ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของภูมิภาคคันไซ (Kansai) หรือคิงกิ (Kinki)

วากายะมะ (Wakayama)

คืนพลังให้กายและใจในดินแดนศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของญี่ปุ่น

tourist-highlights-kansai-kinki-01
tourist-highlights-kansai-kinki-02
tourist-highlights-kansai-kinki-03

วากายะมะ (Wakayama) งดงามทั้งทางธรรมชาติและในด้านที่เป็นจิตวิญญาณของญี่ปุ่น มีทั้งวัดเก่าแก่บนภูเขาโคยะ (Koyasan) เส้นทางแสวงบุญคุมะโนะโคะโด (Kumano Kodo) และแนวชายฝั่งที่งดงามตระการตา

วากายะมะ (Wakayama) เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของญี่ปุ่นที่ดึงดูดผู้แสวงบุญ ตั้งแต่เส้นทางแสวงบุญคุมะโนะโคะโด (Kumano Kodo) และวัดบนเขาโคยะ (Koyasan) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หรือผู้ที่ต้องการมาสัมผัสกับกิจกรรมอาบแดดบริเวณชายหาดที่งดงามที่หาดทรายสีขาวระยิบระยับอย่างหาดชิระฮะมะ (Shirahama Beach) นอกจากนี้ในตัวเมืองวากายะมะ (Wakayama) ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทที่น่าประทับใจ และยังมีราเม็งแสนอร่อยของท้องถิ่นที่มีสไตล์เป็นของตัวเองให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

 

ไม่ควรพลาด
  • บรรยากาศแสนสงบและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของวัดโบราณบนเขาโคยะ (Koyasan)
  • ปราสาทวากายะมะ (Wakayama Castle) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา
  • โขดหินที่เกิดขึ้นเองทางธรรมชาติซึ่งมองเห็นได้จากชายหาดที่งดงาม
  • ตามรอยเส้นทางแสวงบุญเก่าแก่คุมะโนะโคะโด (Kumano Kodo) ซึ่งทะลุผ่านป่าทึบที่ปกคลุมไปด้วยหมอก
ไฮไลท์ตามฤดูกาล
  • ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่อุณหภูมิที่กำลังดีและฝนตกน้อย จึงเหมาะสำหรับการเดินจาริกแสวงบุญไปตามเส้นทางคุมะโนะโคะโด (Kumano Kodo) และยังเป็นช่วงที่ควรค่าแก่การไปเยือนวัดคิมิอิเดระ (Kimiidera Temple) หนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่บานเร็วที่สุดในวากายะมะ (Wakayama) และภูมิภาคคันไซ (Kansai) ซึ่งมักจะบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน
  • ฤดูร้อน ผ่อนคลายกันที่ริมชายหาดอันงดงามเพื่อดื่มด่ำกับแสงแดดที่เจิดจ้าอย่างเต็มที่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมจนถึงกลางเดือนสิงหาคมท้องฟ้ายามค่ำคืนของวากายะมะ (Wakayama) จะเต็มไปด้วยการแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการ
  • ฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนใบไม้ในสวนของปราสาทวากายะมะ (Wakayama Castle) อันสง่างามจะกลายเป็นสีแดงสดใส และที่เมืองชินงู (Shingu) ก็จะมีการเฉลิมฉลองงานเทศกาลในท้องถิ่นช่วงต้นเดือนตุลาคมบริเวณแม่น้ำคุมะโนะ (Kumano River)
  • ฤดูหนาว ทำร่างกายให้อบอุ่นในอนเซ็นรีสอร์ทที่มีประวัติเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาและตามแนวชายฝั่ง พร้อมเพลิดเพลินไปกับส้มหวานฉ่ำของวากายะมะ (Wakayama) ได้ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) :https://www.japan.travel/en/destinations/kansai/wakayama/

นารา (Nara)

เมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่นซึ่งเป็นศูนย์รวมของเส้นทางแสวงบุญนารา วัดวาอารามเก่าแก่ ดอกซากุระแสนงดงาม และเจ้ากวางแสนน่ารัก

tourist-highlights-kansai-kinki-04
tourist-highlights-kansai-kinki-05
tourist-highlights-kansai-kinki-06

นารา (Nara) ที่ตั้งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ และสิ่งประดิษฐ์ในยุคแรกๆ ของญี่ปุ่น

นาราเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและศาสนาของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ ซึ่งเดินทางสะดวกสบายจากโอซาก้าและเกียวโต และยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าและวัดที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ตามสถานที่เหล่านี้ก็มักจะมีสวนดอกไม้ที่ปลูกไว้เพื่อเสริมทัศนียภาพให้สวยงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สวนนารา (Nara Park) ก็ยังเป็นเสมือนบ้านของเหล่ากวางแสนเชื่อง ที่เดินไปมากันอย่างอิสระซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) ที่อยู่ติดกันนั้นก็เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตลอดจนเส้นทางแสวงบุญสำคัญที่พาดผ่านบริเวณภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) ก็เป็นมรดกโลกและจุดชมดอกซากุระที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

 

ไม่ควรพลาด
  • วัดโบราณรวมถึงสิ่งปลูกสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่วัดโฮริวจิ (Horyuji Temple)
  • จาริกไปตามเส้นทางแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ และเดินเล่นไปตามถนนยามาโนะเบะ (Yamanobe-no-michi) ถนนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
  • สนุกกับการให้อาหารเจ้ากวางแสนเชื่องกว่า 1,000 ตัว ในสวนนารา (Nara Park)
ไฮไลท์ตามฤดูกาล
  • ฤดูใบไม้ผลิ ชมวิวดอกซากุระแสนงดงามที่ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) และชมความสวยงามของดอกอาซาเลียหรือกุหลาบพันปีบริเวณภูเขาคัทสึระงิ ( Katsuragi) หรือสนุกกับการปีนภูเขาวะคะคุสะ (Mt. Wakakusa) สุสานเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 ที่ถูกปกคลุมด้วยหญ้าเขียววจี
  • ฤดูร้อน คลายร้อนด้วยการเดินป่าสำรวจธรรมชาติที่ภูเขาคะซุงะ (Kasuga) หรือปีนเขาที่หุบเขามิตะไร (Mitarai Valley) ชมเทศกาลฤดูร้อนมากมายหลายงาน รวมถึงเทศกาลเทมเปียว (Tempyo Festival) และเทศกาลโอบ้ง (Obon) ที่ศาลเจ้าคะซุงะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine) และต้องไม่พลาดลิ้มรสโซเม็งเย็นๆ ช่วยดับร้อน
  • ฤดูใบไม้ร่วง เดินเล่นในสวนอิซุยเอ็น (Isuien Garden) หรือเยี่ยมชมศาลเจ้าและวัดวาอารามต่างๆ อาทิ วัดโอโนะจิ (Ohnoji Temple) วัดฮาเซเดระ (Hasedera Temple) ที่ขึ้นชื่อในฐานะเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญในช่วงฤดูใบไม้ร่วงด้วย
  • ฤดูหนาว ลองเดินย่ำบนหิมะในย่านชนบทที่เงียบสงบแล้วไปแช่ตัวในอนเซ็นให้สบาย เพลิดเพลินกับสาเกสักสองสามแก้วแล้วเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของญี่ปุ่นที่วัดและศาลเจ้าทั่วทั้งเมืองนารา

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) :https://www.japan.travel/en/destinations/kansai/nara/

เฮียวโงะ (Hyogo)

ชมปราสาทและชิมเนื้อโกเบ ณ ประตูสู่โอซาก้า

tourist-highlights-kansai-kinki-07
tourist-highlights-kansai-kinki-08
tourist-highlights-kansai-kinki-09

จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ที่ตั้งของปราสาทโบราณ เมืองท่าแสนคึกคัก และอนเซ็นที่มีชื่อเสียงชวนให้มาเยือน

บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของจังหวัดเฮียวโงะเป็นที่ตั้งของเมืองโกเบ (Kobe) เมืองท่าสำคัญซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศมายาวนาน และยังเป็นที่ตั้งของปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ซึ่งเป็นมรดกโลกอันยิ่งใหญ่ นอกจากนี้บนภูเขายังมีซากของปราสาททาเคดะ (Takeda Castle) หรือที่รู้จักกันในนาม “มาชูปิกชูของญี่ปุ่น”

สัมผัสประสบการณ์การแช่น้ำอนเซ็นแสนวิเศษที่อะริมะ อนเซ็น (Arima Onsen) หรือ คิโนะซะกิ อนเซ็น (Kinosaki Onsen) อนเซ็นที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และห้ามพลาดการลิ้มลองรสชาติของเนื้อโกเบแบบลายหินอ่อน และอะคะชิยากิ (Akashiyaki) เมนูประจำท้องถิ่นที่คล้ายกับทาโกะยากิไส้ปลาหมึกยักษ์

 

ไม่ควรพลาด
  • ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ปราสาทที่โดดเด่นและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
  • ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโกเบ (Kobe) ชมวิวที่สวยงามที่สุดจากหอคอยบริเวณท่าเรือและกระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ (Shin-Kobe Ropeway)
  • ซากปราสาททาเคดะ (Takeda Castle Ruins) หรือที่รู้จักกันในนาม “ปราสาทที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า”
  • คิโนะซะกิ อนเซ็น (Kinosaki Onsen) เมืองอนเซ็นรีสอร์ทยอดนิยมตลอดกาล
ไฮไลท์ตามฤดูกาล
  • ฤดูใบไม้ผลิ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกซากุระทั่วทั้งจังหวัดจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู และทัศนียภาพบริเวณโดยรอบปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ก็จะสวยงามน่าชมมากขึ้นเป็นพิเศษ ในช่วงนี้ยังจะได้เพลิดเพลินกับเทศกาลโกเบ (Kobe Festival) และสามารถชมงานเทศกาลเผาภูเขาประจำปีบริเวณที่ราบสูงโทโนะมิเนะ (Tonomine Highlands) ได้อีกด้วย
  • ฤดูร้อน ช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงขึ้นจากปกติเป็นเวลาสำหรับการผจญภัยและงานเทศกาลกลางแจ้ง เหมาะกับการมุ่งหน้าไปปีนภูเขาสัมผัสอากาศที่เย็น หรือจะไปชายหาดของซุมะ (Suma) เกาะอิเอะชิมะ (Ieshima Island) หรือเกาะอะวะจิ (Awaji Island) เพื่อผ่อนคลายและชมดอกไม้ไฟแสนสวย
  • ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ร่วงในจังหวัดเฮียวโงะเป็นช่วงเวลาของงานเทศกาลที่น่าตื่นเต้น เช่น เทศกาลต่อสู้นาดะ (Nada Kenka Matsuri) เทศกาลดนตรีแจ๊สโกเบ (Kobe Jazz Street) และเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงทัมบะ (Tamba Fall Colors Festival) อีกทั้งยังเป็นช่วงที่อุณหภูมิที่เย็นสบายเหมาะกับงานโกเบมาราธอน (Kobe Marathon)
  • ฤดูหนาว ช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นเหมาะสำหรับการเดินทางไปเล่นสกีและแช่อนเซ็น ในย่านคิโนะซะกิ (Kinosaki Onsen) นั้นเป็นบริเวณที่เหมาะสำหรับทั้งสองกิจกรรม

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/kansai/hyogo/

โอซาก้า (Osaka)

สดใส มีชีวิตชีวา และขี้เล่น เมืองที่เต็มไปด้วยความบันเทิงเริงรมย์และเสน่ห์แพรวพราว

tourist-highlights-kansai-kinki-10
tourist-highlights-kansai-kinki-11
tourist-highlights-kansai-kinki-12

โอซาก้า (Osaka) เมืองที่มีเสน่ห์และให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องอาหารการกิน ความสนุกสนานมีชีวิตชีวา และสถานบันเทิงยามค่ำคืน ทั้งยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจให้ค้นหา

ถึงแม้จะสามารถเดินทางมาโอซาก้า (Osaka) ด้วยชินคันเซ็น (Shinkansen) จากโตเกียว (Tokyo) โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน แต่ที่นี่ก็มีลักษณะที่แตกต่างจากเมืองหลวงของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยแวะเที่ยวจากรถไฟชินคันเซ็นไปยังสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่น่าตื่นเต้น ชิมอาหารอร่อย และพูดคุยกับผู้คนที่เป็นมิตร นอกจากแหล่งช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัยแล้ว โอซาก้า (Osaka) ยังมีด้านประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นไฮไลท์อย่างปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นให้มากยิ่งขึ้น และเหมาะกับการเดินเล่นชมความงามโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิในเดือนเมษายน ที่มีซากุระบานสะพรั่ง ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดด้วย

 

ไม่ควรพลาด
  • ดื่มด่ำไปกับแสงไฟนีออนตรงบริเวณสะพานโดทงโบริ (Dotonbori Bridge) และย่านมินะมิ (Minami) ของโอซาก้า (Osaka)
  • แวะเที่ยวชมสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park) และสวนสาธารณะอนุสรณ์งาน Expo’70 (Expo Memorial Park)
  • เข้าร่วมงานเทศกาลตามฤดูกาลที่สำคัญ เช่น เทศกาลเท็นจิน (Tenjin Matsuri) เทศกาลคิชิวะดะดันจิริ (Kishiwada Danjiri) และ เทศกาลเอะเบะซัง (Ebessan)
  • ดื่มด่ำกับอาหารรสเลิศที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะในละแวกเท็นมะ (Tenma) และอุระนัมบะ (Ura Namba)
ไฮไลท์ตามฤดูกาล
  • ฤดูใบไม้ผลิ ละลานตาด้วยทะเลสีชมพูจากดอกซากุระตามสวนสาธารณะและถนนต่างๆ ภายในเมืองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยพลังความมีชีวิตชีวาที่จะเฉลิมฉลองทิวทัศน์อันงดงามบริเวณปราสาทโอซาก้า สวนสาธารณะริมแม่น้ำโยโดงาวะ (Yodogawa Riverside Park) และโรงกษาปณ์โอซาก้า (Osaka Mint)
  • ฤดูร้อน งานเทศกาลรื่นเริงและความสนุกสนานบริเวณกลางแจ้ง ทำให้จิตใจของทุกคนคลายความร้อน เทศกาลสำคัญที่สุดของโอซาก้า (Osaka) ก็คือเทศกาลเท็นจิน (Tenjin Matsuri) และอีกส่วนหนึ่งผู้คนมากมายก็จะหลั่งไหลไปยังชายหาดทางตอนใต้เพื่อชมการแสดงดอกไม้ไฟที่เพิ่มความสว่างไสวในยามค่ำคืน
  • ฤดูใบไม้ร่วง ความชื้นของฤดูร้อนเปลี่ยนไป ใบไม้ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นฉากหลังที่น่าประทับใจสำหรับการผจญภัยกลางแจ้ง ขบวนพาเหรดมิโดซุจิ (Midosuji Parade) นำขบวนแห่ที่มีการลอยตัวและวงดนตรีที่มีชีวิตชีวาเดินไปตามถนนสายหลักของโอซาก้า (Osaka)
  • ฤดูหนาว ในช่วงปลายปีจะมีการประดับประดาไฟที่สร้างความสว่างไสวในตัวเมืองและบรรยากาศของการเฉลิมฉลองขึ้นมา และนักวิ่งจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันที่งานโอซาก้ามาราธอนหญิงนานาชาติ (Osaka International Women’s Marathon)

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) :https://www.japan.travel/en/destinations/kansai/osaka/

[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]

 

ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019

จดหมายข่าวอื่นๆ