มาทำความรู้จักเทศกาลชมดอกไม้ไฟ ที่ญี่ปุ่นกันเถอะ!

© pro.foto

หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบในความงามของดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ที่แผ่กระจายสวยงามอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ขอแนะนำให้ไปเที่ยวชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการจุดดอกไม้ไฟหลายพันดอกขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูร้อน แสงสีสวยงามที่ได้เห็นอยู่เบื้องหน้าและเสียงระเบิดจากการจุดดอกไม้ไฟนั้นสร้างความรู้สึกตื่นเต้นตระการตามากกว่าการชมจากภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโออย่างเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียว แนะนำว่าควรไปชมให้เห็นด้วยตาสักครั้ง

เว็บไซต์รวมสถานที่ชมดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่น

http://www.nihon-kankou.or.jp.e.wp.hp.transer.com/hanabi/

firework-festival-02

© JNTO

firework-festival-03

© Hiroshima Prefecture / © JNTO

ในครั้งนี้จะขอแนะนำการเตรียมตัวพร้อมข้อมูลพื้นฐานในการไปชมดอกไม้ไฟที่ญี่ปุ่น

อุปกรณ์จำเป็นสำหรับการเที่ยวชมเทศกาลดอกไม้ไฟ

เพื่อการเที่ยวชมเทศกาลดอกไม้ไฟอย่างราบรื่นและสนุกสนานเต็มที่ แนะนำให้พกอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่อไปนี้ติดตัวไปด้วย

  1. โปรแกรมงานเทศกาลดอกไม้ไฟ
  2. หมวกกันแดด ร่มกันแดด
  3. เสื้อกันฝน
  4. ไฟฉาย
  5. เสื้อคลุมแขนยาว
  6. เสื่อสำหรับปูนั่ง
  7. สเปรย์กันแมลง
  8. กล้องส่องทางไกล
  9. พัด
  10. อาหารทานเล่นและน้ำดื่ม
  11. ถุงขยะ

ข้อแนะนำสำหรับการเที่ยวชมเทศกาลดอกไม้ไฟ

firework-festival-04

เทศกาลดอกไม้ไฟในญี่ปุ่นมักจะจัดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ณ ลานกว้างริมแม่น้ำหรือริมทะเล หากเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟชื่อดังก็จะมีผู้เข้าชมมากถึงหลายแสนคน ภายในบริเวณจัดงานมักจะหนาแน่นไปด้วยฝูงชนจำนวนมาก จึงควรระวังไม่ให้พลัดหลงกัน และหากสวมชุดยูกาตะ (Yukata) ไปชมด้วยก็จะยิ่งได้อรรถรสมากขึ้น

ในเทศกาลดอกไม้ไฟหลายๆแห่ง เราสามารถนำเสื่อไปปูและนำของกินไปทานเล่นระหว่างชมดอกไม้ไฟได้ แต่เนื่องจากห้องน้ำมักจะเต็มไปด้วยคนจำนวนมาก จึงไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป แม้ว่างานเทศกาลดอกไม้ไฟโดยส่วนใหญ่มักจะไม่เก็บค่าเข้าชม แต่มีบางงานก็อาจมีการเก็บค่าเข้าชมและมีการกำหนดที่นั่งในการชมด้วยเช่นกัน

รูปร่างดอกไม้ไฟ 9 ชนิดที่ควรรู้จัก

ดอกไม้ไฟจะมีรูปร่างที่แตกต่างกันไป โดยที่ชื่อของดอกไม้ไฟเหล่านี้จะมาจากรูปร่างของดอกไม้ไฟเวลาที่แตกตัวบนท้องฟ้า จะมีแบบที่เห็นได้บ่อยๆ ดังนี้

1. Kiku (Chrysanthemum)

แบบดอกเบญจมาศ ดอกไม้ไฟชนิดนี้จะมีเส้นแสงกระจายอยู่รอบๆวงกลม ระเบิดดาวสีสันสดใส แต่เม็ดสีจะมีประกายไฟเป็นทางยาว

2. Botan (Peony)

แบบดอกโบตั๋น ดอกไม้ไฟชนิดนี้จะมีจุดไฟเป็นวงกลมกระจายอยู่ ระเบิดดาวสีสันสดใส โดยจะไม่เหลือเส้นแสงให้เห็น

3. Yanagi (Willow)

แบบต้นหลิว ดอกไม้ไฟชนิดนี้คล้ายชนิดดอกเบญจมาศ มีแค่สีเงินหรือสีทอง ประกายไฟจะลากเป็นทางยาว แตกออกเป็นสายย้อยลงคล้ายต้นหลิว

© pakutaso/ © PhotoAC/ © Pixabay/ © pro.foto/ © Hiroshima Convention & Visitors Bureau

4. Kowari (Thousand Wheel)

แบบพันล้อ ดอกไม้ไฟชนิดนี้ระเบิดตัวเป็นลูกทรงกลมเล็กๆ จำนวนมาก เกิดเป็นภาพติดตาซึ่งมีสีสันมากมายทั้งจากโทนสีสว่างและมืด

5. Dosei (UFO/Saturn)

แบบจานบิน/ดาวเสาร์ ดอกไม้ไฟชนิดนี้ผสมผสานดอกไม้ไฟ 2 รูปแบบจนเกิดเป็นรูปร่างคล้ายดาวเสาร์ก่อนจะค่อยๆ จางหายไป

6. Cho-cho (Butterfly)

แบบผีเสื้อ ดอกไม้ไฟชนิดนี้ ทรงครึ่งทรงกลม ตรงกลางมีจุดศูนย์กลางมีการแตกระยิบสั้นกว่าด้านข้าง ทำให้ดูเหมือนผีเสื้อกำลังโบกบิน

7. Yashi (Palm tree)

แบบต้นปาล์ม ดอกไม้ไฟชนิดนี้ที่ประกอบด้วยเม็ดสีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นกิ่งก้านคล้ายต้นปาล์ม พลุแบบนี้จะมีหางพุ่งขึ้นไปเสมือนลำต้น

8. Taki (Waterfall)

แบบน้ำตก ดอกไม้ไฟชนิดนี้ เห็นเป็นดอกไม้ไฟเป็นสายยาว หลั่งไหล ส่องสว่างเจิดจ้า คล้ายน้ำตก

9. Starmine (Continuous fireworks)

แบบดอกไม้ไฟเป็นชุด ดอกไม้ไฟชนิดนี้ ใน1ชุด จะยิงดอกไม้ไฟหลายแบบอย่างต่อเนื่องในเวลาสั้นๆ แสดงให้เห็นถึงภาพคล้ายกลุ่มดาว

ประเภทของดอกไม้ไฟได้แก่

1. ชะคุดามะ (Shakudama) หมายถึง ดอกไม้ไฟที่จุดทีละนัด ได้แก่ แบบดอกเบญจมาศ/แบบดอกโบตั๋น/แบบต้นหลิว เป็นต้น

firework-festival-06

© Saga Prefecture / © JNTO

firework-festival-07

© Saga Prefecture / © JNTO

ชะคุดามะ (Shakudama) ยังสามารถที่แบ่งขนาดตามการแผ่กระจายวงของดอกไม้ไฟได้แก่

  • ชะคุดามะ (Shakudama)    เมื่อจุดแล้วจะแผ่กระจายเป็นวงกว้างขนาด 280 เมตร
  • นิชะคุดามะ (Nishakudama) เมื่อจุดแล้วจะแผ่กระจายเป็นวงกว้างขนาด 500 เมตร
  • ยงชะคะดามะ (Yonshakudama) เมื่อจุดแล้วจะแผ่กระจายเป็นวงกว้างขนาด 750 เมตร

2. ชิคะเคะฮานาบิ (Shikake Hanabi) หมายถึงดอกไม้ไฟที่จุดเป็นชุด หลายนัด ได้แก่แบบพันล้อ/แบบจานบิน/แบบผีเสื้อ เป็นต้น

firework-festival-08

© JNTO

firework-festival-09

© Hiroshima Convention & Visitors Bureau

เพื่อแสดงภาพดอกไม้ไฟเป็นตัวอักษร หรือเป็นรูปภาพ หรืออาจจุดเป็นดอกไม้ไฟแบบจรวด หรือแบบที่ฐานตรงกลางหมุนได้ สร้างความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ไฟชุดที่เรียกว่า “ไนแอการ่า (Niagara)” ซึ่งเป็นการจุดดอกไม้ไฟให้ตกลงมาเหมือนม่านน้ำตกขนานไปตามริมแม่น้ำ และชุด “สตาร์ไมน์ (Starmine)” ซึ่งเป็นการจุดดอกไม้ไฟจำนวนมากให้เข้ากับเสียงเพลงประกอบ เป็นต้น

เทศกาลดอกไม้ไฟชื่อดังที่ควรไปชมให้ได้สักครั้ง