เที่ยวแบบ New Normal สนุก ปลอดภัย ตะลอนไปกับเส้นทางขับรถ ภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) ตอนที่ 1

JAN21_shikoku_36

การเตรียมวางแผนเพื่อเดินทาง ภายใต้รูปแบบการท่องเที่ยววิถีใหม่ หรือ New Normal

การท่องเที่ยวแบบ New Normal คือ การท่องเที่ยวแบบ ความสุข สนุก ประทับใจ ยังต้องเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ด้วยการยึดแนวทางตามหลัก Social Distancing อย่างเคร่งครัด โดยปกติแล้วก่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนอยู่เสมอ ไม่ว่าวางแผนว่าจะไปที่ไหน เดินทางอย่างไร ที่พัก ร้านอาหารระหว่างการเดินทาง งบประมาณ ฯลฯ แต่การเตรียมตัวในด้านสุขภาพก่อนเดินทางมักจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เนื่องจากการเดินทางไปต่างประเทศ หรือแม้แต่การเดินทางไปญี่ปุ่น ที่มีภูมิอากาศที่แตกต่างไปจากเมืองไทยที่ และเฉพาะสถานการณ์หลังจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

เที่ยวญี่ปุ่นอย่างปลอดภัยในช่วงหลังจาก COVID-19

ประเทศญี่ปุ่นกำลังเตรียมพร้อมต้อนรับคุณมาเที่ยว  ธุรกิจหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นได้จัดเตรียมมาตรการป้องกันโรค COVID-19  เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่ประเทศญี่ปุ่นอย่างปลอดภัยไร้กังวล ขอยกตัวอย่างธุรกิจ 3 ประเภท (สายการบิน การรถไฟ โรงแรม) ที่ได้จัดทำมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคโควิด-19

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jnto.or.th/covid19_japan-safe-travel/

การเตรียมตัวก่อนเดินทางและระหว่างเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบ New Normal

  • ซื้อประกันการเดินทางที่เหมาะสม และครอบคลุม
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine) ก่อนวันเดินทางประมาณ 2 อาทิตย์ เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ได้ 40-60% มีแนวโน้มช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ
  • การใส่หน้ากากอนามัยสวมใส่ตลอดเวลาแม้อยู่บนรถ พร้อมพกหน้ากากอนามัยติดตัว และควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยอย่างน้อย วันละ 1 ครั้ง
  • เตรียมแอลกอฮอล์เจล หรือ แอลกอฮอล์สเปรย์ สำหรับล้างมือติดตัว
  • เตรียมผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
  • เตรียมเครื่องวัดอุณหภูมิ เพื่อวัดอุณหภูมิในทุก ๆ วัน และรักษาสุขภาพ เพื่อไม่ให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส
  • เตรียมยาประจำตัว และยาสามัญทั่วไป ติดตัวไปด้วยทุกการเดินทาง
  • เตรียมวิตามินซีไว้ทานระหว่างการเดินทาง เพื่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มภูมิต้านทาน
  • เตรียมช้อนตัวเอง ไว้รับประทานอาหาร
  • ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในระหว่างการท่องเที่ยว
  • หลีกเลี่ยงการแวะข้างทางให้น้อยที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการเยี่ยมชมสถานที่ในช่วงเวลาที่มีคนพลุกพล่าน แนะนำรอเวลาแล้วเยี่ยมชมในภายหลังเมื่อคนน้อยลง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่จุดพักยอดนิยม
  • แนะนำควรตรวจสอบเวลาทำการของสถานที่ต่าง ๆ เนื่องจากบางสถานที่มีข้อจำกัดเวลาเปิด-ปิด และจำนวนผู้เข้าใช้ในแต่ละครั้ง
  • แนะนำจองร้านอาหารทางออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการรอคิว
  • แนะนำเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทก่อนเข้าพัก

ศัพท์ญี่ปุ่นที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่จำเป็นในช่วง COVID-19

ภาษาญี่ปุ่น: アルコール消毒
คำอ่าน: Aruko-ru Shoudoku
ความหมาย: แอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อโรค

ภาษาญี่ปุ่น: マスク用スプレー
คำอ่าน: Masukuyou Supure
ความหมาย: สเปรย์สำหรับฉีดหน้ากากอนามัย (สามารถป้องกันเชื้อไวรัส หรือละอองเกสรดอกไม้ได้)

ภาษาญี่ปุ่น: サージカルマスク
คำอ่าน: Sajikaru Mask
ความหมาย: หน้ากากอนามัยทางการแพทย์

ภาษาญี่ปุ่น: ウイルスマスク
คำอ่าน: : Virusu Mask
ความหมาย: หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัส

ภาษาญี่ปุ่น: ウェットティッシュアルコールタイプ
คำอ่าน: Wetto Tisshu Aruko-ru Taipu
ความหมาย: กระดาษเปียกแบบมีแอลกอฮอลล์

ข้อดีของการขับรถเที่ยวด้วยตัวเองในช่วง COVID-19

JAN21_shikoku_35
  1. สามารถหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด และสัมผัสบุคคลอื่นได้ในขณะเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ เช่นรถไฟ หรือรถบัส
  2. สามารถหลีกเลี่ยงการสนทนา การพูดคุยของบุคคลอื่นที่ตนเองไม่รู้จักในขณะเดินทาง
  3. สามารถทราบถึงข้อมูลของผู้ที่โดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว ว่ามีอาการสุ่มเสี่ยงหรือไม่ จะได้ป้องกันการแพร่ระบาด

วิธีเตรียมตัวก่อนเช่ารถขับในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบคมนาคมที่ทันสมัย และครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ แต่สำหรับนักเดินทางที่ต้องการเที่ยวแบบ New Normal ทั้งสนุก และคำนึงถึงความปลอดภัย หรือ ชอบความอิสระ และอยากสนุกตามสไตล์ของตัวเอง ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวแบบเช่ารถขับเอง ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเดินทาง โดยเฉพาะหากมากับครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนหลายคนก็จะยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทางไปได้มาก

 

การเช่ารถขับที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถเตรียมตัวได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  1. ใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ สามารถขอได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด
    เอกสารในการทำใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ มีดังนี้

    • สำเนาหนังสือเดินทาง (พร้อมฉบับจริง)
    • สำเนาประจำตัวประชาชน (พร้อมฉบับจริง)
    • ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล (ชนิด 5 ปี) หรือตลอดชีพ
    • รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว 2 รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
    • เงินค่าธรรมเนียม จำนวน 505 บาท
  2. พาสปอร์ตของผู้ที่เป็นคนขับ
  3. เอกสารยืนยันการจองรถที่ได้รับจากอีเมล
  4. บัตรเครดิต
  5. จองรถเช่าที่ญี่ปุ่น
  6. บัตรผ่านทางด่วน / Expressway pass
  7. ประกันอุบัติเหตุ
  8. ศึกษาเส้นทางการเดินทาง / เตรียมแผนที่
  9. ศึกษาข้อมูลการการเติมน้ำมัน วิธีการจอดรถ ไปจนถึงระบบการใช้ทางด่วนที่ญี่ปุ่น / กฎการจราจรต่างๆ / กติกามารยาทการขับรถที่ญี่ปุ่น

 

ลิ้งค์แนะนำวิธีการขับรถในญี่ปุ่น

การเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น

จองรถเช่า

ควรเลือกบริษัทรถเช่าสัญชาติญี่ปุ่นที่มีจำนวนสาขารองรับตามสถานที่ที่จะไป มีแพ็กเกจโปรโมชั่นต่างๆ  และการบริการที่ดี การจองรถเช่าคือ การจองจากอินเตอร์เน็ต หรือ จองจากบริษัทรถเช่าญี่ปุ่นในเมืองไทยก็ได้เช่นกัน

** ข้อแนะนำ หากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวรถที่ต้องการหรือรุ่นที่นิยมก็อาจจะถูกจองจนเต็มได้ จึงแนะนำให้รีบจองแต่เนิ่นๆ **

ประเภทของรถเช่าที่ญี่ปุ่น

ใบอนุญาตขับขี่สากล โดยส่วนมากจะใช้ประเภทของรถเช่าที่ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ถ้าต้องการใบอนุญาตขับขี่ประเภทของรถเช่าที่มากกว่า 7 ที่นั่ง  ต้องสอบถามกับกรมการขนส่งทางบก ก่อนที่จะทำใบอนุญาตขับขี่สากล

** ข้อแนะนำ ก่อนทำการจองรถ ไม่ควรดูแค่จำนวนที่นั่ง หรือจำนวนผู้โดยสารอย่างเดียว ต้องมีการคำนึงถึงจำนวนสัมภาระที่ต้องบรรจุด้วย  สอบถามรายละเอียดเพิ่มจากบริษัทเช่ารถหรือตัวแทนก่อนทำการจองรถทุกครั้ง **

แนะนำบริการเช่ารถขับที่นิยม

  • บริษัท Rental Car
    บริการจัดหารถเช่าผ่านระบบออนไลน์ ร่วมกับบริษัทรถเช่ากว่า 900 บริษัท จึงสามารถหารถเช่าที่เหมาะสม ในราคาที่ดีที่สุดให้ได้
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.rentalcars.com/th/
  • บริษัท TOYOTA Rent a Car
    บริษัทเช่ารถยนต์ของ Toyota ที่มีตั้งแต่รถยนต์ราคาประหยัดสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก รถสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่บรรทุกสัมภาระได้มาก สามารถเลือกจุดรับ-ส่งคืนรถได้ตามต้องการ
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://rent.toyota.co.jp/th/
  • บริษัท TOCOO!
    เป็นบริการเช่ารถยนต์ชั้นนำที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น รวมเอาหลายบริษัทเช่ารถยนต์มาให้ได้เลือกใช้บริการ สามารถกำหนดเรทราคาตามงบที่มี และกำหนดจุดรับ-ส่งคืนรถตามที่ต้องการ
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www2.tocoo.jp/th/

บัตรผ่านทางด่วน (ETC card) / บัตรเหมาจ่ายทางด่วน (Expressway pass)

ระบบ Electronic Toll Collection (ETC) จะต้องติดตั้งเครื่องรองรับบัตรอยู่ในรถที่เช่า พร้อมใช้คู่กับบัตรผ่านทางด่วน (ETC)
บัตรผ่านทางด่วน (ETC) ได้แก่

  • แบบระบบ ETC Card เติมเงินแล้วตัดเงินตามระยะทาง
  • แบบระบบ Expressway pass สามารถใช้บริการทางด่วนได้ในระยะทางที่ไม่จำกัด/ภายในระยะเวลากำหนด

** ข้อแนะนำ ถ้าต้องการใช้บัตรผ่านทางด่วน ให้สอบถามกับบริษัทเช่ารถ เกี่ยวกับบัตร ETC Card/ Expressway pass ก่อนทำการจองรถว่ามีระบบรองรับหรือไม่ **

เที่ยวญี่ปุ่นแบบ New Normal สนุก ปลอดภัย ตะลอนไปกับเส้นทางขับรถ ภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) ตอนที่ 1 คือ การเดินทางไปท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ ในภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) ดื่มด่ำกับความสนุกได้ตลอดทั้งปี พร้อมกับชมความงามไม่ว่าจะเป็น วัดวาอาราม ธรรมชาติ ทะเล ภูเขา และศิลปะ ผ่านเส้นทางจังหวัดโอซาก้า (Osaka), จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo), จังหวัดคางาวะ (Kagawa), จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) เป็นระยะเวลา 5 วัน โดยการขับรถเที่ยวสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางต่างๆ ในเวลาท่องเที่ยวจริงได้อีกด้วย

ระยะเวลาการเดินทาง 5 วัน

วันที่ 1

เกาะอะวะจิ (Awaji Island), เฮียวโงะ (Hyogo)

JAN21_shikoku_14

สะพานอะคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo) ข้ามมายังเกาะอะวะจิ(Awaji)

JAN21_shikoku_15

สวนสาธารณะไมโกะ (Hyogo Prefectural Maiko Park)

เกาะอะวะจิ (Awaji Island) เป็นเกาะของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) อยู่ระหว่างเกาะฮอนชู (Honshu) กับเกาะชิโกะคุ (Shikoku) บริเวณช่องแคบช่องแคบนารุโตะ (Naruto Strait) เป็นแหล่งที่มีน้ำวนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น พื้นที่บนเกาะอะวะจิมีขนาดทั้งสิ้น 592.17 ตารางกิโลเมตร โดยมีสะพานอะคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo) เป็นสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างเมืองโกเบ (Kobe) กับเมืองอะวะจิ (Awaji) โดยเปิดใช้งานมาแล้วกว่า 19 ปี เป็นหนึ่งในเส้นทางคมนาคมหลักที่ใช้สัญจรไปยังเกาะฮอนชู (Honshu) กับเกาะชิโกะคุ (Shikoku) และนับว่าเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก
บริเวณด้านล่างของสะพานอะคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo) จะมีสวนสาธารณะไมโกะ (Hyogo Prefectural Maiko Park) ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดให้คนได้มานั่งเล่น ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ฟรี แต่ถ้าเป็นจุดชมวิว ไมโกะมารีนโพรเมเนต (Maiko Marine Promenade) จะมีค่าเข้าชม

นอกจากนี้บนเกาะอะวะจิ (Awaji Island) ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจเช่น ปราสาทซุโมะโตะ (Sumoto Castle), พิพิธภัณฑ์พฤกษศาสตร์คิเซะกิโนะโฮะชิ (Kiseki No Hoshi BOTANICAL MUSEUM), ป่าสนเคโนะมัตสึบาระ (Keino Matsubara Beach), จุดพักรถมิจิโนะเอกิ อุซุชิโอะ (Michi-no-Eki Uzushio) และอีกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถขับรถผ่านสะพานอะคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo) มายังเกาะอะวะจิ เพื่อเข้าสู่ภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและยังแวะเที่ยวที่ต่างๆ ได้อีก

พิพิธภัณฑ์พฤกษศาสตร์คิเซะกิโนะโฮะชิ (Kiseki No Hoshi BOTANICAL MUSEUM), เฮียวโงะ (Hyogo)

JAN21_shikoku_46

ภายในพิพิธภัณฑ์พฤกษศาสตร์คิเซะกิโนะโฮะชิ
(Kiseki No Hoshi BOTANICAL MUSEUM)

© Hyogo Prefecture Tourism Association

JAN21_shikoku_01

มีการจัดแสดงดอกไม้นานาพันธุ์
ภายในเรือนกระจกขนาดใหญ่

© Hyogo Prefecture Tourism Association

พิพิธภัณฑ์พฤกษศาสตร์คิเซะกิโนะโฮะชิ (Kiseki no Hoshi Botanical Museum) เป็นสวนเรือนกระจกขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดผลิบานสวยงามตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ในอะวะจิยุเมะบุไต (Awaji Yumebutai) สวนรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยทาดาโอะ อันโด (Tadao Ando) สถาปนิกชื่อดังระดับโลก

ภายในสวนมีพื้นที่ถึง 6,700 ตารางเมตร จัดแสดงพืชพรรณหลากหลายชนิดภายใต้คอนเซปต์การดื่มด่ำไปกับธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยจะแยกออกเป็น 9 โซนได้แก่ห้องจัดแสดงพันธุ์ไม้แห่งท้องทะเลทราย (Plants Gallery), ห้องสวนเขตร้อนชื้น (tropical garden room), สวนญี่ปุ่นสมัยใหม่ (New Lifestyle with Plants), สวนบำบัด (healing garden), สวนดอกไม้ (Flower Show Space), ห้องต้นเฟิร์น (fern room) และโซนด้านนอกอีกมากมาย ซึ่งต้นไม้ และดอกไม้ของที่นี่ไม่ใช่พืชที่สามารถพบได้ทั่วไป เพราะมาจากทั่วทุกมุมโลก มีการสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุก ๆ 1-2 เดือน จึงสามารถชมความงามของดอกไม้ได้โดยไม่เบื่อ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kiseki no Hoshi Botanical Museum
4 banchi, Yumebutai, Awaji-shi, Hyogo
แผนที่
การเดินทาง จาก Kansai Airport โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาทำการ 10:00 – 18:00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 17:30 น)
วันหยุด หยุดวันพฤหัสในสัปดาห์การปรับเปลี่ยนต้นไม้เดือนกรกฎาคม และพฤศจิกายน
ค่าใช้จ่าย ทั่วไป 700 เยน
ผู้สูงอายุ (70 ปีขึ้นไป, จำเป็นต้องมีหลักฐาน) 350 เยน
เด็กต่ำกว่ามัธยมปลาย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.kisekinohoshi.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.kisekinohoshi.jp/english
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

อะวะจิ ฟาร์ม พาร์ค เดอะ ฮิลค์ อิงค์แลนด์ (Awaji Farm Park The Hill of England), เฮียวโงะ (Hyogo)

JAN21_shikoku_45

นกกระเรียนมงกุฎดำ (Black crowned crane)

JAN21_shikoku_49

อะวะจิ ฟาร์ม พาร์ค เดอะ ฮิลค์ อิงค์แลนด์
(Awaji Farm Park The Hill of England)

อะวะจิ ฟาร์ม พาร์ค เดอะ ฮิลค์ อิงค์แลนด์ (Awaji Farm Park The Hill of England) ตั้งอยู่ในเมืองมินามิ อะวะจิ (Minami-Awaji) ได้มีการจำลองบรรยากาศของฟาร์มแห่งประเทศอังกฤษมาไว้ที่นี่ จึงทำให้มีมุมถ่ายรูปสไตล์อังกฤษมากมาย เป็นฟาร์มที่เปิดให้คนรักสัตว์สามารถเข้าไปเพลิดเพลิน หรือให้อาหารกับสัตว์หลายชนิด ทั้งหมีโคอาล่า กระต่ายน้อย หนูยักษ์ นกกระเรียนมงกุฎดำ และนกพันธุ์ต่าง ๆ เจ้าแกะขนปุย ตัววัลลาบี และสัตว์เลื้อยคลานได้อย่างใกล้ชิด โดยจะแบ่งออกเป็น 8 โซนใหญ่ ๆ ด้วยกัน
ที่ฟาร์มแห่งนี้ ยังเป็นอาณาจักรแห่งดอกไม้ที่ซ่อนตัวอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ยังสามารถชมดอกไม้หลากหลายชนิดบานเต็มทุ่งได้ในทุกฤดูกาล ทั้งดอกเนโมฟีล่า (ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.) ดอกกุหลาบ (ช่วงกลางเดือนพ.ค.-มิ.ย. และเดือนส.ค.) ดอกทานตะวัน (ช่วงเดือนส.ค.) ดอกคอสมอส (ช่วงเดือนพ.ย.) และดอกทิวลิป (ช่วงกลางเดือนม.ค.-ก.พ.) รวมถึงมีกิจกรรมเวิร์คช็อปมากมายที่สามารถให้ทุกคนในครอบครัวมาร่วมกันสร้างสรรค์ เช่น การปิ้งย่างบาร์บีคิว ทำขนมปัง และทำไอศกรีม เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ของการเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ และพักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติจริง ๆ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Awaji Farm Park The Hill of England
1401 Yagiyogikami, Minamiawaji, Hyogo
แผนที่
การเดินทาง จาก Kiseki No Hoshi BOTANICAL MUSEUM โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 40 นาที
เวลาทำการ วันธรรมดา 9:30 – 17:00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:30 – 17:30 น. (ยกเว้นเดือนสิงหาคม – มีนาคม ปิด 17:00 น.)
เข้ารอบสุดท้ายก่อนฟาร์มปิด 30 นาที
วันหยุด ทุกวันอังคารที่ 3 ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมปลายขึ้นไป) 1,000 เยน
เด็ก (4 ขวบ – เด็กมัธยมต้น) 200 เยน
ต่ำกว่า 3 ขวบ ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.england-hill.com
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.england-hill.com/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

จุดพักรถมิจิโนะเอกิ อุซุชิโอะ (Michi-no-Eki Uzushio), เฮียวโงะ (Hyogo)

JAN21_shikoku_33

รูปปั้นอททะมะเนะงิ (Ottamanegi)

JAN21_shikoku_42

เบอร์เกอร์เนื้อวัวสอดไส้หัวหอมทอด
(Awajishima Onion Beef Burger)

© PR Time

จุดพักรถมิจิโนะเอกิ อุซุชิโอะ (Michi-no-Eki Uzushio) เป็นจุดพักรถยอดนิยมที่ผู้เดินทางมายังภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) มักจะแวะจอดผ่อนคลาย หาของกินอร่อย ๆ เติมพลังระหว่างทาง และยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมเพราะมี อททะมะเนะงิ (Ottamanegi) รูปปั้นหัวหอมขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเกาะอะวะจิ (Awaji Island) นั่นเอง โดยตั้งอยู่ที่อนุสรณ์สถานสะพานแขวนนารุโตะ อุซุโนะโอะกะ (Uzu no Oka, The Great Naruto Bridge Memorial Museum)

ภายในจุดพักรถแห่งนี้มีร้านค้าขายของฝากท้องถิ่น และร้านอาหาร ชื่อว่า Michi no Eki Restaurant ที่สามารถนั่งรับประทานอาหารไปพร้อม ๆ กับชมวิวสุดอลังการของช่องแคบนารุโตะ (Naruto Strait) ได้ และเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ เบอร์เกอร์เนื้อ (Awaji Shima Burger) ที่ร้านอะวะจิ ออเนียน คิชเช่น  (Awajishima Onion Kitchen) โดยจะใช้หัวหอมท้องถิ่น ที่เป็นที่เลื่องลือในเรื่องความหวาน มีเนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ และเนื้อวัวอะวะจิ (Awaji Beef) เป็นส่วนประกอบ เนื้อวัวสับราดกับซอสมะเขือเทศ รสชาติหวานอมเผ็ด วางอยู่บนหอมใหญ่ทอดชิ้นใหญ่หนา ประกบด้วยขนมปังฟูนุ่ม อร่อยถึงขั้นได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดแฮมเบอร์เกอร์ทั่วประเทศญี่ปุ่น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Michi-no-Eki Uzushio
Hei-947-22 Fukura, Minamiawaji, Hyogo
แผนที่
การเดินทาง จาก Awaji Farm Park The Hill of England โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 27 นาที
เวลาทำการ
Uzu no Oka
10:00-15:00 น.
Michi-no-Eki Uzushio
ร้านค้า 9:00 – 17:00 น.
ร้านอาหาร 10:00 – 15:00 น.
คาเฟ่ 9:00 – 15:00 น.

Awajishima Onion Kitchen
วันธรรมดา 9:30 – 16:30 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด 9:00 – 16:30 น.

วันหยุด
Uzu no Oka
หยุดวันอังคาร

Michi-no-Eki Uzushio
วันพฤหัสบดี
วันที่ 31 ธันวาคม – 1 มกราคม

ค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับร้านค้า
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://eki.uzunokuni.com/
https://uzunokuni.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://uzunokuni.com/lp_en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://setouchitrip.com/th/travel-directory/3151

ภูเขาบิซัน (Mount Bizan), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_16

กระเช้าขึ้นเขาบิซัน (Bizan Ropeway)

JAN21_shikoku_50

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่น่าหลงใหลของเมืองโทคุชิมะ

© Tokushima Prefecture Tourism Association

ภูเขาบิซัน (Mount Bizan) เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) และเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ได้รับความนิยม สามารถมองเห็นเมืองโทคุชิมะ (Tokushima) และเกาะอะวะจิ  (Awaji Island) ได้จากยอดเขาแบบ 360 องศา บนความสูงกว่า 290 เมตร โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ยิ่งจะเห็นวิวทิวทัศน์ และแสงสีของตัวเมืองได้สวยมากขึ้น บนภูเขาบิซัน (Mount Bizan) รายล้อมไปด้วยต้นไม้ และธรรมชาติ ทำให้มีทัศนียภาพแตกต่างกันทั้ง 4 ฤดูตลอดปี  ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวขจีในฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หิมะขาวโพลนในฤดูหนาว

วิธีการขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาบิซัน สามารถเดินทางได้หลายวิธี ทั้งการเดินไฮกิ้ง การขับรถยนต์ขึ้นไป หรือการนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Bizan Ropeway) ซึ่งเป็นวิธีที่แนะนำมากที่สุด เพราะใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น

นอกจากนี้ ด้านล่างบริเวณที่ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อาวะโอโดริ (Awaodori Kaikan) เป็นอาคารจัดแสดงการเต้นรำของจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima)  ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี  หากใครพลาดมาเทศกาลร่ายรำแห่งฤดูร้อนอาวะโอโดริ (Awa Odori Festival) ในช่วงวันที่ 12-15 สิงหาคม  ก็สามารถมารับชมได้ที่นี่ตลอดทั้งปี  และยังสามารถร่วมสนุกบนเวทีได้อีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Mount Bizan
Mosukegahara-1 Bizancho, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Michi-no-Eki Uzushio โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 50 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:30 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ ไปกลับ 1,020 เยน / ขาเดียว 610 เยน
เด็ก ไปกลับ 510 เยน / ขาเดียว 300 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.awanavi.jp/site/midokoro/bizan.html
https://awaodori-kaikan.jp/bizan-ropeway/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://discovertokushima.net/en/experience/mountains/bizan-ropeway/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

วันที่ 2

สะพานแกรนด์นารุโตะ (Onaruto Bridge), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_19

กระแสน้ำวนนารุโตะ (The Whirlpools of Naruto)

JAN21_shikoku_26

ทัวร์เรืออุซุชิโอะคิเซน (Uzushio Kisen Boat Tours)

สะพานแกรนด์นารุโตะ (Onaruto Bridge) ตั้งอยู่ในตอนเหนือของจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) เป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ข้ามช่องแคบนารุโตะ (Naruto Strait) โดยเชื่อมต่อกับเมืองอะวะจิ (Awaji) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) และเมืองนารุโตะ (Naruto) ในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) และมีชื่อเสียงในเรื่องกระแสน้ำวน

ปรากฏการณ์ทะเลน้ำวนนารุโตะ (The Whirlpools of Naruto) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากระดับน้ำทะเลที่เหลื่อมกันระหว่างทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) กับมหาสมุทรแปซิฟิก มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 20 เมตร และว่ากันว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บนสะพานมีทางเดินทอดตัวข้ามช่องแคบ เรียกว่า อุซุโนะมิจิ (Uzu no Michi) จัดเป็นจุดท่องเที่ยวที่สามารถชมน้ำวนได้อย่างใกล้ชิดผ่านพื้นที่เป็นกระจกได้ บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 45 เมตร นอกจากนี้ กระแสน้ำวนนารุโตะ (The Whirlpools of Naruto) นี้ยังสามารถดูได้จากจุดชมวิวอื่น ๆ ผ่านการล่องเรือเข้าไปชมแบบใกล้ ๆ โดยจะมีเรือคันโจเซ็น (Kanchosen) ที่เป็นเรือชมวิวขนาดเล็กให้บริการ

จะพบได้ในช่วงเช้า 1 ครั้ง และช่วงบ่ายอีก 1 ครั้ง โดยแต่ละครั้งที่เกิดทะเลน้ำวนจะกินเวลายาวนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่วนขนาดของน้ำวนจะเล็กใหญ่นั้นจะขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล แต่ช่วงที่พีคที่สุดคือปลายเดือนมีนาคม-ปลายเดือนเมษายน
ก่อนเดินทางไปชมแนะนำให้เช็คพยากรณ์อากาศ และตรวจสอบตารางเวลาเรือออก

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Onaruto Bridge (Uzu no Michi)
Naruto Park, Naruto Town, Naruto City, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokushima Station โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 35 นาที
เวลาทำการ Uzu no Michi
ฤดูร้อน (มีนาคม-กันยายน)9:00-18:00 น. เข้ารอบสุดท้าย 17:30 น.
ช่วงหยุดโกลเด้นวีค และหยุดหน้าร้อน 8:00-19:00 น. เข้ารอบสุดท้าย 18:00 น.
ฤดูหนาว (ตุลาคม-กุมภาพันธ์) 9:00-17:00 น. เข้ารอบสุดท้าย 16:30 น.
วันหยุด Uzu no Michi
วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนมีนาคม เดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และเดือนธันวาคม
ค่าใช้จ่าย
Uzu no Michi
ผู้ใหญ่ 510 เยน
เด็กมัธยมต้น-ปลาย 410 เยน
เด็กประถม 260

Uzushio Kisen Boat Tours
ผู้ใหญ่ 1,600 เยน
เด็ก 800 เยน
เด็กเล็ก ฟรี

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.uzunomichi.jp/
https://www.uzushio-kisen.com
https://www.uzusio.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.uzunomichi.jp/lang_en/
https://www.uzushio-kisen.com/en/
https://www.uzusio.com/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอทสึกะ (Otsuka Museum of Art), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_40

การจำลองห้องโถงโบสถ์สโครเวนยี
(Scrovegni Chapel) จากประเทศอิตาลี

© PR TIme

JAN21_shikoku_41

บรรยากาศคาเฟ่ Café de Giverny

© PR TIme

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอทสึกะ (Otsuka Museum of Art) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะนิทรรศการถาวร ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองนารุโตะ (Naruto) จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะรวบรวมงานศิลปะระดับผลงานชิ้นเอกของโลกไว้มากถึง 1,000 ผลงาน ตั้งแต่ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดี ไปจนถึงภาพวาดร่วมสมัยจากพิพิธภัณฑ์กว่า 190 แห่งใน 26 ประเทศทั่วโลก โดยทางพิพิธภัณฑ์ได้ขอลิขสิทธิ์จากเจ้าของงานศิลปะ และใช้เทคนิคการทำซ้ำในขนาดเดียวกันกับต้นฉบับ ทำให้ได้งานศิลปะเหมือนต้นแบบ และยังสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด ถ่ายรูป จับต้องได้โดยไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นผลงานชิ้นเอกของ ไมเคิล แองเจโล, ลีโอนาโด ดาวินชี่, ราฟาเอล, วินเซนต์ แวนโก๊ะ, ปอล โกแกง และปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ่ ก็มีให้ชมทั้งหมด รวมถึงไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ คือความยิ่งใหญ่อลังการของฝาผนัง และเพดานของห้องโถงโบสถ์สโครเวนยี (Scrovegni Chapel) จากอิตาลี และวิหารโบสถ์ซิสทีน (Sistine Chapel) จากนครวาติกัน โดยได้จำลองผลงานบนพื้นที่ขนาดเท่าของจริงมาไว้ในพิพิธภัณฑ์

นอกจากการชมภาพวาดจิตรกรรมชื่อดัง และผลงานสถาปัตยกรรมอันลือชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่ (Café de Giverny) ที่สร้างเลียนแบบภาพวาดของโมเนต์ให้นั่งจิบกาแฟ ทานขนมท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสวยภายในร้าน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Otsuka Museum of Art
Fukuike-65-1 Narutocho Tosadomariura, Naruto, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Onaruto Bridge โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 5 นาที
เวลาทำการ 9:30 – 17:00 น. เข้ารอบสุดท้าย 17:30 น.
วันหยุด หยุดวันจันทร์ (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นหยุดวันถัดไป)
วันหยุดอื่นๆ กรุณาเช็คที่เว็บไซต์
ค่าใช้จ่าย
ราคาซื้อล่วงหน้า
ผู้ใหญ่ 3,160 เยน
เด็กมหาวิทยาลัย 2,140 เยน
เด็กมัธยม และเด็กประถม 530 เยน

ราคาปกติ
ผู้ใหญ่ 3,300 เยน
เด็กมหาวิทยาลัย 2,200 เยน
เด็กมัธยม และเด็กประถม 550 เยน

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://o-museum.or.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://o-museum.or.jp/publics/translation/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

วัดเรียวเซ็นจิ (Ryozenji Temple), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_21

วัดเรียวเซ็นจิ (Ryozenji Temple)

JAN21_shikoku_37

ซุ้มประตูไม้ทางเข้าวัดเรียวเซ็นจิ (Ryozenji Temple)

วัดเรียวเซ็นจิ (Ryozenji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองเมืองนารุโตะ (Naruto) จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ก่อตั้งโดยนักบวชเกียวคิ โบซะสุ (Gyoki Bosatsu)ในศตวรรษที่ 7 มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์ประจำพระวิหารของวัดแห่งนี้คือ รูปปั้นของชะคะเนียวไร (Shaka Nyorai) ซึ่งแกะสลักโดยพระคูไค ตั้งประดิษฐานอยู่ในเจดีย์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวัด และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแสวงบุญ ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “อิจิบังซัง” แต่ด้วยสงครามที่เกิดขึ้นในสมัยไทโช (ค.ศ. 1582) และสมัยเมจิ (ค.ศ. 1891) ทำให้ไฟไหม้เจดีย์ และอาคารอีกหลายแห่งด้วยกันถึง 2 ครั้ง แต่ก็ได้รับการบูรณะจนสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1964

วัดแห่งนี้เป็นวัดลำดับแรกของการออกเดินทางจารึกแสวงบุญ 88 วัดของเกาะชิโกะคุ (Shikoku) อันโด่งดัง หรือที่เรียกว่า โอะเฮ็นโระ (Ohenro) ในแต่ละปีจะมีผู้แสวงบุญจำนวนมากมารวมตัวกันที่วัด และขอความคุ้มครองก่อนเริ่มต้นออกเดินทางแสวงบุญ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ่ง จึงเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากลองเริ่มต้นออกเดินทางแสวงบุญ แต่ไม่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ยังมีร้านจำหน่ายอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการจาริกแสวงบุญเช่น ชุดฮะคุเอะ (เสื้อคลุมสีขาว) อีกด้วย

เครื่องแต่งกายดั้งเดิมที่มีมาแต่โบราณสำหรับการแสวงบุญ ได้แก่
ฮะคุเอะ (hakue) คือเสื้อคลุมสีขาว
สึเงะงาซะ (Suge-gasa) คือหมวกสานทรงแหลม
ไม้เท้าคงโกอุ (kongou-zue) คือไม้เท้า

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Ryozenji Temple
Tsukahana-126 Oasacho Bando, Naruto, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Otsuka Museum of Art โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 25 นาที
เวลาทำการ 7:00 – 17:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://88shikokuhenro.jp/01ryozenji/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://88shikokuhenro.jp/en/jikuwazan-ichijyouin-ryozenji/
https://discovertokushima.net/en/culture/shrines_temples/ryozenji-temple/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/ohenro/

ศาลเจ้าโอมัตสึ ไดกอนเก็น (Omatsu Daigongen), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_47

ศาลเจ้าโอมัตสึ ไดกอนเก็น (Omatsu Daigongen)

JAN21_shikoku_48

แมวกวักกว่า 10,000 ตัวถูกประดิษฐานไว้ในศาลเจ้า

ศาลเจ้าโอมัตสึ ไดกอนเก็น (Omatsu Daigongen) ตั้งอยู่ในเมืองอะนัน (Anan) จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ถูกก่อตั้งขึ้นในสมัยยุคเอโดะ (ค.ศ. 1681 – 1686) เป็นศาลเจ้าที่เลื่องลือในนาม “เทพเจ้าแห่งแมว” ประดิษฐานแมวกวักไว้กว่า 10,000 ตัว และมีแมวกวักขนาดใหญ่ถึง 2 เมตรตั้งตระหง่านอยู่ด้านใน นักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่จะเข้ามากราบไหว้สักการะกันมากเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสอบเข้าต่าง ๆ และยังมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาขอพร เสริมโชคลาภด้วยเช่นกัน

วิธีการขอพรให้สมหวังเรื่องเรียน หรือสอบติดคือผู้ที่มาสักการะจะเข้ามายืมแมวในศาลเจ้าไป 1 ตัว เมื่อสอบผ่านจะต้องนำมาคืน และบริจาคเพิ่มอีก 1 ตัว

สาเหตุที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นศาลเจ้าแมวอันดูลี้ลับตำนานเล่าขานว่า ในสมัยเอโดะ ผู้ใหญ่บ้านแห่งหมู่บ้านคะโมะมุระ (Kamomura) หรือปัจจุบันคือเขตคะโมะโจ (Kamo-cho) เมืองอะนัน (Anan) ได้ไปกู้ยืมเงินมาจากมหาเศรษฐีเพื่อช่วยหมู่บ้านที่กำลังประสบปัญหาการทำเกษตร และผลผลิตไม่ดี แต่แล้วด้วยความเจ้าเล่ห์ของมหาเศรษฐี ทำให้ผู้ใหญ่บ้านถูกใส่ความว่ายังไม่ได้คืนเงิน ทั้ง ๆ ที่จ่ายเงินคืนไปหมดแล้ว จึงล้มป่วย และเสียชีวิตลงด้วยความรู้สึกสูญเสีย และสิ้นหวัง แล้วที่ดินที่ผู้ใหญ่บ้านนำไปค้ำประกันจึงตกไปอยู่ในมือของมหาเศรษฐี
ต่อมาฝ่ายนางโอมัตสึซึ่งเป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตไปนั้น ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลผู้พิพากษา แต่มหาเศรษฐีได้ทำการติดสินบนกับเจ้าหน้าที่ ทำให้คดีนี้ถูกพิพากษาออกมาอย่างไร้ความเป็นธรรม นางโอมัตสึผู้ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้านรับไม่ได้และไม่ย้อท้อที่จะยื่นคำร้องต่อผู้พิพากษาอีกหลายครั้ง จนกระทั้งท้ายสุดก็ถูกรับโทษในข้อหาที่ตนเองยื่นคำร้อง หลังจากนั้นไม่นานแมวสามสีที่นางโอมัตสึเลี้ยงไว้ก็ได้กลายเป็นแมวปีศาจไปปรากฏตัว สร้างความเสียหายให้กับบ้านของมหาเศรษฐีและผู้พิพากษา จึงกลายเป็นตำนานเรื่องเล่าแมวปีศาจสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Omatsu Daigongen Shrine
Fuke-64-1 Kamocho, Anan, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Ryozenji Temple โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 2 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.awanavi.jp/spot/20469.html
https://tokushimagoshuin.com/tokushima-omatsudaigongen-goshuin
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/10045
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

ที่ราบสูงโอะคาวะระ พลาโต้ เฮ้าส์ (Okawara Plateau House), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_44

ดอกอะจิไซบานสะพรั่งบนที่ราบสูง
โอะคาวะระ พลาโต้ เฮ้าส์ (Okawara Plateau House)

© Tokushima Prefecture Tourism Association

JAN21_shikoku_43

กังหันลมสำหรับผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม

© Tokushima Prefecture Tourism Association

ที่ราบสูงโอะคาวะระ พลาโต้ เฮ้าส์ (Okawara Plateau House) เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมบนที่ราบสูงโอะคาวะระ (Okawara Heights) อยู่ในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) กินพื้นที่กว้างถึง 120 เฮกตาร์ เมื่อขับรถขึ้นมาด้านบนแล้วจะพบกับทิวทัศน์ของเทือกเขาหลายลูกที่ทอดยาวอยู่เป็นฉากหลัง พร้อมกับกังหันลมสีขาวขนาดใหญ่จากทุ่งกังหันลมโอะคาวะระ (Okawara Wind Farm) โดดเด่นมาแต่ไกล ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา ซึ่งกังหันลมเหล่านี้เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานลม และจากบนที่ราบสูงนี้สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนราม่าของคาบสมุทรคิอิ (Kii Peninsula) วิวที่แสนยิ่งใหญ่ของที่ราบโทคุชิมะ (Tokushima Plain) และเทือกเขาซานุกิ (Mt. Sanuki) และยอดเขาอะซะฮิกะมะรุ (Mt. Asahigamaru) ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,019 เมตร

ที่ราบสูงโอะคาวะระ (Okawara Heights) ยังขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อวัวโอะคาวะระ เป็นเนื้อวัวญี่ปุ่นพันธุ์ขนดำจากเขตที่ราบสูงที่หายาก แห่งหมู่บ้านซะนะโกะจิ (Sanagochi) มีอัตราการเกิดเพียง 10-20 ตัวต่อปีเท่านั้น ถูกเลี้ยงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ ทำให้เนื้อวัวนั้นมีลวดลายไขมัน (Marbling) แทรกอยู่ตามเนื้อสวยงามอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนกันยายน จะสามารถเห็นฝูงวัวโอะคาวะระออกมาหาหญ้ากินตามธรรมชาติ

ด้วยความที่โอะคาวะระ พลาโต้ เฮ้าส์ (Okawara Plateau House) ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบาย แม้จะเป็นฤดูร้อนจัด ช่วงที่คนนิยมเดินทางมาพักผ่อนจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม เพราะอากาศอุ่นกำลังดี นอกจากจะถ่ายรูปสวยแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามไม่เเพ้สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในช่วงฤดูฝน ประมาณปลายเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคม สามารถพบกับความสดใสสวยงามของดอกไฮเดรนเยียราว 30,000 ต้น ที่พร้อมใจกันผลิดอกบาน เปลี่ยนที่ราบสูงนี้ให้กลายเป็นทิวเขาสีน้ำเงิน และเมื่อถึงฤดูกาลที่ดอกไฮเดรนเยียผลิบาน จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกไฮเดรนเยียที่หมู่บ้านซะนะโกะจิ (Sanagochi)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Okawara Plateau House
Kami, Sanagochi, Myodo District, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Omatsu Daigongen Shrine โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.vill.sanagochi.lg.jp/docs/2020040100025/
https://www.awanavi.jp/spot/20142.html
https://jp.zekkeijapan.com/spot/index/778/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://discovertokushima.net/en/experience/mountains/okawaharaheights/
https://zekkeijapan.com/spot/index/778/?startSlide=2
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

วันที่ 3

อนุสาวรีย์เด็กชายยืนฉี่ (Statue of a Peeing Boy), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_20

อนุสาวรีย์เด็กชายยืนฉี่ (Statue of a Peeing Boy)

JAN21_shikoku_27

หุบเขาอิยะ (Iya Valley) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

อนุสาวรีย์เด็กชายยืนฉี่ (Statue of a Peeing Boy) หรือที่เรียกกันว่า มานิคิน (Manikin) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1968 ตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าผาสูงราว 200 เมตร ในบริเวณหุบเขาอิยะ (Iya Valley) ห่างออกไปทางทิศตะวันตกของจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานภูเขาทสึรุกิ (Mt.Tsurugi Quasi National Park) ตรงจุดชมวิวนั้นมีรูปปั้นเด็กผู้ชายกำลังปัสสาวะลงไปในหุบเขา แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความกล้าหาญที่ไร้เดียงสา โดยที่มีฉากหลังเป็นต้นไม้สีเขียว และมีแม่น้ำอิยะ (Iya River) ที่ลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามช่องเขาสวยงาม
ช่วงฤดูใบไม้ผลิ หุบเขาแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดงตามฤดูกาล กลายเป็นจุดเช็คอินอีกหนึ่งจุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยม

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Statue of a Peeing Boy
Ikedacho Matsuo Miyoshi, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Iya Onsen Hotel โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 1 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://shikoku-tourism.com/spot/10042
https://www.awanavi.jp/spot/20226.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://miyoshi-tourism.jp/en/spot/iyakei-peeingboy/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สะพานเถาวัลย์คาซุระบาชิ (Kazurabashi Bridge), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_18

สะพานเถาวัลย์คาซุระบาชิ (Kazurabashi Bridge)

JAN21_shikoku_12

สะพานเถาวัลย์คาซุระบาชิ (Kazurabashi Bridge)
ท่ามกลางหุบเขาอิยะ (Iya Valley) ในช่วงใบไม้ร่วง

สะพานเถาวัลย์คาซุระบาชิ (Kazurabashi Bridge) ในอดีตเป็นสะพานแขวนที่สร้างจากเถาวัลย์สำหรับการขนส่งสินค้า และขนย้ายผู้คนข้ามแม่น้ำเหนือหุบเขาอิยะ (Iya Valley) มีตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งนิกายชินกอน ซึ่งรู้จักกันในนาม พระคูไค หรือโคโบไดชิ (ค.ศ. 774 – ค.ศ. 835) เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน แต่อีกตำนานก็ว่าสร้างโดยผู้ลี้ภัยสงคราม เพื่อหนีฝ่ายเก็นจิ และการสร้างสะพานด้วยเถาวัลย์จะช่วยให้ตัดทำลายได้ง่ายหากมีศัตรูเดินทางข้ามมา

สะพานเถาวัลย์คาซุระบาชิ (Kazurabashi Bridge) เป็น 1 ใน 13 สะพานเถาวัลย์ในอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุด มีขนาดยาว 45 เมตรทอดตัวเหนือแม่น้ำอิยะ (Iya River) จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูง 14 เมตร และได้รับการยกย่องเป็นทรัพย์สินทางพื้นเมืองที่สำคัญ โดยจะมีการสร้างใหม่ทุก ๆ 3 ปี และเพื่อความปลอดภัยจึงเสริมด้วยสายเคเบิ้ลเหล็กที่ซ่อนไว้ในเถาวัลย์ ยึดกับต้นสนซีดาร์ให้แข็งแรง

ในตอนเย็นที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วประมาณ 19:00 – 21:30 น. สะพานแห่งนี้จะมีการประดับไฟแสงสีสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยรถรับส่งของโรงแรมที่เข้าพักได้ (กรุณาสอบถามกับทางโรงแรม)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kazurabashi Bridge
162-2 Zentoku, Nishiiyama-son, Miyoshi-shi, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Statue of a Peeing Boy โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 15 นาที
เวลาทำการ เดือนเมษายน – มิถุนายน 8:00 – 17:00 น.
เดือนกรกฎาคม – กันยายน 7:30 – 18:00 น.
เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 8:00 – 17:00 น.
วันหยุด หยุดเดือนธันวาคม – มีนาคม
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 550 เยน
เด็ก 350 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://miyoshi-tourism.jp/spot/okuiyanijukazurabashi/
https://www.awanavi.jp/spot/20416.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://miyoshi-tourism.jp/en/spot/okuiyanijukazurabashi/
https://www.iyatime.com/iya-no-kazurabashi
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/activities/all-around-japan/9-romantic-route/iya-valley/

รถรางโอคุอิยะ คังโค ชูยู (Okuiya Kanko Shuyu Monorail), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_38

รถรางโอคุอิยะ คังโค ชูยู (Okuiya Kanko Shuyu Monorail)

© Miyoshi City Tourism Oboke Iya Navi

รถรางโอคุอิยะ คังโค ชูยู (Okuiya Kanko Shuyu Monorail) เป็นรถรางขนาดเล็กขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่วิ่งอย่างช้า ๆ บนเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และต้นไม้อันเขียวขจี ให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่ท่ามกลางป่าเขา โดยรถรางคันนี้จะพาชมธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม ด้วยระยะทางโดยรวม 4,600 เมตร ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 70 นาที มีระดับความชันที่หลากหลาย ความแตกต่างในระดับ 590 เมตร ความลาดชันสุดที่ 40 องศา จุดสูงสุดที่ 1,389 เมตรให้ความรู้สึกตื่นเต้น เหมือนนั่งเครื่องเล่นในสวนสนุกเลยก็ว่าได้ ตัวรถรางสามารถนั่งรถรางได้ 2 คนในที่นั่งแบบหน้า 1 คน หลัง 1 คน จะวิ่งทุกๆ 4 นาที จะมากับเพื่อนก็สนุก หรือจะมากับคนรักก็โรแมนติก และเปิดให้บริการเพียงเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนเท่านั้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Okuiya Kanko Shuyu Monorail
28, Higashi iya, Sugeoi, Miyoshi, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Kazurabashi Bridge โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 40 นาที
เวลาทำการ เดือนเมษายน – กันยายน 8:30 – 16:00 น.
เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 8:30 – 15:30 น.
วันหยุด ทุกวันพุธ
เดือนธันวาคม – มีนาคมไม่เปิดให้บริการ
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 2,000 เยน
เด็ก 1,000 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://miyoshi-tourism.jp/spot/okuiyakankoshuyumonorail/
https://www.awanavi.jp/spot/20739.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://miyoshi-tourism.jp/en/spot/okuiyakankoshuyumonorail/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

หมู่บ้านนาโกโระ (Nagoro Village), โทคุชิมะ (Tokushima)

JAN21_shikoku_39

ตุ๊กตาที่สร้างเลียนแบบกลุ่มคนที่เคยอาศัย
ในหมู่บ้านนาโกโระ (Nagoro Village)

© Miyoshi City Tourism Oboke Iya Navi

JAN21_shikoku_24

ตุ๊กตาคุณยายกำลังทำสวน

หมู่บ้านนาโกโระ (Nagoro Village) เป็นหมู่บ้านหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาอิยะ (Iya Valley) จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหุ่นไล่กาในอิริยาบถต่าง ๆ วางไว้ทั่วหมู่บ้านรวมกว่า 300 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็จะแสดงสีหน้าท่าทางคล้ายผู้เคยอยู่อาศัยที่หมู่บ้านนาโกโระ (Nagoro Village) มีอาชีพที่แตกต่างกันไป เช่น ชาวนา ชาวบ้าน คุณครู นักเรียน นักดนตรี ฯลฯ ตุ๊กตาทุกตัวจะถูกวางไว้ตามที่ต่าง ๆ ของหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น อยู่ในทุ่งนา ยืนอยู่หน้าบ้าน ยืนรอรถเมล์ที่ป้าย ตกปลา แม้กระทั่งในโรงเรียนที่ตอนนี้ถูกปิดตาย ก็ยังมีตุ๊กตาเด็กนักเรียน และคุณครูเต็มไปหมด

โดยจุดเริ่มต้นในการทำตุ๊กตาหุ่นไล่กานี้มาจากคุณป้าท่านหนึ่งเกิดไอเดียสร้างสรรค์ตุ๊กตาเพื่อแทนผู้คนที่เธอเคยพบเห็น และเปลี่ยนบรรยากาศแสนเงียบเหงาของหมู่บ้านแห่งนี้ ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เนื่องจากอัตราการเกิดที่น้อยลง และครอบครัวคนหนุ่มสาวต่างย้ายไปทำงานในเมืองใหญ่ ทำให้ปัจจุบันหมู่บ้านนาโกโระ (Nagoro Village) เหลือผู้อยู่อาศัยเพียงประมาณ 30 คนเท่านั้น การสร้างสรรค์ตุ๊กตาหุ่นไล่กาด้วยมือ และใจใช้เวลานานหลายปี จนทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น “บ้านของตุ๊กตาหุ่นไล่กา (the home of scarecrows)” นอกจากนี้หมู่บ้านแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็น “หมู่บ้านบนท้องฟ้า (the village in the sky)” เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่สูง ให้ความรู้สึกราวกับว่าใกล้ท้องฟ้าแค่เอื้อม

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Nagoro Village
191 Higashi iya, Sugeoi, Miyoshi, Tokushima
แผนที่
การเดินทาง จาก Okuiya Kanko Shuyu Monorail โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 10 นาที
เวลาทำการ ไม่มี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://miyoshi-tourism.jp/spot/kakashinosato/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://miyoshi-tourism.jp/en/spot/kakashinosato/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

วันที่ 4

ปราสาททะคะมัทสึ (Takamatsu Castle) – สวนทะมะโมะ (Tamamo Park), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_07

ปราสาททะคะมัทสึ (Takamatsu Castle)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

JAN21_shikoku_08

สวนทะมะโมะ (Tamamo Park)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

ปราสาททะคะมัทสึ (Takamatsu Castle) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ปราสาททะมะโมะ (Tamamo Castel) ตั้งอยู่ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) ที่ติดกับทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) เป็น 1 ใน 3 ของปราสาทในญี่ปุ่นที่มีคูน้ำล้อมรอบ และน่าจะเป็นเพียงแห่งเดียวที่ดึงน้ำจากทะเลเข้ามาในคูน้ำ ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1590 ต่อมาในสมัยเมจิได้เกิดทรุดโทรม และเสื่อมสภาพลงจึงถูกทำลายไปเหลือเพียงส่วนของฐานกำแพงหินเท่านั้น แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน เช่น ป้อมปราการทสึกิมิ (Tsukimi-yagura) ป้อมปราการวะตะริ (Watari-yagura) และประตูมิซูเทะโกมง (Mizutegomon) ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้ในฐานะซากโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

สวนทะมะโมะ (Tamamo Park) เป็นสวนที่อยู่ติดกับปราสาททะคะมัทสึ (Takamatsu Castle) ภายในสวนมีต้นสน และต้นซากุระปลูกอยู่เรียงราย มีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระและตลาดต้นไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และเทศกาลชมดอกเบญจมาศในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มีอาคารที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชม รวมถึงห้องโถงที่มีการเปิดสอนพิธีชงชา และการจัดดอกไม้

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือการให้อาหารปลาไท เนื่องจากประตูน้ำจะเปิดให้น้ำทะเลไหลเข้ามา จึงสามารถพบปลาไท และสัตว์ทะเลอีกหลายชนิดที่หลงเข้ามาอาศัยอยู่คูน้ำ สามารถซื้ออาหารครั้งละ 100 เยน (แถมเครื่องราง) ได้จากตู้จำหน่ายอัตโนมัติแล้วนำไปให้ปลาในจุดที่กำหนดไว้

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Takamatsu Castle
2-1 Tamamocho, Takamatsu, Kagawa
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Takamatsu Station โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 5 นาที
เวลาทำการ ประตูตะวันออก
07:00 น. – 18.00 น. (เมษายน – กันยายน)
08.30 น. – 17.00 น. (ตุลาคม – มีนาคม)
วันหยุด 29 – 31 ธันวาคม
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ (16 ปีขึ้นไป) 200 เยน / เด็ก ( 6-15 ปี) 100 เยน / เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 6 ปี) เข้าฟรี
ค่าให้อาหารปลาไท ครั้งละ 100 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.takamatsujyo.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.takamatsujyo.com/leafleteng.pdf
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan-all-area/shikoku/temple-shrine-castle/
https://www.my-kagawa.jp/th/

สวนริทสึริน (Ritsurin Garden), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_02

สะพานไม้โค้งเอ็นเก็ทสึเคียว (Engetsukyo)
ในสวนริทสึริน (Ritsurin Garden)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

JAN21_shikoku_17

เรือนน้ำชาคิคุเง็ทสึเต (Kikugetsu-tei)

สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 3 สวนที่มีภูมิทัศน์สวยงาม และมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองทะคะมัทสึ (Takamatsu)
จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 750,000 ตารางเมตร รายล้อมด้วยเนินเขาจำลอง 13 จุด และทะเลสาบอีก 6 จุดในบริเวณสวน พร้อมทิวทัศน์ของภูเขาชิอุง (Shiun Mountain) ทอดยาวตระหง่านอยู่เป็นฉากหลัง รวมถึงตำแหน่งของต้นสน และหินที่ถูกจัดวางทำให้สวนแห่งนี้สวยงามลงตัว และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) ถูกสร้างขึ้นสร้างขึ้นโดยขุนนางศักดินาท้องถิ่นในช่วงต้นสมัยเอโดะ ต่อมาได้ถูกปรับปรุง และขยายพื้นให้กว้างขวางออกไป ภายในสวนมีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ปลูกไว้ทั่วบริเวณเช่นต้นสน ต้นซากุระ ต้นบ๊วย ต้นเมเปิ้ล เป็นต้น โดยเฉพาะต้นสนเก่าแก่ที่มีจำนวนมากกว่า 1,000 ต้น ที่เป็นเอกลักษณ์ของสวนริทสึริน (Ritsurin Garden) และยังเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม และมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ใบต้นเมเปิ้ลที่อยู่โดยรอบของสวนจะเปลี่ยนเป็นสีส้มสลับแดง ให้บรรยากาศที่สวยงาม ตื่นตาตื่นใจ และในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับส่องสว่าง ทำให้เห็นสีใบไม้แดงได้อย่างชัดเจน และเห็นเงาสะท้อนราวกับกระจกของผิวน้ำในสระด้วย

นอกจากนี้ ภายในสวนมีหลายจุดให้เยี่ยมชมรวมกว่า 30 จุด ทั้งทะเลสาบ สวนดอกบัว เรือนน้ำชาคิคุเง็ทสึเต (Kikugetsu-tei) พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เนินฮิราอิโฮะ (Hiraiho) สวนย่อยต่าง ๆ และร้านค้าเป็นต้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Ritsurin Garden
1-20-16 Ritsurincho, Takamatsu, Kagawa
แผนที่
การเดินทาง จาก Takamatsu Castle โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 10 นาที
เวลาทำการ เดือนมกราคม 7:00 – 17:00 น.
เดือนกุมภาพันธ์ 7:00 – 17:30 น.
เดือนมีนาคม 6:30 – 18:00 น.
เดือนเมษายน- พฤษภาคม 5:30 – 18:30 น.
เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 5:30 – 19:00 น.
เดือนกันยายน 5:30 – 18:30 น.
เดือนตุลาคม 6:00 – 17:30 น.
เดือนพฤศจิกายน 6:30 – 17:00 น.
เดือนธันวาคม 7:00 – 17:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 410 เยน
เด็ก 170 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.my-kagawa.jp/ritsuringarden
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.my-kagawa.jp/en/ritsurin/
http://www.my-kagawa.jp/en/ritsurin/special
https://www.my-kagawa.jp/en/see-and-do/10077
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.my-kagawa.jp/th/
https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

โรงเรียนสอนทำอุด้ง นะคะโนะ (Nakano Udon School), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_03

คลาสเรียนทำซานุกิอุด้ง (Sanuki Udon)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

JAN21_shikoku_04

คลาสเรียนทำซานุกิอุด้ง (Sanuki Udon)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

จังหวัดคางาวะ (Kagawa) เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นรู้จัก และมักเรียกจังหวัดนี้ว่า จังหวัดแห่งอุด้ง เนื่องจากเป็นต้นกำเนิดอุด้งแสนอร่อยด้วยรสสัมผัสอันเหนียวนุ่มเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งพระคุไคที่เดินทางไกลไปศึกษาพระธรรมที่จีนได้นำสูตรเด็ด และเคล็ดลับแสนอร่อยกลับมาประยุกต์ดัดแปลงจนเกิดเป็นเมนูซานุกิอุด้ง (Sanuki Udon) ขึ้นมา ส่วนผสมทุกอย่างล้วนมาจากผลผลิตในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) ไม่ว่าจะเป็น แป้งสาลี น้ำ และเกลือ คลุกเคล้านวดจนได้ที่ท่ามกลางอากาศ และอุณหภูมิที่เหมาะกำลังดี  วิธีการทานอุด้งนั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบที่ราดน้ำซุปลงไป เรียกว่า คะเคะ (Kake) แบบที่ตอกไข่ดิบลงไปบนเส้นอุด้งที่ลวกขึ้นมาร้อน ๆ เรียกว่า คะมะทะมะ (Kamatama) เป็นต้น

โรงเรียนสอนทำอุด้ง นะคะโนะ (Nakano Udon School) ตั้งอยู่ในตัวเมืองทะคะมัทสึ (Takamatsu)  เขตนะริไอโจ (Nariai-cho) จังหวัดคางาวะ (Kagawa) เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่น และชาวต่างชาติได้สัมผัสประสบการณ์เรียนรู้การทำซานุกิอุด้งต้นตำรับแบบแฮนด์เมด โดยเริ่มจากการนวดแป้งด้วยมือ นวดด้วยไม้นวดแป้ง และนวดแป้งด้วยเท้า ซึ่งเป็นการนวดแบบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร จากนั้นก็จะใช้มีดหั่นแป้งเป็นเส้น ต้มเส้นไปจนถึงทาน ในคลาสหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ 60 – 90 นาที

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Nakano Udon School
8, Nariaicho, Takamatsu, Kagawa
แผนที่
การเดินทาง จาก Ritsurin Garden โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 12 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
คลาสเรียน (จองล่วงหน้า)
9:00 – 15:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย 2-14 คน คนละ 1,600 เยน
15-500 คน คนละ 1,400 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.udonschool.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.udonschool.jp/touristguide
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.my-kagawa.jp/th/
https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_05

ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

JAN21_shikoku_06

จุดชมวิวที่ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine)

© Kagawa Prefecture Tourism Association

ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine) มีประวัติยาวนานกว่า 3,000 ปี คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อ คมปิระซัง (Kompirasan) เทพเจ้าแห่งท้องทะเลจึงเป็นที่เคารพนับถือของเหล่านักเดินเรือ ชาวประมง และคนทั่วไป ในแต่ละวันมีผู้เดินทางมาเพื่อขอพรเกี่ยวกับโชคลาภ เงินทอง เป็นจำนวนมาก ศาลเจ้าตั้งอยู่บนทางลาดภูเขาโซซู (Mt. Zozu) การเดินทางไปสักการะนั้นต้องขึ้นบันไดหินไป เมื่อถึงขั้นที่ 785 จะเจอกับสำหรับศาลเจ้าหลักที่เป็นที่สถิตของเทพคมปิระ (Kompira) นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์โฮมอทสึคัง (Homotsu-kan) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1905 นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นที่เก็บสมบัติล้ำค่าของศาลเจ้า และโรงละครใหญ่คมปิระ (Konpira Kabuki) โรงละครที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1835 ทั้งสองแห่งได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ถ้ายังมีแรงเหลือสามารถเดินขึ้นบันไดขึ้นไปถึงขั้นที่ 1368 จะเจอกับศาลเจ้าชั้นใน อิซึทะมะ (Izutama Shrine) และจุดชมวิวเมืองโคโตฮิระ (Kotohira)

ระหว่างทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าเต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่ คาเฟ่ โรงน้ำชา ร้านอุด้ง ไปจนถึงร้านจำหน่ายของที่ระลึก เรียงรายอยู่ตลอด 2 ข้างทาง ช่วยสร้างความเพลิดเพลินระหว่างเดินขึ้นบันไดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ที่หน้าร้านค้าแต่ละร้านจะมีไม้เท้าทำจากไม้ไผ่วางอยู่ ลูกค้าสามารถหยิบยืมเพื่อใช้ผ่อนแรงจากการเดินขึ้นบันไดสูงชันได้

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kotohira-gu
892-1, Kotohira, Nakatado District, Kagawa
แผนที่
การเดินทาง จาก Nakano Udon School โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 45 นาที
เวลาทำการ โซนพิพิธภัณฑ์ 8:30 – 17:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 16:30 น.)
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย โซนพิพิธภัณฑ์ 800 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.konpira.or.jp/
https://www.kotohirakankou.jp/spot/entry-53.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.my-kagawa.jp/en/see-and-do/10078
https://www.japan.travel/en/spot/218/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.my-kagawa.jp/th/
https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

ซันพอร์ต ทะคะมัทสึ (Sunport Takamatsu), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_23

ซันพอร์ต ทะคะมัทสึ (Sunport Takamatsu)
กับบรรยากาศตะวันตกดิน

JAN21_shikoku_09

ซันพอร์ต ทะคะมัทสึ (Sunport Takamatsu)

ซันพอร์ต ทะคะมัทสึ (Sunport Takamatsu) ท่าเรือประจำเมืองทะคะมัทสึ (Takamatsu) ของจังหวัดคางาวะ (Kagawa) เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยว ห้างร้านต่าง ๆ อาคารออฟฟิศ โรงแรม และการคมนาคมหลากหลายในบริเวณเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ปราสาททะคะมัทสึ (Takamatsu Castle) ห้างมาริไทม์ พลาซ่า (Maritime Plaza) สถานี JR Takamatsu และท่าเรือเฟอร์รี่สำหรับการเดินทางไปที่ต่าง ๆ แต่เดิมเคยเป็นคลังขนส่งสินค้าประจำเมืองทะคะมัทสึ (Takamatsu) ก่อนที่จะถูกพัฒนาให้เป็นย่านซันพอร์ต ทะคะมัทสึ (Sunport Takamatsu) ในทุกวันนี้

บริเวณย่านซันพอร์ต ทะคะมัทสึ (Sunport Takamatsu) แห่งนี้จะมีจุดชมวิวริมอ่าวทะคะมัทสึ (Takamatsu) ที่ให้บรรยากาศงดงามที่สุดในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน สามารถมองเห็นท้องฟ้ายามเย็นที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากอาคารส่องประกายระยิบระยับ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Sunport Takamatsu
Takamatsu, Kagawa 760-0019
แผนที่
การเดินทาง จาก Konpirasan (Kotohira-gu) โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับสถานที่และร้านค้าต่าง ๆ
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.maripla.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.maripla.jp/en/
https://www.my-kagawa.jp/en/see-and-do/10113
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

ถนนช้อปปิ้งทะคะมัทสึ (Takamatsu Central Shopping Arcade), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_29

ถนนช้อปปิ้งทะคะมัทสึ
(Takamatsu Central Shopping Arcade)

JAN21_shikoku_32

สถาปัตยกรรมรูปแบบโดมในถนนช้อปปิ้งทะคะมัทสึ
(Takamatsu Central Shopping Arcade)

ถนนช้อปปิ้งทะคะมัทสึ (Takamatsu Central Shopping Arcade) ถนนช้อปปิ้งประจำเมืองทะคะมัทสึ (Takamatsu) เป็นแหล่งรวมร้านค้ามากมายทั้งของกินของใช้ ร้านค้าแฟชั่น และของฝากต่าง ๆ รวมไปถึงคาเฟ่ ร้านอาหารอีกมากมายกว่า 1,000 ร้าน ให้ได้เลือกใช้บริการหรือจับจ่ายใช้สอย ถนนช้อปปิ้งอาเขตที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น เส้นนี้มีระยะทางรวมกันไกลถึง 2.7 กิโลเมตร นับตั้งแต่บริเวณปราสาททะคะมัทสึ (Takamatsu Castle) ไปจนถึงสวนริทสึริน (Ritsurin Garden)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Takamatsu Central Shopping Arcade
10-10 Hyogomachi, Takamatsu, Kagawa 760-0024
แผนที่
การเดินทาง จาก Sunport Takamatsu โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 7 นาที
เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับร้านค้าต่าง ๆ
วันหยุด ขึ้นอยู่กับร้านค้าต่าง ๆ
ค่าใช้จ่าย
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.hyougomachi.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_103/?language=en
https://www.my-kagawa.jp/en/see-and-do/10105
https://www.my-kagawa.jp/en/see-and-do/10104
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_103/
https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

วันที่ 5

ประติมากรรมทรายรูปเหรียญเซะนิงะตะ ซุนะเอะ (Zenigata Sunae), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_34

ประติมากรรมทรายรูปเหรียญเซะนิงะตะ ซุนะเอะ
(Zenigata Sunae)

JAN21_shikoku_11

ประติมากรรมทรายรูปเหรียญเซะนิงะตะ ซุนะเอะ
(Zenigata Sunae) เปิดไฟประดับช่วงกลางคืน

ประติมากรรมทรายรูปเหรียญเซะนิงะตะ ซุนะเอะ (Zenigata Sunae) ขนาดใหญ่นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1633 ทำจากทรายของหาดอะริอะเกะ (Ariake-hama Beach) ออกมาเป็นรูปเหรียญเงินที่ใช้ในช่วงยุคเอโดะ ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนโคโตฮิคิ (Kotohiki Park) ประติมากรรมจากเม็ดทรายรูปเหรียญขนาดยักษ์นี้ มีเส้นรอบวงยาวถึง 345 เมตร ใช้เวลาสร้างสรรค์ขึ้นมาภายในชั่วข้ามคืนเท่านั้น เพื่อเอาไว้ต้อนรับท่านไดเมียว อิโคะมะ ทะคะโตะชิ (Ikoma Takatoshi) เจ้าเมืองปกครองซานุกิ (Sanuki) ชื่อเดิมของจังหวัดคางาวะ (Kagawa)

มีความเชื่อกันว่า ใครที่ได้เห็นประติมากรรมทรายรูปเหรียญนี้ จะทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรงยืนยาว และไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน ซึ่งในทุกวันนี้ที่นี่ก็เป็นสถานที่ยอดนิยมในการรับพลังบวกให้กับผู้คนที่มาเยี่ยมเยียน และในตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟไลท์อัพสวยงาม

อีกหนึ่งความโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือการได้ชมความงามในเวลาพระอาทิตย์ตก ซึ่งอาทิตย์จะตกเป็นฉากหลังสาดแสงสีทองอบอุ่นบนผืนทะเลและบรรยากาศโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีการประดับไฟสีต่าง ๆ เพิ่มความสวยงามของสถานที่ได้เป็นอย่างดี หากต้องการขึ้นไปชมวิวจากด้านบนเขา สามารถขับรถไปที่จุดชมวิวบริเวณข้าง ๆ กับศาลเจ้าโคโตฮิคิ ฮะจิมัง (Kotohiki Hachima Shrine)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Zenigata Sunae (Kotohiki Park)
14 Ariakecho, Kanonji, Kagawa 768-0062
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Takamatsu Station โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
เวลาทำการ เปิดตลอดทั้งวัน
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.city.kanonji.kagawa.jp/soshiki/21/333.html
https://www.my-kagawa.jp/point/59/
http://kanonji-kankou.jp/visit/01/012.html
https://www.shikoku-np.co.jp/feature/nokoshitai/machi/6/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://setouchifinder.com/en/detail/383
https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/10087
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

ศาลเจ้าทะคะยะ (Takaya Shrine), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_28

ประตูโทริดิในศาลเจ้าทะคะยะ (Takaya Shrine)

JAN21_shikoku_25

บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

ศาลเจ้าทะคะยะ (Takaya Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) มีความเชื่อกันมาอย่างยาวนานว่าเป็นเทพแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวที่อุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือประตูโทริอิ ที่มีชื่อเรียกว่า “Torii in the sky” เนื่องจากการที่สามารถมองเห็นเสาประตูโทริอิที่มีฉากหลังเป็นเมืองคันออนจิ (Kanonji) และทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) อยู่ด้านล่าง จากความสูงถึง 407 เมตร หากมาในช่วงอาทิตย์ตกก็จะได้เห็นบรรยากาศอันสวยงามของสถานที่แห่งนี้ หากในชอบเทศกาลในประเทศญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็ไม่ควรพลาดกับเทศกาลศาลเจ้าทะคะยะ ไทไซ (Takaya Shrine Taisai) สนุกเพลิดเพลินไปกับการลอยโชสะ (Chosa) และการแสดงการเชิดสิงโตอีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Takaya Shrine
2800 Takayacho, Kanonji, Kagawa 768-0002
แผนที่
การเดินทาง จาก Zenigata Sunae (Kotohiki Park)โดยสารรถยนต์ ใช้เวลา 15 นาที
เวลาทำการ เปิดตลอดทั้งวัน
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.mitoyo-kanko.com/takayashrine/
https://www.city.kanonji.kagawa.jp/soshiki/21/13387.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_191/
https://www.mitoyo-kanko.com/takayashrine-eng/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_191/?language=th
https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

หาดชิชิบุงะฮะมะ (Chichibugahama Beach), คางาวะ (Kagawa)

JAN21_shikoku_22

วิวท้องฟ้าที่สะท้อนลงบนผิวน้ำ
เรียบดุจแผ่นกระจกที่หาดชิชิบุงะฮะมะ (Chichibugahama Beach)

JAN21_shikoku_30

วิวท้องฟ้าที่สะท้อนลงบนผิวน้ำ
เรียบดุจแผ่นกระจกที่หาดชิชิบุงะฮะมะ (Chichibugahama Beach)

หาดชิชิบุงะฮะมะ (Chichibugahama Beach) เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) จนได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ที่มีทิวทัศน์ของดวงอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ หาดชิชิบุงะฮะมะ (Chichibugahama Beach) ยังได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวสายถ่ายภาพอีกมากมายทั้งชาวต่างชาติ และคนญี่ปุ่นเองก็ตาม จากการที่สามารถถ่ายภาพสะท้อนน้ำได้และยังมีดวงอาทิตย์ที่กำลังตกเป็นฉากหลัง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายหาดแห่งนี้ได้รับความนิยมสูง

คำแนะนำสำหรับการถ่ายภาพที่หาดชิชิบุงะฮะมะ (Chichibugahama Beach)

  • วางตำแหน่งของกล้องให้ต่ำ เพื่อให้เกิดภาพสะท้อนน้ำ
  • ดูจังหวะไม่มีลมหรือลมไม่แรง เพื่อไม่ให้น้ำด้านล่างเป็นคลื่น
  • ช่วงเวลาที่สวยและนิยมมากที่สุดคือช่วงอาทิตย์กำลังตก

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Chichibugahama Beach
Otsu Niocho Nio, Mitoyo, Kagawa 769-1404
แผนที่
การเดินทาง จาก Takaya Shrine โดยสารรถยนต์ 10 นาที
เวลาทำการ เปิดตลอดทั้งวัน
ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการถ่ายภาพ

  • ช่วงเวลาระหว่างอาทิตย์กำลังตกดิน
  • น้ำลง
  • น้ำนิ่ง ไม่มีลมแรง
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.mitoyo-kanko.com/chichibugahama/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.mitoyo-kanko.com/chichibugahama-beach-information/
https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_192/?language=en
https://www.my-kagawa.jp/en/see-and-do/10090
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_192/?language=th
https://www.my-kagawa.jp/th/pdf/kit01.pdf

[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]

ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2021

จดหมายข่าวอื่นๆ