เปิดวาร์ป 6 จุดเช็คอินใหม่ในญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการในปี 2021 นี้

เกาะโคซุชิมะ (Kozushima) อยู่ห่างออกไปทางใต้ของเมืองโตเกียว (Tokyo) กว่า 180 กิโลเมตร เป็นเกาะขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูดาวและการสังเกตการณ์ทางด้านดาราศาสตร์แบบไร้สิ่งกีดขวางและไม่ได้รับผลกระทบจากแสงไฟที่คอยรบกวนการมองเห็นดวงดาว สามารถชมทางช้างเผือกได้อย่างสวยงามในฤดูหนาว ยังสามารถมองเห็นดาว Canopus (ดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาว Carina) หรือจะเลือกจองทัวร์ดูดาวก็สามารถทำได้เช่นกัน
จองทัวร์ดูดาวได้ทางเว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.govoyagin.com/activities/japan-tokyo-stargazing-with-telescope-kozushima-island/11238

เกาะโคซุชิมะ (Kozushima) ได้รับการรับรองโดยสมาคม International Dark-Sky Association (IDA) ให้เป็นหนึ่งใน International Dark Sky Park (IDSP) หรือสถานที่ดูดาวและศึกษาเกี่ยวกับดาราศาสตร์ทั่วโลกในปี ค.ศ. 2020 โดยประเทศญี่ปุ่นมีเพียง 2 แห่งที่ได้รับการรับรองนี้ อีกที่หนึ่งคือ อุทธยานแห่งชาติ อิริโอะโมะเตะ-อิชิงะคิ (Iriomote-Ishigaki National Park)

นอกจากการชมดาวแล้วยังสามารถเที่ยวชมหาดทรายและมหาสมุทรแปซิฟิกสวย ๆ ดำน้ำ เดินเทรคกิ้ง หรือปั่นจักรยานรอบเกาะได้เช่นกัน

สถานที่และกิจกรรมที่น่าสนใจภายในเกาะโคซุชิมะ (Kozushima)

• จุดชมวิวหมู่ดาวอ่าวมิอุระ (Miura Bay Observation Deck)
  จุดชมวิวชมหมู่ดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สามารถมองเห็นดาว Canopus (ดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาว Carina) ในฤดูหนาวได้อย่างชัดเจน
• ภูเขาเทนโจ (Mount Tenjo)
  ภูเขาที่มีความสูงมาถึง 572 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนเขามีบ่อน้ำธรรมชาติและทรายสีขาวบริเวณใกล้กับยอดเขา สามารถเดินเทรคกิ้งพร้อมชมวิวทะเลและเกาะโดยรอบ ซึ่งที่นี่ติดอันดับ “New Tokyo 100 Best Views” อีกด้วย
• อ่าวทะโกะ (Tako Bay)
  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ มีทิวทัศน์ที่สวยงามของทรายสีขาวที่ตัดกับสีเขียวเข้มของต้นสน เป็นที่นิยมในการมาทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น การเล่นน้ำ เป็นต้น
• รูปปั้นมิซุคุบะริ (Statue of Mizukubari)
  จาก Mizukubari no Densetsu หรือ ตำนานแห่งการแบ่งปันน้ำ เทพเจ้าจากเกาะทั้ง 7 มารวมตัวกันที่เกาะโคซุชิมะ (Kozushima) เพื่อประชุมว่าจะจัดการน้ำในบริเวณนี้อย่างไร
• ซะบุสะกิ อนเซ็น โคซุชิมะอนเซ็น โฮโย เซนเตอร์ (Sabusaki Onsen Kozushima Onsen Hoyo Center)
  อนเซ็นที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 เพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อน เป็นหนึ่งในอนเซ็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศในแง่ของปริมาณน้ำแร่ น้ำแร่จะมีความเป็นเกลือสูง สามารถให้ความอบอุ่นกับร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม
• อะคะสะคิ ยุโฮะโดะ (Akasaki Yuhodo)
  ทางเดินไม้ที่สร้างขึ้นตามแนวหินริมทะเลที่มีความยามมากถึง 500 เมตร มีการติดตั้งกระดานว่ายน้ำไว้ตลอดเส้นทาง สามารถกระโดดลงไปเล่นน่ำทะเลได้ทันที นอกจากนี้ยังมีบริการว่ายน้ำและดำน้ำตื้นอีกด้วย
• หาดนะงะฮะมะ (Nagahama Beach)
  หาดนี้สามารถมาเดินเล่นหรือเล่นน้ำทะเลไปกับวิวทิวทัศน์สวย ๆ ได้ และยังสามารถชมดวงอาทิตย์ตกในมุมที่สวยงามในบริเวณหาดแห่งนี้ได้อีกด้วย จำเป็นต้องติดต่อ Kozushima Sightseeing Information Center ล่วงหน้า เมื่อเดินทางมาถึงเกาะโคซุชิมะ (Kozushima)
• หาดมาเอะฮะมะ (Maehama Beach)
  หาดทรายขาวยาวกว่า 1 กิโลเมตร สามารถมาเล่นน้ำหรือทำกิจกรรมริมทะเลได้หลากหลาย

สวนสนุกเซบุเอ็ง (Seibuen Amusement Park) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตะมะ (Saitama) จะเปิดให้บริการอีกครั้งภายในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 2021 หลังจากครบรอบ 70 ปีของสวนสนุกในปี ค.ศ. 2020 โดยกลับมาพร้อมกับการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ เปิดพื้นที่ใหม่ที่จะพาทุกคนย้อนเวลาไปสัมผัสกับแสงสีในเมืองโตเกียวช่วงยุคโชวะ (Showa Era) หรือช่วงปี ค.ศ. 1960 บรรยากาศจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอดีต แสง สี เสียง ที่ชวนนึกถึงละครหรือภาพยนต์ย้อนยุค แถมร้านค้า ร้านอาหารก็ยังนำเสนอในธีมยุคโชวะด้วยเช่นกัน หรือจะเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีความครึกครื้นของผู้คนในเมืองเหมือนได้ไปเดินในยุคนั้นจริง ๆ

สวนสนุกเซบุเอ็ง (Seibuen Amusement Park) มีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยสวนสนุก สวนน้ำในช่วงฤดูร้อน และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น ชมซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ชมดอกไม้ไฟในฤดูร้อน ลานสเก็ตน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น

ฟูจิยะมะ – คิง ออฟ โคสเตอร์ ทาวเวอร์ (Fujiyama – King of Coasters Tower) จุดชมวิวและเครื่องเล่นใหม่ที่กำลังจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากมุมสูงภายในสวนสนุก ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) หอคอยนี้สร้างขึ้นติดกับส่วนโค้งของราง Fujiyama – King of Coasters ซึ่งเป็นโค้งที่สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเครื่องเล่นอีกด้วย โดยจุดประสงค์ของการสร้างหอคอยนี้ ไม่เพียงแค่ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังช่วยให้ช่างขึ้นมาตรวจสภาพรางและอื่น ๆ ของเครื่องเล่นได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวติดอันดับโลกนี้ ซึ่งจะครบรอบ 25 ปีในปี ค.ศ. 2021 โดยมีกำหนดการเปิดภายในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2021 นี้

• Fujiyama Sky Deck
  หอคอยชมวิว คือ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนและวิวโดยรอบจากจุดที่สูงที่สุดที่มีความสูงมากถึง 55 เมตร
• Fujiyama Walk
  ทางเดินเหินเวหา คือ ทางเดินสุดหวาดเสียว ที่สามารถเดินชมวิวภูเขาไฟฟูจิบนทางเดินแคบ ๆ ที่ไม่มีราวจับ โดยมีสลิงผูกติดกับตัว
• Fujiyama Slider
  สไลด์เดอร์ คือ สไลด์ที่จะพาเราลงจากชั้นบนสุดของหอคอยไปสู่ชั้นล่างได้อย่างรวดเร็วและสนุกไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากนี้ ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) คือหนึ่งในสวนสนุกยอดนิยมของคนญี่ปุ่นทั้งเด็ก วัยรุ่น และครอบครัวที่ต้องการมาพักผ่อน สนุกสนานกับเครื่องเล่นมากมาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมตื่นเต้นแบบสุดเหวี่ยง เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดยิ่งใหญ่อลังการที่แสนน่าตื่นเต้นหวาดเสียวมากมาย เช่น รถไฟเหาะขนาดยักษ์ “Fujiyama” รถไฟเหาะที่มีหอคอยสูงเสียดฟ้าอย่าง “Dodonpa” และรถไฟเหาะที่ทำมุมสูงชันที่สุดในโลกอย่าง “Takabisha” เป็นต้น นอกจากนี้ที่นี่ยังพรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นอีกมากมาย เช่น บ้านผีสิง “Super Scary Labyrinth of Fear” และเกมหนีตายจากเขาวงกต “Ultimate Fort” เป็นต้น จึงเป็นสถานที่ที่น่ามาเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจได้อย่างสุดเหวี่ยง อีกจุดเด่นของฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) ก็คือการที่เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากภายในสวนสนุก

กันดั้ม-ดอค แฟคตอรี่ โยโกฮามะ (GUNDAM-DOCK FACTORY YOKOHAMA) อยู่ที่เมืองท่าโยโกฮามะ จังหวัดคะนะงะวะ (Yokohama, Kanagawa) ซึ่งสำหรับคนรักกันดั้ม หรือ Mobile Suit Gundam ไม่ควรพลาดกับการไปพบกับ RX-78F00 สเกล 1 ต่อ 1 หรือขนาดเทียบเท่าของจริงที่มีความสูงถึง 18 เมตร ที่บริเวณ GUNDAM-DOCK ความพิเศษของกันดั้มตัวนี้คือสามารถขับเป็นท่าทางต่าง ๆ ได้ โดยมีการแสดงในทุก ๆ 30 นาที ระยะเวลาการแสดง 10 นาที พิเศษไปกว่านั้น สำหรับใครที่อยากสัมผัสกับ RX-78F00 ในระยะประชิด สามารถเข้าชมได้ที่ GUNDAM-DOCK TOWER ที่จะขึ้นไปบนความสูง 15 – 18 เมตร หรือบริเวณส่วนตัวกับส่วนหัวนั่นเอง

อีกโซนหนึ่งที่สำคัญที่สามารถเยี่ยมชมได้ก็คือ GUNDAM-LAB โดยจะแบ่งออกเป็น

1. ACADEMY ภายในจะนำเสนอขั้นตอนการสร้างและกลไกของ RX-78F00 บริเวณ GUNDAM-DOCK
2. THE GUNDAM BASE YOKOHAMA Satellite ศูนย์รวมสินค้าและกันพลาสำหรับแฟน ๆ กันดั้มโดยเฉพาะ
3. GUNDAM Cafe YOKOHAMA Satellite คาเฟ่ที่เสิร์พเมนูต่าง ๆ เฉพาะที่ GUNDAM FACTORY เท่านั้น

ใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์ Mobile Suit Gundam ไม่ควรพลาด โดยงานจะจัดตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2022

วัดคิโยะมิซุเดระ (Kiyomizu-dera Temple) และวัดคิงคะคุจิ (Kinkakuji Temple) กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกครั้งอย่างเป็นทางการหลังจากการปิดบูรณะปรับปรุง

วัดคิโยะมิซุเดระ (Kiyomizu-dera Temple) ได้มีการปรับปรุงยาวนานมาถึง 4 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 โดยการบูรณะโครงสร้างและพื้นของวัด พื้นของอาคารหลักถูกแทนที่ด้วยไม้ฮิโนกิ เป็นการเปลี่ยนครั้งแรกในในรอบ 50 ปี ได้รับการปรับปรุงจนแล้วเสร็จพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมและอธิษฐานขอพรจากพระโพธิสัตว์คันนอนภายในบริเวณโถงใหญ่ของวัดได้แล้ว วัดคิโยะมิซุเดระ (Kiyomizu-dera Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเกียวโต (Kyoto) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 778 ชื่อวัดถูกตั้งมาจากความใสบริสุทธิ์ของน้ำจากน้ำตกโอะโตะวะ (Otowa Waterfall) ในบริเวณวัด ซึ่งน้ำตกนี้ เป็นหนึ่งในจุดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพราะมีน้ำตก 3 สายที่สามารถใช้กระบวยยาวรองน้ำมาดื่มเพื่อรับพรในแต่ละเรื่องได้ โดยแบ่งออกเป็น การมีอายุที่ยืนยาว ความสำเร็จในการเรียน และความสมหวังในความรัก อีกหนึ่งจุดยอดนิยมของวัดคือจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นอาคารของวัดและระเบียงไม้ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับวัดนี้ ฤดูที่สวยและเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดของวัดคือฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลโดยรอบจะกลายเป็นสีแดงสดสวยงามพร้อมให้ถ่ายรูปกันอย่างหนำใจ ในปี ค.ศ. 1994 วัดคิโยะมิซุเดระ (Kiyomizu-dera Temple) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Site)

วัดคิงคะคุจิ (Kinkakuji Temple) จะมีการบูรณะทุก ๆ 20 ปี แต่เนื่องด้วยปี ค.ศ. 2020 มีผู้เยี่ยมชมลดลงเหลือเพียง 10% จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำการบูรณะในช่วงเวลานี้ หรือ 18 ปี หลังจากการบูรณะครั้งล่าสุดของวัด กระเบื้องกว่า 100,000 แผ่นได้ถูกเปลี่ยนเป็นกระเบื้องใหม่ และทองที่เคลือบตัวอาคารก็ถูกทำการปรับปรุงและเคลือบทองใหม่ทดแทน โดยการบูรณะวัดคิงคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ในครั้งนี้ ใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 4 เดือน ตอนนี้สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ วัดคิงคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต (Kyoto) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโต (Kyoto) ที่ใคร ๆ ก็อยากมาชมความสวยงามและเก็บภาพประทับใจของอาคารสีทองริมน้ำ วัดคิงคะคุจิ (Kinkakuji Temple) แต่เดิมอาคารแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึ (Ashikaga Yoshimitsu) หลังจากโชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึสิ้นใจ อาคารแห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นวัดเซ็น (Zen) นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพวัดสีทองนี้จากอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบ

ซูเปอร์นินเทนโดเวิลด์ (SUPER NINTENDO WORLD™) เหมาะกับเหล่าสาวกเกม Mario และต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งกับสวนสนุกโซนใหม่ภายใน Universal Studios Japan กับ “SUPER NINTENDO WORLD™” สวนสนุกสุดน่ารักสีสันสดใสที่กำลังพานักท่องเที่ยวไปวิ่งเล่นอยู่ในเกม Super Mario แบบสมจริง เติมเต็มจินตนาการวัยเด็กของผู้ใหญ่และสร้างสรรค์จินตนาการของเด็ก ๆ ไปพร้อมกัน สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่คุ้นเคยแบบที่เคยเห็นในเกมชุด Super Mario
โดยนอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เหมือนหลุดเข้าไปในเกมแล้ว ภายในโซนดังกล่าวจะจำลองบรรยากาศเมืองของมาริโอ้ที่ทุกคนเคยเห็นผ่านหน้าจอเกม มีทั้งร้านค้า และร้านอาหาร ที่ตกแต่งด้วยคาแรคเตอร์ต่าง ๆ และเครื่องเล่นอีกมากมาย เช่น รถแข่งมาริโอ้คาร์ท ปราสาทเจ้าหญิงพีช ปราสาทคุปป้า พื้นที่ผจญภัยกับเจ้าไดโนเสาร์น้อยยชชี่ และอาณาจักรเห็ด เป็นต้น ซึ่งทางสวนสนุกได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดพัฒนาขึ้น

โซนซูเปอร์นินเทนโดเวิลด์ (SUPER NINTENDO WORLD™) จะมีโซนเครื่องเล่นและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น

Power-Up Band™
มีเครื่องเล่นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ผู้เล่นจะได้สวมสายรัดข้อมือ Power-Up Band™ มีจำหน่ายที่บริเวณรถเข็นหน้าทางเข้า Super Star Plaza ในราคา 3,200 เยน และสายรัดข้อมือนี้จะต้องเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อเก็บคะแนนผ่านการเล่นเครื่องเล่นที่กระจายอยู่หลายแห่ง รวมถึงการทำกิจกรรมในบริเวณต่าง ๆ สะสมเหรียญและของมากมายเพื่อประสบการณ์การเล่นเกม Super Mario ที่เสมือนการเข้าไปอยู่ในโลกของเกม

Mario Kart: Koopa’s Challenge
สนุกไปกับการนั่งรถ เก็บคะแนน แข่งขันกับทีมอื่น ๆ โดยการใส่แว่นที่จะแสดงภาพให้เราเล่นในระหว่างที่รถเคลื่อนที่ พร้อมกับช่วยกันกับเพื่อน ๆ ฝ่าฟันอุปสรรค์ต่าง ๆ ไปด้วยกัน สามารถยิงกระกระดองเต่าเก็บคะแนนได้ตลอดการแข่งขัน
โดยรถ 1 คัน สามารถเล่นพร้อมกันได้สูงสุด 4 คน แบ่งออกเป็น 2 แถวหน้าและหลัง ใช้เวลาเล่นประมาณ 5 นาทีต่อการเล่น 1 รอบ ความสูงของผู้เล่นต้องไม่น้อยกว่า 122 เซนติเมตร หรือไม่น้อยกว่า 107 เซนติเมตรสำหรับเด็กเล็กที่มีผู้ปกครองดูแล

Yoshi’s Adventure
ผจญภัยกับเจ้าไดโนเสาร์น้อยยชชี่ (Yoshi) ตามหาเห็ด Captain Toad พร้อมชมบรรยากาศของอาณาจักรเห็ด (Mushroom Kingdom) จากบนภูเขาบีนโพล (Mount Beanpole) เพลิดเพลินไปกับตัวละครต่าง ๆ ที่ออกมาทักทายตามเส้นทางได้อีกด้วย Yoshi’s Adventure ใช้เวลาประมาณ 5 นาที สามารถเดินทางพร้อมกันได้สูงสุด 4 คน แบ่งออกเป็นหน้า 2 คน และหลัง 2 คน ความสูงต้องไม่ต่ำกว่า 122 เซนติเมตร หรือไม่ต่ำกว่า 86 เซนติเมตรในกรณีที่มีผู้ปกครองดูแล

ร้านอาหาร ร้านขนม และร้านขายของที่ระลึก
นอกจากนี้ยังมีอาหาร ขนม และสินค้าเกี่ยวกับ Super Mario ให้ได้ลิ้มลองและซื้อสะสมเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย โดยมีมุมร้านอาหารและขนมที่หลากหลาย อย่างเช่น

• Kinopio’s Café คาเฟ่ที่แปลงมาจากบ้านของเห็ด Captain Toad พร้อมลิ้มลองอาหารจากฝีมือของเชฟเห็ด พร้อมกับการชมวิวสวย ๆ ของ Mushroom Kingdom จากหน้าต่างของร้าน โดยมีเมนูน่าลอง อย่างเช่น Mario’s Bacon Cheeseburger, Super Mushroom Pizza Bowl และ ? Block Tiramisu ขนมทิรามิสุรูปกล่อง “?”
• Pit Stop Popcorn ที่ขายป๊อปคอร์นสองรสชาติ Caramel Peach กับ Mushroom Cream และยังมีถังป๊อปคอร์นรูปมาริโอ้และดาวด้วยเช่นกัน
• เมนูของว่าง Yoshi’s Snack Island™ กับ Green Shell Calzone รูปกระดองเต่าไส้ยะกิโซบะและชีส
• เมนูเครื่องดื่ม Yoshi’s Lassi เครื่องดื่มโยเกิร์ตปั่นรสมะม่วงหรือแคนตาลูป เป็นต้น