แนะนำเส้นทางเดินป่าในฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่น

เส้นทางสายแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ
(Tateyama Kurobe Alpine Route)
trekking-in-spring-01

©︎ Tateyama Kurobe Alpine Route

ฮะชิมันไต
(Hachimantai)
trekking-in-spring-02

©︎ Pakutaso / ©︎ Ameman

สนใจออกเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มแบบใกล้ชิดกันไหมคะ? ในญี่ปุ่นมีสถานที่ให้ได้เพลิดเพลินกับการเดินป่าท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติแบบง่ายๆ ในชุดสบายๆ อยู่ทุกหนแห่งตั้งแต่เหนือจรดใต้เลยทีเดียว และในครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสถานที่เดินป่าแนะนำสำหรับฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ที่สามารถเดินทางไปได้สะดวกแม้จะเดินทางกันแบบครอบครัวก็ตาม

ทะเลสาบทั้ง 5 ของชิโระโทะโกะ (Shiretoko Five Lakes), ฮอกไกโด (Hokkaido)

trekking-in-spring-03

©︎ Shiretoko Shari-cho Tourist Association

trekking-in-spring-04

©︎ Shiretoko Shari-cho Tourist Association

trekking-in-spring-05

©︎ Shiretoko Shari-cho Tourist Association

หากจะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติชิเระโทะโกะ (Shiretoko National Park) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮอกไกโด (Hokkaido) มีเส้นทางเดินชมป่าที่แนะนำคือ ทะเลสาบทั้ง 5 ของชิเระโทะโกะ (Shiretoko Five Lakes) มรดกโลกทางเหนือสุดของญี่ปุ่น ที่งดงามราวกับความฝัน ท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติโดยรอบคือป่าดึกดำบรรพ์อันกว้างใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยเส้นทางเดินป่าเที่ยวชมทะเลสาบทั้ง 5 ของชิเระโทะโกะนั้นมีอยู่ 2 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่

“เส้นทางสะพานไม้โคคะโมะคุโด (Kokamoku-do Course)” และ “เส้นทางเดินเล่นภาคพื้นดิน” ซึ่งจะต้องทำการลงทะเบียนก่อนที่ชิเระโทะโกะฟิลด์เฮาส์ (Shiretoko Field House)

สำหรับเส้นทางสะพานไม้โคคะโมะคุโด (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ไปกลับคิดเป็นระยะทาง 1.6 กิโลเมตรนั้นค่อนข้างจะเดินง่าย สามารถนำรถเข็นเด็กขึ้นไปใช้บนสะพานได้ จึงเหมาะสำหรับครอบครัวที่พาเด็กเล็กไปด้วย อีกทั้งทิวทัศน์พาโนรามาแสนกว้างใหญ่ครอบคลุมจากเทือกเขาชิเระโทะโกะไปจนถึงทะเลโอค็อตสก์ (Sea of Okhotsk) ที่สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวปลายสุดริมทะเลสาบนั้นก็งดงามชวนตะลึงเป็นอย่างมาก

แต่หากอยากสัมผัสกับธรรมชาติให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ขอให้ลองใช้ เส้นทางเดินเล่นภาคพื้นดิน (มีค่าใช้จ่าย) ซึ่งเป็นการเดินท่องป่าดึกดำบรรพ์ โดยก่อนออกเดินท่องป่าจะมีการบรรยายให้ฟังล่วงหน้า และเส้นทางนี้คุณจะได้เที่ยวชม ทะเลสาบทั้ง 5 ของชิเระโทะโกะพร้อมๆ กันนั้นก็จะได้เห็นวิถีชีวิตจริงๆ ของเหล่าสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิดรวมถึงรอยเล็บของหมีสีน้ำตาล (Brown Bear) , จิ้งจอกแดง (Red Fox) กับลูกน้อย และอีกมากมาย

นอกจากนี้ใกล้ๆ กันยังมีจุดที่สามารถเดินเล่นชมวิวสวยๆ อย่าง น้ำตกร้อนคะมุยวักกะ (Kamuiwakka Hot Falls) และ ประภาคารอุโทะโระซะกิ (Utorosaki Lighthouse) อีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Shiretoko Field House

Iwaubetsu, Onnebetsu-mura, Shari-cho, Shari-gun, Hokkaido

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟ JR Limited Express ไปลงที่สถานี Abashiri ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อรถไฟสาย Senmo Main Line ไปลงที่สถานี Shiretoko-Shari ใช้เวลา 45 นาที แล้วต่อรถบัส ไปลงที่ Utoro ใช้เวลา 45 นาที แล้วต่อรถบัส ไปลงที่ Shiretoko Goko Lakes ใช้เวลา 25 นาที
เวลาทำการ เวลาเปิดทำการสำนักงาน :
วันเปิดอุทยาน – 20 ตุลาคม : 07:30 น.
21 ตุลาคม – วันปิดอุทยาน : 08:30 น.
เวลาปิดทำการสำนักงาน :
วันเปิดอุทยาน – 9 พฤษภาคม : 18:00 น.
10 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม : 18:30 น.
1 สิงหาคม – 31 สิงหาคม : 18:00 น.
1 กันยายน – 15 กันยายน : 17:30 น.
16 กันยายน – 30 กันยายน : 17:00 น.
1 ตุลาคม – 20 ตุลาคม : 16:30 น.
21 ตุลาคม – วันปิดอุทยาน : 16:00 น.
ระยะเวลาทำการ กำหนดเปิดอุทยาน 20 เมษายน – 8 พฤศจิกายน 2019
วันหยุด เปิดทำการทุกวันไม่มีวันหยุดในช่วงระยะเวลาทำการ
ค่าใช้จ่าย ค่าเข้าฟังบรรยายสำหรับเส้นทางเดินเล่นบนพื้นดิน :
ผู้ใหญ่ 250 เยน
เด็ก (แรกเกิด – เด็กประถม) 100 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.goko.go.jp/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.goko.go.jp/multilingual_eng/index.html
https://www.shiretoko.asia/world/shiretoko_goko.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/model-route/self-travel-5-to-7-days/hokkaido-scenery/4th-shiretoko-shari/

ฮะชิมันไต (Hachimantai), อิวะเตะ (Iwate)

trekking-in-spring-06

©︎ Iwate Prefecture Tourism Association

trekking-in-spring-07

©︎ Pakutaso / ©︎ Ameman

trekking-in-spring-08

©︎ flickr / ©︎ TANAKA Juuyoh

ฮะชิมันไต (Hachimantai) ครอบคลุมพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดอะคิตะ (Akita) และจังหวัดอิวะเตะ (Iwate) เป็นสถานที่แนะนำสำหรับนักเดินป่ามือใหม่ โดย เส้นทางสู่จุดชมวิวบึงฮะชิมันนุมะและบึงกะมะนุมะ (Hachiman-numa Pond / Gama-numa Pond Observatory Trekking Course) เป็นเส้นทางเดินป่ายอดนิยมที่มีระยะทางไปกลับรวมกันราว 1.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 60 นาที บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำมีถนนสำหรับเดินสร้างไว้เป็นอย่างดี และมีบึงหรือทะเลสาบขนาดเล็กที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ระหว่างทาง ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมสามารถเดินชมพรรณไม้บนภูเขาสูงหรือที่เรียกว่าพืชอัลไพน์ (Alpine Plants) แสนน่ารักและนกป่าพันธุ์หายากได้อย่างเพลิดเพลิน จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ บึงฮะชิมันนุมะ (Hachiman-numa Pond) ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและรายล้อมด้วยป่าดึกดำบรรพ์ของต้นอะโอโมริโทะโดะมัตสึ (Aomori Todomatsu) และพื้นที่ชุ่มน้ำ รวมถึง บึงกะมะนุมะ (Gama-numa Pond) ที่ทอประกายสีฟ้างดงามพร้อมด้วยภูเขาอิวะเตะ (Mt. Iwate) อันยิ่งใหญ่ตระการตาได้ทั่ว และหากได้ไปเยือนในช่วงเดือนพฤษภาคมก็ไม่ควรพลาดชมดวงตามังกร (Dragon Eye) ที่จะปรากฏให้เห็นบนผิวน้ำของบึงกระจกคะงะมินุมะ (Kagami-numa Pond) ด้วย และที่จะลืมไม่ได้เด็ดขาดเลยก็คือของอร่อยๆ อย่าง เก็นตะคะเร-นะนิวะอุด้ง (Genta Curry Naniwa Udon) เมนูยอดนิยมของเรสต์เฮาส์ยอดเขาฮะชิมันไต (Hachimantai-sancho Resthouse) นั่นเอง

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Hachiman-numa Pond

Hachimantai-shi, Iwate

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ไปลงที่สถานี Morioka ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นโดยสารรถ Iwate Kenpoku Bus ไปลงที่ Hachimantai Sancho ใช้เวลา 110 นาที แล้วเดินอีก 25 นาที
เวลาทำการ 09:00 – 17:00 น. (ปิดการสัญจรในตอนเย็นถึง 16:30 น.)
ระยะเวลาทำการ กลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายน
วันหยุด เปิดทำการทุกวันไม่มีวันหยุดในช่วงระยะเวลาทำการ
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.env.go.jp/park/towada/hachimantai/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.env.go.jp/park/towada/hachimantai/en/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

ภูเขามิทะเกะ (Mt. Mitake), โตเกียว (Tokyo)

trekking-in-spring-09

©︎ TCVB

trekking-in-spring-10

©︎ PhotoAC

ย่านโอะคุทะมะ (Okutama) นั้นงดงามด้วยทัศนียภาพป่าเขาลึกชวนให้สงสัยว่านี่ยังอยู่โตเกียว (Tokyo) แน่หรือเปล่า มีภูเขามิทะเกะ (Mt. Mitake) เป็นสถานที่เดินป่ายอดนิยมในหมู่สุภาพสตรี สามารถเดินเที่ยวได้ตั้งแต่นักเดินป่ามือใหม่จนถึงระดับโปร และเพลิดเพลินได้ในทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิซึ่งอุณหภูมิไม่แปรปรวนนั้นนับว่าเหมาะสำหรับการปีนเขาเดินป่าเป็นอย่างยิ่ง สามารถขึ้นเคเบิลคาร์ผ่านเขาสูงชันไปรวดเดียวถึงบริเวณยอดเขาสูง 929 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อถึงสถานีอย่าลืมแวะชมวิวสวยๆ ที่ ที่ราบมิทะเกะไดระ (Mitake-daira) ด้านข้างสถานี ซึ่งหากวันไหนอากาศดีก็จะมองเห็นไปได้ไกลถึงสกายทรี (Skytree) ใจกลางโตเกียว (Tokyo) เลยทีเดียว และหากเดินไปตามถนนสู่ศาลเจ้าผ่าน ถนนมะจิบะโดริ (Machiba-dori Street) ที่เรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมายไปประมาณ 30 นาทีก็จะถึง ศาลเจ้ามุซะชิมิทะเกะ (Musashi Mitake Shrine) อันเป็นที่สถิตของเทพเจ้าสุนัข แนะนำให้เข้าไปนมัสการที่องค์ศาลเจ้าหลักเพื่อเสริมดวงชะตาให้เข้มแข็ง

สำหรับเส้นทางชมสวนหินซึ่งเป็นถนนขึ้นเขาโดดเด่นด้วยทิวทัศน์งดงามนั้นเป็นเส้นทางที่ใช้เวลาเดินครึ่งวัน ว่ากันว่าหากได้เดินไปท่ามกลางป่าเขาเงียบสงบ ชมความงามของน้ำตกที่ช่วยชะล้างจิตใจให้ใสสะอาดและโขดหินที่อุดมไปด้วยตะไคร่น้ำจากลำธารท่ามกลางแมกไม้ก็จะเป็นการดีท็อกซ์ล้างพิษไปในตัวอีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Musashi Mitake Shrine

176, Mitakesan, Ome-shi, Tokyo

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Chuo (Central) Line ไปลงที่สถานี Ome ใช้เวลา 73 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ JR OME LINE  for OKU-TAMA ไปลงที่สถานี Mitake ใช้เวลา 19 นาที จากนั้นโดยสารรถบัส ไปยังสถานี Mitake cablecar เพื่อขึ้นเคเบิลคาร์ไปลงที่ Mitake-san ใช้เวลา 6 นาที
เวลาทำการ เวลาเดินรถเคเบิลคาร์
(Takimoto Station / Mitake-san Station ใช้ตารางเวลาเดียวกัน)
รถออกเที่ยวแรกของวัน : 07:30 น. / เที่ยวสุดท้ายของวัน 18:30 น.
ระยะเวลาทำการ ตลอดปี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ต่อเที่ยว :
ผู้ใหญ่ 590 เยน
เด็ก 300 เยน
ไปกลับ :
ผู้ใหญ่ 1,100 เยน
เด็ก 560 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.mt-mitake.gr.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.gotokyo.org/en/destinations/outlying-area/okutama-and-around/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/tama/

ภูเขาโอยะมะ (Mt. Oyama), คะนะงะวะ (Kanagawa)

SANYO DIGITAL CAMERA

©︎ flickr / ©︎ Hajime NAKANO

trekking-in-spring-12

©︎ PhotoAC

สำหรับใครที่วางแผนจะอยู่ในโตเกียว (Tokyo) เป็นเวลาหลายวันแต่ก็อยากจะท่องเที่ยวเดินป่าด้วย ขอแนะนำให้ไปที่ ภูเขาโอยะมะ (Mt. Oyama) ภูเขาทรงปิรามิดที่สวยงาม โดดเด่นด้วยความสูง 1,252 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็นดินแดนแห่งศรัทธาที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเดินไปตามเส้นทางเดินเขาเก่าแก่โบราณ สวยงามด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน หากขึ้นเคเบิลคาร์ที่โดดเด่นด้วยทิวทัศน์งดงามตามฤดูกาลก็จะสามารถขึ้นไปเที่ยวยัง วัดโอยะมะเดระ (Oyamadera Temple) ที่มีทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามจับตาและศาลเจ้าอะฟุริ (Afuri Shrine) ซึ่งเป็นศูนย์รวมศรัทธาแห่งโอยะมะมานานกว่า 2,000 ปีได้อย่างสะดวกสบาย และเมื่อเดินจากศาลเจ้าผ่านน้ำตกนิจู (Nifu Falls)ขึ้นไปยังเนินชมวิว หากอากาศดีฟ้าโปร่งก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) อีกด้วย นอกจากนี้ก็อย่าลืมแวะโคะมะซันโด (Komasando) ถนนสู่ศาลเจ้าที่เรียงรายไปด้วยเรียวกัง (Ryokan) และร้านขายของที่ระลึกมากมายเพื่อเลือกซื้อโอยะมะโคะมะ (Oyama Koma) ลูกข่างไม้สีสันสดใสกลับไปเป็นของฝาก และชิม เต้าหู้โอยะมะ (Oyama Tofu) ของอร่อยท้องถิ่นที่ทำจากน้ำในลำธารบนเขากันด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Oyama Cable Car Station

667, Oyama, Isehara-shi, Kanagawa

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Shinjuku โดยสารรถไฟ Odakyu Romance Car ไปลงที่สถานี Isehara ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นโดยสารรถ Kanagawa Chuo Kotsu Bus จากประตูทางออกทิศเหนือของสถานีรถไฟไปลงที่ป้าย Oyama Cable Car ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วเดินประมาณ 15 นาที
เวลาทำการ Oyama Cable Car Station (ขาขึ้น) / Afuri Shrine (ขาล่อง)
เที่ยวแรก : 09:00 น.
เที่ยวสุดท้าย (วันธรรมดา) : 16:30 น. (เสาร์อาทิตย์) : 17:00 น.
Oyama-dera (ขาขึ้น/ล่อง)
เที่ยวแรก : 09:02 น.
เที่ยวสุดท้าย (วันธรรมดา) : 16:32 น. (เสาร์อาทิตย์) : 17:02 น.
ระยะเวลาทำการ ตลอดปี
วันหยุด เปิดทำการตลอดปีไม่มีวันหยุด
ค่าใช้จ่าย Oyama Cable Car Station – Afuri Shrine
ต่อเที่ยว :
ผู้ใหญ่ 630 เยน
เด็ก 320 เยน
ไปกลับเวลาปกติ/ช่วงไฮซีซัน :
ผู้ใหญ่ 1,100 / 1,240 เยน
เด็ก 550 / 620 เยน
Oyama Cable Car Station / Afuri Shrine – Oyamadera
ต่อเที่ยว :
ผู้ใหญ่ 350 เยน
เด็ก 180 เยน
ไปกลับเวลาปกติ/ช่วงไฮซีซัน :
ผู้ใหญ่ 600 / 680 เยน
เด็ก 300 / 340 เยน
*มีตั๋วโดยสารราคาพิเศษสุดคุ้ม “Tanzawa-Oyama Free Pass” จำหน่าย
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.odakyu.jp/oyama/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.odakyu.jp/english/sightseeing/tanzawa_oyama/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.odakyu.jp/thai/passes/tanzawa_oyama/

เส้นทางสายแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route), โทยามะ (Toyama)

trekking-in-spring-13

©︎ Tateyama Kurobe Alpine Route

SONY DSC

©︎ Tateyama Kurobe Alpine Route

trekking-in-spring-15

©︎ Tateyama Kurobe Alpine Route

เส้นทางสายแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) แห่งเทือกเขาแอลป์เหนือในจังหวัดโทยามะ (Toyama) ที่กำลังจะเปิดเส้นทางให้ไปเที่ยวกันได้ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2019 เป็นต้นไปนั้น ก็มีเส้นทางเดินเล่นแนะนำเช่นกัน โดยมีจุดสตาร์ทที่มุโระโดเทอร์มินัล (Murodo Terminal) อาคารคอมเพล็กซ์ซึ่งอยู่บนความสูง 2,450 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จากจุดนี้หากเลือกเส้นทางเดินเที่ยวสถานที่ยอดนิยมอย่าง สระมิคุริกะ (Mikuriga Pond) ก็จะสามารถเดินไปได้โดยสวมแค่รองเท้าผ้าใบเบาๆ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงต่อรอบ โดยมีการสร้างถนนสำหรับเดินเล่นไว้เรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยทิวทัศน์ของขุนเขาอันงดงามราวกับภาพถ่ายในโปสการ์ด

จาก จุดชมวิวสระมิคุริกะ (Mikuriga Pond Observatory) แนะนำให้ลองถ่ายรูปสระมิคุริกะรูปหัวใจ ที่เรียกได้ว่าเป็นทิวทัศน์ที่สวยที่สุดเป็นอันดับหนึ่งแห่งทาเตยามะ (Tateyama) เลยทีเดียว เดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมนกผู้รับใช้เทพเจ้าอย่าง นกไรโจ (Thunder Bird)อีกด้วย หลังจากเดินเล่นจนเหนื่อยแล้วก็แนะนำให้แวะแช่อนเซ็นที่มิคุริกะอิเคะอนเซ็น (Mikuriga-ike Onsen) ซึ่งเป็นอนเซ็นที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นเพื่อเรียกเหงื่อกันด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Murodo Terminal

Ashikuraji, Tateyama-cho, Nakaniikawa-gun, Toyama

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี Toyama ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถไฟ Toyama Chitetsu ไปลงที่สถานี Tateyama ใช้เวลา 65 นาที จากนั้นโดยสาร Tateyama Cable Car ไปลงที่สถานี Bijodaira Station ใช้เวลา 7 นาที จากนั้นโดยสารรถ Tateyama Kogen Bus for Murodo ไปลงที่ Murodo Terminal ใช้เวลา 50 นาที
เวลาทำการ 07:00 – 20:20 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า)
ระยะเวลาให้บริการรถบัส 15 เมษายน – 4 พฤศจิกายน
วันหยุด เปิดทำการทุกวันตลอดช่วงระยะเวลาให้บริการรถบัส
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.alpen-route.com/model_course/trekking/course03.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.alpen-route.com/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.alpen-route.com/th/
จดหมายข่าวอื่นๆ