5 เส้นทางรถไฟสายสีขาว ชมวิวฤดูหนาวสุดโรแมนติกที่ญี่ปุ่น

NOV20_wintertrains_04
รถไฟสายอะคิตะไนริคุ (Akita Nairiku Line)

© Akita Nairiku Jukan Tetsudo

NOV20_wintertrains_10
รถไฟ JR สายทะดะมิ (JR Tadami Line)

ฤดูหนาวของญี่ปุ่นเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณเดือนธันวาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ไม่ควรพลาดประสบการณ์การชมวิวทิวทัศน์ในฤดูหนาวสุดอลังการด้วยรถไฟท่องเที่ยว ในบทความนี้ได้รวบรวม 5 เส้นทางรถไฟสายสีขาว ชมวิวสุดอลังการและแสนโรแมนติก ที่คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของธรรมชาติในฤดูหนาวของญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง

1. รถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train), ฮอกไกโด (Hokkaido)

NOV20_wintertrains_01

© Photo ac

NOV20_wintertrains_02

© Photo ac

รถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train) เป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำรุ่นปี ค.ศ.1940 ที่เปิดให้บริการเดินรถเป็นพิเศษเฉพาะช่วงฤดูหนาวของทุกปี โดยเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ในทุกปีรถไฟจะวิ่งให้บริการในช่วงเดือนปลายเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ รถไฟท่องเที่ยวขบวนนี้วิ่งระหว่างสถานีคุชิโระ (Kushiro) ไปจนถึงสถานีชิเบชะ (Shibecha) ของฮอกไกโด (Hokkaido)

รถไฟหัวจักรไอน้ำขบวนนี้จะวิ่งเต็มกำลังพร้อมเสียงหวูดและพ่นควันสีขาวพวยพุ่งไปตลอดทาง รถไฟขบวนนี้จะวิ่งผ่านไปตามพื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระ (Kushiro Marsh) ท่ามกลางหิมะขาวโพลน จากหน้าต่างรถไฟสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของดินแดนสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาในช่วงฤดูหนาวได้อย่างเต็มอิ่ม ถ้าโชคดีอาจจะมีโอกาสได้พบสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ อาทิ นกกระเรียน กวางเอโซะฮอกไกโดได้อีกด้วย

นอกจากนี้ภายในขบวนรถไฟก็ยังมีคาเฟ่ที่จำหน่ายขนม ข้าวกล่องรถไฟหรือเอะคิเบ็น (Ekiben) รวมถึงของที่ระลึกต่างๆ และบนรถไฟยังมีเตาโบราณลักษณะคล้ายตุ๊กตาดารุมะ (Daruma) ซึ่งเป็นตุ๊กตานำโชคของญี่ปุ่น ผู้โดยสารสามารถซื้อปลาหมึกแห้งที่มีจำหน่ายบนรถไฟมาปิ้งบนเตาทานได้ระหว่างโดยสารรถไฟ กลิ่นหอมของปลาหมึกย่างหอมตลบอวบอวลจนเกินห้ามใจ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง

  1. ตลาดคุชิโระวะโช (Kushiro Washo Market), ฮอกไกโด (Hokkaido)
    ตลาดคุชิโระวะโชตั้งอยู่ใกล้กับสถานีคุชิโระ (Kushiro) สามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสด ๆ ได้ที่ตลาดแห่งนี้ และไม่ควรพลาดเมนูคัตเตะด้ง (Katte Don) หรือข้าวหน้าปลาดิบที่เราเลือกปลาหรือวัตถุดิบที่อยากทานได้ตามใจชอบ
  2. สะพานนุซะไม (Nusamai Bridge), ฮอกไกโด (Hokkaido)
    สะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญเมื่อมาเยือนเมืองคุชิโระ (Kushiro) มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่โรแมนติกและสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด
  3. แม่น้ำคุชิโระ (Kushiro River), ฮอกไกโด (Hokkaido)
    นอกจากจะสามารถชมวิวแม่น้ำคุชิโระที่กลายเป็นน้ำแข็งจากหน้าต่างรถไฟแล้ว ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การพายเรือแคนูในแม่น้ำคุชิโระ (Kushiro River) ในช่วงฤดูหนาวได้ที่บริเวณใกล้เคียงของสถานีคุชิโระ (Kushiro) หรือ สถานีโทโระ (Toro)
  4. พื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระ (Kushiro Marsh), ฮอกไกโด (Hokkaido)
    พื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าและพืชพรรณธรรมชาติต่างๆ จนมีชื่อเสียงโดดเด่นในฐานะขุมทรัพย์แห่งสัตว์ป่าและพืชพรรณธรรมชาติ และยังขึ้นชื่อเรื่องของทิวทัศน์ในฤดูหนาวที่งดงาม
  5. จุดชมวิวพื้นที่ชุ่มน้ำคตตะโระ (Kottaro Wetlands Observatory), ฮอกไกโด (Hokkaido)
    จุดชมวิวนี้เราสามารถชมวิวพื้นที่ชุ่มน้ำคตตะโระ (Kottaro Wetlands) และถ้าโชคดีอาจจะมีโอกาสได้เห็นนกกระเรียนและนกกระสามากินน้ำในบริเวณนี้ได้ด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าโดยสาร
ผู้ใหญ่ ค่าโดยสาร 1,290 เยน + ค่าธรรมเนียมระบุที่นั่ง 840 เยน = 2,130 เยน (เด็กลด 50%)
(จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า)
ระยะเวลาให้บริการ
23, 24, 30, 31 มกราคม 2021
5-14, 19-23, 27, 28 กุมภาพันธ์ 2021
จำนวนเที่ยวรถ
วันละ 2 เที่ยว (ไป – กลับ)
เวลาที่ใช้ในการเดินรถ
ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาเดินรถ
ขาไป: ออกจากสถานี Kushiro 11.05 น. ถึงสถานี Shibecha 12.35 น.
ขากลับ: ออกจากสถานี Shibecha 14.00 น. ถึงสถานี Kushiro 15.42 น.
สถานีที่จอด
สถานี Kushiro → สถานี Higashi Kushiro → สถานี Kushiro Shitsugen → สถานี Toro → สถานี Kayanuma → สถานี Shibecha
การจองรถไฟ

สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 เดือนได้ที่

  • สถานีรถไฟ JR สาขาหลักทั่วประเทศ (Midori-no-Madoguchi)
  • Twinkle Plaza (Travel Service Center)
  • เว็บไซต์ https://www.jrhokkaido.co.jp/network/ekinet/
  • บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวชั้นนำในประเทศไทย
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.jrhokkaido.co.jp/travel/sl/index.html
https://www.jrhokkaido.co.jp/train/tr022_01.html
https://www.tetsudo.com/event/30740/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.jrhokkaido.co.jp/global/english/travel/tour-train/tour-train01.html
https://www.jnto.go.jp/scenic-railways/list/sl-fuyu-no-shitsugen-train/
https://en.visit-hokkaido2.jp/travelPlanner/details.php?code=6203014000136
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/newsletter/sl-fuyu-no-shitsugen-train/

2. รถไฟสายอะคิตะไนริคุ (Akita Nairiku Line), อะคิตะ (Akita)

NOV20_wintertrains_03
NOV20_wintertrains_04

รถไฟสายอะคิตะไนริคุ (Akita Nairiku Line) เป็นรถไฟท้องถิ่นขบวนสั้นๆ 1 ตู้โดยสาร ที่วิ่งให้บริการตลอดทั้งปี ระหว่างสถานีทาคาโนะสุ (Takanosu) ในเมืองคิตะอะคิตะ (Kita Akita) ทางตอนเหนือของจังหวัดอะคิตะ (Akita) และสถานีคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate) เมืองเซ็มโบะคุ (Semboku) เป็นระยะทาง 94.2 กิโลเมตร รวมทั้งหมดจำนวน 29 สถานี

พิเศษในช่วงฤดูหนาวผู้โดยสารรถไฟสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์สุดอลังการจากหน้าต่างรถไฟได้อย่างใกล้ชิด สถานที่ต่าง ๆ สองข้างทางที่รถไฟแล่นผ่านจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ทั้งเทือกเขา สะพานข้ามแม่น้ำ และแม่น้ำที่แข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็งสวยงามราวกับภาพวาด

นอกจากนี้รถไฟสายนี้ยังมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “สไมล์เรล (Smile Rail)” หรือรถไฟแห่งรอยยิ้ม เพราะนอกเหนือจากทัศนียภาพอันงดงามแล้ว ยังมีรอยยิ้มของผู้คนในท้องถิ่นที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของอะคิตะและมีรอยยิ้มกลับไปด้วยเช่นกัน

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง

  1. พิพิธภัณฑ์นามาฮาเงะ (Namahage Museum), อะคิตะ (Akita)
    พิพิธภัณฑ์ที่มีการเผยแผ่ศิลปวัฒนธรรมและจัดแสดงเสื้อผ้าชุดฟาง หน้ากากปีศาจยักษ์ หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนามาฮาเงะ (Namahage) หรือตัวแทนแห่งเทพเจ้าภูเขาตามความเชื่อพื้นเมืองของจังหวัดอะคิตะ (Akita)
  2. ภูเขาโมริโยชิ (Mt. Moriyoshi), อะคิตะ (Akita)
    ภูเขาแห่งนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,454 เมตร ในช่วงฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาชมน้ำค้างแข็งหรือปีศาจหิมะ (Snow Monsters) ที่นี่เนื่องจากเป็นหนึ่งใน 3 จุดชมน้ำค้างแข็งที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น
  3. หมู่บ้านน้ำพุร้อนนิวโตอนเซ็นเคียว (Nyuto Onsen-kyo Hot Springs Village), อะคิตะ (Akita)
    หมู่บ้านอนเซ็นที่มีประวัติเก่าแก่กว่าหลายร้อยปี เป็นแหล่งอนเซ็นที่ประกอบด้วยอนเซ็นทั้งหมด 7 แห่ง มีน้ำแร่ที่เป็นสีน้ำนมเป็นเอกลักษณ์ ในช่วงฤดูหนาวสามารถแช่อนเซ็นพร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของหิมะที่รายล้อมอยู่รอบตัวได้อย่างผ่อนคลาย
  4. ทะเลสาบทะซะวะ (Lake Tazawa), อะคิตะ (Akita)
    ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีความลึกถึง 423 เมตร นอกจากนี้น้ำในทะเลสาบยังมีความใสราวกับกระจกสะท้อนเงาของภูเขากลายเป็นภาพที่งดงาม
  5. หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate Bukeyashiki), อะคิตะ (Akita)
    หมู่บ้านซามูไรดั้งเดิมที่มีเสน่ห์และกลื่นอายของอดีตหลงเหลืออยู่เพราะได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี ได้รับการยกย่องว่าเป็น “The Little Kyoto” นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งรถลากเพื่อชมบรรยากาศย้อนยุค ในช่วงฤดูหนาวจะได้พบกับภาพของหิมะสีขาวที่ตัดกับกำแพงสีดำดูสงบและแปลกตาไปอีกรูปแบบ

รายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าโดยสาร
รถไฟธรรมดา (Normal)
170 – 1,700 เยน
Weekday Open Pass (นั่งได้ทุกสถานี)
ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,250 เยน
Holiday Open Pass All Lines Type (นั่งได้ทุกสถานี)
ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน
Holiday Open Pass Type A (ระหว่างสถานี Takanosu ถึงสถานี Matsuba)
ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน
Holiday Open Pass Type B (ระหว่างสถานี Aniai ถึงสถานี Kakunodate)
ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 500 เยน
ระยะเวลาให้บริการ
ตลอดทั้งปี
จำนวนเที่ยวรถ
ขาไป: จากสถานี Kakunodate วันละ 10 เที่ยว
ขากลับ: จากสถานี Takanosu วันละ 10 เที่ยว
เวลาที่ใช้ในการเดินรถ
รถไฟธรรมดา (Normal) ประมาณ 2 ชั่วโมง 34 นาที
เวลาเดินรถ
ขาไป: ขบวนแรก ออกจากสถานี Kakunodate 6:30 น. ถึงสถานี Takanosu 8:48 น.
ขากลับ: ออกจากสถานี Takanosu 18:58 น. ถึงสถานี Kakunodat) 21:09 น.
สถานีที่จอด
กรุณาตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ https://www.akita-nairiku.com/en/routemap/
การจองรถไฟ
สถานีรถไฟหลัก เช่น สถานี Kakunodate, Aniai, Takanosu
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.akita-nairiku.com/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.akita-nairiku.com/en/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.akita-nairiku.com/thai/

3. รถไฟ JR สายทะดะมิ (JR Tadami Line), ฟุคุชิมะ (Fukushima)

NOV20_wintertrains_09
NOV20_wintertrains_10

รถไฟ JR สายทะดะมิ (JR Tadami Line) คือรถไฟที่วิ่ง เชื่อมการเดินทางระหว่างสถานีไอซุวะคะมัตสุ (Aizu-Wakamatsu) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) กับสถานีโคอิเดะ (Koide) จังหวัดนีงะตะ (Niigata) ด้วยระยะทางกว่า 135 กิโลเมตร พาดผ่านเส้นทางป่าเขา แม่น้ำลำธาร และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ รถไฟ JR สายทะดะมิ (JR Tadami Line) ผ่านทั้งหมด 36 สถานี โดยเส้นทางนี้เปิดบริการตั้งแต่ ค.ศ. 1942 และยังคงกลิ่นอายเก่าแก่ของเส้นทางรถไฟสายนี้ไว้ได้อยู่

นั่งรถไฟพร้อมชมทิวทัศน์ที่งดงาม บรรยากาศโดยรวมของภูมิภาคนี้ค่อนข้างเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงกว่า 1,000 เมตร จุดเด่นของพื้นที่บริเวณนี้คือภูมิประเทศที่มีทะเลสาบซึ่งเกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติโดยรอบและหุบเขาที่สวยงาม และยังมีอนเซ็น รวมถึงอาหารท้องถิ่นรสเลิศที่ใช้ปลาแม่น้ำและพืชพันธุ์จากป่าเป็นส่วนประกอบ

สิ่งที่ทำให้รถไฟสายนี้โดดเด่นและเป็นที่พูดถึงของคนส่วนใหญ่นั่นก็คือจุดถ่ายภาพรถไฟ JR สายทะดะมิ (JR Tadami Line) กับวิวโดยรอบ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากจากช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ตลอดไปจนช่างภาพชาวต่างชาติมากมายที่ต้องการเดินทางมาเก็บภาพสวย ๆ ของรถไฟสายนี้ โดยช่วงเวลาที่นิยมมาเก็บภาพมากที่สุดนั้นจะเป็นช่วงฤดู ใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมไปทั่วบริเวณเขา ซึ่งตัดกับรถไฟสีเขียว ทำให้ได้ภาพที่สวยงามเก็บไว้อวดเพื่อนได้อย่างแน่นอน

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง

  1. ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga Castle), ฟุคุชิมะ (Fukushima)
    ปราสาทเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1384 รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าปราสาทนกกระเรียนขาว ความโดดเด่นอยู่ที่การปูหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงทั้งหลัง ด้านบนปราสาทมีจุดชมวิว ปัจจุบันเป็นปราสาทที่เป็นที่ยอดนิยมของการมาชมดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ
  2. จุดชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำทะดะมิ หมายเลข 1 (No. 1 Tadami River Bridge Viewpoint), ฟุคุชิมะ (Fukushima)
    สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพไม่ควรพลาดกับการมาเที่ยวจุดชมวิวแห่งนี้ เพราะเป็นจุดที่สามารถเห็นรถไฟสายทะดะมิวิ่งข้ามสะพานที่ข้ามแม่น้ำทะดะมิ (Tadami River) เป็นที่นิยมอย่างมากของเหล่าช่างภาพในฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาว
  3. วัดเอ็นโซจิ (Enzoji Temple), ฟุคุชิมะ (Fukushima)
    วัดเอ็นโซจิ (Enzoji Temple) อยู่ในเมืองยะไนซุ (Yanaizu) เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) เป็นวัดที่นิยมอย่างมากในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสี วัดตั้งอยู่บนเนินเขาโดยมีแม่น้ำทะดะมิ (Tadami River) อยู่เบื้องล่าง
  4. สวนโอยะคุเอน (Oyakuen Garden), ฟุคุชิมะ (Fukushima)
    สวนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ภายในเมืองไอซุวะคะมัตสุ (Aizu-Wakamatsu) เป็นสวนที่โดดเด่นในด้านของสวนสมุนไพร สวนแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ในสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงามของประเทศ (National Scenic Site) ถูกตั้งขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยขุนนางในยุคนั้นต้องการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรในท้องถิ่น
  5. พิพิธภัณฑ์บ้านซามูไรไอซุ (Aizu Bukeyashiki), ฟุคุชิมะ (Fukushima)
    บ้านของอดีตซามูไร ไซโก ทะโนะโมะ (Saigo Tanomo) เป็นบ้านในยุคสมัยเอโดะ (Edo) ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวต่าง ๆ และวิถีชีวิตของคนในบ้านหลังนี้

รายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าโดยสาร
ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ต้องการเดินทาง
ระยะเวลาให้บริการ
06:03 – 23:31 น.
จำนวนเที่ยวรถ
มีรถไฟให้บริการตลอดทั้งวัน
เวลาที่ใช้ในการเดินรถ
ขึ้นอยู่กับสถานีที่จะเดินทาง
เวลาเดินรถ
ขึ้นอยู่กับสถานีที่จะเดินทาง
สถานีที่จอด
ระหว่างสถานี Aizu-Wakamatsu จนถึง สถานี Koide
การจองรถไฟ
ซื้อผ่านตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติหรือเจ้าหน้าที่ประจำสถานี
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://tadami-line.jp/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://tadami-line.jp/digital_book/pht_tadami-line_guidebook2020-english/HTML5/pc.html#/page/1
http://www.okuaizu.net/en/tadami-line/
https://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1510_okuaizu.html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/newsletter/local-romantic-train-jr-tadami-line/

4. รถไฟเอะจิโกะโทะคิเมะคิ รีสอร์ท เซ็ทสึเง็กกะ (Echigo Tokimeki Resort-SETSUGEKKA), นีงะตะ (Niigata)

NOV20_wintertrains_06
NOV20_wintertrains_05

รถไฟเอะจิโกะโทะคิเมะคิ รีสอร์ท เซ็ทสึเง็กกะ (Echigo Tokimeki Resort-SETSUGEKKA) คือรถไฟห้องอาหารที่จะสร้างประสบการณ์สุดหรูจากการรับประทานอาหารชั้นเลิศกับวิวสุดพิเศษไม่เหมือนใครบนเส้นทางระหว่างไปสถานีอิโตะอิกะวะ (Itoikawa) จนถึงสถานีโจเอะสึเมียวโกะ (Joetsu Myoko)

ขบวนรถไฟนี้ตกแต่งทั้งภายนอกและภายในได้อย่างหรูหรา มีกระจกหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับแสงและเปิดให้เห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกรถไฟได้อย่างเต็มที่ ขบวนรถไฟประกอบไปด้วยรถไฟ 2 ตู้ โดยตู้ที่ 1 จะมีโซนที่นั่งชมวิวและทานอาหาร High Deck ที่เป็นเหมือนจุดชมวิวและถ่ายภาพ และอีกส่วนคือห้องน้ำ ส่วนของตู้ที่ 2 นั้นจะประกอบไปด้วย Sakura Lounge เป็นบาร์เล็ก ๆ ให้ลูกค้าได้ยืนจิบเครื่องดื่มชมวิวสองข้างทางได้อย่างเพลิดเพลิน และโซนห้องรับประทานอาหารที่ตกแต่งได้อย่างหรูหรา เพื่อให้สมกับอาหารชั้นเลิศที่ถูกรังสรรค์มาอย่างดีจากเชฟมากประสบการณ์และวัตถุดิบท้องถิ่นที่หลากหลาย นอกจากจะอิ่มเอมกับอาหารชั้นเลิศแล้ว ยังได้รื่นรมย์ไปกับทิวทัศน์อันงดงามของท้องทะเลและภูเขาอีกด้วย นับเป็นการเดินทางโดยรถไฟที่จะได้เต็มอิ่มกับทัศนียภาพอันเต็มไปด้วยเสน่ห์งดงามของจังหวัดนีงะตะในทุกๆ ฤดูกาล

นอกจากนี้ขบวนรถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารได้แวะเดินเที่ยวสัมผัสกับชาวเมืองในบางสถานีอีกด้วย เรียกได้ว่าทริป 3 ชั่วโมงนี้จะเต็มไปด้วยความสุขและประสบการณ์ล้ำค่าที่ไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง

  1. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโจเอ็ทสึ อุมิงะตะริ (Joetsu Aquarium Umigatari), นีงะตะ (Niigata)
    พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีปลานานาชนิดแหวกว่ายอยู่ในแท็งก์น้ำขนาดยักษ์ และมีโชว์เพนกวินและวาฬเบลูกาที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ในวันที่อากาศสดใสก็อาจจะได้ชื่นชมกับภาพพระอาทิตย์ตกลงในทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) จากบริเวณระเบียงอีกด้วย
  2. ปราสาททะคะดะ (Takada Castle), นีงะตะ (Niigata)
    ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะทะคะดะ (Takada Park) ตั้งอยู่ในเมืองโจเอ็ทสึ (Joetsu City) ปัจจุบันตัวปราสาทหลักได้ถูกทำลายลง เหลือเพียงอาคารที่เก็บรักษาสมบัติ รูปทรง 3 ชั้น ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ มีคูล้อมรอบบริเวณปราสาท ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปีซากุระจำนวนราว 4,000 ต้นที่ปลูกไว้ภายในสวนกว้างใหญ่แห่งนี้จะผลิดอกบานงดงาม
  3. เกาะซาโดะ (Sado Island), นีงะตะ (Niigata)
    ขุมทรัพย์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่น มีซากโบราณสถานซาโดะคินซัน (Historic Site Sado Kinzan) ประวัติศาสตร์ของเหมืองทองคินซัน (Kinzan Gold Mine) และยังสามารถไปขุดผงแร่ทอง ที่โกลเด้นปาร์ค (Golden Park) ไม่ไกลจากคินซันได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย และเพลิดเพลินกับการล่องเรืออ่างทาไรบูเนะ (Taraibune) (อ่างทรงกลมท้องแบน) ตกปลา หรือจะตั้งแคมป์ก็ได้เช่นกัน
  4. สวนเอจิโกะฮิลล์ไซด์ (Echigo Hillside Park), นีงะตะ (Niigata)
    สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดนีงะตะ (Niigata) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยทุ่งดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ ภายในบริเวณสวนอันกว้างใหญ่มีเครื่องเล่นตั้งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทุกปีเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้นานาชนิดจะพร้อมใจกันผลิดอกบาน ในช่วงฤดูหนาวมีการจัดแสดงประดับไฟ (Illumination) ที่สวยงามอลังการ
  5. ภูเขายะฮิโกะ (Mt. Yahiko), นีงะตะ (Niigata)
    เป็นภูเขาที่มีทัศนียภาพสวยงาม ตั้งตระหง่านเหนือที่ราบเอจิโกะ (Echigo Plain) อันกว้างใหญ่ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ให้ได้ใกล้ชิด โดยการขึ้นกระเช้าลอยฟ้าภูเขายะฮิโกะ (Yahikoyama Ropeway) ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ชมวิวพร้อมขณะเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ไต่ระดับความสูง 634 เมตรเหนือน้ำทะเล เมื่อถึงด้านบนยอดเขาสามารถมองเห็นทะเลและหมู่บ้านยะฮิโกะ (Yahiko Village) ในวันที่ฟ้าเปิดอาจจะสามารถเห็นหมู่เกาะซาโดะ (Sado Island) ได้จากจุดชมวิว

รายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าโดยสาร
17,500 เยน / ท่าน
(จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า)
ระยะเวลาให้บริการ
เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ
จำนวนเที่ยวรถ
วันละ 2 เที่ยว (ไป – กลับ)
เวลาที่ใช้ในการเดินรถ
3 ชั่วโมง 37 นาที
เวลาเดินรถ
ขาไป: ออกจากสถานี Joetsu-Myoko 10.19 น. ถึงสถานี Itoikawa 13.36 น.
ขากลับ: ออกจากสถานี Itoikawa 13.59 น. ถึงสถานี Joetsu-Myoko 16.44 น.
สถานีที่จอด
สถานี Joetsu-Myoko
สถานี Nihongi
สถานี Myokokogen
สถานี Noetsu
สถานีTsutsuishi
สถานี Itoikawa
การจองรถไฟ
https://www.echigo-tokimeki.co.jp/setsugekka/en/#reservations
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.echigo-tokimeki.co.jp/setsugekka/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.echigo-tokimeki.co.jp/setsugekka/en/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/newsletter/echigo-tokimeki-resort/

5. รถไฟ Oykot (Joyful Train Oykot), นะงะโนะ (Nagano)

NOV20_wintertrains_08
NOV20_wintertrains_07

รถไฟ Oykot (Joyful Train Oykot) โดยคำว่า Oykot เป็นการสะกดคำแบบกลับหลังจากคำว่า Tokyo เพื่อสื่อถึงความแตกต่างจากเมืองหลวงโตเกียวนั่นเอง รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟท่องเที่ยวหนึ่งในเครือ Joyful Trains ที่วิ่งระหว่างสถานีนะงะโนะ (Nagano) ในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) กับ สถานีโทคะมะจิ (Tokamachi) ในจังหวัดนีงะตะ (Niigata) โดยรถไฟ Oykot มีคอนเซ็ปต์ให้ชวนนึกถึงชนบทของประเทศญี่ปุ่น เหมือนกับการที่ได้หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่กลับไปสู่บ้านคุณตาคุณยาที่อบอุ่นนั่นเอง

ในระหว่างการเดินทางนั้น รถไฟจะหยุดที่สถานีอียะมะ (Iiyama) ที่สถานีนี้สามารถลงจากรถเพื่อชมงานนาฬิกาที่ประณีตได้ที่ Karakuri Clock โดยทุกครั้งที่นาฬิกาตีขึ้นชั่วโมงใหม่ สามารถชมและฟังตุ๊กตาไขลานออกมาเต้นจำลองการแสดงพร้อมเพลงพื้นบ้านยอดนิยม ภายในสถานียังมีร้านหลายแห่งที่จำหน่ายอาหารและของขบเคี้ยวที่เป็นของท้องถิ่นอยู่ด้วย และสถานีโมริมิยะโนะฮะนะ (Morimiyanohana) ที่นั่นเป็นจุดที่มีหิมะตกหนักที่สุดในบริเวณสามารถลงไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายถ่ายภาพสวยๆ กันได้

ตลอดเส้นทางของการเดินทางด้วยรถไฟ Oykot (Joyful Train Oykot) จะวิ่งผ่านชนบทที่อุดมสมบูรณ์ของท้องนา ในฤดูร้อนก็จะเห็นเขียวขจีตลอดสองข้างทาง แต่ถ้าหากเลือกเดินทางในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศรอบตัวนั้นจะถูกเติมเต็มไปด้วยหิมะขาวนวลตลอดเส้นทาง เป็นบรรยากาศพิเศษที่ควรค่าแก่การลองไปเที่ยวดูสักครั้ง ภายในขบวนรถไฟยังมีการแสดงเพลงโฟล์คซองและการเล่านิทานพื้นบ้านให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกอีกด้วย เรียกได้ว่าการเดินทางในครั้งนี้จะไม่มีทางเบื่ออย่างแน่นอน ทำให้การเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ เต็มไปด้วยความประทำใจไม่รู้ลืม

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง

  1. วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple), นะงะโนะ (Nagano)
    วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นวัดพุทธแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นวัดแห่งแรกที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่อีกด้วย บริเวณวัดมีขนาดใหญ่แบ่งเป็นหลายโซน นอกจากนี้บริเวณถนนนากามิเสะ (Nakamise-dori Street) ที่ทอดตัวยาวสู่ด้านหน้าวัดก็เป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมายให้ได้แวะซื้อของอร่อยเดินทานได้อย่างเพลิดเพลิน
  2. อุโมงค์เขาคิโยสึ (Kiyotsu Gorge Tunnel), นีงะตะ (Niigata)
    อุโมงค์เขาคิโยสึ (Kiyotsu Gorge Tunnel) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Tunnel of Light กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะ ตั้งอยู่ในเขตหุบเขาคิโยสึ (Kiyotsu Kyo) อุทยานแห่งชาติโจชินเอ็ทสึโคเกน (Joshin’etsukogen National Park) จังหวัดนีงะตะ (Niigata) มีจุดเด่นในเรื่องของจุดถ่ายภาพที่เป็นอุโมค์ที่มีฉากหลังเป็นหุบเขาและมีภาพสะท้อนผิวน้ำจากด้านล่าง นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพบริเวณนี้กันอย่างมากมาย
  3. พื้นที่แสดงงานศิลปะ เอะจิโกะ ทสึมะริ (Echigo-Tsumari Art Field), นีงะตะ (Niigata)
    สถานที่จัดแสดงศิลปะสมัยใหม่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 760 ตารางกิโลเมตร รวบรวมงานศิลปะมากกว่า 100 ผลงานจากศิลปินทั้งในประเทศและนานาชาติร่วมมือกันสร้างสรรผลงานเป็นผลงานศิลปะมากมายให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟฤดูหนาวซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของที่นี่อีกด้วย
  4. เทศกาลหิมะโทคะมะจิ (Tokamachi Snow Festival), นีงะตะ (Niigata)
    หนึ่งในเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยจะจัดขึ้น 3 วันในทุกวันเสาร์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ ภายในงานจะมีการจัดแสดงประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่มากมายหลายจุด มีกิจกรรมให้เด็ก ๆ และครอบครัวได้ทำร่วมกันอย่างสนุกสนาน มีบูธอาหารให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย
  5. พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา มายุมิ ทะคะฮะชิ (Mayumi Takahashi Doll Museum), นะงะโนะ (Nagano)
    พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอียะมะ (Iiyama) จัดแสดงศิลปะงานปั้นตุ๊กตาจากดินน้ำมันโดยฝีมือของคุณ มายุมิ ทะคะฮะชิ (Mayumi Takahashi) เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายนปี 2010 โดยมีแนวคิดที่จะให้ผู้เยี่ยมชมได้เพลิดเพลินไปกับตุ๊กตาน่ารัก ๆ ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของผู้คนในชนบทที่สะท้อนถึงความอบอุ่นในครอบครัว ความอ่อนแอจากความชรา และโรคภัยไข้เจ็บ ความสนุกสนานในช่วงเทศกาลต่างๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าโดยสาร
2,310 เยน (ค่าเดินทาง 1,780 เยน / ค่าจองที่นั่ง 530 เยน)
(จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า)
ระยะเวลาให้บริการ
เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ
และมีช่วงที่หยุดให้บริการกรุณาตรวจสอบวันเดินทางได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.jreast.co.jp/e/joyful/oykot.html
จำนวนเที่ยวรถ
วันละ 2 เที่ยว (ไป – กลับ)
เวลาที่ใช้ในการเดินรถ
2 ชั่วโมง 33 นาที
เวลาเดินรถ
ขาไป: ออกจากสถานี Nagano 09.17 น. ถึงสถานี Tokamachi 11.50 น.
ขากลับ: ออกจากสถานี Tokamachi 15.12 น. ถึงสถานี Nagano 18.07 น.
สถานีที่จอด
สถานี Nagano
สถานี Kaesa
สถานี Iiyama
สถานี Kita-Iiyama
สถานี Togarinozawa-Onsen
สถานี Morimiyanohara
สถานี Tsunan
สถานี Tokamachi
การจองรถไฟ
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.jreast.co.jp/nagano/oykot/
https://www.jreast.co.jp/railway/joyful/oykot.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.jreast.co.jp/E/joyful/oykot.html
https://www.jnto.go.jp/scenic-railways/list/oykot/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
จดหมายข่าวอื่นๆ