ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ JR Kyushu Rail Pass
JR Kyushu Rail Pass : คือบัตรโดยสารรถไฟแบบเหมาจ่ายสำหรับชาวต่างชาติ สามารถใช้โดยสารรถไฟ JR และรถไฟขบวนพิเศษของภูมิภาค Kyushu ได้ไม่จำกัดเที่ยวตามระยะเวลาที่กำหนด ตั๋วมี 2 ประเภท แบ่งเป็น Northern Kyushu Pass สำหรับเดินทางในภูมิภาค Kyushu ตอนเหนือ (สุดที่จังหวัด Kumamoto) และยังมี All Kyushu Pass สำหรับเดินทางทั่วภูมิภาคคิวชู
ราคาตั๋ว JR Kyushu Rail Pass แบ่งตามประเภท :
All Kyushu Pass | 3 วัน | 15,000 เยน |
5 วัน | 18,000 เยน | |
Northern Kyushu Pass | 3 วัน | 8,500 เยน |
5 วัน | 10,000 เยน | |
Southern Kyushu Area Pass | 3 วัน | 7,000 เยน |
*** เด็กอายุ 6-11 ปี คิดครึ่งราคาของราคาเต็ม ส่วนเด็กอายุ 5 ปี หรือต่ำกว่า ไม่ต้องเสียค่าบริการ ***
สถานที่จำหน่ายตั๋ว JR Kyushu Rail Pass :
1. ตัวแทนจำหน่ายต่างๆในประเทศไทย
2. สถานที่จำหน่ายบัตรและแลกตั๋วในภูมิภาค Kyushu เช่น ตามสถานีรถไฟ (เช่น สถานีHakata Saga Nagasaki Beppu Oita Kumamoto Mojiko Kokura)
3. สาขาของ JR Kyushu Travel Agency และศูนย์การท่องเที่ยวของภูมิภาค*
*** ต้องเปิดใช้บัตรภายใน 90 วันหลังจากซื้อบัตร ***
ศึกษาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถไฟ Kyushu ได้ที่ : www.jrkyushu.co.jp/english/
แผนเที่ยวแนะนำภูมิภาคคิวชูใน 5 Day
ศาลเจ้า Dazaifu
ศาลเจ้า Dazaifu : สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1591 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ท่านสุงาวะระ มิชิซาเนะ กวีเอกและนักปราชญ์ชาวญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน ศาลเจ้านี้ศักดิ์สิทธิ์มากในเรื่องการขอพร โดยเฉพาะ ด้านการเรียน นักเรียนญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ เพราะเชื่อกันว่าผู้ใดได้มาขอพร ณ ศาลเจ้าแห่งนี้จะสมหวังในเรื่องการเรียน
เวลาทำการ | 6.30 – 19.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟใต้ดิน Hakata นั่งรถไฟใต้ดินสาย Fukuoka City Subway Kuko Line ไปลงสถานี Tenjin จากนั้นเดินประมาณ 15 นาทีต่อไปยังสถานีรถไฟ Nishitetsufukuoka เพื่อนั่งรถไฟสาย Nishitetsu Tenjin-Omuta ไปลงสถานี Nishitetsufutsukaichi จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu ไปลงสถานี Dazaifu |
Fukuoka Tower
Fukuoka Tower : ตึกริมทะเลที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นจุดชมวิวเมืองฟุกุโอกะที่สามารถมองเห็นได้ทั้งบ้านเมือง บริเวรณอ่าวฮากะตะ และเกาะน้อยใหญ่ทั้งหลายที่อยู่รายรอบเมือง ตึกนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้
เวลาทำการ | 9.30 – 21.00 น. [ ต.ค. – มี.ค. ] 9.30 – 22.00 น. [ เม.ย. – ก.ย. ] |
---|---|
การเดินทาง | นั่งรถไฟกลับมาสถานี Tenjin แล้วต่อรถไฟใต้ดินสาย Fukuoka City Subway Kuko Line มาลงสถานี Hakata จากนั้นนั่งรถบัสจาก Hakata Transport Center ป้ายหมายเลข 5 |
Canal City
Canal City : ศูนย์รวมความบันเทิงหลายรูปแบบ มีทั้ง โรงหนัง โรงแรม ร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย เรียงรายกว่า200ร้านค้า นอกจากที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ยังมี Ramen Stadium ที่รวมร้านราเม็งเจ้าดังไว้ให้นักท่องเที่ยวเลือกชิมได้ตามใจชอบ
เวลาทำการ | ร้านค้า 10.00 – 21.00 น. ร้านอาหาร 11.00 – 23.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Tenjin แล้วนั่ง Loop Bus มาลงป้าย Canal City (รถออกทุก 5- 10 นาที) |
Huis Ten Bosch
Huis Ten Bosch : ธีมพาร์คขนาดใหญ่สไตล์ฮอลแลนด์ มีทั้งส่วนของสวนสนุก โรงแรม พระราชวัง หอชมวิว และสวนดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายรูปเก๋ๆ กลับไปอวดเพื่อน
เวลาทำการ | 6.30 – 19.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | จากสถานี JR Hakata นั่งรถไฟสาย Ltd.Exp Huis Ten Bosch ไปลงสถานี Huis Ten Bosh ใช้เวลาเดินทางประมาณ 110 นาที |
Nagasaki Peace Park
Nagasaki Peace Park : สวนสันติภาพ ด้านหลังเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวก่อนหลังการทิ้งระเบิดปรมาณูในนางาซากิ รวมถึงโซนจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ และบ้านเรือนที่ถูกทำลายในช่วงเวลานั้น อีกทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่บาดเจ็บ ล้มตาย และคนที่ทุกทรมานจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวสาเหตุจากการระเบิดครั้งนั้น
เวลาทำการ | 08.30 – 17.30 น. |
---|---|
การเดินทาง | จากสถานี Huis Ten Bosch นั่งรถไฟสาย Seaside Liner มาลงสถานี JR Nagasaki จากนั้นต่อรถรางสาย 1 หรือ สาย 3 เพื่อไปลงป้าย Matsuyamamachi แล้วเดินข้ามรางรถราง เดินตรงไป เมื่อเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา เดินตรงไปจนเจอทางเข้าสวน Nagasaki Peace Park |
สวนโกลฟเวอร์
สวนโกลฟเวอร์ : ที่เป็นจุดชมวิวที่เห็นท่าเรือนางาซากิที่สวยงามเปรียบเหมือนกับเขตหมู่บ้านจัดสรรสไตล์ยุโรปในญี่ปุ่น บ้านแต่ละหลังเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ภาพถ่ายเรื่องราวของเจ้าของบ้านและผู้ทำคุณประโยชน์ที่มีต่อชาวญี่ปุ่น บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
เวลาทำการ | 08.00 – 18.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | จากสถานี Nagasakiนั่งรถรางสาย 1 ลงที่ป้าย Tsuki-machiแล้วเปลี่ยนเป็นสาย 5 นั่งไปลงที่สถานี Qura-Tenshudo-shita เดินขึ้นเนินประมาณ 10 นาที |
Aso
Aso : ภูเขาไฟ Aso ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Aso Kuju National Park นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวชมบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ Nakadake อีกทั้งยังสามารถแวะชมทุ่งหญ้า Kusasenri อันกว้างใหญ่ไปพร้อมกับการขี่ม้าชมธรรมชาติ
เวลาทำการ | 09.00 – 16.30 น. |
---|---|
การเดินทาง | จากสถานี JR Kumamoto สายรถไฟสาย Ltd. Exp Odan Tokkyu ไปยังสถานี JR Aso (หรือนั่งรถไฟสายพิเศษ Aso Boy จากสถานีJR Kumamoto ไปยังสถานี JR Aso) แล้วต่อรถบัสจากหน้าสถานีรถไฟไปลงป้าย Aso-san Nishi จากนั้นนั่ง Ropeway ต่อขึ้นไปเพื่อไปชมปากปล่องภูเขาไฟ Nakadake |
ปราสาท Kumamoto
ปราสาท Kumamoto : ปราสาทเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น เริ่มสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1601 แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1607 ต่อมา ตัวปราสาทถูกไฟใหม้เสียหาย จนได้มีการสร้างเลียนแบบโครงสร้างเดิมในอีก 100 ปีต่อมา ส่วนหลักที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชมคือ ตัวปราสาทหลักป้อมปราการและส่วนที่พักของไดเมียว
เวลาทำการ | 08.30 – 16.30 น. (ปิดบริการวันที่ 29-31 ธ.ค.) |
---|---|
การเดินทาง | นั่งรถไฟกลับมาสถานี JR Kumamoto แล้วต่อรถ Kumamoto Castle Loop Bus ลงป้าย Kumamoto Castle |
เมือง Beppu เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อน มีชื่อเสียงจากบ่อน้ำพุนรกทั้ง 8 บ่อที่ผุดขึ้นในเมืองตามธรรมชาติ แต่ละบ่อจะมีลักษณะและจุดเด่นที่ต่างกันออกไป น้ำในบ่อมีอุณหภูมิสูงมากจึงลงแช่ไม่ได้ แต่ในบริเวณ Beppu ยังมีบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติอีกมากมายที่เปิดให้ลงแช่ได้
บ่อน้ำพุร้อน โซน Kannawa
บ่อน้ำพุร้อน โซน Kannawa : มีบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมด 6 บ่อ ทุกบ่อตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กัน สามารถเดินชมไล่ตั้งแต่บ่อที่ 1 ถึงบ่อที่ 6 ได้ในคราวเดียว
- Umi Jigoku บ่อน้ำพุร้อนสีฟ้าสดใสดังน้ำทะเล มีส่วนผสมของแร่โคบอลต์ ถือเป็นบ่อที่ขึ้นชื่อที่สุดใน6บ่อนี้
- Oniishibouzu Jigoku บ่อโคลนเดือด
- Yama Jigoku บ่อน้ำพุร้อนขนาดเล็ก ใกล้ๆบ่อมีสวนสัตว์ขนาดเล็กให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม
- Kamado Jigoku บ่อน้ำพุร้อนสีฟ้าขนาดใหญ่ มีบริการแช่เท้าสำหรับนักท่องเที่ยว
- Oniyama Jigoku บริเวณนี้มีจุดเด่นคือ เป็นที่สำหรับเลี้ยงและเพาะพันธุ์จระเข้
- Shiraike Jigoku บ่อน้ำพุร้อนสีขาวขุ่น รอบๆจัดเป็นสวนญี่ปุ่นสวยงาม
เวลาทำการ | 8.00 – 17.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | จากสถานี JR Beppuนั่งรถบัสหมายเลข 5, 9, 24, 41 มาลงที่ป้าย Umijigoku |
บ่อน้ำพุร้อน โซน Shibaseki
บ่อน้ำพุร้อน โซน Shibaseki : โซนนี้มีบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมด 2 บ่อ ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กัน
- Chinoike Jigoku บ่อน้ำพุร้อนสีส้มอิฐชื่อดัง ดูคล้ายเลือดจึงได้ชื่อว่า “บ่อเลือด”
- Tatsumaki Jigoku มีน้ำร้อนพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินเป็นสาย มีให้ชมราวๆทุกครึ่งชั่วโมง
เวลาทำการ | 08.00 – 17.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | ต่อรถบัสสายที่ 16 จากป้าย Kannawa (ใกล้บริเวณบ่อ Shiraike Jigoku) ไปลงป้าย Chinoike Jigoku |
เมือง Yufuin เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ สไตล์น่ารัก มีชื่อเสียงในเรื่อง Onsen เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” ในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูมิภาคคิวชูต้องไม่พลาดมาสัมผัสเมืองคลาสสิคแห่งนี้ สถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆของเมือง ได้แก่
Yufuin Main Walking Street
Yufuin Main Walking Street : ถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมือง Yufuin มีความยาวกว่า800 เมตร สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าที่ตกแต่งอย่างน่ารักลงตัว มีตั้งแต่ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายขนม-ของที่ระลึก ไปจนถึงร้านขายสินค้าทำมือน่ารักๆสไตล์เมือง Yufuin
Yufuin Floral Village
Yufuin Floral Village : เป็นบริเวณเล็กๆ ภายใน Yufuin จำลองบรรยากาศแบบยุโรปโดยจัดเป็นโซนเก๋ๆให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและแวะถ่ายรูป ภายในบริเวณมีทั้งส่วนที่เป็นร้านขายขนมปัง ร้านขายของที่ระลึก แต่ละร้านตกแต่งแนวน่ารักประดับด้วยดอกไม้นาๆชนิด
ทะเลสาบ Kinrin
ทะเลสาบ Kinrin : สุดถนนช้อปปิ้งจะพบกับทะเลสาบน้ำอุ่นประจำเมืองแห่งนี้ ทะเลสาบนี้เป็นจุดที่น้ำจากแม่น้ำทั้ง 5 สายที่มีส่วนผสมของน้ำแร่ไหลรวมมาบรรจบกัน จากทางเดินรอบทะเลสาบเราสามารถเดินไปเยี่ยมชมศาลเจ้าเท็นโซะ ที่สร้างติดกับตัวทะเลสาบ ในช่วงรุ่งเช้าของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะเห็นภาพหมอกลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำทะเลสาบ ทะเลสาบนี้ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อของภูมิภาคคิวชูอีกด้วย
เวลาทำการ | ประมาณ 10.00-17.00 น. |
---|---|
การเดินทาง | 1. จากสถานีรถไฟ JR Beppu นั่งรถไฟสาย Ltd.Exp Sonic มาลงสถานี JR Oita แล้วต่อรถไฟสาย JR Kyudai Line มาลงสถานี JR Yufuin หรือ
2. จากสถานีรถไฟ JR Hakata นั่งรถไฟสาย Ltd.Exp Yufuin no Mori มาลงสถานี JR Yufuin |
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ข้อมูล ณ วันที่ 5 กันยายน 2014