ไปชมการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกที่ญี่ปุ่นกันเถอะ

GLOUCESTER, ENGLAND - SEPTEMBER 23:  Richie Gray (R) of Scotland tackles Luke Thompson of Japan during the 2015 Rugby World Cup Pool B match between Scotland and Japan at Kingsholm Stadium on September 23, 2015 in Gloucester, United Kingdom.  (Photo by Steve Bardens - World Rugby/World Rugby via Getty Images)

© World Rugby via Getty Images

KYOTO, JAPAN - MAY 10:  The William Webb Ellis Cup is displayed during the Rugby World Cup 2019 Pool Draw at the Kyoto State Guest House on May 10, 2017 in Kyoto, Japan.  (Photo by Dave Rogers - World Rugby/World Rugby via Getty Images)

© World Rugby via Getty Images

กีฬาสุดตื่นเต้นที่ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นกันตัวโก่งกับผู้เล่นที่วิ่งปะทะกันอย่างรุนแรงพร้อมลูกบอลทรงยาวรีในมือ ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงกีฬารักบี้ กันอยู่ ในปีค.ศ. 2019 นี้ จะมีการจัด การแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพ (RWC) หรือการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อค้นหาสุดยอดทีมรักบี้ 15 คนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกนี้เป็นหนึ่งในเกมการแข่งขันกีฬาที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกและมีผู้ชมเป็นจำนวนมากทั้งในสนามและที่ชมผ่านจอโทรทัศน์รองจากกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อนและการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่าเวิลด์คัพ (FIFA World Cup) เลยทีเดียว ในแต่ละปีก็มีจำนวนผู้ร่วมแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และต่อไปก็คงจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในเอเชียด้วยเช่นกัน ซึ่งหากใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นพร้อมกับได้ชมการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกนี้ไปด้วยก็นับเป็นโอกาสดีสุดยอดเลยทีเดียว

ข้อมูลการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก ณ ประเทศญี่ปุ่น

การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก ณ ประเทศญี่ปุ่นนั้น นับเป็นการแข่งขันที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ เนื่องจากจะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปเอเชียค่ะ เช่นเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่าเวิลด์คัพ การแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลกนี้จะเป็นการแข่งขันที่บรรดาทีมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมารวมตัวกันทุกๆ 4 ปี เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นตามสนามกีฬาต่างๆ รวม 12 แห่งตั้งแต่ฮอกไกโด (Hokkaido) ไปจนถึงคิวชู (Kyushu) นับเป็นโอกาสพิเศษสุดที่คุณจะได้ท่องเที่ยวไปในเมืองที่ชอบพร้อมกับชมการแข่งขันโดยทีมโปรดไปด้วยพร้อมๆ กัน

รายละเอียดการแข่งขันเพิ่มเติม

ระยะเวลาจัดการแข่งขัน 20 กันยายน – 2 พฤศจิกายน 2019
ประเทศผู้เข้าแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 20 ทีม (ไอร์แลนด์ อาร์เจนตินา อิตาลี อังกฤษ เวลส์ อุรุกวัย ออสเตรเลีย แคนาดา ซามัว จอร์เจีย สกอตแลนด์ ตองกา นามิเบีย นิวซีแลนด์ ฟิจิ ฝรั่งเศส รัสเซีย แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น และอเมริกา)
จำนวนนัดการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 48 นัด
[1] รอบแบ่งพูล: 5 ทีม × 4 พูล (การแข่งขันแบบพบกันหมด): 40 นัด
[2] รอบทัวร์นาเมนต์: รอบแพ้คัดออก / รอบก่อนรองชนะเลิศ / รอบรองชนะเลิศ / รอบชิงชนะเลิศ: 8 นัด
สนามแข่ง 12 สนามทั่วประเทศญี่ปุ่น
เมืองซัปโปโร  จังหวัดฮอกไกโด
เมืองคะมะอิชิ  จังหวัดอิวะเตะ
เมืองคุมะงะยะ  จังหวัดไซตะมะ
เมืองโตเกียว กรุงโตเกียว
เมืองโยโกฮามะ จังหวัดคะนะงะวะ
จังหวัดชิซุโอกะ
เมืองโทะโยะตะ  จังหวัดไอจิ
เมืองโอซาก้าจัง  หวัดโอซาก้า
เมืองโกเบ  จังหวัดเฮียวโงะ
เมืองฟุคุโอกะ  จังหวัดฟุคุโอกะ
เมืองคุมะโมโตะ  จังหวัดคุมะโมโตะ
และจังหวัดโออิตะ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.rugbyworldcup.com/
(มุมขวาบนของหน้าเว็บไซต์มีปุ่มให้กดเลือกแปลภาษา)
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://visitjapan2019.com
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

วิธีซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขัน

LONDON, ENGLAND - OCTOBER 18: Australia fans pose with their match tickets prior to the 2015 Rugby World Cup Quarter Final match between Australia and Scotland at Twickenham Stadium on October 18, 2015 in London, United Kingdom.  (Photo by Steve Bardens - World Rugby/World Rugby via Getty Images)

© World Rugby via Getty Images

BRIGHTON, ENGLAND - SEPTEMBER 19:  Japan fans support their team during the 2015 Rugby World Cup Pool B match between South Africa and Japan at Brighton Community Stadium on September 19, 2015 in Brighton, United Kingdom.  (Photo by Steve Bardens - World Rugby/World Rugby via Getty Images)

© World Rugby via Getty Images

สำหรับการเข้าชมการแข่งขันนั้นจะต้องซื้อตั๋วเข้าชมล่วงหน้า และถึงแม้ว่าสนามที่ใช้ในการแข่งขันทุกแห่งจะเป็นแบบระบุที่นั่ง แต่เราจะไม่สามารถเลือกที่นั่งได้เองตามใจชอบ โดยตั๋วจะมีจำหน่ายที่เว็บไซต์ทางการ สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่หน้าเว็บไซต์

รายละเอียดตั๋วเพิ่มเติม

อัตราค่าตั๋ว รอบแบ่งพูล (อัตราค่าตั๋วจะแตกต่างกันไปตามสนามแข่ง การแข่งขันแต่ละนัด และประเภทตั๋ว)
ประเภท A: 10,000 – 50,000 เยน
ประเภท B: 7,000 – 35,000 เยน
ประเภท C: ผู้ใหญ่ 4,000 – 25,000 เยน    เด็ก 2,000 – 5,000 เยน
ประเภท D: ผู้ใหญ่ 2,019 – 15,000 เยน    เด็ก 1,000 – 2,500 เยน
รอบแพ้คัดออก รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
ประเภท A: 40,000 – 100,000 เยน
ประเภท B: 30,000 – 70,000 เยน
ประเภท C: ผู้ใหญ่ 20,000 – 45,000 เยน
ประเภท D: ผู้ใหญ่ 10,000 – 25,000 เยน
*ตั๋วสำหรับเด็กจะจำหน่ายให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 16 ปี
ระยะเวลาจำหน่ายตั๋ว ระยะเวลาจำหน่ายตั๋วรอบสอง: จำหน่ายถึงวันที่ 31 มีนาคม 2019
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://tickets.rugbyworldcup.com/
(มุมขวาบนของหน้าเว็บไซต์มีปุ่มให้กดเลือกแปลภาษา)
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://visitjapan2019.com
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สถานที่จัดการแข่งขันและข้อมูลการท่องเที่ยวบริเวณรอบๆ

ทีนี้เราจะมาดูกันว่าสถานที่จัดการแข่งขันในแต่ละเมืองนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรกันบ้าง โดยเราได้คัดเลือกมา 4 แห่งจากสถานที่จัดการแข่งขันทั้งหมด 12 แห่งทั่วญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกคนได้สนุกสนานกับการชมการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพที่จัดขึ้นในเอเชียเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และยังได้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวไปในญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

เมืองคะมะอิชิ (Kamaishi City), อิวะเตะ (Iwate)

พระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่แห่งคะมะอิชิ
(Kamaishi Dai-kannon)
Rugby_World_Cup_05

© Kamaishi Photo library

เทศกาลคะมะอิชิ
(Kamaishi Festival)
Rugby_World_Cup_06

© Kamaishi Photo library

เมืองคะมะอิชิ (Kamaishi  City) จังหวัดอิวะเตะ (Iwate) ตั้งอยู่ที่ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาด้วยอุตสาหกรรมเหล็ก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองนี้ได้แก่ เหมืองเหล็กฮะชิโนะ (Hashino Iron Mine), พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เหล็กและเหล็กกล้า (Iron and Steel History Museum) และพระโพธิสัตว์กวนอิมใหญ่แห่งคะมะอิชิ (Kamaishi Dai-kannon) รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมขนาดยักษ์สีขาวบริสุทธิ์ที่มองลงมายังอ่าวคะมะอิชิ (Kamaishi Bay) แนะนำให้นั่งรถไฟหัวจักรไอน้ำที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการตกแต่งภายในสไตล์ย้อนยุค “เอสแอลกิงกะ (SL Ginga)” เพื่อชมความงามของภูมิภาคโทโฮคุด้วย นอกจากอาหารทะเลสดๆ แล้ว คะมะอิชิราเม็ง (Kamaishi Ramen) และคะมะดังโงะ (Kamadango) ก็เป็นอาหารอร่อยขึ้นชื่อของที่นี่เช่นกัน

และในช่วงวันที่ 18-20 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงสุดสัปดาห์ถัดไปหลังจากการแข่งขัดนัดที่ 2 ของรักบี้เวิลด์คัพ จะมีการจัดงาน เทศกาลคะมะอิชิ (Kamaishi Festival) ขึ้น ซึ่งเป็นเทศกาลที่ครึกครื้นสนุกสนานไปทั้งเมืองด้วยการแสดงขบวนเรือประมงประดับธงที่เขียนคำว่า ไทเรียว (Tairyo) ซึ่งหมายถึงการจับปลาได้จำนวนมาก และมีการแสดงร่ายรำแบบพื้นเมืองซึ่งผู้แสดงจะสวมชุดเป็นเสือเรียกว่า โทะระไม (Toramai)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

สถานที่จัดการแข่งขัน RWC
Kamaishi Unosumai Memorial Stadium

Kamaishi City, Iwate

ที่อยู่ 5-1, Dai 18 Ziwari, Unosumai-cho, Kamaishi-shi, Iwate
แผนที่
การเดินทางไปยังสนามจัดการแข่งขัน จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen ไปลงที่สถานี Shin-Hanamaki ใช้เวลา 3  ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถไฟ JR Kamaishi Line ไปลงที่สถานี Kamaishi ใช้เวลา 2 ชั่วโมง แล้วโดยสารรถชัตเติลบัสไปประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://kamaishi-kankou.sakura.ne.jp/wp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.city.kamaishi.iwate.jp/index.html

https://visitjapan2019.com/kamaishi

เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

เมืองคุมากะยะ (Kumagaya City), ไซตะมะ (Saitama)

วัดเมะนุมะโชเดนซัง
(Menuma Shoden-zan Temple)
Rugby_World_Cup_07

© Kumagaya City

ยุคิคุมะ
(Yukikuma)
Rugby_World_Cup_08

© JNTO

สถานที่ที่สามารถเดินทางไปชมการแข่งขันได้แม้จะพักอยู่ในโตเกียว (Tokyo) ก็คือที่เมืองคุมากะยะ (Kumagaya City) จังหวัดไซตะมะ (Saitama) ก่อนเข้าชมการแข่งขันแนะนำว่าอย่าลืมเดินเที่ยวเล่นในเมือง โดยเฉพาะที่ วัดเมะนุมะโชเดนซัง (Menuma Shoden-zan Temple) ซึ่งเป็นที่ตั้งของคังคิอิน เซเทนโด (Kanki-in Seitendo) หอหลักของวัดซึ่งงดงามตระการตาด้วยสีสันสดใสนั้น เป็นวัดที่มีชื่อเสียงว่าให้โชคในด้านความรัก

หลังจากนมัสการที่วัดเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อของที่นี่อย่าง อินะริซูชิ (Inarizushi) คือ ซูชิชนิดหนึ่ง ที่ใช้เต้าหู้ที่นำไปทอดมาห่อข้าวและยุคิคุมะ (Yukikuma) เป็นเมนูน้ำแข็งไสเนื้อนุ่มเบาราวปุยหิมะแห่งคุมะงะยะ และอย่าลืมทำนายทายทักดวงชะตาโดยการเสี่ยงเซียมซีที่เรียกว่า โอะมิคุจิ (Omikuji) ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นกันที่ศาลเจ้าทะคะชิโระ (Takashiro Shrine) ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

สถานที่จัดการแข่งขัน RWC
Kumagaya Rugby Stadium

Kumagaya City, Saitama

ที่อยู่ 810, Kamikawakami, Kumagaya-shi, Saitama
แผนที่
การเดินทางไปยังสนามจัดการแข่งขัน จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Takasaki Line  ไปลงที่สถานี Kumagaya ใช้เวลา 80 นาที จากนั้นโดยสารรถ Kokusai Juo Kotsu Bus (for Koen) ไปลงที่ Akashiro Jinja (Akashiro Shrine) ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดิน 5 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.oideyo-kumagaya.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.oideyo-kumagaya.com/en/
https://visitjapan2019.com/kumagaya/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

เมืองโกเบ (Kobe City), เฮียวโงะ (Hyogo)

หอคอยพอร์ททาวเวอร์
(Port Tower)
Rugby_World_Cup_09

© Feel Photo

โกเบแอนิมอลคิงดอม
(Kobe Animal Kingdom)
Rugby_World_Cup_10

© Feel Photo

เมืองโกเบ (Kobe City) เมืองท่าชั้นนำแห่งภูมิภาคคันไซ (Kansai) ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใช้เป็นที่จัดการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพในครั้งนี้ สนามกีฬาที่ใช้จัดการแข่งขันนั้นตั้งอยู่ติดทะเล ดังนั้นรับรองว่าระหว่างชมการแข่งขันทุกคนจะได้สดชื่นไปกับสายลมจากท้องทะเลอย่างแน่นอน โกเบเป็นเมืองที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย แต่ถ้าจะให้เจาะจงลงไปก็ขอแนะนำให้ขึ้นไปชมภูมิทัศน์เมืองที่หอคอยพอร์ททาวเวอร์ (Port Tower) สัญลักษณ์ของเมืองโกเบซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานีซันโนะมิยะ (Sannomiya Station) ส่วนในตอนกลางคืนก็ขึ้นเขารกโค (Mt. Rokko) เพื่อดื่มด่ำกับทิวทัศน์ยามราตรีของโกเบที่ส่องประกายระยิบระยับสวยงามจับตา สำหรับอาหารอร่อยของที่นี่ก็มีมากมายหลายอย่างตั้งแต่เนื้อโกเบ (Kobe Beef) อะคะชิยากิ (Akashiyaki / อาหารทานเล่นที่ทำจากแป้งสาลีละลายกับไข่แล้วนำไปทอดรวมกับปลาหมึกยักษ์) ไปจนถึงสาเกจากนาดะ (Nadazake) เลยทีเดียว นอกจากนี้ในย่านพอร์ทไอแลนด์ (Port Island) ซึ่งหันหน้าออกทะเลก็ยังเต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจหลายแห่งที่สามารถพาครอบครัวไปเที่ยวสนุกได้ถึงครึ่งวัน เช่น โกเบแอนิมอลคิงดอม (Kobe Animal Kingdom)สวนสนุกที่ให้คุณได้สัมผัสใกล้ชิดกับดอกไม้ นก และสัตว์อื่นๆ อีกนานาชนิด และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์บันโดโกเบ (Bando Kobe Science Museum)”ที่คุณจะได้สัมผัสกับโลกแห่งวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

สถานที่จัดการแข่งขัน RWC
Kobe Misaki Stadium

Kobe City, Hyogo

ที่อยู่ 1-2-2, Misaki-cho, Hyogo-ku, Kobe-shi, Hyogo
แผนที่
การเดินทางไปยังสนามจัดการแข่งขัน จากสถานี Osaka  โดยสารรถไฟ JR Special Rapid Service ไปลงที่สถานี Kobe ใช้เวลา 22 นาที จากนั้นเดินไปยังสถานี Harborland ใช้เวลา 5 นาที แล้วโดยสารรถไฟ Kobe City Subway Kaigan Line ไปลงที่สถานี Misaki Koen ใช้เวลา 10 นาที จากนั้นเดินต่อ 5 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.feel-kobe.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://plus.feel-kobe.jp/
https://visitjapan2019.com/kobe/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://plus.feel-kobe.jp/th/

เมืองคุมะโมโตะ (Kumamoto City), คุมะโมโตะ (Kumamoto)

สวนซุยเซ็นจิโจจุเอ็น
(Suizenji Jojuen Garden)
Rugby_World_Cup_11

© JNTO

คะระชิเร็งคง (Karashi Renkon /
รากบัวทอดสอดไส้มัสตาร์ดญี่ปุ่น)
Rugby_World_Cup_12

© Kumamoto City

บะซะชิ
(Basashi / ซาชิมิเนื้อม้า)
Rugby_World_Cup_13

© Kumamoto City

สำหรับใครที่ต้องการชมการแข่งขันรักบี้พร้อมท่องเที่ยวไปด้วยโดยใช้เวลาเพียงสั้นๆ ขอแนะนำให้ไปที่คุมะโมโตะ (Kumamoto)  สวนซุยเซ็นจิโจจุเอ็น (Suizenji Jojuen Garden) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของคุมะโมโตะ สวนที่งดงามด้วยรูปแบบการจัดสวนเมื่อ 400 ปีก่อนแห่งนี้มีสระน้ำเป็นศูนย์กลาง ภายในสวนน่ารื่นรมย์ไปด้วยเนินเขาที่สร้างขึ้นโดยมีภูเขาไฟ  ฟูจิ (Mt. Fuji) เป็นต้นแบบ อีกทั้งยังร่มรื่นไปด้วยต้นสนไพน์ทรี (Pine) ที่ปลูกไว้จำนวนมาก สำหรับปราสาทคุมะโมโตะ (Kumamoto Castle) เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการบูรณะ จึงเปิดให้เข้าชมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น บริเวณด้านล่างของปราสาทนั้นเป็นที่ตั้งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โจไซเอ็น (Josaien) ที่มีร้านค้ามากมายให้คุณได้เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมการกินต่างๆ รวมถึงพิพิธภัณฑ์แสนสนุกที่ให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของคุมะโมโตะอย่าง พิพิธภัณฑ์ปราสาทคุมะโมโตะ วะคุวะคุซะ (Kumamoto Castle Museum Wakuwakuza) จึงขอแนะนำว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง และที่สำคัญก็คืออย่าลืมลองชิมอาหารพื้นเมืองเลิศรสของคุมะโมโตะอย่าง คะระชิเร็งคง (Karashi Renkon / รากบัวทอดสอดไส้มัสตาร์ดญี่ปุ่น) และบะซะชิ (Basashi / ซาชิมิเนื้อม้า) รวมถึงซาชิมิปลาดิบนานาชนิดๆ สดๆ แสนอร่อย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

สถานที่จัดการแข่งขัน RWC
Kumamoto Prefectural Athletic Stadium 

Kumamoto City, Kumamoto

ที่อยู่ 2776, Hirayama-machi, Higashi-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto
แผนที่
การเดินทางไปยังสนามจัดการแข่งขัน จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ Kyushu Shinkansen ไปลงที่สถานี Kumamoto ใช้เวลา 40 นาที แล้วโดยสารรถไฟ JR Hohi Line ไปลงที่สถานี  Tokai-Gakuen-mae Station ใช้เวลา15 นาที จากนั้นโดยสารรถ Kyushu Sanko Bus (for Higashi Kumamoto Daini Byoin-mae) ไปลงที่ Undo Koen Iriguchi ใช้เวลา 17 นาที แล้วเดินอีก 5 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://kumamoto-guide.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://kumamoto-guide.jp/en/
https://visitjapan2019.com/kumamoto/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)
จดหมายข่าวอื่นๆ