ประเพณีการเชิดสิงโตชิชิไม (Shishimai)
ผู้คนต่อคิวเข้าศาลเจ้าช่วงฮัทสึโมเดะ (Hatsumode)
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประเทศญี่ปุ่นยังมีวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อที่หลายคนยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ และค่านิยมหรือประเพณีที่ยึดถือกันมายาวนาน หากต้องการรู้จักญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ก็ขอแนะนำว่าให้มาลองใช้เวลาช่วงสิ้นปีที่ญี่ปุ่นดูให้ได้สักครั้ง และในครั้งนี้จะขอแนะนำข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับธรรมเนียมประเพณี กิจกรรม และอาหารที่จะช่วยให้การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นไปอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
ข้อพึงระวังในการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดยาวปีใหม่
ช่วงเดือนธันวาคม ไปจนถึง เดือนมกราคม ถือเป็นฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ 0-15 องศาเซลเซียสโดยประมาณ ถึงแม้ว่าตามอาคาร ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟจะเปิดเครื่องทำความร้อน แต่ว่าด้านนอกมีลม และอากาศหนาวเป็นพิเศษ
ควรเตรียมเสื้อผ้า และอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นระหว่างทริป ด้านนอกสุดของเสื้อควรเป็นเส้นใยแบบกันลมตัวหนาพิเศษ ส่วนด้านในสุดแนะนำให้ใส่ลองจอห์นทับกับเสื้อคลุม สิ่งจำเป็นอย่างมากที่จะขาดไม่ได้คือ ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้าอย่างหนาก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญ หรือจะใช้ไคโระ (ถุงร้อน) แบบถุงใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เดินซุกมือในกระเป๋ากำถุงไคโระ หรือไคโระแบบแผ่นบางไว้แปะด้านในเสื้อผ้าให้อุ่น สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป
ข้อพึงระวังในการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดยาวปีใหม่
- ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม ร้านรวง และสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งมักจะไม่เปิดให้บริการ (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)
- ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม ตู้เอทีเอ็ม และธนาคารบางแห่งอาจปิดให้บริการ ควรจะเตรียมเงินสดสำหรับที่ต้องการใช้ให้มีจำนวนที่เพียงพอ
- วันที่ 31 ธันวาคม ร้านอาหารหรือร้านขายของหลาย ๆ ร้านจะเริ่มทยอยหยุด และห้างสรรพสินค้าเองจะปิดเร็วกว่าเวลาปกติ
- การคมนาคมต่าง ๆ ได้แก่ การเดินทางโดยรถไฟ รถยนต์ เครื่องบิน การจราจร และจำนวนผู้ใช้บริการอาจหนาแน่นมาก
เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมักเดินทางจากตัวเมืองใหญ่ไปต่างจังหวัดในช่วงวันที่ 27-30 ธันวาคม และจะออกเดินทางกลับมายังตัวเมืองใหญ่ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม เพราะฉะนั้นเวลาเดินทางไปเที่ยวแล้ว ต้องวางแพนการเดินทางให้ดี และที่สำคัญต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพาสปอร์ต และทรัพย์สินมีค่าทั้งหลาย เพราะไม่ว่าที่ไหนก็จะเต็มไปด้วยผู้คน - สถานที่ที่เปิดในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ได้แก่ วัด ศาลเจ้า และสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ
วันปีใหม่ดีต่อนักท่องเที่ยวอย่างไร
ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศของสถานที่เคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ขึ้นชื่อในเอเชีย โดยการฉลองปีใหม่ที่โตเกียว ทุกปีจะเริ่มมีการจุดพลุไฟเฉลิมฉลองกันทุกคืนตั้งแต่วันที่ 29 ไปจนถึงวันปีใหม่ที่พลุจะอลังการที่สุด ข้อดีของการมาเที่ยวปีใหม่ที่ญี่ปุ่นนั้น คือนอกจากจะได้แวะไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย คุณยังจะได้สัมผัสวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
อาทิเช่น
- ซื้อของในราคาถูกกว่าเพราะสักช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนคริสต์มาส มักจะมีการลดราคาเสื้อผ้าครั้งใหญ่
- ซื้อถุงนำโชค (Lucky Bags) ตามห้างร้านต่าง ๆ ที่เริ่มขายหลังปีใหม่
- เที่ยวตัวเมืองใหญ่แบบสบาย ๆ เพราะคนในเมืองมักเดินทางกลับต่างจังหวัด
- ดื่มด่ำ และพักผ่อนไปกับธรรมชาติที่แสนพิเศษ เช่น ลานสกี หรือ บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ
- ดื่มด่ำบรรยากาศโรแมนติก ชมเทศกาล Illuminations ดวงไฟประดับต่าง ๆ
- การเคาท์ดาวน์ พร้อมไฟประดับ ดอกไม้ไฟ แสง เสียงสุดอลังการ
- นมัสการขอพรปีใหม่ที่วัด หรือศาลเจ้าพร้อมกับชาวญี่ปุ่น ซึ่งอาจสวมกิโมโนอย่างงดงาม
- ลิ้มรสอาหารสำหรับวันปีใหม่ เพื่อนำโชคดี และขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ในช่วงนี้ เรียวกัง และโรงแรมต่างพากันทำอาหารปีใหม่เรียกว่าโอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) สำหรับลูกค้าที่มาพัก ซึ่งอาหารดังกล่าวอาจมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค
- ลิ้มรสอาหารส่งท้ายปีเก่าได้แก่ โทชิโคชิโซบะ ( Toshikoshi Soba) ทานเส้นโซบะเพื่อชีวิตที่ยืนยาวเหมือนเส้นโซบะ นับเป็นธรรมเนียมที่เริ่มตั้งแต่สมัยเอโดะ
- ลิ้มรสการรับประทานซุปโอะโซนิ (Ozoni) อาหารที่มีมาแต่โบราณของญี่ปุ่น นิยมทานกันในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีสไตล์การปรุงเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว
- ชมการบรรเลงดนตรีด้วยโกโตะ (Koto)
- ชมการเชิดสิงโตแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่าชิชิไม (Shishimai)
- ชมพิธีการตีโมจิในวันปีใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ
ธรรมเนียมในวันปีใหม่ของชาวญี่ปุ่น
©JNTO
คะงะมิโมจิ (Kagami Mochi)
©JNTO
โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori)
©JNTO
ต้นสนคะโดะมะสึ (Kado Matsu)
©JNTO
เทศกาลไม้ตีลูกขนไก่โบราณ (Hagoita-ichi)
- การทำความสะอาดบ้าน
- การประดับตกแต่งห้างร้านและหน้าบ้านสำหรับต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ ด้วยคะงะมิโมจิ (Kagami Mochi) และต้นสนคะโดะมะสึ (Kado Matsu) และ ชิเมะนาวะ คาซาริ (Shimenawa Kazari)
- การส่งไปรษณีย์บัตรปีใหม่ หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เน็งกะโจ (Nengajo) เพื่ออวยพรวันปีใหม่ ให้กับ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน
- การไปไหว้พระขอพร
- ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ดูทีวีช่อง NHK มีรายการเพลงพิเศษ “โคฮะขุ อุตะ กักเซ็น (Kohaku uta gassen)”
- การรับประทานโซบะ (Toshikoshi Soba) ช่วงห้าทุ่ม ก่อนเข้าสู่วันปีใหม่ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตยืนยาวเหมือนเส้นโซบะ การรับประทานซุปโอะโซนิ (Ozoni) อาหารที่มีมาแต่โบราณของญี่ปุ่น นิยมทานกันในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีสไตล์การปรุงเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว
- ตอนเช้าปีใหม่จนถึงวันที่สามของ วันขึ้นปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นมักรับประทานอาหารที่มีเฉพาะวันขึ้นปีใหม่ ที่เรียกว่า โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) เพื่อให้โชคดี และมีสุขภาพแข็งแรง
- การละเล่นปีใหม่ เช่น การตีลูกขนไก่ (Hagoita), การเล่นลูกข่าง (koma), การเล่นว่าว (takoage), หรือการเล่นไพ่ (karuta) เป็นต้น
- เทศกาลไม้ตีลูกขนไก่โบราณ (Hagoita-ichi) จัดช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่ วัดดังแห่งอาซากุสะ (Asakusa) ในโตเกียว (Tokyo) ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าไม้ฮะโกอิตะ (Hagoita) นี้ ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ผ่านไปก่อนที่ปีใหม่จะมาเยือน ถือว่าเป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง ทำให้ชาวญี่ปุ่นจึงมักจะมาเลือกซื้อ เพื่อนำไปประดับบ้านก่อนวันขึ้นปีใหม่
กิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่ญี่ปุ่น
การทำความสะอาดและตกแต่งบ้านรับปีใหม่ ที่เรียกว่า โอโซจิ (Oosoji)
คะโดะมะสึ (Kado Matsu)
ชิเมะคะซะริ (Shime Kazari)
กิจกรรมในช่วงของเทศกาลที่เข้าสู่ปีใหม่ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม นับเป็นวันแรกของการเตรียมตัวต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ชาวญี่ปุ่น มักจะเริ่มต้นทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ หรือที่เรียกว่า โอโซจิ (Oosoji) โดยจะปัดกวาดสิ่งสกปรก และความโชคร้ายของปีที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาในบ้านในปีถัดไป และการประดับตกแต่งหน้าบ้าน ห้างร้านสำหรับต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ ประกอบไปด้วย
- บริเวณมุมบ้านจะมีพื้นที่เล็ก ๆ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่าโทโคโนมะ (Tokonoma) เครื่องสักการะที่นำไปวางคือ คะงะมิโมจิ (Kagami Mochi) เป็นขนมโมจิที่ถูกทำให้แบนเล็กน้อย วางซ้อนกันสองชั้น และด้านบนสุดถูกประดับด้วยผลส้มซึ่งเป็นตัวแทนพระจันทร์กับพระอาทิตย์ เมื่อพ้นช่วงปีใหม่ไป ประมาณวันที่ 11 มกราคม โมจิทั้งสองลูกก็จะถูกกินเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับคนในบ้าน
- ซุ้มสนสำหรับประดับที่ประตูรั้วบ้าน ที่เรียกว่า คะโดะมะสึ (Kado Matsu) ลำไผ่ที่บากปลายแหลมประดับด้วยใบสน ซึ่งในสมัยโบราณจะสร้างจากไม้สนเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนิยมทำจากไม้ไผ่ที่บากปลายแหลม ประดับด้วยใบสน ใบเฟิร์น ฟางข้าว และสิ่งมงคลต่าง ๆ จะประดับเป็นคู่ ที่ด้านซ้าย และด้านขวาของประตูรั้ว หรือประตูทางเข้าบริษัท ห้างร้าน ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า เพื่อต้อนรับเทพเจ้า และบรรพบุรุษ ตามความเชื่อว่าเพื่อให้เป็นที่สังเกตของเทพเจ้าให้เข้ามาในบ้านได้ถูกต้อง สนสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของต้นไม้เทพเจ้า ส่วนไผ่สีเขียวจะมีลำต้นตรง และล้มยากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
- บนระเบียง ด้านนอกของประตูทางเข้าบ้าน หรือ ประตูหลังบ้านจะถูกแขวนด้วย ชิเมะคะซะริ (Shime Kazari) ซึ่งเป็นเชือกศักดิ์สิทธิ์ ทำด้วยฟางข้าวนำมามัดกันเป็นฟ่อนใหญ่ ๆ ตามแบบชินโต โดยมีแถบกระดาษสีขาวห้อยเป็นพู่ประดับ และมี กิ่งไม้ รวงข้าว ส้มไดได กุ้งมังกร ใบเฟิร์น และอื่น ๆ แซมอยู่ด้วย เป็นสัญลักษณ์เพื่อเปิดทางให้เทพเจ้าท่านได้ผ่านเข้ามา
วันสิ้นปีเก่า ที่เรียกว่า โอมิโซกะ (Oomisoka)
ศาลเจ้าที่ประดับด้วยคะโดะมะสึ (Kado Matsu)
©PR Times
การตีระฆังโจยา โนะ คาเนะ (Jyoya no kane)
งานเคาท์ดาวน์ที่มินะโตะมิไร (Minatomirai)
ในช่วงวันที่ 31ธันวาคม ก่อนถึงวันปีใหม่ จะเรียกวันนี้ว่า โอมิโซกะ (Oomisoka) เป็นวันสิ้นปีที่คนญี่ปุ่นมักจะมีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ เช่น
การฉลองส่งท้ายปีกับคนในครอบครัวอยู่ที่บ้าน
คนญี่ปุ่นมักจะจัดเตรียมอาหารมงคลเพื่อฉลองวันขึ้นปีใหม่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และในตอนกลางคืนจะมีประเพณีที่ยังคงปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างหนึ่งก็คือการรับประทาน โทชิโคชิ โซบะ (Toshikoshi Soba) ซึ่งเป็นอาหารชนิดเส้นอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น เพื่อเป็นการส่งท้ายปีที่กำลังจะผ่านพ้นไป โดยเปรียบความยาวของเส้นโซบะ หมายถึงการมีสุขภาพดี และอายุยืนยาว และลักษณะที่ตัดขาดได้ง่ายให้หมายถึงการตัดเอาเรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมาในปีเก่าออกไป พร้อมกับดูทีวีตามช่องต่าง ๆ เช่น ช่อง NHK มีรายการเพลงพิเศษ “โคฮะขุ อุตะ กักเซ็น (kohaku uta gassen)” และต่อด้วยกับดูภาพบรรยายกาศจากวัดต่าง ๆ ผ่านการถ่ายทอดสด
การฉลองส่งท้ายปีด้วยกิจกรรมการตีระฆัง พร้อมกับนมัสการขอพรในวันปีใหม่ที่วัดและศาลเจ้า
กิจกรรมการไปวัดเพื่อฟังเสียงระฆังโจยา โนะ คาเนะ (Jyoya no kane) ซึ่งเป็นประเพณีที่ตามวัดชื่อดัง ๆ จะมีการตีระฆัง 108 ครั้ง เพื่อขับไล่กิเลศ และปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด 108 อย่าง แล้วต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ด้วยจิตอันบริสุทธิ์
เนื่องด้วยคืนวันที่ 31 ธันวาคม วัดส่วนใหญ่จะเปิดตลอดคืน คนญี่ปุ่นจะพากันไปวัด และศาลเจ้าทำให้บรรยากาศเฉลิมฉลองขอพรครึกครื้นไปด้วยผู้คนจำนวนมาก และผู้หญิงบางคนก็แต่งชุดกิโมโนแบบเต็มยศอย่างสวยงาม เข้าแถวเพื่อฟังเสียงระฆัง สวดมนต์ข้ามปี ทำบุญ และอธิษฐานขอให้มีสุขภาพดี และประสบความเจริญรุ่งเรือง
อย่างที่จังหวัดเกียวโต (Kyoto) ที่ศาลเจ้ายะซะกะ (Yasaka Shrine) มีจัดเทศกาลโอะเคะระ ไมริ (Okera Mairi) หรือเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 19.30 น. ของวันที่ 31 ธันวาคมไปจนถึงห้าโมงเย็นของวันที่ 1 มกราคม มีร้านขายของตามข้างทาง และจัดงานทั้งคืนจนถึงเช้าวันใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่ครึกครื้น กิจกรรมส่วนมากก็เหมือนกับที่อื่น ๆ แต่ที่พิเศษก็คือ การนำสมุนไพรโอะเคะระ (Okera) ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เชื่อกันว่าสามารถนำพาสิ่งไม่ดีออกไปได้ มาจุดไฟที่ตะเกียงภายในศาลเจ้า จุดเด่นของเทศกาลนี้คือการนำปลายเชือกมาจุดไฟที่ตะเกียง จากนั้นก็ทำการแกว่งเชือกเป็นวงกลมต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ โดยการแกว่งเชือกที่จุดไฟในช่วงเวลาที่ไปขอพร เพื่อปัดเป่าโชคร้ายในปีที่ผ่านมาออกไป และขอให้อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรงตลอดปีใหม่ที่กำลังมาเยือน แล้วจะนำเชือกที่เหลือจากการแกว่งกลับบ้าน เพราะเชื่อกันว่า เชือกนี้จะช่วยคุ้มครองป้องกันบ้านจากอัคคีภัย
การฉลองส่งท้ายปีด้วยกิจกรรมงานเคาท์ดาวน์ (Countdown)
ในช่วงตั้งแต่ค่ำคืนของวันที่ 31 ธันวาคม เรื่อยไปจนถึงเช้าวันที่ 1 มกราคม จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ (Countdown) ในหลากรูปแบบตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจุดที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาววัยรุ่น ออกมารวมตัวกันปาร์ตี้ส่งท้ายปีกัน ได้แก่
- จุดชมวิวเจอาร์ทาวเวอร์ T98 (JR TowerObservation Deck T38), ฮอกไกโด (Hokkaido)
- ย่านชิบูยะ (Shibuya), โตเกียว (Tokyo)
- หอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower), โตเกียว (Tokyo)
- สวนสาธารณะคะไซริงไค (Kasai Rinkai Park), โตเกียว (Tokyo)
- สวนสนุกโตเกียว ดีสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland), ชิบะ (Chiba)
- สวนสนุกคอสโม่เวิล์ด (Yokohama Cosmo World), คะนะงะวะ (Kanagawa)
- มินะโตะมิไร (Minatomirai), คะนะงะวะ (Kanagawa)
- ลากูน่า เทน บอช (Laguna Ten Bosch), ไอจิ (Aichi)
- รีสอร์ทนางาชิมะ(Nagashima Resort), มิเอะ (Mie)
- ศูนย์การค้ายูนิเวอร์แซล ซิตี้ วอล์ค (Universal Citywalk Osaka), โอซาก้า (Osaka)
- สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan), โอซาก้า (Osaka)
- อาคาร อุเมดะ สกาย บิลดิ้ง (Umeda Sky Building), โอซาก้า (Osaka)
- ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle), โอซาก้า (Osaka)
- ฮาร์ดร็อกคาเฟ่ ฟูกุโอกะ (Hard Rock Cafe Fukuoka), ฟุคุโอกะ (Fukuoka)
- สวนสนุกเฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch), นางาซากิ (Nagasaki)
ไหว้พระขอพรครั้งแรกของปี ที่เรียกว่า ฮัทสึโมเดะ (Hatsumode)
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วงฮัทสึโมเดะ(Hatsumode)
ผู้คนต่อคิวเข้าวัดช่วงฮัทสึโมเดะ (Hatsumode)
เมื่อบอกลาปีเก่าเรียบร้อยแล้วจะมีธรรมเนียมไหว้พระขอพรครั้งแรกของปี ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า ฮัทสึโมเดะ (Hatsumode) ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 1-3 มกราคม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก ๆ หรือวัยรุ่นต่างเดินทางไปต่อคิวเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอพรที่วัด หรือศาลเจ้าเป็นครั้งแรกของปี ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมที่ทำกันมาเนิ่นนาน หากวัด หรือศาลเจ้าใดที่เป็นที่นิยมมาก ก็จะมีผู้คนมายืนต่อคิวกันตั้งแต่คืนสุดท้ายของปี เมื่อสักการะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้คนมากมายเลือกที่จะเสี่ยงเซียมซีในช่วงปีใหม่ หรือที่เรียกว่า โอมิคุจิ (Omiguchi) เพื่อดูว่าปีใหม่นี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร หรือควรระวังเรื่องอะไรบ้าง ต่อด้วย ดื่มเหล้าหวานเป็นสิริมงคล พร้อมเขียนใบขอพร และซื้อเครื่องรางชนิดต่าง ๆ ไว้ประดับบ้าน หรือพกติดตัวเอาเคล็ด และบริเวณนอกวัดจะมีซุ้มขายอาหาร หรือยะไตมาตั้งกันเยอะมากมาย นับเป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวจะได้มาสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
มารู้จักมารยาทของการไหว้ขอพรที่ถูกต้อง แล้วลองไปไหว้ขอพรปีใหม่ (Hatsumode)
วิธีการไหว้ขอพร โดยแยกได้เป็น 6 ขั้นตอนตามลำดับพร้อมความหมาย ดังนี้
- โยนเหรียญใส่กล่องถวายเงิน เพื่ออัญเชิญเทพเจ้าที่อยู่บนโลกมนุษย์ให้มารับกาสักการะ
- ลั่นกระดิ่ง โดยข้างหน้ากล่องถวายเงิน จะมีเชือกถักเส้นใหญ่ซึ่งมีกระดิ่งแขวนติดอยู่ เพื่ออัญเชิญเทพเจ้าที่อยู่บนสรวงสวรรค์ให้ลงมาสู่โลกมนุษย์เพื่อรับการสักการะ
- โค้งคำนับ 2 ครั้ง เป็นขั้นตอนการสักการะเทพเจ้าจากฟ้า และดินที่ได้อัญเชิญมา
- พนมมือและขอพร
- ปรบมือ 2 ครั้ง เป็นขั้นตอนแสดงความคารวะเทพเจ้าที่ได้มารับฟังสิ่งที่เราขอพร และขออัญเชิญให้กลับไปสถิตย์ยังที่เดิม
- โค้งคำนับ 1 ครั้ง เป็นการแสดงการคารวะต่อศาลเจ้าอันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด/ศาลเจ้า | ที่อยู่ |
---|---|
1. ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Jingu), ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปีเพื่อขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสงบสุข |
ที่ตั้ง : 474 Miyagaoka, Chuo-ku, Sapporo-city, Hokkaido การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Maruyamakoen เว็บไซต์(ภาษาอังกฤษ) : http://www.hokkaidojingu.or.jp/eng/index.html |
2. ศาลเจ้าเมจิจิงกู (Meiji Shrine), โตเกียว (Tokyo) ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่มีคนไปไหว้มากที่สุดในช่วงปีใหม่ของทุกปี |
ที่ตั้ง : Yoyogi, Shibuya, Tokyo การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ JR Harajuku หรือที่รถไฟใต้ดินสถานี Meiji-jingu-mae เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.meijijingu.or.jp/en/ |
3. วัดโซโจจิ (Zojoji Temple), โตเกียว (Tokyo) จุดเด่นของที่นี่คือ ปล่อยลูกโป่งที่สอดคำอธิษฐานลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมๆ กันเป็นการปล่อยสิ่งที่ไม่ดีไปกับปีเก่าที่ผ่านไป |
ที่ตั้ง : 4-7-35 Shibakoen Minato-ku, Tokyo การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ JR Hamamatsucho เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : http://www.zojoji.or.jp/en/ |
4. วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple), โตเกียว (Tokyo) ย่านอาซากุสะนี้เป็นย่านที่เก่าแก่ตลอดถนนนากามิเซะมีการขายของทำให้ครึกครื้น |
ที่ตั้ง : 2-3-1 Asakusa Taito-ku, Tokyo การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Asakusa เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.senso-ji.jp/english/ |
5.วัดนาริตะซัง (Narita-san Shinsho-ji), ชิบะ (Chiba) เป็นวัดที่มีคนไปสักการะเป็นจำนวนมากที่เป็นอันดับสองในช่วงปีใหม่ของทุกปีอยู่ใกล้สถามบินนานาชาตินาริตะ |
ที่ตั้ง : 1 Narita Narita-city, Chiba การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Keisei Narita หรือ ลงที่สถานี JR Narita เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.naritasan.or.jp/english/ |
6.วัดคาวาซะกิ ไดชะ (Kawasaki Daishi), คะนะงะวะ (Kanagawa) ผู้พิทักษ์จิตวิญญาณเป็นวัดที่ว่ากันว่ามีชีวิตชีวาในช่วงวันปีใหม่จึงมีคนมาขอพรเป็นจำนวนมาก |
ที่ตั้ง : 4-48 Daishimachi, Kawasaki-ku, Kawasaki-city, Kanagawa การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Kawasaki Daishi เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : http://www.kawasakidaishi.com/english/index.html |
7. ศาลเจ้าอะสึตะ จิงกู (Atsuta Jingu Shrine), นาโกย่า (Nagoya) สิ่งสักการะของศาลเจ้าแห่งนี้คือดาบคุซานางิซึ่งเป็นหนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิญี่ปุ่น |
ที่ตั้ง : 1-1-1 Jingu Atsuta-ku Nagoya-city, Aichi การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Jingu-mae เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : http://www.atsutajingu.or.jp/en/intro/ |
8. ศาลเจ้าฟูชิมิ (Fushimi Shrine), เกียวโต (Kyoto) ศาลเจ้าอินาริ เทพจิ้งจอก เป็นเทพเจ้าแห่งการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ (ไหม) ในศาสนาชินโต มีเสาโทริอิสีแดงจำนวนมาก |
ที่ตั้ง : Fukakusayabunouchi 68, Fushimi-ku, Kyoto การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ JR Inari เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : http://inari.jp/en/ |
9.ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ (Sumiyoshi Taisha), โอซาก้า (Osaka) ชาวเมืองกว่า 2 ล้านคนนิยมเดินทางไปนมัสการในช่วงปีใหม่ มีชื่อเสียงเรื่องเทพเจ้าคุ้มครองความปลอดภัยทางทะเลมีประวัติยาวนานกว่า 1,800 ปี |
ที่ตั้ง : 2-9-89 Sumiyoshi, Sumiyoshi-ku, Osaka การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Sumiyoshi Toriimae เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : http://www.sumiyoshitaisha.net/en/ |
10. Dazaifu Tenmangu, Fukuoka เชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้ จะทำให้สมหวังในเรื่องการเรียนแนะนำให้แวะลูบหัวรูปปั้นวัวภายในตัววัด |
ที่ตั้ง : 4-7-1 Saifu Dazaifu-city, Fukuoka การเดินทาง : ลงที่สถานีรถไฟ Nishitetsu Dazaifu เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : http://www.dazaifutenmangu.or.jp/en |
เริ่มเปิดขายของเป็นครั้งแรกของปี ที่เรียกว่า ฮัตสึอุริ (Hatsu Uri)
ฟุคุบุคุโระ (Fukubukuro) หรือ Lucky bag
ผู้คนหนาแน่นในช่วงปีใหม่ที่งานฮัตสึอุริ (Hatsu Uri)
ช่วงเทศกาลปีใหม่ประมาณสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมของทุกปี ตามห้างสรรพสินค้า อาคารแฟชั่น และถนนสายช้อปปิ้งต่างๆ จะนำสินค้ามาลดราคา เป็นการจัดงานฮัตสึอุริ (Hatsu Uri) ซึ่งหมายถึงการเริ่มเปิดขายของเป็นครั้งแรกของปี แต่ที่นิยมที่สุดสำหรับขาช้อปปิ้งคงจะเป็นสินค้าที่เรียกว่า ฟุคุบุคุโระ หรือ Lucky bag เป็นช่วงนี้จะเห็นร้านค้าต่าง ๆ จัดวางถุงสีแดงและขาวมากมายแสดงไว้ที่หน้าร้าน และเป็นภาพที่จะพบได้แค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ฟุคุบุคุโระ หรือ Lucky bag เรียกได้ว่าเป็นถุงวัดดวง เพราะผู้ซื้อจะไม่รู้เลยว่าข้างในถุงนั้นมีอะไรบ้าง โดยถุงนี้จะนำมาจำหน่ายในราคาพิเศษตั้งแต่หลักพันเยนจนถึงหลายหมื่นเยน ซึ่งแน่นอนว่าในถุงนั้นมีสินค้ามูลค่ามากกว่าราคาที่ตั้งขาย แต่สินค้าที่ใส่ลงในแต่ละถุงมีการคละกันมา หากผู้ซื้อเปิดถุงที่ซื้อมาแล้วพบว่ามีสินค้าถูกใจอยู่หลายชิ้นก็เท่ากับว่าเป็นปีแห่งความโชคดี สำหรับร้านค้าที่ได้รับความนิยมสูง บางครั้งจะได้พบเห็นผู้คนต่อแถวยาวเหยียดรอคิวซื้อฟุคุบุคุโระ หรือ Lucky bag ก่อนวันวางขายหลายวัน และมักจะขายหมดภายในไม่กี่นาที
ชมพระอาทิตย์แรกของปี ที่เรียกว่า ฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode)
แสงแรกที่ภูเขาไฟฟูจิ
©PR Times
แสงแรกที่ตึกโตเกียว สกาย ทรี
หนึ่งกิจกรรมสำคัญในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่นคือ การไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันแรกของปี ที่เรียกว่า ฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode) ด้วยความเชื่อที่ว่าเทพเจ้าแห่งปีใหม่ จะเสด็จมายังโลกพร้อมกับพระอาทิตย์ในเช้าวันที่ 1 มกราคม และหากเราได้ขอพรต่อแสงแรกของปีจะนำพามาซึ่งความสุขตลอดทั้งปี เวลาในการชมที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 6 โมง 45 นาที ถึง 7 โมง 25 นาที และสถานที่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ บนภูเขา รอบภูเขาไฟฟูจิ ชายหาด สำหรับการชมพระอาทิตย์แรกของปีนั้นหากอยู่ในเขตเมืองใหญ่ก็ขอแนะนำเป็นยอดตึกสูงต่าง ๆ
การชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่ 1 มกราคมเพื่อขอพร เพราะเชื่อว่า
- การชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันแรกของปีใหม่นิยมทำกันตามภูเขา ทะเล สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติหรือตึกสูงที่เห็นทัศนียภาพได้ชัดเจน
- พระอาทิตย์ที่ขึ้นในวันแรกของปีเรียกว่า ฮัตสึฮิโนะเดะ (初日の出)
- ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า การชมพระอาทิตย์แรกของปีมีพลังศักดิ์สิทธิ์ ประเพณีเป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยเมจิ (1868-1912)
- ประเทศญี่ปุ่นเป็นดินแดนแห่งศาสนาชินโต จึงเชื่อว่า ดวงอาทิตย์เป็นตัวแทนเทพเจ้าที่สำคัญที่สุดในจักรวาล
- เชื่อว่าถ้าได้เห็นแสงพระอาทิตย์แรกของปีนั้นจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเป็นการนำความโชคดีและความสุขมาให้ตลอดปีใหม่
- อธิฐานให้ครอบครัวมีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงตลอดปี ระหว่างการชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันแรกของปีใหม่
ข้อแนะนำ
การชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันแรกในปีใหม่กันตาม ภูเขา หรือ ทะเล ที่เป็นสถานที่ธรรมชาติ เนื่องจากสภาพอากาศช่วงปีใหม่หนาว และลมเย็นจัดต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทาง ทั้งเครื่องแต่งกาย และการทานอาหารเช้าอย่างพอเพียงและควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง เนื่องจากบางสถานที่หากมีหิมะตกหนัก อาจมีการปิดเส้นการจราจรได้
ชมยอดภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) กับพระอาทิตย์แรกของปี
“ฟูจิ” ภูเขาแห่งความงามและแรงบันดาลใจ เป็นสถานที่พิเศษที่ชาวญี่ปุ่นเคารพนับถือมา ตั้งแต่โบราณเพราะเป็นภูเขาซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ บ้างก็เชื่อว่าภูเขาทั้งลูกคือเทพเจ้า ดังนั้นภูเขาไฟฟูจิเป็นจุดหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญพร้อมกับสถานที่โดยรอบที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิ กับ แสงอาทิตย์แรกเช้าแห้งแรกของปี ซึ่งในบางครั้งถ้าโชคดีก็จะได้เห็น Diamond Fuji คือ ปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์อยู่ด้านหลังภูเขาฟูจิ และแสงอาทิตย์ส่องผ่าน ตรงบริเวณปากปล่องภูเขาฟูจิพอดี ทำให้ดูเหมือนเพชร
เมือง / จังหวัดที่สามารถมองเห็นฟูจิได้ ในวันอากาศดี
โตเกียว(Tokyo) ชิบะ (Chiba) โยโกฮามะ(Yokohama) คะนะงะวะ(Kanagawa)
ฮาโกเนะ(Hakone) ยะมะนะชิ (Yamanashi) ชิซุโอกะ (Shizuoka)
สถานที่แนะนำในการชมพระอาทิตย์แรกแห่งปีที่สามารถมองเห็นฟูจิได้ ในวันอากาศดี อาทิเช่น
- หอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower), โตเกียว (Tokyo)
- ย่านโอไดบะ (Odaiba), โตเกียว (Tokyo)
- ชายฝั่งโฮโจ ไคกัง และสวนสาธารณะชิโระยะมะ (Hojo-kaigan Coast and Shiroyama Park), ชิบะ (Chiba)
- แถบชายฝั่งทะเลอินะมุระกะซะงิ (Kanagawa Inamuragasaki Area), แถบชายฝั่งทะเลคะมะคุระ (Kamakura’s Beaches Area), คะนะงะวะ(Kanagawa)
- เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima Island Area), คะนะงะวะ(Kanagawa)
- แถบฮะโกะเนะ (Hakone Area), คะนะงะวะ(Kanagawa)
- คาวากูจิโกะสถานีที่ 5 (Kawaguchiko 5 th Station), ยะมะนะชิ (Yamanashi)
- ทะเลสาบทั้ง 5 โดยรอบภูเขาไฟภูจิ ได้แก่
- ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchi-ko)
- ทะเลสาบยะมะนะคะโกะ (Lake Yamanaka-ko)
- ทะเลสาบโมโตสุโกะ (Lake Motosu-ko)
- ทะเลสาบไซโกะ (Lake Sai-ko)
- ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shoji-ko)
- ชายหาดมิโฮ (Miho-no-Matsubara), ชิซุโอกะ (Shizuoka)
- ท่าเรือชิมิซุ (Port of Shimizu Bay Cruise), ชิซุโอกะ (Shizuoka)
- เนินเขานิฮงไดระ (Nihondaira), ชิซุโอกะ (Shizuoka)
- โกเท็มบะ (Gotemba), ชิซุโอกะ (Shizuoka)
สถานที่แนะนำสำหรับการชมพระอาทิตย์แรกของปี
ตามสถานที่วิวธรรมชาติที่สวยงามได้แก่ บนภูเขา ชายหาด ลานสกี บ่อน้ำร้อน และอื่นๆ อาทิเช่น
- ภูเขาโมอิวะ (Moiwa Mt. Sapporo), ฮอกไกโด (Hokkaido)
https://www.sapporo.travel/find/nature-and-parks/mount_moiwayama/?lang=th - แหลมโซคันซัง มัตสึชิมะ (Sokanzan Matsushima), มิยะงิ (Miyagi)
https://www.matsushima-kanko.com/en/ - ภูเขาทาคาโอะ (Takaosan Mt.),โตเกียว (Tokyo)
http://www.takaotengu.com/
https://www.jnto.or.th/newsletter/mt-takao - แหลมอินุโบซะกิ (Inubosaki), ชิบะ (Chiba)
https://www.japan.travel/en/spot/1547 - ภูเขาคงโก (Kongo Mt.), โอซาก้า (Osaka)
http://www.osaka-info.jp/th/facilities/cat31/post_255.html - ยอดเขาโอยะมะ หรือจุดชมวิวไดคังโบะ บนเส้นทางอัลไฟน์ ทะเทะยะมะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route), โทยามะ (Toyama)
http://foreign.info-toyama.com/th/tokushu/tateyama/stay.html - ชายฝั่งทะเล ชมหินคู่รัก ( Bungo Futamigaura),โออิตะ (Oita)
http://www.saiki-kankou.com/en/tour/detail?id=14
เล่นสกี และสถานพักตากอากาศในญี่ปุ่นช่วงวันหยุดปีใหม่
ฤดูหนาวของญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นฤดูของการเล่นสกี ผู้คนนิยมมาเล่นสกีในช่วงปีใหม่ และวันหยุด เพราะนอกจากจะได้เล่นสกีแล้ว ยังได้ชมไฟประดับ แสงพลุสวย ๆ พร้อมกับแช่อนเซ็น และเที่ยวเทศกาลต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งแต่ละสถานที่จะมีการจัดเทศกาลพิเศษแตกต่างกันออกไป หรือสำหรับใครที่ไม่ถนัดเล่นสกี ก็สามารถเดินทางไปพักผ่อน แช่อนเซ็นได้ โดยอนเซ็นที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางไปในช่วงวันหยุดปีใหม่
รายชื่อแหล่งอนเซ็นยอดนิยมในช่วงปีใหม่ | จังหวัด |
---|---|
โซอุนเคียว อนเซ็น (Sounkyo Onsen) |
ฮอกไกโด (Hokkaido) https://sounkyo-kankou.co.jp/ |
นิวโตะอนเซ็น (Nyuto Onsen) |
จังหวัดอะคิตะ (Akita) http://www.nyuto-onsenkyo.com/ |
มะสึคะวะอนเซ็น (Matsukawa Onsen) |
จังหวัดอิวะเตะ (Iwate) https://matsukawasou.com/ |
กินซังอนเซ็น (Ginzan Onsen) |
จังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) http://www.ginzanonsen.jp/ |
คุซัทสึอนเซ็น (Kusatsu Onsen) |
จังหวัดกุมมะ (Gunma) https://www.kusatsu-onsen.ne.jp/ |
โอคุนิคโกะ ยุโมโตะ อนเซ็น (Okunikko Yumoto Onsen) |
จังหวัดโทชิงิ (Tochigi) http://www.nikkoyumoto.com/ |
ยุนิชิกาวะ อนเซ็น (Yunishigawa Onsen) |
จังหวัดโทชิงิ (Tochigi) http://www.nikko-kankou.org/spot/34/ |
ชิระโฮะเนะ อนเซ็น (Shirahone Onsen) |
จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) http://www.shirahone.org/ |
เอจิโกะ ยูซาวะ อนเซ็น (Echigo Yuzawa Onsen) |
จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) https://www.snow-country-tourism.jp/ |
คุโระกาวะ อนเซ็น (Kurokawa Onsen) |
จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) https://www.kurokawaonsen.or.jp/ |
** การจัดอันดับดังกล่าว อิงมาจากเว็บไซต์ https://www.travel.co.jp/guide/matome/2649/
รายชื่อลานสกียอดนิยมในช่วงปีใหม่ | จังหวัด |
---|---|
นิเซโกะ ยูไนเต็ด (Niseko United) |
ฮอกไกโด (Hokkaido) https://www.niseko.ne.jp/en/ |
ซาโอะ ออนเซน สกีรีสอร์ท (Zao onsen ski resort) |
ยะมะงะตะ (Yamagata) http://www.zao-spa.or.jp/english/ski/ |
นาเอบะ สกีรีสอร์ท (Naeba Ski resort) |
นีงะตะ(Niigata) http://www.naeba.gr.jp/en/ |
ไมโกะ สโนว์ รีสอร์ท (Maiko Snow Resort) |
นีงะตะ(Niigata) https://www.snowjapan.com/japan-ski-resorts/maiko-snow-resort |
กาล่า ยูซาวา สกี รีสอร์ท (GALA Yuzawa ski resort) |
นีงะตะ(Niigata) https://gala.co.jp/winter/thai/ |
ชิกะโคเก็น สกี แอเรีย (Shiga Kogen Ski Area) |
นะงะโนะ (Nagano) https://www.shigakogen-ski.com/en |
โนซาวะ ออนเซน สกี รีสอร์ท (Nozawa onsen ski resort) |
นะงะโนะ (Nagano) http://www.nozawaski.com/en/ |
ฮาคุบะ ฮัปโป โอเนะ สกีรีสอร์ท (Hakuba Happo-one ski resort) |
นะงะโนะ (Nagano) https://www.happo-one.jp/en/ |
ริวโอ สกี พาร์ค (Ryuoo Ski Park) |
นะงะโนะ (Nagano) https://www.ryuoo.com/snow/gelande/academy.php |
ไดน่าแลนด์ (Dynaland) |
กิฟุ (Gifu) https://www.dynaland.co.jp/ |
** การจัดอันดับดังกล่าว อิงมาจากเว็บไซต์ https://www.ski-ichiba.jp/navi/article/270/#index-1
รับประทานอาหารสิริมงคลในเทศกาลปีใหม่
เริ่มต้นปีใหม่แบบนี้ นอกจากการออกไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญตามสถานที่ต่าง ๆ แล้ว อาหารก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้ทานในช่วงปีใหม่แบบนี้จะเป็นการเพิ่มความเป็นสิริมงคลได้อีกหนึ่งทางเช่นกัน
โทชิโคชิโซบะ (Toshikoshi Soba)
© JNTO
© JNTO
ประเพณีทานโซบะในวันสิ้นปี ซึ่งเรียกว่า โทชิโคชิโซบะ (Toshikoshi Soba) หรือการทานโซบะข้ามปี เป็นประเพณีที่มีมานาน นับตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยจะนำโซบะมารับประทานกันเพื่อความเป็นสิริมงคล
เมนูโซบะถือเป็นอาหารมงคลที่มีความหมายดี อย่างเช่นเส้นโซบะที่ยาว หมายถึงการมีชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และเส้นโซบะที่ขาดง่าย หมายถึงการตัดเอาสิ่งชั่วร้าย หรือความทุกข์ในปีเก่าทิ้งไป และอีกเหตุผลหนึ่งที่นิยมทานโซบะในช่วงสิ้นปี เพราะว่าเป็นช่วงที่ทุกคนส่วนใหญ่จะวุ่นวายอยู่กับการทำความสะอาด และตกแต่งบ้าน การทานโซบะในวันนี้ก็เพราะเป็นอาหารที่ทำรับประทานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก หากบ้านไหนที่ไม่ได้ทำโซบะทานเอง ก็สามารถออกไปทานที่ร้านได้ จะพบว่ามีผู้คนมากมายมารอทานโซบะข้ามปี
โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori)
© JNTO
© JNTO
ในเช้าวันปีใหม่ ครอบครัวชาวญี่ปุ่นจะล้อมโต๊ะกันทานอาหารชุดที่เรียกว่า โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) นิยมรับประทานกันในวันที่ 1-3 มกราคมของทุกปี ซึ่งอาหารเหล่านี้จะถูกจัดวางในปิ่นโตเรียกว่า จูบะโกะ (Jubako) วางซ้อนกันอย่างสวยงาม ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีอาหารมงคลที่แตกต่างกันไป เดิมทีโอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) มี 4 ชั้น แต่ปัจจุบันส่วนมากลดลงเหลือทำแบบ 3 ชั้นซึ่งมีความหมายดังนี้
ชั้นที่ 1 (อิจิโนจู) เครื่องเคียงมงคล (อาหารรสหวานเป็นเครื่องเคียงหมักกับสาเก) เช่น ลูกชิ้นปลาบด, มันหวานบด, ถั่วดำ
ชั้นที่ 2 (นิโนจู) อาหารย่าง ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลที่มีความหมายมงคล เช่น ปลาไท, กุ้ง, ปลาบุรี
ชั้นที่ 3 (ซันโนจู) ของต้ม มีความหมายถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ได้จากภูเขา เช่น รากบัว, โกโบ, เผือก
ดังนั้นในช่วงวันปีใหม่นี้ ทั้งเรียวกัง และโรงแรมก็มี โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) สำหรับลูกค้าที่มาพักในช่วงปีใหม่ ลองหาแพ็คเก็จพิเศษ ๆ สำหรับที่พักพร้อมโอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) เพื่อที่จะได้เข้าถึงบรรยากาศ พร้อมวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ซึ่งในบางสถานที่ยังมีการบรรเลงดนตรีด้วยโกโตะ (Koto) หรือ มีการเชิดสิงโตแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า ชิชิไม (Shishimai)
โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) จะประกอบด้วยอาหารหลายชนิด ที่มีความหมายอันเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น คือ
- ถั่วดำ (Kuro mame) พ้องเสียงกับคำว่า มะเมะ (Mame) หมายถึงความขยันขันแข็ง ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี
- สาหร่ายคมบุม้วน (Kobu maki) ขอพรให้ทั้งปีมีแต่เรื่องน่ายินดี สมาชิกในครอบครัวรักสามัคคีกัน
- คามาโบโกะ (Kamaboko) ลูกชิ้นปลาเส้นผิวนอกสีชมพู แสดงถึงความน่ายินดี เนื้อในสีขาวแสดงถึงความบริสุทธิ์ ให้เริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ดี
- ไข่ปลาเฮอริง (Kazu no ko) ปลาเฮอริง เป็นปลาที่วางไข่เป็นจำนวนมาก สื่อถึงการมีลูกหลานมากมาย
- ปลาไท(Tai) พ้องเสียงกับคำว่า เมะเดะไท (medetai) ที่เป็นว่าน่ายินดี ความเป็นมงคล
- ลูกปลาซาร์ดีนตากแห้ง สิ่งที่สื่อความหมายถึง การเพาะปลูกพืชไร่ให้ได้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์
- กุ้ง (Ebi) ตัวกุ้งงอดูคล้ายผู้สูงอายุหลังค่อม ขอให้มีอายุยืนยาวจนหลังงองุ้ม
- ไข่ม้วน (Datemaki) สีเหลืองของไข่แสดงถึงโชคลาภ และเงินทอง เพื่อขอให้มีฐานะมั่งคั่ง
- เกาลัดบด (Kurikinton) สิ่งที่สื่อความหมายถึง เงินทองไหลมาเทมา ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองตลอดทั้งปี
- รากบัวต้ม (Renkon) มีลักษณะเป็นรูกลมกลวง ๆ สื่อถึงสามารถมองเห็นอนาคตที่กว้างไกล มีทัศนวิสัยที่ดี
- รากไม้โกะโบว (Gobou) รากไม้โกะโบว เป็นรากไม้ที่ยาวเติบโตอยู่ในดิน มีความแข็งแรงทนทาน สื่อถึงสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง หนักแน่น ทนต่อความยากลำบากได้ดี
- ไชเท้าและแครอทดอง (Kouhaku namasu) สิ่งที่สื่อความหมายถึง เปรียบเสมือนกับเป็นเครื่องรางทีดี
- เผือกต้ม (Satoimo) สิ่งที่สื่อความหมายถึง มีลูกหลานมากมาย
เทศกาลตำโมจิ (Mochitsuki)
© JNTO
ซุปโอะโซนิ (Ozoni)
© JNTO
คะงะมิโมจิ (Kagamimochi)
โมจิ (Mochi) ถือเป็นอาหารมงคลในหลายโอกาสของชาวญี่ปุ่น และยังเป็นเครื่องสักการะเทพเจ้าด้วยเช่นกัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นจะมีการทำโมจิแบบดั้งเดิมนั้นเรียกว่า โมจิทสึกิ (Mochitsuki) เป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าที่สืบทอดมาแต่โบราณ แม้ในปัจจุบันจะหาชมได้เฉพาะช่วงสิ้นปี วิธีการทำจะเริ่มจากการใส่ข้าวเหนียวลงในครกไม้ขนาดใหญ่ โดยที่คนหนึ่งใช้สากไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าคิเนะ (kine) ตำลงไปเป็นจังหวะ และอีกคนคอยนวดด้วยมือเปล่าสลับไปมาโดยใช้ความเร็วสูง
ในช่วงปีใหม่นั้นชาวญี่ปุ่นจะนิยมประดับคะงะมิโมจิ (Kagamimochi) ไว้ในบ้าน และยังนำโมจิทำการไหว้เสร็จพิธีแล้ว นำมาทำเป็นอาหารที่เรียกว่าโอะโซนิ (Ozoni) คืออาหารประเภทซุปร้อนๆ ที่ใส่โมจิลงไปด้วย และในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีสไตล์การปรุงเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป หรือเครื่องเคราที่ใส่ลงไป
[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]
- เที่ยวช่วงปีใหม่ที่ญี่ปุ่นแบบสบายๆ
- ตะลุยญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดปีใหม่
- มาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ญี่ปุ่นกันเถอะ!
- มารู้จักมารยาทในการไหว้ขอพรที่ถูกต้องแล้วไปไหว้ขอพรปีใหม่กันเถอะ
- งานเคาท์ดาวน์ (Countdown) ที่ไม่ต้องจองล่วงหน้า
- ลองไปเสี่ยง “เซียมซี” (Omikuji) ที่วัดและศาลเจ้ากันเถอะ
- สะสมเครื่องรางญี่ปุ่นกันเถอะ
- ไหว้พระ ขอพร เสริมดวงความรัก
- เทศกาลตลอดปี
- ซุปโอะโซนิ (Ozoni) ชนิดต่างๆของแต่ละท้องถิ่นในญี่ปุ่น
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2020