แนะนำจังหวัดที่น่าสนใจในญี่ปุ่น

จังหวัดโออิตะ (Oita) มีสถานที่ที่ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติและฟื้นฟูร่างกายด้วยการแช่อนเซ็นที่มีหลากหลายแบบ เช่นการอบทรายร้อน,อนเซ็นที่มีโคลนเนื้อเนียนละเอียดหรือจะเป็นแหล่งอนเซ็นที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ราบสูงและตามป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีเมืองเบปปุ (Beppu) และเมืองยุฟุอิน (Yufuin) เป็นเมืองอนเซ็นที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์โดยมีบ่อน้ำแร่ธรรมชาติมีความโดดเด่นแปลกตามากถึง 8 บ่อ นอกจากนี้ยังมีคาบสมุทรคุนิซะกิ (Kunisaki Peninsula) อยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดโออิตะ (Oita) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเส้นทางศักดิ์สิทธิ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์โอบล้อมไว้ด้วยทะเลถึงสามด้านและยังมีเมืองโคโคโนเอะ (Kokonoe) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์งดงามด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและสัตว์หายากมากมาย

ไม่ควรพลาด

• ห้องอาบน้ำพุร้อนเฮียวตัน (Hyotan hot spring baths) ซึ่งได้รับการกล่าวขานมากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
• การชิมไข่อนเซ็นที่มาจากน้ำร้อนตามธรรมชาติที่เบปปุ (Beppu)
• สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยุเมะ (Kokonoe Yume Grand Suspension Bridge) สะพานแขวนสำหรับคนเดินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น
• ร้านค้าในเมืองเก่าฮิตะ (Hita area) ที่เต็มไปด้วยงานฝีมือที่ทำมาจากไม้ไผ่โออิตะ

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลานี้ของปีที่สวนดอกไม้คุจูฮะนะ (Kujuhana Park) ในเมืองทาเคะทะ (Taketa city) นั้นมีทุ่งดอกไม้หลากชนิดที่บานสะพรั่งอันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในขณะที่ย่านเบปปุ (Beppu) นั้นเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูด้วยเช่นกัน
• ฤดูร้อน หลบร้อนโดยการมุ่งหน้าไปสำรวจที่ถ้ำใต้น้ำอินาสุมิ (Inazumi Underwater Cave) และขอเสนอการเล่นน้ำที่หาดฮิเมะชิมะ (Himeshima Beach)
• ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูกาลที่ต้นไม้จะเริ่มผลัดเปลี่ยนสีเป็น สีเหลือง และสีแดง บริเวณเมืองเก่าฮิตะ (Hita area) มีชีวิตชีวาด้วยเทศกาลโคมไฟไม้ไผ่ และลิ้มลองอาหารท้องถิ่นประจำฤดูกาล เช่น เซกิซาบะ (Seki saba)
• ฤดูหนาว โออิตะฤดูหนาวอากาศไม่ค่อยหนาวมากนัก นอกจากบริเวณภูเขาสึรุมิ (Mt. Tsurumi) ที่สามารถสัมผัสหิมะแล้วสามารถไปหลบหนาวได้โดยการไปแช่ตัวในน้ำพุร้อนที่ เมืองเบปปุ (Beppu) หรือ เมืองยุฟุอิน (Yufuin)

การเดินทาง

✈ จากประเทศไทย โดยสารเครื่องบินไปลงที่ สนามบินฟุคุโอกะ (Fukuoka Airport)
🚅 จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ Limited Express ไปลงที่สถานี Oita ใช้เวลา 150 นาที

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/kyushu/oita/

จังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki) มีชื่อเสียงที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง มีชายฝั่งที่งดงามและเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าริมทะเลอันโด่งดัง ได้แก่ศาลเจ้ามิยะซะกิ (Miyazaki Shrine), ศาลเจ้าอะมะโนะอิวะโตะ (Amanoiwato Shrine) และศาลเจ้าทะคะจิโฮะ (Takachiho Shrine) ที่เกี่ยวข้องกับตำนานการจุดเริ่มต้นของญี่ปุ่นพร้อมกันนี้ยังสามารถดื่มด่ำวัฒนธรรมตามเทศกาลประจำปีได้อีกด้วย สถานที่อันโดดเด่นของจังหวัดนี้มีหุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) ที่มีน้ำตกมะนะอิโนทาคิ (Manainotaki) สูงถึง 17 เมตร นอกจากนี้มีสถานที่โต้คลื่นยอดนิยมได้แก่ คิสะกิฮามะ (Kisakihama), โอคุระกาฮามะ (Okuragahama), อุชิอุมิ (Uchiumi) และอะโอชิมะ (Aoshima) ในส่วนบริเวณที่เรียกว่า ซีไกอา (Seagaia) เป็นรีสอร์ทครบวงจรที่มีทั้งโรงแรม ศูนย์การประชุม และสนามกอล์ฟที่มีระดับ

ไม่ควรพลาด

• แสงแรกของวันที่งดงามน่าเหลือเชื่อที่ศาลเจ้าบนเกาะอะโอชิมะ (Aoshima)
• เส้นทางเรียบชายฝั่งนิชินัน (Nichinan Coast)
• เส้นทางในการเดินเขาไปรอบ ๆ ปล่องภูเขาไฟเอบิโนะโคเก็น(Ebino Kogen)
• กลางวันสัมผัสความงดงามที่หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) และในเวลากลางคืนชมการเต้นรำคะกุระแสดงถวายแด่เทพเจ้า (kagura dances) ที่ศาลเจ้าทะคะจิโฮะ (Takachiho Jinja)

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ น่านน้ำในมหาสมุทรมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น พร้อมกับการเปิดหาดอย่างเป็นทางการของพื้นที่ริมหาดอะโอชิมะ( Aoshima Beach Park) และดื่มด่ำไปกับฤดูกาลชมดอกซากุระก่อนที่ใดในญี่ปุ่น
• ฤดูร้อน การเข้าถึงฤดูร้อนอย่างแท้จริงในมิยาซากินั้นให้นึกถึงมะม่วงและซุปมิโซะเย็นฮิยะจิรุ (Hiyajiru cold miso soup) นอกจากนี้ยังมีเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นตามแนวชายฝั่ง
• ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีที่แสนโรแมนติกสุดวิเศษที่หุบเขาโกคะเซ (Gokase) ม่านหมอกที่หุบเขาทะคะจิโฮะ (Takachiho Gorge) และสนุกกับเส้นทางในการเดินป่าที่เอบิโนะโคเก็น(Ebino Kogen)
• ฤดูหนาว มีงานประดับไฟหลากหลายจุดจากโนจิริ (Nojiri) จนถึงคาวามินะมิ (Kawaminami) พิเศษกับการชมการเต้นรำคะกุระ (kagura dances) ที่ศาลเจ้าทะคะจิโฮะ (Takachiho Jinja) และอีกหนึ่งกิจกรรมช่วงปีใหม่มีเทศกาลฮาดากะ (Hadaka Matsuri) คือ เทศกาลเปลือยเป็นเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ที่จัดริมทะเล

การเดินทาง

✈ จากประเทศไทย โดยสารเครื่องบินไปลงที่ สนามบินฟุคุโอกะ (Fukuoka Airport)
🚅 จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ Shinkansen ไปลงที่สถานี Kagoshima-Chuo ใช้เวลา 85 นาที
🚅 จากสถานี Kagoshima-Chuo โดยสารรถไฟ Limited Express ไปลงที่สถานี Miyazaki ใช้เวลา 130 นาที

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/kyushu/miyazaki/

ปลายสุดทางใต้ของญี่ปุ่นนั้นคือจังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima) ซึ่งได้รับฉายาว่า ” Naples of the East” ที่มีทั้งอ่าวและสภาพเมฆที่เบาบาง จังหวัดนี้มีความเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาอย่างไม่น่าเชื่อและเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่น ภูเขาคิริชิมะ(Mt. Kirishima) และภูเขาไฟซากุระจิมะ (Mt. Sakurajima) ทำให้ดินในบริเวณนี้มีแร่ธาตุต่างๆมากมายที่เปลี่ยมไปด้วยคุณภาพที่มาจากภูเขาไฟจนกลายเป็นแหล่งอนเซ็นที่ยอดเยี่ยมและมีอยู่หลายประเภทตั้งแต่บ่ออนเซ็นแบบดั้งเดิมไปจนถึงบ่อทรายริมชายหาด

ไม่ควรพลาด

• ทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟซากุระจิมะ (Mt. Sakurajima) ตั้งตระง่านอยู่กลางอ่าวคะโงะชิมะ (Kagoshima Bay)
• ป่าพิศวงมรดกโลกโบราณของเกาะยะคุชิมะ (Yakushima)
• ชายหาดที่เก่าแก่และแนวปะการังที่สวยงามรอบ ๆ เกาะอามะมิโอชิมะ(Amami Oshima)
• ศูนย์รวมการยิงจรวดทาเนกะชิมะ (Tanegashima Space Center) เป็นศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ ปราสาทคะโงะชิมะ (Kagoshima Castle ) เต็มไปด้วยดอกซากุระและอีกส่วนหนึ่งผู้คนก็มุ่งหน้าไปยังป่าดึกดำบรรพ์เกาะยะคุชิมะ (Yakushima)เพราะฤดูนี้ที่นี่มีอุณหภูมิที่เย็นสบายและมีฝนตกเพียงเล็กน้อย
• ฤดูร้อน กิจกรรมที่ดีที่สุด คือกีฬาทางน้ำทั้งการดำน้ำและการเล่นกระดานโต้คลื่นที่ เกาะอามะมิโอชิมะ(Amami Oshima) และหมู่เกาะใกล้เคียง อีกหนึ่งสิ่งคือการชมเต่าที่อยู่บนชายหาดนากาตะ อินาคะฮะมะ (Nagata Inakahama Beach)
• ฤดูใบไม้ร่วง การชมนกกระเรียนอพยพกว่า 10,000 ตัวที่ศูนย์ชมนกกระเรียนแห่งเมืองอิซึมิ(Izumi Crane Observation Center) และเพลิดเพลินไปกับการอบทรายร้อนที่รีสอร์ทอนเซ็นของอิบุซึกิ (Ibusuki ) หรือปีนภูเขาไฟไคมอน (Mt. Kaimon)
• ฤดูหนาว เวลาที่เหมาะที่สุดในการแช่อนเซ็นที่แสนสงบที่คิริชิมะ( Kirishima Onsen) โดยมีอนเซ็นมากถึง 11 ชนิด ซึ่งประสิทธิภาพในแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันออกไปและต้องลองชิมอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยในตลาดอาหารของเมืองคะโงะชิมะ

การเดินทาง

✈ จากประเทศไทย โดยสารเครื่องบินไปลงที่ สนามบินฟุคุโอกะ (Fukuoka Airport)
🚅 จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ Shinkansen ไปลงที่สถานี Kagoshima-Chuo ใช้เวลา 85 นาที

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/kyushu/kagoshima/

จังหวัดโอกินาวะ (Okinawa) เป็นจังหวัดทางตอนใต้สุดของญี่ปุ่นเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของตนเองในฐานะอาณาจักรอิสระและภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนที่ชัดเจน รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดของคาราเต้ พร้อมสำรวจซากปรักหักพังและปราสาทที่ได้รับการบูรณะของอาณาจักรริวกิวและเยี่ยมชมชายหาดและชายฝั่งที่งดงามพร้อมแนวปะการังและชีวิตใต้ทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ และยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวาฬ,งานแข่งขันเรือมังกรฮาริ พร้อมทั้งมีทั้งพืชและสัตว์หายาก ช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะนั้นทำให้คุณลืมวันเวลาได้เลยทีเดียว

ไม่ควรพลาด

• แหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ได้แก่ ปราสาทชูริ (Shuri Castle)และซากปราสาทนาคางุซุกุ (Nakagusuku Castle Ruins)
• ฉลามวาฬและสัตว์ทะเลที่น่าสนใจและหลากหลายที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุระอุมิ (Churaumi Aquarium)
• ผ่อนคลายบนหาดทรายขาวและว่ายน้ำในน้ำทะเลสีฟ้าใส
• พายเรือคายัคผ่านป่าโกงกางบนเกาะอิริโอโมเตะ (Iriomote Island)

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ดอกอาซาเลียไอริสลิลลี่และไฮเดรนเยียจะตามมาในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ต้นฤดูเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมปลาวาฬนอกชายฝั่งของเกาะซะมะมิ (Zamami Island)
• ฤดูร้อน ของโอกินาว่าเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม กิจกรรมที่น่าสนใจคือเดินป่าเที่ยวน้ำตกและเล่นน้ำตามแนวชายหาดดำน้ำตื้นและลึกพร้อมกับการพายเรือคายัคสำรวจป่าโกงกาง ตามหมู่เกาะต่างๆ
• ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงต้นฤดูอากาศยังคงอบอุ่นเป็นเวลาที่ดีในการสำรวจเกาะสามารถเพลิดเพลินไปกับหาดทรายและท้องทะเล งานเทศกาลในฤดูใบไม้ร่วงที่โอกินาวะได้แก่ เทศกาลแข่งขันชักเย่อเชือกยักษ์แห่งนาฮะ (Naha Giant Tug of War Festival) และเทศกาลปราสาทชุริ (Shuri Castle Festival)
• ฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคมที่โอกินาวะอากาศเย็นสบาย 15 องศา และในเดือนมกราคมจะเป็นฤดูที่ชมปลาวาฬและมีกิจกรรมไต่เขาบนแหลมมันชะ(Cape Manza) หรือเพลิดเพลินกับเทศกาลการประดับไฟในช่วงเทศกาล(illumination festivals)

การเดินทาง

✈ จากประเทศไทย โดยสารเครื่องบินไปลงที่ สนามบินนาฮะ (Naha Airport)

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/okinawa/okinawa/