ขี่จักรยาน

ในฤดูร้อนของญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมนับเป็นช่วงที่เหมาะกับการขี่จักรยานเที่ยวชมทิวทัศน์ ท่ามกลางอากาศอันสดชื่นแจ่มใส

ประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นสวรรค์ของการขี่จักรยาน เนื่องจากมีเลนสำหรับจักรยานโดยเฉพาะและกฎจราจรที่ปลอดภัย แม้จะเป็นมือใหม่หัดขี่หรือนักท่องเที่ยวก็สามารถเพลิดเพลินกับการขี่จักรยานได้

ที่ญี่ปุ่นมีเส้นทางสำหรับขี่จักรยานกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ให้ได้สัมผัสกับความสนุกที่หลากหลายในสภาพแวดล้อมที่สวยงามแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยานเพื่อดื่มด่ำกับความงามธรรมชาติ หรือชมบรรยากาศในเมือง

กฎกติกามารยาททั่วไปในการขี่จักรยานที่ประเทศญี่ปุ่น
  • ห้ามนั่งซ้อนท้ายจักรยาน
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือในขณะขับขี่จักรยาน
  • กรุณาเปิดไฟขณะขี่จักรยานในเวลากลางคืน
  • งดการฟังเพลง ใช้โทรศัพท์ หรือกางร่มในขณะขับขี่จักรยาน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
Aomori Cycling Course
เส้นทางจักรยาน
  • Henashi Station
  • Ajigasawa Station
วิธีการเดินทาง
From Aomori
  • JR Aomori Station
  • JR Ouu Line 120 นาที
  • Higashi Noshiro Station
  • JR Gono Line 95 นาที
  • Henashi Station
From Akita
  • Akita Station
  • JR Ouu Line 60 นาที
  • Higashi Noshiro Station
  • JR Gono Line 95 นาที
  • Henashi Station

จังหวัดอะโอโมริ (Aomori) มีชื่อเสียงในเส้นทางสำหรับการขี่จักรยานที่หลากหลาย ให้ได้เพลิดเพลินกับ การปั่นท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม รวมทั้งแวะลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยในระหว่างทางที่ผ่านได้อีกด้วย เส้นทางขี่จักรยานที่มีชื่อเสียง อาทิ คาบสมุทรชิโมคิตะ ชายฝั่งมหาสุทรแปซิฟิก ลำธารโออิระเสะ และเส้นทางชายฝั่งตะวันตกที่เลียบทะเลญี่ปุ่น

เส้นทางจักรยานที่อยากแนะนำในช่วงฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม) คือ "เส้นทางซึกะรุทาง ชายฝั่งตะวันตก (Tsugaru West Coast)" ซึ่งจะเริ่มจากถนนสาย 101 ทางฝั่งตะวันตก สามารถเห็นได้ ทั้งวิวทะเลญี่ปุ่นที่อยู่ด้านหนึ่งและเทือกเขาชิระคะมิที่อยู่อีกด้านไปพร้อมกัน การได้ขี่จักรยานผ่านภูเขา และทะเลจะทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

เส้นทางชายฝั่งตะวันตกนี้จะครอบคลุมตั้งแต่สถานีรถไฟเฮนะชิ (Henashi Station) ไปยังสถานีอะจิกะสะวะ (Ajigasawa Station) แนะนำให้แวะที่ "เมืองฟุคะอุระ (Fukaura Town)" เพื่อลิ้มลองข้าวหน้าปลาทูน่าที่เพิ่งจับมาสดๆ จุดสุดท้ายคือ "เมืองอะจิกะสะวะ (Ajigasawa Town)" ที่มีชื่อเสียงในเรื่องปลาหมึกตากแห้ง นำมาย่างร้อนๆ ถ้าใครชอบกินมาเมืองนี้ฟินแน่นอน


ข้อมูลเพิ่มเติม :
Fuji 5 Lakes Cycling Course
เส้นทางจักรยาน
  • Kawaguchiko
    Station
  • Oike Park
  • Kawaguchi
    Asama shrine
  • Oishi
    park
  • Iyashi no Sato
  • Kawaguchiko
    Station
วิธีการเดินทาง
  • Shinjuku Station
  • JR Chuo Main Line 60 นาที
  • Otsuki
    Station
  • Fujikyuko Line 50 นาที
  • Kawaguchiko Station

บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีทะเลสาบอยู่ 5 แห่ง อันได้แก่ คะวะกุจิโกะ (Kawaguchiko) ยะมะนะกะโกะ (Yamanakako) โมโตสุโกะ (Motosuko) โชจิโกะ (Shojiko) และไซโกะ (Saiko) ซึ่งทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยถนนเลียบทะเลสาบ จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาขี่จักรยานเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ ในบรรดาเส้นทางทั้งหมด "เส้นทางระหว่าง ทะเลสาบคะวะกุจิโกะ-ไซโกะ" เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นขี่จักรยานและเป็นที่นิยม เนื่องจากสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิพร้อมทั้งแวะจุดท่องเที่ยวได้หลายแห่ง

เส้นทางจักรยานดังกล่าวจะเริ่มจาก สถานีรถไฟคะวะกุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาไม่มีจักรยาน เพราะมีร้านให้เช่าจักรยานอยู่หลายแห่งในบริเวณใกล้สถานี คุณสามารถใช้เวลาเลือกจักรยานที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางของคุณได้เลย

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเส้นทางจักรยานนี้ เช่น "ศาลเจ้าคะวะกุจิ อะซะมะ (Kawaguchi Asama Shrine)" ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรม สามารถขี่จักรยานไปถึงได้เมื่อผ่านบริเวณทะเลสาบคะวะกุจิโกะ อีกหนึ่งสถานที่น่าแวะ คือ "พิพิธภัณฑ์คะวะกุจิโกะ มิวสิค ฟอร์เรส (Kawaguchiko Music Forest Museum)" ที่รวบรวมเครื่องบรรเลงดนตรีอัตโนมัติไว้มากมาย อีกทั้งมีสวนซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย หากเดินทางมาด้วยจักรยานหรือรถยนต์สะดวกมากๆ สามารถแวะได้เลย

จุดหมายถัดไปคือ "สวนโออิชิ (Oishi Park)" ที่เห็นทั้งภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะได้พร้อมๆกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมสวนแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดที่ต้องแวะมาเพื่อถ่ายรูปหรือชมดอกไม้ตามฤดูกาล ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวมีความสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นก็สามารถเที่ยวสำรวจรอบๆทะเลสาบไซโกะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "หมู่บ้านอิยาชิ โนะ ซาโตะ (Iyashi no Sato)" ที่เต็มไปด้วยบ้านแบบโบราณดั้งเดิมโดยมีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง


ข้อมูลเพิ่มเติม :
Kyoto City Cycling Course
เส้นทางจักรยาน
  • Kyoto
    Station
  • Nishi Honganji
    Temple
  • Takase river
  • Miyagawa
    cho
  • Kenninji
    Temple
  • Hanami-koji
  • Yasaka-jinja
    Shrine
  • Heian-jingu
    Shrine
  • Kyoto
    Station
วิธีการเดินทาง
From Aomori
  • Tokyo Station
  • JR Tokaido Shinkansen 160 นาที
  • Kyoto Station
From Osaka
  • Shin Osaka Station
  • JR Tokaido Shinkansen 15 นาที
  • Kyoto Station

เกียวโตมีวัดและศาลเจ้ามากมายให้เยี่ยมชม รวมทั้งตรอกซอกซอยต่างๆที่ให้ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอันเก่าแก่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับการขี่จักรยานท่องเที่ยว เนื่องจากมีทางจักรยานที่เรียบ ไม่ค่อยมีทางลาดชัน และยังมีร้านให้เช่าจักรยานจำนวนมาก เกียวโตจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเส้นทางขี่จักรยานที่ง่ายและสะดวก

เกียวโตมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ 5 บริเวณ อันได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station Area) บริเวณฮิกาชิยามะ (Higashiyama Area) บริเวณปราสาทนิโจ (Nijo Castle Area) บริเวณถนนคินุคะเกะ (Kinukake Street) และบริเวณอาราชิมายะ (Arashiyama Area)

หากขี่จักรยานจากสถานีรถไฟเกียวโตไปยังบริเวณฮิกาชิยามะ ระหว่างทางที่ผ่านจะได้พบกับวัดและศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง อาทิ วัดนิชิ-ฮนกันจิ (Nishi-Honganji Temple) วัดเคนนินจิ (Kenninji Temple) ศาลเจ้ายาซากะ-จินจะ (Yasaka-jinja Shrine) ศาลเจ้าเฮอัน-จิงกู (Heian-jingu Shrine) และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ยังสามารถแวะที่ตรอกมิยากาวะ-โช (Miyagawa-cho) หรือตรอกฮานามิ-โคจิ (Hanami-koji) ในย่านกิอง (Gion) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องไมโกะและเกอิชา และเรียงรายไปด้วยร้านน้ำชาโบราณซึ่งรูปทรงอาคารล้วนเป็นแบบเกียวโตดั้งเดิม นับเป็นจุดแนะนำที่ไม่ควรพลาดถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หรือจะแวะพักที่ริมแม่น้ำทาคาเสะ (Takase River) ที่เต็มไปด้วยร้านคาเฟ่เก๋ๆมากมายให้ได้ผ่อนคลายจากการเดินทาง

ที่เกียวโตสามารถขี่จักรยานเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำให้มาช่วงฤดูร้อนซึ่งมีสภาพอากาศเหมาะสำหรับขี่จักรยานได้อย่างเพลิดเพลิน


ข้อมูลเพิ่มเติม :
Copyright Japan National Tourism Organization All Rights Reserved.