมซากุระที่ดีที่สุด สามารถมาชมได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน หรือเดินทางมาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติทั้ง 4 ฤดูได้ตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ ที่สวนสาธารณะสวนสาธารณะอุทสึบุกิ (Utsubuki Park) จะมีการจัดงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิคุระโยชิ (Kurayoshi Spring Festival) เป็นประจำทุกปีในช่วงซากุระบาน ภายในงานจะมีการประดับโคมไฟกระดาษน้อยใหญ่กว่า 400 โคมทั่วทั่งบริเวณ และไฮไลท์พิเศษอยู่ที่บริเวณ บ่อน้ำฮะโกะโรโมะ (Hagoromo Pond) โดยดอกซากุระยามค่ำคืนจะสะท้อนแสงกับโคมไฟประดับ กระทบลงบนผิวน้ำ เกิดเป็นภาพที่สามารถหาชมได้แค่ที่นี่เท่านั้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Utsubuki Park
Nakanocho, Kurayoshi, Tottori
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tottori โดยสารรถไฟสาย JR LTD. EXP ลงสถานี Kurayoshi ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นโดยสารรถบัสต่อ 20 นาที
เวลาทำการ 24 ชั่วโมง
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน
การประดับไฟตอนกลางคืน 18:00 – 22:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.tottori-guide.jp/tourism/tour/view/163
https://hanami.walkerplus.com/detail/ar0831e26189/
https://www.kurayoshi-kankou.jp/utsubuki-kouen
https://www.kurayoshi-kankou.jp/faq/#k03
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.tottori-tour.jp/en/sightseeing/799/
https://www.japan.travel/en/spot/944/
https://www.into-you.jp/en/places/1121/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.tottori-tour.jp/th/sightseeing/197/

สวนสาธารณะมัตสึยะมะ ชิโระยะมะ (Matsuyama Shiroyama Park), เอะฮิเมะ (Ehime)

Cherry Tree And The Castle Tower

สวนสาธารณะมัตสึยะมะ ชิโระยะมะ
(Matsuyama Shiroyama Park)

The young woman sat in the ropeway of single person to the Matsuyama Castle. Sakura cherry blossoms full blooming. Shot in Matsuyama City, Ehime Prefecture, Japan.

นั่งเก้าอี้ลิฟต์พลางชมซากุระ
ที่ปราสาทมัตสึยะมะ (Matsuyama Castle)

ปราสาทมัตสึยะมะ (Matsuyama Castle) ตั้งอยู่บนเนินสูง 132 เมตรในใจกลางเมืองมัตสึยะมะ (Matsuyama) จังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime) เป็นหนึ่งในปราสาท 12 แห่งที่ยังหลงเหลือโครงสร้างดั้งเดิมเอาไว้ได้จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าสถาปัตยกรรมบางส่วนอย่าง อาคารหลัก (Donjon) เคยถูกเพลิงไหม้ ทำให้ต้องมีการบูรณะใหม่ จาก 5 ชั้นเหลือเพียง 3 ชั้นในปีค.ศ. 1854 แต่ปราสาทแห่งนี้ยังคงความสวยงามจนติดอันดับ 1 ใน 100 ปราสาทที่สวยงามที่สุด พร้อมกับได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สภาพภูมิประเทศทางประวัติศาสตร์อันงดงามในญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

จากด้านบนปราสาท สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลของเมืองมัตสึยะมะ (Matsuyama) คู่กับทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) ได้อย่างสวยงาม โดยการขึ้นไปยังปราสาทนั้น สามารถเดินขึ้นไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว หรือจะนั่งกระเช้าและเก้าอี้ลิฟต์ไปก็ได้เช่นกัน

บริเวณโดยรอบปราสาทมีพื้นที่กว้างขวาง ห้อมล้อมไปด้วยสวนขนาดใหญ่ที่เรียกว่า สวนสาธารณะมัตสึยะมะ ชิโระยะมะ (Matsuyama Shiroyama Park) ดอกซากุระที่จะบานช่วงต้นเดือนเมษายน โดยมีต้นซากุระกว่า 200 ต้น ทั้งสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino), สึบากิคันซากุระ (Tsubakikanzakura) ที่บานเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ, โอชิมะ ซากุระ (Oshimazakura) และชิโอกะมะซากุระ (Shiogamazakura) เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะออกดอกสีชมพูสะพรั่งตัดกับผืนปราสาทสีขาวจนเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยงามของจังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime) ด้วย

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ นั่งกระเช้า และเก้าอี้ลิฟต์ขึ้นไปชมปราสาทที่เนินเขาด้านบน ระหว่างทางขณะนั่งอยู่ในกระเช้าจะได้เห็นทัศนียภาพของดอกซากุระอันสดใสสวยงามมุมสูง แบบ 360 องศา และแนะนำก่อนขึ้นไปให้แวะซื้อข้าวกล่องมื้อกลางวันจากชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า Takashimaya แล้วไปดื่มด่ำวิวทิวทัศน์สีชมพูหลากหลายเฉดไปพรางกินอาหารแสนอร่อยในวันสบาย ๆ ที่ด้านบน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Matsuyama Shiroyama Park
3-2-46 Okaido, Matsuyama, Ehime
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Matsuyama โดยสารรถราง Iyotetsu ลงสถานี Okaido ใช้เวลา 10 นาที จากนั้นเดินต่อ 5 นาทีไปยังสถานีกระเช้า หรือเก้าอี้ลิฟต์
เวลาทำการ เข้าชมปราสาท 9:30 – 16:30 น.
บริการกระเช้า และเก้าอี้ลิฟท์ 8:30 – 17:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ต้นเดือนเมษายน
วันหยุด ทุกวันพุธที่ 3 ธันวาคมของทุกปี
ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าปราสาท
ผู้ใหญ่ 520 เยน / เด็ก 160 เยน

ค่าขึ้นกระเช้า หรือเก้าอี้ลิฟท์ (ไป-กลับ)
ผู้ใหญ่ 520 เยน / เด็ก 260 เยน

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.matsuyamajo.jp/matsuyamajo/season.html
https://hanami.walkerplus.com/detail/ar0938e26307/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/sakura00138013/japan%E2%80%99s-top-100-blossoms-matsuyama-shiroyama-park-ehime.html
https://www.japan.travel/en/spot/818/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

วัดอิชชินจิ (Isshin-ji Temple), โออิตะ (Oita)

วัดอิชชินจิ  (Isshin-ji Temple), โออิตะ (Oita)

วัดอิชชินจิ (Isshin-ji Temple)

วัดอิชชินจิ  (Isshin-ji Temple)

วัดอิชชินจิ (Isshin-ji Temple)

วัดอิชชินจิ (Isshin-ji Temple) ตั้งอยู่ในหุบเขาแห่งเมืองโออิตะ (Oita) ถูกสร้างขึ้นเมื่อสมัยโชวะ ปีค.ศ. 1963 โดยนักบวชนามอาเบะ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความสำนึกในความเมตตาที่ตนได้รับ ภายในวัดประดิษฐานรูปปั้นองค์ฟุโดเมียวโอะ (Fudo-Myo-O) ผู้มีใบหน้าดุดันเพื่อปกป้องพุทธศาสนา สูง 20 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว รวมถึงยังมีรูปปั้นพระไภษัชยคุรุ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ยะคุชิเนียวไร (Yakushi-Nyorai) ผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค และรูปปั้นเทพองค์อื่น ๆ ให้สักการะ

นักบวชอาเบะ ได้ปลูกต้นซากุระกว่า 8,000 ต้น 15 สายพันธุ์ เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะออกดอกบานสะพรั่งอยู่ในพื้นที่กว่า 20,000 ตรม. ท่ามกลางภูเขาที่รายล้อม เสมือนหุบเขาที่เร้นลับ หากมองลงมาจากด้านบนแล้ว ทั่วทั้งบริเวณวัดจะถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพูสดใส ราวกับทะเลหมอกซากุระเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์ยาเอะซากุระ (Yaezakura) ที่หาชมได้ยาก ออกดอกหลากสีสันทั้งสีเขียว สีเหลือง สีม่วงให้ได้ชม อีกไฮไลท์ที่คนนิยมมาถ่ายภาพก็คือ ภาพของพื้นดินซึ่งเต็มไปด้วยกลีบของดอกซากุระที่ปลิวไสวร่วงหล่นกลายเป็นผืนพรมสีชมพูอ่อน

ในช่วงต้นเดือน ถึงกลางเดือนเมษายน จะมีการจัดเทศกาลโบตันซากุระ มัตสึริ (Botan Sakura Matsuri) กลางคืนจะมีการเปิดไฟส่องต้นซากุระ ทำให้บรรยากาศชวนโรแมนติกกว่าที่เคย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Isshin-ji Temple
1305 Megusuno, Oita
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Oita โดยสารรถบัส (ที่เขียนว่าไป Notsuharu) ลงป้าย Tsukano Onsen Iriguchi ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นเดินต่อ 15 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
ช่วงเวลาชมดอกซากุระ ต้นเดือน – ปลายเดือนเมษายน
*อาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพการบานของซากุระ*
การประดับไฟตอนกลางคืน 18:30 – 21:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็ก 200 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://issinnji.jp/
http://issinnji.jp/2013sakuramaturitoppage.html
https://www.visit-oita.jp/spots/detail/4618
https://restaurant.ikyu.com/hanami/spot9690/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://en.seeing-japan.com/3689
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://th.visit-oita.jp/spots/detail/4618
จดหมายข่าวอื่นๆ