ตามรอยภาพยนตร์ “รักแท้…แพ้แรงดึงดูด (Gravity of Love)”

จากจุดชมวิวฟรีบนชั้น 30 ของอาคารซูมิโตโมเซย์เมย์เซนไดชูโอ (Sumitomo Seimei Sendai Chuo Building) ใจกลางเมืองเซนได (Sendai City) เมื่อมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก็จะเห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดยักษ์สีขาวบริสุทธิ์ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ลิบๆ ซึ่งเป็นองค์เดียวกับเจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได (Sendai Daikannon) ที่ปรากฏในภาพยนตร์ รูปปั้นนี้มีขนาดความสูงถึงกว่า 100 เมตร และประดิษฐานอยู่ที่วัดไดคังมิทสึจิ (Daikanmitsu-ji Temple) ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมสามารถเข้าชมได้โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 12 ชั้น และมีพระพุทธรูปจำนวนถึง 108 องค์ประดิษฐานเรียงราย ชั้นบนสุดมีหน้าต่างชมวิว ในวันที่อากาศดีหากขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นนี้ก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองเซนไดและมหาสมุทรแปซิฟิกได้ทั่วทั้งหมด

วัดโจกิเนียวไร ไซโฮจิ (Jogi Nyorai Saihoji Temple) เป็นวัดที่มีความเกี่ยวพันลึกซึ้งกับตระกูลเฮเคะ (Heike) ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ญี่ปุ่นเมื่อ 800 ปีก่อน ไฮไลต์เด่นน่าชมของวัดนี้ได้แก่ หอซะดะโยะชิ (Sadayoshi Hall) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นแกะสลักเทพเจ้ารวมถึงเทพเจ้าแห่งลมและเทพเจ้าแห่งสายฟ้า โดยเจดีย์ห้าชั้น (Five-storied Pagoda) อันยิ่งใหญ่งดงามที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่สันติสุขของมวลมนุษยชาติ นอกจากนี้ยังมี ต้นเคะยากิ (Keyaki/Zelkova) 2 ต้นที่ประสานตัวรวมเป็นหนึ่งเดียว เรียกว่า ต้นเรนริโนะเคะยากิ (Renri no Keyaki) แปลว่าต้นเคะยากิแห่งรักนิรันดร์ ซึ่งผู้คนนิยมมาขอพรในเรื่องของความรักอีกด้วย ซึ่งบริเวณต่างๆ ภายในวัด อย่างเช่นประตูใหญ่ที่หนักแน่นสวยงามก็ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน

ชิโระอิชิ (Shiroishi) เมืองรอบปราสาทที่เก่าแก่ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปีแห่งนี้ ยังคงไว้ซึ่งตัวปราสาทอันงดงามและคฤหาสน์ซามูไรกระจายกันอยู่ตามจุดต่างๆ ในเมืองจวบจนปัจจุบัน ปราสาทชิโระอิชิ (Shiroishi Castle) ที่เราได้เห็นในภาพยนตร์นั้นที่จริงแล้วไม่ใช่ปราสาทหลังเดิมที่สร้างขึ้นในสมัยนั้น หากแต่เป็นปราสาทที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1995 หลังจากที่เคยพังทลายลงมาในปีค.ศ. 1874 ทั้งภายในบริเวณปราสาทยังมี พิพิธภัณฑ์สืบค้นประวัติศาสตร์ (History Exploration Museum)”ให้แวะเข้าไปพักและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของปราสาทชิโระอิชิได้

สะพานฟุคุอุระ (Fukuura Bridge) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เดะไอบาชิ (Deai-bashi) แปลว่าสะพานพบคู่  สะพานสีแดงชาดที่เชื่อมไปสู่เกาะฟุคุอุระ (Fukuura Island) ทางตะวันตกของชายฝั่งมัตสึชิมะ (Matsushima Coast) บนเกาะมัตสึชิมะ (Matsushima Island) ซึ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักกันในฐานะของสถานที่อันเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีสะพานสีแดงอยู่ 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งนอกจากสะพานฟุคุอุระแล้วก็ยังมีสะพานซุคะชิ (Sukashi Bridge) ที่ทอดข้ามไปยังหอโกะไดโด (Godaido Hall) ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูป 5 องค์ไว้ภายใน และสะพานโทะเก็ทสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge) ที่ทอดข้ามไปยังเกาะโอะชิมะ (Oshima Island) หากแต่สะพานฟุคุอุระมีความยาวทั้งสิ้น 252 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นสะพานที่ยาวและงดงามที่สุดในจำนวนสะพานทั้ง 3 แห่งนี้ และเชื่อกันว่าให้โชคลาภในเรื่องของ “ความรักที่ยืนยาว” ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้พบกับใครสักคนที่สุดปลายสะพานแห่งนี้ก็ได้

สะพานโนะโซะคิบาชิ (Nozokibashi Bridge) ในหุบเขาไรไรเคียว (Rairaikyo Gorge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางมากับคู่รัก ทางทิศใต้ของเมืองเซนได (Sendai City) มีแม่น้ำสายยาวสายหนึ่งที่ไหลลงสู่ทะเลชื่อว่าแม่น้ำนะโทะริงะวะ (Natorigawa / The Natori River) และสะพานโนะโซะคิบาชิทอดตัวอยู่บริเวณหุบเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ จุดหนึ่งของแม่น้ำ ซึ่งสะพานแห่งนี้ที่จริงแล้วได้รับการรับรองให้เป็น “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งคู่รัก” เพราะเมื่อมองลอดใต้สะพานไปจะเห็นรอยบุ๋มตามธรรมชาติของหินเป็นรูปหัวใจสุดน่ารักอยู่นั่นเอง หากได้ไปเยือนสถานที่ซึ่งใช้เป็นฉากในภาพยนตร์แห่งนี้พร้อมกับคนรู้ใจ รับรองได้ว่าความสัมพันธ์จะต้องกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนเลยทีเดียวค่ะ