เก็บผลไม้สดจากต้น ลิ้มรสสตอเบอร์รีหวานฉ่ำ

Enjoy fruit picking and let’s taste sweet strawberry.

ฟุคุโอกะ | Fukuoka

คนญี่ปุ่นสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้ง 4 โดยผ่านดอกไม้ที่เบ่งบาน และผลไม้ที่ออกผล ซึ่งผลไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูนั้น ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่น และตลอดทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น จะมีสวนผลไม้ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปชิมผลไม้หลายชนิดของญี่ปุ่นได้อย่างไม่จำกัดด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง

การเก็บผลไม้ (Fruit Picking) คือ การได้ลิ้มรสผลไม้แสนอร่อยหลากหลายชนิดในแต่ละฤดูกาลนั้นนับเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งประการในการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น ได้เก็บผลไม้สดๆ จากต้นและทานได้ทันที ในญี่ปุ่นการเที่ยวเก็บผลไม้นับเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างหนึ่ง ซึ่งมีทั้ง องุ่น พีช และสาลี่เป็นต้น

สำหรับตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ก็จะเป็นฤดูกาลแห่งการเที่ยวเก็บผลสตรอเบอร์รีจะได้ลิ้มลองรสชาติของสตรอว์เบอร์รีญี่ปุ่นที่ทั้งหอมทั้งหวาน ลูกใหญ่ๆ ส่วนมากสตรอเบอร์รีจะปลูกอยู่ในโรงเรือนพลาสติกซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับการเด็ดสตรอว์เบอร์รี่สดจากต้นได้ทั่วประเทศญี่ปุ่นกันอย่างแน่นอน

สตรอว์เบอร์รีญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลาย ซึ่งในครั้งนี้เราจะยกตัวอย่างสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษให้ได้รู้จักกัน ได้แก่

สตรอว์เบอร์รีมิงะคิ-อิจิโกะ (Migaki-Ichigo), มิยะงิ (Miyagi) สตรอว์เบอร์รีหรูระดับพรีเมี่ยมโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเข้มงวดพิถีพิถัน ทำให้ได้ผลผลิตเป็นสตรอว์เบอร์รีที่รสชาติหวานอร่อย
สตรอว์เบอร์รีโทะจิโอะโทะเมะ (Tochiotome) พันธุ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด ส่วนใหญ่ปลูกในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) เป็นที่นิยมมากเพราะมีรสชาติหวานอร่อย
สตรอว์เบอร์รีเนียวโฮ (Nyoho) ลักษณะของผลที่ได้รูปสวยงาม มีแหล่งผลิตอยู่ในแถบจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) และจังหวัดใกล้เคียง เนื้อค่อนข้างไปทางแข็งเล็กน้อย จึงสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าสายพันธุ์อื่น นิยมนำไปทำขนมเค้ก
สตรอว์เบอร์รีบิจินฮิเมะ (Bijinhime) เป็นพันธุ์สตรอว์เบอร์รีที่มีขนาดใหญ่มาก น้ำหนักถึงกว่า 80 กรัม โดยมากปลูกในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ซึ่งเกรดที่แพงที่สุดนั้นมีราคาสูงถึง 50,000 เยน (ประมาณ 16,000 บาท) ต่อผลเลยทีเดียว
สตรอว์เบอร์รีเบะนิฮปเปะ (Benihoppe) คือสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ที่ได้ชื่อว่ามีรสชาติหวานที่สุดในญี่ปุ่น มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในแถบจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) และจังหวัดใกล้เคียง
สตรอว์เบอร์รีโมะโมะ-อิจิโกะ (Momo-Ichigo) ผลสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์นี้มีรูปร่างกลมคล้ายลูกพีช ปลูกแค่ในบางท้องที่ของจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) เท่านั้น จึงให้ผลผลิตน้อย
สตรอว์เบอร์รีซะกะโฮะโนะกะ (Sagahonoka) มีกลิ่นหอม มักนำไปใช้ประกอบการทำขนมชนิดต่างๆ สตรอว์เบอร์รีพันธุ์นี้อุดมไปด้วยวิตามินซี จึงมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพและความงาม
สตรอว์เบอร์รีอะมะโอ (Amaou) มีแหล่งปลูกอยู่ที่จังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka) ขนาดผลใหญ่กว่าพันธุ์อื่น และมีรสหวาน เนื้อค่อนข้างแข็งเล็กน้อยแต่รสชาติหวานชุ่มฉ่ำ ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นของสตรอว์เบอร์รีพันธุ์นี้ ชื่อ อะมะโออุ (Amaou) มาจากตัวอักษรตัวแรกของคำในภาษาญี่ปุ่นสี่คำ ได้แก่คำว่า “อะกะอิ (Akai) (สีแดง)” “มะรุอิ (Marui) (ทรงกลม)” “โอคิอิ (Ookii) (ขนาดใหญ่)” และ “อุมะอิ (Umai) (อร่อย)” นั่นเอง

ข้อมูลแนะนำ

สถานที่เที่ยวเก็บผลสตรอเบอร์รีอะมะโอ (Amaou), ฟุคุโอกะ (Fukuoka)
ที่จังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รีชั้นนำของประเทศ และเป็นแหล่งผลิตสตรอเบอร์รีพันธุ์หรูอย่าง “อะมะโอ (Amaou)”

สวนผลไม้ไลออน คะจิตสึเอ็น (Lion Kajitsu-en)
ซึ่งปลูกสตรอเบอร์รี่ไว้ทั้งหมด 8 สายพันธุ์ โดยเน้นที่สายพันธุ์แบรนด์ดังในท้องถิ่นอย่าง อะมะโอ (Amou) เปิดให้เข้าเก็บผลสตรอเบอร์รี่ทานได้ไม่อั้นเป็นเวลา 60 นาที ราคา 1,800 เยน ในช่วงเช้าจะรับเฉพาะผู้ที่จองมาล่วงหน้าเท่านั้น แต่สำหรับช่วงบ่ายจะเป็นระบบมาก่อนได้เข้าก่อน และจะปิดสวนเมื่อสตรอเบอร์รี่หมด ดังนั้นจึงควรจองไว้ล่วงหน้า

นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายสวนที่สามารถไปเก็บผลไม้ ได้แก่

สวนสตรอเบอร์รีพูซังโนะอิจิโกะเอ็น (Poo san no Ichigo En)
ฟาร์มสตรอเบอร์รีเก็งไคอิจิโกะการิโนเอ็น (Genkai Ichigo-gari Noen)
สวนสตรอเบอร์รีอิเคะ อิจิโกะเอ็น (Ike Ichigo-en) เป็นต้น

การเดินทาง

สวนผลไม้ไลอ้อน (Lion Fruit Farm)
จากสถานี Fukuoka (Tenjin) โดยสารรถไฟสาย Nishitetsu Tenjin Omuta Line ไปลงที่สถานี Chikushi ใช้เวลา 25 นาที จากนั้นโดยสารรถแท็กซี่ต่อไปอีก 10 นาที