DAY 5 : ท่องเที่ยวในจังหวัดยามากาตะ

กาลเวลาทำให้สถานที่แต่ละสถานที่มีคุณค่า อย่างเช่นอุเอะสุงิ ฮะคุชะคุเท (Uesugi Hakushakutei) คฤหาสน์เก่าของอุเอะสุงิ โมชิโนริ (Uesugi Mochinori) เจ้าเมืองผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 14 ของตระกูลอุเอะสุงิ (Uesugi) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีเมจิที่ 29 (ค.ศ. 1896)

ปัจจุบันตัวอาคารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น นอกจากการชื่นชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่แล้ว นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนยังสามารถมาสัมผัสประสบการณ์การสวมชุดกิโมโนทอแบบดั้งเดิมของเมืองโยะเนะซะวะ (Yonezawa Ori) ชุดเกราะซามูไร หรือชุดนินจา ออกไปเดินเล่นชื่นชมทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีในบริเวณรอบๆ หรือไปสักการะศาลเจ้าอุเอะสุงิ (Uesugi Shrine) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล

หลังจากเดินเล่นจนทั่วแล้วสามารถแวะมานั่งพักจิบมัทฉะ หรือเพลิดเพลินไปกับไอศกรีมเจลาโต้หลากรสที่คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นพร้อมชมความงามของสวนสไตล์ญี่ปุ่นได้

หากเราไปเยือนศาลเจ้าอุเอะสุงิ (Uesugi Shrine) ตรงกับช่วงที่มีจัดเทศกาลโยะเนะซะวะ อุเอะสุงิ (Yonezawa Uesugi Festival) อาจจะได้ชมภาพขบวนพาเหรดของเหล่าซามูไร และการแสดงยิงปืนคาบชุด (Hinawajyu) ซึ่งใช้ระบบการจุดชนวนด้วยชุดหินไฟ ทำให้มีเสียงดังกังวาน เวลายิงต้องอ้าปาก และตะโกนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของหู หรือในช่วงฤดูหนาวก็สามารถหาชมแสงไฟพร้อมโคมไฟหิมะ 300 ดวงและเทียน 3,000 เล่มที่สุดแสนตระการตาได้ที่งาน Uesugi Snow Lantern Festival

เนื้อวัวของประเทศญี่ปุ่นถือเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่ทั่วโลกให้การยอมรับ แต่ละภูมิภาคก็มีเนื้อวัวที่ขึ้นชื่อตามแต่พื้นที่ ร้านเบโคยะ (Bekoya) เป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เสิร์ฟเนื้อวัวโยะเนะซะวะ (Yonezawa Beef) ซึ่งเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัดยามากาตะ (Yamagata)

เคล็ดลับความอร่อยของที่ร้านมาจากฝีมือการคัดสรรเฉพาะเนื้อวัวคุณภาพสูงของผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกเนื้อของทางร้าน เนื้อวัวที่คัดเลือกมานั้นเป็นเนื้อสีแดงสดลายหินอ่อนละเอียด มีไขมันคุณภาพสูงแทรกอยู่ รสชาติหวานนุ่ม พร้อมละลายในปากได้ทันที ทางร้านให้ความสำคัญในการตรวจสอบคุณภาพ และความสดใหม่ของวัตถุดิบอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้ทานอาหารที่มีคุณภาพ และปลอดภัย

เมนูของร้านเบโคยะ (Bekoya) มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูเนื้อย่าง ชาบูชาบู สุกี้ยากี้ สเต็ก หรือเซ็ตอาหารกลางวัน และที่แนะนำให้ลองคือ สุกี้ยากี้เนื้อวัวโยะเนะซะวะ (Yonezawa Beef) จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักตามฤดูกาล พนักงานที่ร้านจะนำผักลงไปผัดพอสุกในกระทะแบน ๆ และนำเนื้อวัวใส่ลงไป พร้อมกับน้ำซุปขลุกขลิก เมื่อเนื้อเริ่มสุกก็ให้จุ่มลงในไข่ดิบแล้วนำเข้าปาก จะได้สัมผัสนุ่มลิ้นของเนื้อนุ่ม รสชาติหวาน ที่ชุ่มไปด้วยไข่แบบเต็มๆ

นอกจากนี้ทางร้านยังมีน้ำจิ้มสูตรเด็ดซึ่งใช้กรรมวิธีดั้งเดิมเหมือนตั้งแต่สมัยตอนที่ก่อตั้งร้าน โดยน้ำจิ้มสูตรพิเศษนี้ปรุงมาจากโชยุ และวัตถุดิบจากในท้องถิ่น ที่ร้านมีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายไว้สำหรับทานคู่กับเนื้อวัว ทำให้ช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้กับมื้อสุดพิเศษนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก

ย่านนาโนะกะมะจิ โกะเต็นเซกิ (Nanokamachi-Gotenzeki) เป็นย่านร้านค้าที่มีทั้งร้านค้าเก่าแก่ ร้านค้าสไตล์โมเดิร์นผสมผสานวัฒนธรรมยุคเก่า และยุคใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

แต่จุดเด่นอันเป็นไฮไลต์ที่น่าสนใจไม่ใช่เพียงแค่ร้านค้า แต่คือเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของย่านนี้คือทางระบายน้ำซึ่งทำจากหิน มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า โกะเต็นเซกิ (Gotenzeki) ในอดีตถูกใช้เพื่อส่งน้ำไปใช้ยังปราสาท ใช้ในการอุปโภคบริโภคภายในเมือง และใช้ในการทำเกษตรกรรมยังหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไป

แม้ว่าในปัจจุบันทางระบายน้ำนี้จะไม่ได้ถูกใช้แล้ว แต่ยังถูกรักษาไว้เป็นอย่างดีเพื่อให้ชาวเมือง และนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสถึงกลิ่นอายของวิถีชีวิตของชาวเมืองยามากาตะ (Yamagata) ในอดีต

นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นชมเมืองเก่าอย่างผ่อนคลาย พร้อมสนุกกับการช้อปปิ้งได้ตามร้านค้าที่เรียงรายอยู่ตามข้างทาง ขอแนะนำให้แวะชิมซอฟท์ครีมชาเขียวรสเข้มข้น จากร้าน Iwabuchi Tea Stall ซึ่งเป็นร้านชาเขียวอันเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปีค.ศ. 1880 หรือแวะซื้อกาเหล็ก และของฝากอื่นๆ สไตล์ญี่ปุ่นได้

ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน บริเวณหน้าร้านค้าจะแขวนลูกพลับ เพื่อทำลูกพลับตากแห้ง ภาพลูกพลับตากแห้งที่ดูคล้ายกับโมบายแขวนไว้อย่างละลานตา ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงอย่างเต็มตัวของชาวญี่ปุ่นนั้นเอง

สำหรับสายช้อปและผู้ที่ตั้งใจมองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน เอส-พาล ยามากาตะ (S-PAL Yamagata) เป็นศูนย์การค้าที่สะดวกในการเดินทางเพราะเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี JR Yamagata

ภายในศูนย์การค้ามีร้านค้ามากมายจำหน่ายตั้งแต่สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางใหม่ล่าสุด ไปจนถึงอาหาร ของฝาก รวมทั้งยังมีร้านอาหารที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับเมนูแสนอร่อยที่ปรุงมาจากวัตถุดิบในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) และมีร้านขายของฝากที่จำหน่ายสินค้าที่หาซื้อได้เฉพาะในท้องถิ่น

นอกจากนี้ยังมีร้านค้าบางแห่งที่เป็นร้านค้าปลอดภาษีให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งได้อย่างเต็มที่ นอกจากศูนย์การค้าแล้วที่นี่ยังมีโรงแรมเปิดให้บริการอีกด้วย

สนามบินยามากาตะ (Yamagata Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองฮิกาชิเนะ (Higashine) อยู่ห่างจากตัวเมืองยามากาตะ (Yamagata) ไปทางทิศเหนือประมาณ 23 กิโลเมตร สนามบินแห่งนี้ให้บริการสายการบินภายในประเทศญี่ปุ่น มีเส้นทางบินไปยังเมืองใหญ่อย่างโตเกียว (Tokyo) โอซาก้า (Osaka) นาโกย่า (Nagoya) และซัปโปโร (Sapporo)

ภายในสนามบินมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว Free Wi-Fi เคาน์เตอร์รถเช่า ตู้ล็อคเกอร์ฝากสัมภาระ รวมถึงร้านอาหาร และร้านขายของฝากอีกมากมาย สามารถหาทาน หรือซื้อเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดของจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ได้เช่น อิโมะนิ (Imoni) ซุปเผือกญี่ปุ่น และเนื้อสัตว์ต้มในนาเบะ หรือขนมทามะ คอนยักกุ (Tama Konnyaku) ขนมรูปทรงกลมสีขาวทำจากบุกเสียบไม้ นำไปต้มกับโชยุและดาชิ ผิวนอกให้สัมผัสเหนียวนุ่ม มีรสเค็มกำลังดี คล้ายกับรสชาติของโอเด้ง