สัมผัสธรรมชาติ ซึมซาบวัฒนธรรม ทั่วภูมิภาคโทโฮคุ : วันที่ 2 จังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata)

ภูเขาซะโอ (Mount Zao) เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวตัดระหว่างจังหวัดมิยะงิและจังหวัดยะมะงะตะ ภูเขาไฟซะโอนั้นมีความสูง 1,841 เมตร ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ

ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามระหว่างทางขึ้นซะโอโรปเวย์ แล้วเดินชมธรรมชาติไปตามเส้นทางยอดนิยมคือ การไปเยือนปากปล่องภูเขาไฟโอคะมะ (Okama Crater) ด้านบนมีทะเลสาบสีเขียวมรกตซึ่งน้ำจะเปลี่ยนสีสันต่างๆ ได้ถึง 5 สี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของแต่ละวัน เหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติได้ทุกฤดู ยกเว้นช่วงฤดูหนาว

ส่วนเส้นทางขับรถชมใบไม้แดง ซะโอ-เอโคไลน์ (Zao Ecoline) มีความยาวทั้งสิ้น 26 กิโลเมตร เชื่อมระหว่าง 2 จังหวัด ระหว่างทางมีจุดชมวิวคัทตะดะเกะ ซึ่งสามารถมองเห็นปากปล่องภูเขาไฟโอะคะมะ รวมถึงดื่มด่ำกับความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างตระการตา

บริเวณสถานียะมะงะตะ (Yamagata Station)

บริเวณสถานียะมะงะตะ (Yamagata Station) นั้นมีบริเวณโมกามิในโจกามาจิ ซึ่งปูด้วยหินกว่า 570,000 ก้อน และยังเป็นจุดที่สามารถรับชมสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์สำคัญในสมัยเอโดะ อย่างสวนสาธารณะคะโจหรือถนนนานุกามาจิ นอกจากนี้ยังสามารถเดินชมร่องรอยประวัติศาสตร์ได้ทั่วทั้งเมือง อาทิ หอวัฒนธรรม (Bunshokan) ซึ่งได้รับการออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจากอังกฤษในยุคเรอเนซองส์ และอาคารอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก อาทิ พิพิธภัณฑ์การศึกษาแห่งยะมะงะตะ (Yamagata Educational Museum

สวนสาธารณะคะโจ (Kajo Castle Park)

สวนสาธารณะคะโจ (Kajo Castle Park) สวนขนาดใหญ่กินพื้นที่ประมาณ 350,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองยะมะงะตะซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทในอดีตมาก่อน แต่ตัวปราสาทนั้นได้พังทลายลงไปแล้ว เหลือแต่คูคลองที่อยู่ในเขตชั้นในปราสาทและเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์ของท่าน โมยางิ โยชิอากิ เจ้าผู้ครองแคว้นยะมะงะตะ ลำดับที่ 11 บุคคลสำคัญของเมืองนี้ ในท่ากำลังควบม้าโจนทะยาน รวมทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางสวนด้วย จุดดึงดูดใจของสวนแห่งนี้ อยู่ตรง แนวคลองขนาดใหญ่ล้อมรอบปราสาทที่มีการปลูกต้นซากุระพันธุ์กิ่งย้อยเลียบริมคลองทั้ง 4 ด้าน กว่า 1,500 ต้น  ซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางพฤษภาคม

ยะมะเดะระ (Yamadera)

วัดยะมะเดะระ (Yamadera Temple) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดริชชะคุจิ (Risshaku-ji) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 860 ตั้งอยู่เนินเขา เป็นวัดพุทธศาสนานิกายเทนได และถือเป็นวัดที่ได้รับความเลือมใสอย่างมากในภูมิภาคโทโฮคุ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของกลอนไฮกุซึ่งนักกวีชื่อดังอย่างท่านมัตสุโอะ บะโช (Matsuo Basho) ประพันธ์ไว้ถึงความสวยงามและเงียบสงบของวัดยะมะเดะระครั้งมาเยือนที่วัดแห่งนี้ราวศตวรรษที่ 16 การเดินทางมาชมจะต้องเดินขึ้นบันไดหินกว่า 1,000 ขั้น โดยจะผ่านประตูนิโอ (Nio-mon) และอาคารของวัดระหว่างทาง โดยอาคารหลักจะตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเรียกว่า คมปงชูโด (Konponchudo)

พักในเมืองเซนได (Sendai)

*แผนการเดินทางเสริม*

เส้นทางชมซากุระโอคิทะมะ (Okitama Cherry Blossom Corridor)

เส้นทางชมซากุระโอคิทะมะ (Okitama Cherry Blossom Corridor) อีกหนึ่งเส้นทางชมความงามของซากุระยอดนิยมอีกแห่งหน่งของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณลุ่มน้ำโอคิทะมะ ทางตอนใต้ของเมืองยะมะงะตะ มีระยะทางยาวถึง 43 กิโลเมตร เริ่มต้นตั้งแต่น้ำพุร้อนอะคะยุ (Akayu Onsen) จนถึงเมืองชิระตะคะ (Shirataka-machi) ทอดยาวไปตามเส้นรถไฟยะมะงะตะ สายนะกะอิ (Nagai Line) โดยตลอดเส้นทางชมซากุระจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายถึง 21 แห่ง อีกทั้งต้นซากุระขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 1,200 ปี

ภูเขาซะโอ (Mount Zao) เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวตัดระหว่างจังหวัดมิยะงิและจังหวัดยะมะงะตะ ในช่วงฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมทั่วพื้นที่เป็นสีขาวโพลน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในการมาชมอสูรหิมะ (Ice Monster) หนึ่งในสถานที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เส้นทางการเล่นสกีมีความหลากหลาย เหมาะสำหรับนักสกีที่เพิ่งเริ่มต้น และระดับกลาง นอกจากนี้ยังมีทัวร์สำหรับพาชม “ปีศาจน้ำแข็ง (Ice Monster หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าจุเฮียว Juhyo)” พาเที่ยวชมบริเวณที่มีปีศาจน้ำแข็งอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนเวลากลางคืนยังมีการเปิดไฟไลท์อัพเพิ่มความสวยงามอีกด้วย