สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอิซุโมะ (Izumo City) จังหวัดชิมะเนะ (Shimane)

ก่อนอื่นขอแนะนำให้ไปสถานที่ห้ามพลาดศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo-Taisha Grand Shrine) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ประทับของเหล่าทวยเทพในเทพกรณัมญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากว่าให้โชคในเรื่องของความรัก เพราะกล่าวกันว่าเป็นที่ๆ เหล่าทวยเทพทั่วญี่ปุ่นจะมารวมตัวกันเพื่อกำหนดโชคชะตาด้านความรักของมนุษย์กันที่นี่ ศาลเจ้าแห่งนี้จึงได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่หญิงสาวที่อยากจะขอพรให้สมหวังในเรื่องของความรักและการแต่งงาน และหากอยากให้คำอธิษฐานสัมฤทธิ์ผล ก็จะต้องทำการสักการะนมัสการให้ถูกวิธีด้วย ซึ่งจะต้องนมัสการ 1 ครั้งที่บริเวณเสาโทริอิ (Torii) โดยไม่ผ่านตรงกลางของถนนสู่ตัวศาลเจ้า หลังจากนั้นเมื่อมาถึงด้านหน้าอาคารประกอบพิธีกรรมทางศาสนาก็จะต้องโยนเหรียญลงไปแล้วไหว้นมัสการ 2 ครั้ง ตบมือ 4 ครั้ง จากนั้นจึงเอ่ยชื่อของตนในใจพร้อมกับอธิษฐานขอพรด้วยความรู้สึกขอบคุณ แล้วจึงจบด้วยการไว้นมัสการอีก 1 ครั้ง

ระหว่างทางขากลับสามารถเดินเล่นภายในบริเวณศาลเจ้าอันกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ พร้อมชม น้ำตกคะเมะโนโนะทะคิ (Kameno-no-Taki Falls) ที่แสนชุ่มฉ่ำ และโกะชิมโบะคุ (Goshinboku) ต้นไม้สุดลึกลับอายุกว่า 1,000 ปีเป็นที่สักการะบูชาในฐานะเทพเจ้าเพื่อรับพลังบวก และอย่าลืมแวะซื้อเครื่องรางสำหรับให้โชคด้านความรักกลับมาเป็นที่ระลึกของการไปนมัสการด้วย และหากได้แวะชิมขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นหรืออาหารอร่อยท้องถิ่นอย่าง อิซุโมะโซบะ (Izumo Soba) ที่ถนนชิมมงโดริ (Shinmon-dori Street) ด้านหน้าศาลเจ้าด้วยแล้วก็จะช่วยเรียกแรงกลับมาได้มากเลยทีเดียว

ทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji) หันหน้าเข้าหาสนามบินอิซุโมะ (Izumo Airport) ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างเมืองอิซุโมะ (Izumo City) และเมืองมัตสึเอะ (Matsue City) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ตกดิน ที่ในบางครั้งท้องฟ้าและผิวน้ำเหนือทะเลสาบจะถูกย้อมเป็นสีแดง และในบางครั้งก็เป็นสีทองสวยงามน่าประทับใจ อีกทั้งทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่มองจากฝั่งเมืองอิซุโมะก็งดงามทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แนะนำให้ตื่นเช้าสักหน่อยเพื่อไปยัง สวนสาธารณะทะเลสาบชินจิ เซกังนะงิสะ (Lake Shinji Seigan Nagisa Park) ให้ทันก่อนเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อจะได้ชมพระอาทิตย์ยามเช้าขึ้นทางทิศตะวันออกสะท้อนลงบนผิวน้ำเป็นประกายสีทองระยิบระยับ นอกจากนี้ทะเลสาบชินจิยังเป็นแหล่งจับหอยชิจิมิ (Shijimi) ที่มีชื่อเสียง และปริมาณหอยที่จับได้อยู่ในระดับแนวหน้าของญี่ปุ่นเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพสวยๆ ของชาวประมงที่กำลังจับหอยด้วยคันไม้ในมือท่ามกลางทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอีกหลายแห่ง เช่น สวนสาธารณะทะเลสาบชินจิกรีนพาร์ค (Lake Shinji Green Park) ที่สามารถเดินเล่นชมธรรมชาติอย่างพรรณไม้และแมลงชนิดต่างๆ ภายในสวน (อาคารชมนกป่าอยู่ในระหว่างปิดทำการจนถึงกลางเดือนเมษายน) และ โกบิอุส พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji Nature Museum Gobius) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจัดแสดงปลากว่า 200 ชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบชินจิอีกด้วย

ประภาคารอิซุโมะ ฮิโนะมิซะกิ (Izumo Hinomisaki Lighthouse) ประภาคารสีขาวสูงตระหง่านตัดกับฉากหลังสีฟ้าของท้องฟ้าและท้องทะเลอย่างลงตัวแห่งนี้เป็นทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจ จุดชมวิวบนประภาคารนั้นสร้างด้วยหินนำมาวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ สูงราว 43 เมตรและเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สามารถเห็นภาพทิวทัศน์พาโนรามา 360 องศาทอดยาวไกลได้แบบเต็มๆ ตา ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคมจะเต็มไปด้วย นกนางนวลหางดำ (Black-tailed Gull) นกทะเลสีขาวสะอาดตาบินวนไปมาอยู่รอบๆ ทั้งยังมองเห็น เกาะฟุมิชิมะ (Fumishima Island) ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาในฐานะเทพเจ้าในบางครั้งเราอาจเห็นภาพเกาะนี้ปกคลุมไปด้วยสีขาวของนกนางนวลหางดำจำนวนหลายพันตัว และขอแนะนำให้แวะชิมรสชาติของอาหารทะเลสดๆ จากทะเลญี่ปุ่น ในระหว่างทางของถนนสู่ตัวประภาคาร อย่าง มิซะกิด้ง (Misaki Don) และ อิกะยากิ (Ikayaki)” หรือปลาหมึกย่างที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากท่าเรือใกล้ๆ กันให้จุใจ

หาดอินะสะ (Inasa Beach) กัน ที่นี่คือฉากในเทพปกรณัมญี่ปุ่นตอนที่เกี่ยวกับกำเนิดดินแดนอิซุโมะ เมื่อถึงวันที่ 10 เดือน 10 ของทุกปีตามปฏิทินโบราณ (ในปีค.ศ. 2019 ตรงกับวันที่ 6 พฤศจิกายน) จะมีการประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อต้อนรับเหล่าทวยเทพจากทั่วญี่ปุ่นสู่ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะขึ้นที่หาดแห่งนี้ และ ศาลเจ้าเบนเท็นจิมะ(Bentenjima) ซึ่งดูโดดเด่นอยู่บริเวณใจกลางหาดนั้น ก็คือเกาะขนาดเล็กสำหรับบูชาเทพเจ้า ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม แนะนำให้ค่อยๆ เดินเล่นไปเรื่อยๆ เพื่อหามุมถ่ายรูปวิวที่มีความสวยแบบลึกลับกัน นอกจากนี้หาดนี้ยังเป็นสถานที่เล่นน้ำทะเลที่มีผู้คนมาเล่นน้ำกันมากมายในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมอีกด้วย

ธีมพาร์คคอนเซปต์ของไวน์ท้องถิ่น “ชิมะเนะไวน์เนอรี (Shimane Winery)” ที่นี่เป็นแหล่งปลูกองุ่นชั้นนำของญี่ปุ่น ภายในอาคารสไตล์ยุโรปทางใต้ซึ่งมีภูเขาน้อยใหญ่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มเป็นฉากหลังนั้นมีโรงบ่มไวน์อยู่ ผู้มาเยือนสามารถชมกระบวนการผลิตไวน์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และยังสามารถชิมไวน์รวมถึงน้ำองุ่นราว 10 ชนิดได้อีกด้วย สำหรับที่บาร์บีคิวเฮาส์นั้นหากได้ลองสั่งเนื้อวัวแบรนด์ดังท้องถิ่นอย่าง ชิมะเนะวะกิว (Shimane Wagyu / Shimane Beef) มาทานคู่กับไวน์ที่ชื่นชอบรับรองว่าจะต้องเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดานักชิมทั้งหลายอย่างแน่นอน สำหรับเด็กๆ แล้วเมนูยอดนิยมก็คือซอฟครีมรสองุ่นนั่นเอง นอกจากนี้มีระบบการจองล่วงหน้าสำหรับทัวร์เก็บองุ่นสำหรับผู้ที่สนใจ และหากมาในเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนก็จะได้ลิ้มรสหวานฉ่ำขององุ่นพันธุ์เดลาแวร์ (Delaware) อีกด้วย