©︎ City of Sapporo
©︎ JNTO
สำหรับผู้ที่เคยได้มีโอกาสลิ้มรสไวน์หรือเหล้าองุ่นของญี่ปุ่นมาแล้วคงจะทราบดีว่าไวน์ญี่ปุ่นนั้นมีรสชาติล้ำเลิศและเข้ากันได้ดีมากกับอาหารญี่ปุ่น ตามคำกล่าวที่ว่า “ไวน์และอาหารที่ผลิตขึ้นในท้องถิ่นเดียวกันจะมีรสชาติที่เข้ากันได้ดี”
เที่ยวชม “โรงบ่มไวน์” ให้สนุกลึกซึ้งได้มากกว่าแค่ชิมไวน์
การเที่ยวโรงบ่มไวน์ให้สนุกนั้น นอกจากการชิมไวน์แล้วก็ยังมีกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่
- เยี่ยมชมโรงบ่มไวน์และโรงเก็บไวน์
- ชมพิพิธภัณฑ์ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้เกี่ยวกับไวน์
- เดินเล่นในไร่องุ่นและเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
- เอร็ดอร่อยกับเมนูเด็ดในร้านอาหารและสนุกสนานกับการช้อปปิ้งของฝาก
โรงบ่มไวน์แต่ละแห่งมักมีลักษณะเด่นอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป กิจกรรมข้างต้นนั้นเป็นเพียงกิจกรรมบางส่วนที่เราสามารถเพลิดเพลินได้ โดยแต่ละแห่งก็เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป จึงควรตรวจเช็คข้อมูลของแต่ละสถานที่ไว้ล่วงหน้าก่อนไป (โรงบ่มไวน์บางแห่งอาจไม่มีให้บริการทดลองชิมไวน์) แหล่งผลิตไวน์ใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นจะอยู่ที่จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นต้น ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรงบ่มไวน์หลัก ๆ และโรงบ่มที่เน้นไวน์ทางใต้รสชาติแปลกใหม่รวม 5 แห่งด้วยกัน
©︎ City of Sapporo
©︎ City of Sapporo
“ฮัคเคนซัง ไวเนอรี่ (Hakkenzan Winery)” ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฮัคเคน (Mt. Hakken) แถบชานเมืองซัปโปโร (Sapporo City)เป็นโรงบ่มไวน์ค่อนข้างใหม่ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 2011 มีจุดเด่นให้สังเกตเห็นง่าย คืออาคารโรงบ่มไวน์สีแดงโดดเด่นอยู่ท่ามกลางไร่องุ่น ผู้มาเยือนที่นี่สามารถทดลองชิมไวน์หลากชนิดพลางเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้จากจุดชมวิวบนระเบียง ใกล้ๆ กันนั้นมีสนามกอล์ฟและสนามขี่ม้า และหากขับรถออกไปราว 10 นาทีก็จะถึงโจซังเคอนเซ็น (Jozankei Onsen) ให้ได้เพลิดเพลินกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น นอกเหนือไปจากโรงบ่มไวน์ได้อีกด้วย
รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม
ที่อยู่ | 194-1 Toyama, Minami-ku, Sapporo-shi, Hokkaido |
---|---|
แผนที่ | |
การเดินทาง | จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟสาย Subway Namboku Line ไปลงที่สถานี Makomanaiใช้เวลา 24 นาที จากนั้นขึ้นแท็กซี่ไปอีก 20 นาที |
เวลาทำการ | 09.30-17.00 น. |
ระยะเวลาทำการ | ตลอดปี |
วันหยุด | หยุดทุกวันจันทร์ ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม |
ค่าใช้จ่าย | ฟรี |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | http://hakkenzanwine.com/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) | http://www.hakkenzanwinery.com/Hakkenzanwinery%20Englishpage.htm http://jozankei.jp/en/hakkenzan-winery/325 |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) | – |
©︎ Pixta
©︎ PhotoAC
จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นจังหวัดที่มีช่วงกลางวันที่แดดส่องยาวนานและมีพื้นที่อุดมด้วยดินระบายน้ำได้ดีอยู่หลายแห่ง จึงเป็นจังหวัดแรกในญี่ปุ่นที่สามารถเพาะปลูกองุ่นสายพันธุ์ยุโรปสำหรับทำไวน์ได้สำเร็จ ไวน์จากจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นไวน์ที่มีชื่อเสียง และในจังหวัดก็มีโรงบ่มไวน์อยู่หลายแห่ง พื้นที่ ๆ มีโรงบ่มไวน์อยู่รวมกันหลายแห่งนี้เรียกรวมว่า “ชินชูไวน์วัลเลย์ (Shinshu Wine Valley)” ซึ่งมีทั้งหมด 4 พื้นที่ด้วยกัน และทุกพื้นที่ล้วนมีโรงบ่มไวน์ที่เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมโรงบ่มได้ และโรงบ่มไวน์บางแห่งก็มีมุมขายของฝากที่ระลึกอย่างขนมหรือแยมที่ผลิตจากไวน์ให้ได้หาซื้อด้วยเช่นกัน
1. ชิคุมะงะวะ ไวน์วัลเลย์ (Chikumagawa Wine Valley), เมืองนะงะโนะ (Nagano City) / เมืองโทมิ (Tomi City) /หมู่บ้านทะคะยะมะ (Takayama Village) และอื่นๆ
ที่แห่งนี้มีสภาพภูมิอากาศและคุณภาพของดินที่เหมาะกับการปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์ อย่างเช่นพันธุ์เมอร์โลต์ (Merlot) ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) คาเบอร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon) และปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) เป็นต้น ปัจจุบันมีโรงบ่มไวน์เอกชนเล็กๆ เพิ่มขึ้นด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับโรงบ่มไวน์แต่ละแห่งในชิคุมะงะวะ ไวน์วัลเลย์ :
http://www.nagano-wine.jp/english/visit/chikumagawa.php
2. เจแปนแอลป์ ไวน์วัลเลย์ (Japan Alps Wine Valley), เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto City) / เมืองอะซุมิโนะ (Azumino City)
พื้นที่แถบนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นที่รุ่งเรืองมาแต่ครั้งอดีต ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto City) ไปจนถึงเมืองอะซุมิโนะ (Aumino City) เน้นปลูกองุ่นพันธุ์ที่นิยมใช้ผลิตไวน์อย่าง ไนอาการ่า (Niagara) คองคอร์ด (Concord) และเดอลาเวีย (Delavia) รวมถึงองุ่นที่นิยมทานเป็นผลไม้อย่างพันธุ์เคียวโฮ (Kyoho) เป็นต้น นอกจากนี้ในปัจจุบันยังปลูกองุ่นสายพันธุ์ยุโรปอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับโรงบ่มไวน์แต่ละแห่งใน เจแปนแอลป์ ไวน์วัลเลย์ :
http://www.nagano-wine.jp/english/visit/nihonalps.php
3. คิเคียวงะฮะระ ไวน์วัลเลย์ (Kikyogahara Wine Valley), เมืองชิโอะจิริ (Shiojiri City)
เมืองชิโอะจิริ (Shiojiri City) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโรงบ่มไวน์จำนวนมาก ตั้งแต่โรงบ่มไวน์เก่าแก่ไปจนถึงโรงบ่มไวน์รูปแบบใหม่ทันสมัย เป็นพื้นที่เพาะปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ตั้งแต่ ไนอาการ่า (Niagara) และคองคอร์ด (Concord) ไปจนถึงพันธุ์ยุโรปอย่างเมอร์โลต์ (Merlot) และชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) นอกจากนี้ในวันที่ 19-20 พฤษภาคมเป็นเวลา 2 วันจะมีการจัดงาน “เทศกาลชิโอะจิริไวเนอรี่ (Shiojiri Winery Festa)” ขึ้นที่ไวน์สเตชั่นหน้าสถานีรถไฟ JR ชิโอะจิริ (JR Shiojiri Station) ซึ่งเป็นเทศกาลที่นักชิมไวน์ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับโรงบ่มไวน์แต่ละแห่งใน คิเคียวงะฮะระ ไวน์วัลเลย์ :
http://www.nagano-wine.jp/english/visit/kikyogahara.php
4. เท็นริวงะวะ ไวน์วัลเลย์ (Tenryugawa Wine Valley), หมู่บ้านมิยะดะ (Miyada Village) / เมืองมัตสึคะวะ (Matsukawa Town)
บริเวณลุ่มแม่น้ำเท็นริวงะวะ (Tenryu-gawa River) ซึ่งไหลผ่านพื้นที่แอ่งกระทะที่แวดล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์กลางและเทือกเขาแอลป์ใต้ เป็นบริเวณที่ดินระบายน้ำได้ดี เหมาะที่สุดสำหรับการปลูกองุ่น ซึ่งนอกจากจะปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์สายพันธุ์จากยุโรปอย่างเมอร์โลต์ (Merlot) และชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) แล้ว ก็ยังผลิตไวน์จากองุ่นสายพันธุ์ญี่ปุ่นอย่างยะมะบุโด (Yamabudo) อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับโรงบ่มไวน์แต่ละแห่งใน เท็นริวงะวะ ไวน์วัลเลย์ :
http://www.nagano-wine.jp/english/visit/tenryugawa.php
©︎ Yamanashi Tourism Organization
©︎ flickr / ©︎ Ash Miya
©︎ Yamanashi Tourism Organization
คัตสึนุมะ บุโดโนะโอกะ (KatsunumaBudo no Oka)
แถบพื้นที่คัตสึนุมะ (Katsunuma) ในจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) คือดินแดนแห่งไร่องุ่นกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยโรงบ่มไวน์มากถึง 36 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคอร์สเยี่ยมชมโรงบ่ม และสามารถทดลองชิมไวน์ที่เพิ่งบ่มเสร็จใหม่ๆ ได้ที่บริเวณร้านค้าภายใน ในที่นี้เราจะเดินเที่ยวชมโรงบ่มไวน์กัน โดยเริ่มต้นจากสถานีรถไฟคัตสึนุมะบุโดเคียว (Katsunuma-Budokyo) บนเส้นทางรถไฟสายชูโอ (Chuo Line) ของบริษัท JR
อย่างที่ “ฮะระโมะไวเนอรี่ (Haramo Winery)” ซึ่งเดินไปจากสถานีรถไฟประมาณ 20 นาทีนั้น เป็นโรงบ่มไวน์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยอาคารแบบบ้านเก่าแก่ และมีบริการให้ทดลองชิมไวน์หลากชนิดได้ฟรี ซึ่งโรงบ่มไวน์แต่ละแห่งก็จะมีระบบที่แตกต่างกันไป และบางที่อาจจะต้องซื้อบัตรชิมไวน์ก่อน นอกจากนี้ที่ “คัตสึนุมะ บุโดโนะโอกะ (Katsunuma Budo no Oka)” ซึ่งหมายถึงเนินต้นองุ่นแห่งคัตสึนุมะนั้น นอกจากจะมีบริการห้องพักสำหรับผู้ที่ต้องการพักแรมที่นี่แล้ว ก็ยังมีร้านอาหารที่สามารถเอร็ดอร่อยไปกับเมนูที่ปรุงด้วยไวน์ และในส่วนของร้านค้าก็ยังมีไวน์หลากชนิดและขนมที่ผลิตโดยใช้ไวน์เป็นส่วนผสมไว้ให้ได้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย
รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม
ที่อยู่ |
JR Katsunum-Budokyo Station Tourist Information Center3052 Hishiyama, Katsunuma-cho, Koshu-shi, Yamanashi |
---|---|
แผนที่ | |
การเดินทาง | จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Chuo Line Rapid ไปลงที่สถานี Shinjuku ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นต่อรถไฟ JR Chuo Line Limited Express ไปลงที่สถานี Otsuki ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที แล้วเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟ Chuo Main Line Local ไปลงที่สถานี Katsunuma-Budokyo ใช้เวลา 25 นาที |
เวลาทำการ | 09:00 – 16:00 น. |
ระยะเวลาทำการ | ตลอดปี |
วันหยุด | เปิดทำการตลอดปีไม่มีวันหยุด (เว้นช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม) |
ค่าใช้จ่าย | ฟรี |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | http://www.koshu-kankou.jp/fruits-wine.html |
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ) | https://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1110_winery.html |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) | – |
©︎ Kurume Convention
©︎ Kurume Convention
©︎ Kurume Convention
©︎ toshifukuoka / ©︎ flickr
“เคียวโฮไวเนอรี่ (Kyoho Winery)” คือโรงบ่มไวน์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองคุรุเมะในจังหวัดฟุคุโอกะ (Kurume City, Fukuoka) เป็นโรงบ่มไวน์ที่ผู้มาเที่ยวชมจะได้ทดลองชิมและหาซื้อไวน์ที่ให้รสชาติอันชุ่มฉ่ำขององุ่นพันธุ์เคียวโฮ (Kyoho) อีกทั้งโรงบ่มไวน์นี้ตั้งอยู่กลางเทือกเขามิโน (Mino Mountain Range) สามารถมองลงมาเห็นที่ราบกว้างใหญ่ไพศาลได้ ภายในบริเวณพื้นที่กว้างขวางมีโรงบ่มไวน์ โรงเก็บไวน์ใต้ดิน ร้านค้า และร้านอาหารกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ มีทางเดินเชื่อมที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ให้เดินอย่างเพลิดเพลินร่มรื่น แนะนำว่าควรลองชิมอาหารและไวน์แสนอร่อยในร้านอาหารที่นี่ด้วย
รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม
ที่อยู่ | 246-1 Masuoda, Tanushimaru-machi, Kurume-shi, Fukuoka |
---|---|
แผนที่ | |
การเดินทาง | จากสถานีสถานีฮากาตะ (Hakada) โดยสารรถไฟ JR Kagoshima Main Line ไปลงสถานีคุรุเมะ (Kurume) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Kyudai Main Line จากสถานีคุรุเมะ (Kurume) ไปลงสถานี ทะนุชิมะรุ (Tanushimaru) ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นโดยสารแท็กซี่ ใช้เวลา 5 นาที (หากเดินใช้เวลา 40 นาที) |
เวลาทำการ | 09.00 – 17.00 น. |
ระยะเวลาทำการ | ตลอดปี |
วันหยุด | เปิดทำการตลอดปีไม่มีวันหยุด |
ค่าใช้จ่าย | ฟรี |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | http://www.kyoho-winery.com |
เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ) | http://www.crossroadfukuoka.jp/en/event/?mode=detail&id=4000000000983 |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) | – |
©︎ OCVB
©︎ JNTO
ภายในบริเวณ “สวนสับปะรดนาโกะ (Nago Pineapple Park)” ในเมืองนาโกะจังหวัดโอกินาวะ (Nago City, Okinawa) มีโรงบ่มไวน์ที่ใช้สับปะรดเป็นวัตถุดิบด้วย นอกจากไวน์ที่ใช้เพียงสับปะรดเท่านั้นเป็นวัตถุดิบแล้ว ก็ยังมีไวน์ที่หมักจากส้มซีกัวซ่า (Shiikwasa / Citrus Depressa) ไวน์องุ่น และยังมีไวน์ที่ผสมระหว่างสับปะรดและกระเจี๊ยบอีกด้วย
ภายในสวนลักษณะคล้ายป่าแห่งนี้มี “รถสับปะรด” ที่จะเคลื่อนที่ไปอัตโนมัติเพื่อพาเราเที่ยวชมรอบ ๆ บริเวณสวน และยังมีมุมร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมและเครื่องดื่มสูตรพิเศษจากสับปะรดให้ได้เลือกชิมเลือกช้อปกันอีกด้วย
รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม
ที่อยู่ |
Nago Pineapple Park1195 Biimata, Nago-shi, Okinawa |
---|---|
แผนที่ | |
การเดินทาง | จากสนามบิน Naha Airport ขับรถขึ้นทางด่วนไปใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยออกจากสนามบินใช้ทางหลวงหมายเลข 331 ถึงทางออก Tomigusuku–Nakachi IC เข้าสู่ Naha Airport Expressway เมื่อถึงแยก Nishihara JCT เข้า Okinawa Expressway แล้วขับไปจนสุดที่ทางออก Kyoda IC จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 58 ขึ้นเหนือมุ่งหน้าไปทาง Nago แล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนจังหวัดหมายเลข 84 และมุ่งหน้าสู่สำนักงานใหญ่ไปประมาณ 2 กิโลเมตร จากแยก Kyoda IC ระยะทางรวมประมาณ 10 กิโลเมตร |
เวลาทำการ | 09:00 – 18:00 น. |
ระยะเวลาทำการ | ตลอดปี |
วันหยุด | ไม่มี |
ค่าใช้จ่าย | ผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) 850 เยน นักเรียนมัธยมต้น 600 เยน, เด็กประถม 450 เยน เด็กต่ำกว่าชั้นประถม ฟรี |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | http://www.nagopain.com/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) | http://www.nagopineapplepark.com/english/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) | – |