ฤดูร้อนที่โทโฮคุ

ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น สภาพอากาศในภูมิภาคโทโฮคุนับว่าเย็นสบายเพราะมีลมทะเลพัดผ่านช่วยให้คลายร้อน รวมถึงแนวป่าสีเขียวขจีปกคลุมทั่วภูเขา

นอกจากจะสดชื่นด้วยความงามของทิวทัศน์ธรรมชาติแล้ว ภูมิภาคโทโฮคุยังจะครึกครื้นไปด้วยงานเทศกาลฤดูร้อนสำคัญ อาทิ เทศกาลเนบุตะ ในจังหวัดอะโอโมริ นักท่องเที่ยวจะได้ชมขบวนแห่โคมไฟลวดลายงดงามตระการตา เทศกาลอะคิตะคันโต ในจังหวัดอะคิตะ ตื่นตากับลีลาการแห่โคมไฟบนเสาไม้ไผ่ขนาดยักษ์ และเทศกาลทะนะบะตะ ในเมืองเซนได จังหวัดมิยะงิ ร่วมอธิษฐานขอพรจากดวงดาวตามประเพณีดั้งเดิม และเทศกาลอื่นๆอีกมากมายให้ร่วมสนุกกัน
เทศกาลทะนะบะตะ แห่งเมืองเซนได จังหวัดมิยะงิ จัดขึ้นในวันที่ 6-8 สิงหาคมของทุกปี ถือเป็นงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่มากที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่น มีที่มาจากตำนานความรักระหว่างหญิงทอผ้าและหนุ่มเลี้ยงวัวที่เชื่อกันว่าดวงดาวของทั้งสองจะได้มาพบกันบนทางช้างเผือกเพียงปีละครั้ง ในงานเทศกาลจะมีการประดับกิ่งไผ่ที่เรียกว่า "ซาซะคาซาริ (Sasakazari)" กว่า 3,000 กิ่ง ตกแต่งด้วยกระดาษญี่ปุ่นสีสันสดใสทำเป็นรูปทรงคล้ายโคมไฟระย้า ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของงานเทศกาลนี้ โดยในแต่ละชิ้นมีความยาว 3-5 เมตร ซึ่งชาวเมืองเซนไดต่างร่วมมือร่วมใจกันสร้างสรรค์ผลงานกระดาษญี่ปุ่นนี้เพื่อแขวนบนกิ่งไผ่ โดยจะตกแต่งประดับไปทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะแหล่งช้อปปิ้งในตัวเมืองจะเต็มไปด้วยสีสันของกิ่งไผ่ประดับหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุกกัน อาทิ การเขียนคำอธิษฐานขอพรจากดวงดาวลงบนกระดาษทรงยาวที่เรียกว่า "ทันสะกุ (Tanzaku)" แล้วนำไปแขวนบนกิ่งไผ่ การแสดงดนตรีและการเต้นรำแบบดั้งเดิม และยังมีบูธร้านขายอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ในตอนกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟประดับและการแสดงดอกไม้ไฟสว่างไสวไปทั่วเมือง อีกทั้งในงานผู้คนมักนิยมแต่งกายด้วยชุดยูกาตะ ทำให้ได้สัมผัสถึงบรรยากาศงานเทศกาลแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
การเดินทาง
โดยรถไฟ : จากสถานีรถไฟ JR Tokyo สามารถนั่งรถไฟชินคังเซ็นสายโทโฮคุมาลงที่สถานีรถไฟ JR Sendai ใช้เวลาแค่เพียง 90 นาที จากนั้นเดินไปยังสถานที่จัดงานเทศกาลตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองได้
ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าเข้าชม
เวลาเปิดให้บริการ
6-7 สิงหาคม เวลา 10.00-22.00 น.
8 สิงหาคม เวลา 10.00-21.00 น.
พิกัด
หอยนางรมสดอร่อยจากมิยะงิ (Miyagi Oyster)
หอยนางรมถือเป็นอาหารทะเลขึ้นชื่อของจังหวัดมิยะงิ เพราะในเขตน่านน้ำของจังหวัดมิยะงินั้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของหอยนางรม จึงทำให้มีหอยนางรมจำนวนมาก และมีหลายขนาดให้เลือกสรร ซึ่งส่วนใหญ่ตัวจะอวบอ้วน เนื้อหวาน สามารถรับประทานแบบสดๆได้เลย เพราะน้ำทะเลของที่นี่สะอาด หรือจะทานแบบย่าง รวมทั้งปรุงเป็นเมนูต่างๆก็อร่อยไม่แพ้กัน
ฤดูทานหอยนางรม : ตุลาคม - มีนาคม
จังหวัดอะคิตะมีเสน่ห์ให้ค้นหามากมาย โดยเฉพาะความงดงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติอันตระการตาของจังหวัดอะคิตะได้โดยการนั่งรถไฟสาย "อะคิตะ อินแลนด์ (Akita Inland Line / Akita Nairiku Line)" และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับ “ศิลปะในนาข้าว” หลายรูปแบบตามเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน ที่จะมีให้ชมแค่ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน ศิลปะในนาข้าวนี้รังสรรค์โดยใช้สีตามธรรมชาติของพันธุ์ข้าวหลากหลายชนิดนำมาจัดเรียงจนเกิดเป็นผลงานศิลปะต่างๆอย่างสวยงาม ส่วนในฤดูอื่นๆก็สามารถเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติตามฤดูกาลที่สวยงามไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว เส้นทางรถไฟสายอะคิตะ อินแลนด์นี้จะวิ่งระหว่างสถานีคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate) และสถานีทะคะโนะซุ (Takanosu) ซึ่งระหว่างทางสามารถแวะเที่ยวสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอะคิตะ เช่น เมืองคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate) หมู่บ้านซามูไรโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ทะเลสาบทะซะวะ (Lake Tazawa) อันใสสะอาดราวกับกระจกและสักการะขอพรเทพแห่งความงาม รวมทั้งภูเขาโมริโยชิ (Mt. Moriyoshi) ที่ให้ได้เพลินกับการเดินป่าชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ขอชวนมาสัมผัสความสนุกกับเส้นทางรถไฟสายอะคิตะ อินแลนด์ที่จะทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวของคุณที่อะคิตะสุดแสนประทับใจ
การเดินทาง
เดินทางโดยรถไฟ : จากสถานี JR Akita นั่งรถไฟ Komachi Shinkansen ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ไปลงที่สถานี JR Kakunodate ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสายอะคิตะ อินแลนด์
ค่าเข้าชม
เริ่มต้น 170 - 1670 เยน ตามระยะทาง หรือ 2,000 เยน สำหรับบัตรรถไฟเหมาจ่ายใน 1 วัน
เวลาเปิดให้บริการ
ขบวนแรกจากสถานี Kakunodate เวลา 6.30 น.
ขบวนสุดท้ายจากสถานี Kakunodate เวลา 18.30 น.
พิกัด
คิริทัมโปะ (Kiritanpo)
คิริทัมโปะ เป็นอาหารสูตรเฉพาะของจังหวัดอะคิตะ โดยการนำข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆหุงให้สุก แล้วบดให้ละเอียดและนำมาปั้นเป็นแท่ง เสียบไม้ย่างไฟ เพิ่มรสชาติด้วยการทาซอสมิโซะหวานก่อนย่าง นอกจากทานแบบย่างแล้ว ยังสามารถใส่ในหม้อไฟนาเบะ ทานแบบซดน้ำร้อนๆ ที่มีทั้งผักเนื้อสัตว์และผักต่างๆตามใจชอบ ก็อร่อยได้ทั้งสองแบบ
Copyright Japan National Tourism Organization All Rights Reserved.