เที่ยวสนุกสุดเพลิดเพลินด้วยการใช้พาส ตอน 3 ภูมิภาคคันโต ภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุและภูมิภาคชูบุ (Kanto, Hokuriku/Shinetsu and Chubu)

เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ
(Tateyama Kurobe Alpine route)
SEP20_pass_03
นิกโก
(Nikko)
SEP20_pass_06
ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ
(Miho-no-Matsubara)

ภูมิภาคคันโต (Kanto) เป็นภูมิภาคที่สำคัญ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเมืองโตเกียว (Tokyo) เมืองศูนย์กลางของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan), จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki), จังหวัดโทชิงิ (Tochigi), จังหวัดกุมมะ (Gunma), จังหวัดชิบะ (Chiba), จังหวัดไซตะมะ (Saitama), จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) และจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) อุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งแบบท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในเมือง เข้าวัด เข้าศาลเจ้า เที่ยวชมธรรมชาติกลางป่าเขา และยังมีประวัติศาตร์กับวัฒนธรรมที่หลากหลายรวมกันอยู่ในภูมิภาคนี้ แถมยังเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เลยไม่น่าแปลกใจว่าทำไมภูมิภาคคันโต (Kanto) จึงเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ
https://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan-all-area/kanto/

ภูมิภาคชูบุ (Chubu) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของภูมิภาคคันโต (Kanto) ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka), จังหวัดไอจิ (Aichi), จังหวัดกิฟุ (Gifu), จังหวัดฟุคุอิ (Fukui) และจังหวัดมิเอะ (Mie) ในภูมิภาคนี้มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขา มีอาหารการกินที่โดดเด่นของแต่ละเมือง มีอนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติกระจายตัวอยู่หลายแห่ง มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายเช่นเดียวกันกับภูมิภาคคันโต (Kanto) มีศูนย์กลางของภูมิภาคอยู่ในเมืองนาโกย่า (Nagoya) จังหวัดไอจิ (Aichi)
https://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan-all-area/chubu/

ภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu) คือภูมิภาคที่อยู่ตรงกลางของเกาะฮอนชู (Honshu) และอยู่เหนือภูมิภาคชูบุ (Chubu) ภูมิภาคนี้ประกอบด้วยพื้นที่ชินเอ็ทสุ (Shinetsu) ซึ่งเป็นที่ตั้งของจังหวัดนีงะตะ (Niigata) กับจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และพื้นที่โฮคุริคุ (Hokuriku) ซึ่งเป็นที่ตั้งของจังหวัดโทยามะ (Toyama) กับจังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับทะเลญี่ปุ่น และแหล่งขุนเขาที่ราบสูง พร้อมธารน้ำใส ทำให้เหมาะแก่การพักผ่อน มีเทือกเขาเจแปนแอลป์ทอดตัวเป็นจุดเด่น มีแหล่งอนเซ็นขึ้นชื่อ เช่น ชิบุ อนเซ็น (Shibu Onsen) ในเมืองยะมะโนะอุจิ (Yamanouchi) ที่มีลิงญี่ปุ่นแช่อนเซ็นเป็นเอกลักษณ์ และยังมีแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่คุณภาพเยี่ยม
https://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan-all-area/hokuriku-shinetsu/

การเดินทางมาเที่ยว

ภูมิภาคคันโต (Kanto) / ภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu) / ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
ทั้งสามภูมิภาค สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปได้โดยตรง มี 3 จุดหมายใหญ่ ๆ ได้แก่
โตเกียว (Tokyo) สามารถเลือกลงที่

  • สนามบินนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport)
  • สนามบินนานาชาติฮะเนดะ (Haneda International Airport)

จังหวัดไอจิ (Aichi) สามารถเดินทางมาที่

  • สนามบินนานาชาติชูบุ เซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport)

https://www.jnto.or.th/transportation/flights-to-japan/flight-information/

สถานที่น่าท่องเที่ยวในภูมิภาคคันโต (Kanto)

มหานครโตเกียว (Tokyo)

  • โตเกียว สกายทรี (Tokyo Sky Tree)
  • ย่านชินจุกุ (Shinjuku)
  • ศาลเจ้าเมจิ (Meijijingu Shrine)
  • ย่านชิบุยะ (Shibuya)
  • ย่านอุเอะโนะ (Ueno)
  • ย่านอะกิฮะบะระ (Akihabara)
  • สถานีโตเกียว (Tokyo Station)
  • พระราชวังหลวง (Imperial Palace)
  • ย่านกินซ่า (Ginza)
  • โตเกียว ทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
  • โอไดบะ (Odaiba)
  • ทะเลสาบโอคุทะมะ (Lake Okutama)
  • สวนโชวะ คิเนน (Showa Kinen Park)
  • เขาทะคะโอะ (Takaosan)

จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi)

  • ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi)
  • เจดีย์ 5 ชั้น ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
  • สวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji Q Highland)
  • โอชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai)
  • ทะเลสาบยะมะนะกะ (Lake Yamanaka)

จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa)

  • โยโกฮะมะ (Yokohama)
  • สวนซังเคเอน (Sankeien Garden)
  • ย่านคะมะคุระ (Kamakura)
  • เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima Island)
  • ปราสาทโอดะวะระ (Odawara Castle)
  • ย่านฮะโกเนะ (Hakone)

จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)

  • นะซุ-ชิโอะบะระ (Nasu-Shiobara)
  • คินุงะวะ อนเซ็น (Kinugawa Onsen)
  • ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji)
  • มรดกโลกเมืองนิกโก (Nikko World Heritage Area)
  • สวนดอกไม้อะชิคะงะ (Ashikaga Flower Park)

จังหวัดไซตะมะ (Saitama)

  • คะวะโกะเอะ (Kawagoe)
  • ชิชิบุ (Chichibu)
  • พิพิธภัณฑ์รถไฟ (Railway Museum)

จังหวัดกุมมะ (Gunma)

  • มินะคะมิ อนเซ็น (Minakami Onsen)
  • มันซะ อนเซ็น (Manza Onsen)
  • คุซัทสึ อนเซ็น (Kusatsu Onsen)
  • วัดโชรินซัง ดารุมะจิ (Shorinzan Darumaji)
  • โรงงานทอผ้าโทมิโอกะ (Tomioka Silk Mill)

จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki)

  • น้ำตกฟุคุโระดะ (Fukuroda Falls)
  • ฮิตะชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park)
  • สวนไคระคุเอน (Kairakuen)
  • ชายฝั่งโออะระอิ (Oarai Coast)

จังหวัดชิบะ (Chiba)

  • วัดนาริตะ (Naritasan Temple)
  • เมืองซะวะระ (Sawara)
  • ศาลเจ้าชิบะ (Chiba Shrine)
  • โตเกียวดิสนี่ย์ รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort)

สถานที่น่าท่องเที่ยวในภูมิภาคชูบุ (Chubu)

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

  • ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮงงุ เซนเกน ไทฉะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha Shrine)
  • ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho no Matsubara)
  • อะตะมิ อนเซ็น (Atami Onsen)
  • คะวะซุ (Kawazu)
  • ทะเลสาบฮามานาโกะ (Lake Hamanako)
  • ที่ราบสูงนิฮงไดระ (Nihondaira Plateau)
  • ท่าเรือชิมิซุ (Port of Shimizu)

จังหวัดฟุคุอิ (Fukui)

  • ผาหินโทจินโบ (Tojinbo)
  • อะวะระ อนเซ็น (Awara Onsen)
  • ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)
  • พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ฟุคุอิ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum)
  • วัดเอเฮจิ (Eiheiji Temple)
  • ซากปราสาทอิจิโจดานิ (Ichijodani Asakura Clan Ruins)
  • ทะสาบ 5 สี มิคะตะ (Mikata Five Lakes)

จังหวัดไอจิ (Aichi)

  • ปราสาทอินุยะมะ (Inuyama Castle)
  • สวนสนุกลิตเติ้ลเวิร์ล (Little World)
  • เลโก้แลนด์ เจแปน (LEGOLAND® Japan)
  • ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
  • ย่านการค้าโอสุ (Osu Shopping District)
  • พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านเมจิ (Meiji-mura Museum)
  • พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า (Port of Nagoya Public Aquarium)

จังหวัดกิฟุ (Gifu)

  • หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวะโก (Shirakawago)
  • เมืองทะคะยะมะ (Takayama)
  • เมืองกุโจฮาจิมัง (Gujohachiman)
  • โอคุฮิดะ (Okuhida)
  • ปราสาทกิฟุ (Gifu Castle)
  • ปราสาทโอกะคิ (Ogaki Castle)

จังหวัดมิเอะ (Mie)

  • อาณาจักรนินจาอิเสะ (Ninja Kingdom Ise)
  • กระท่อมของนักดำน้ำอามะซาโตมิอัน (Ama Hut SATOUMIAN)
  • หมู่บ้านสเปนชิมะ (Shima Spain Village)
  • เกาะคาชิโคจิมะ (Kashikojima)
  • ศาลเจ้าอิเซะจิงงู (Ise Jingu Shrine)
  • หินเมะโอะโตะอิวะ (Meoto-iwa Rock)
  • นะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)

สถานที่น่าท่องเที่ยวในภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu)

จังหวัดนะงะโนะ (Nagano)

  • วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple)
  • คะมิโคจิ (Kamikochi)
  • ปราสาทมัตสึโมะโตะ (Matsumoto Castle)
  • เส้นทางการค้าโบราณนะระอิจุคุ (Narai-juku)
  • สวนลิงจิโกะคุดานิ (Jigokudani Monkey Park)
  • คารุอิซะวะ (Karuizawa)

จังหวัดนีงะตะ (Niigata)

  • เกาะซะโดะ (Sado Island)
  • เทศกาลดอกไม้ไฟ เมืองนากะโอะกะ (Nagaoka Firework Festival)
  • ปราสาททะคะดะ (Takada Castle)
  • เมืองโทคะมะจิ (Tokamachi)
  • หุบเขาคิโยะสึ (Kiyotsu Gorge)
  • เมืองเอจิโกะ-ยูซะวะ (Echigo-Yuzawa)

จังหวัดโทยามะ (Toyama)

  • หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge)
  • เมืองทะกะโอกะ (Takaoka)
  • หมู่บ้านโกะคะยะมะ (Gokayama)
  • เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route)

จังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa)

  • ย่านน้ำชาฮิงะชิ ชะยะ (Higashi Chaya District)
  • ตลาดโอมิโจ (Omicho Market)
  • ปราสาทคะนะซะวะ (Kanazawa Castle)
  • สวนเคนโรคุเอ็น (Kenrokuen)
  • เขาฮะคุซัง (Hakusan)

ทั้งสามภูมิภาคสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูตลอดทั้งปี

ในแต่ละฤดูจะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส

 ฤดูใบไม้ผลิ
(มี.ค. – พ.ค.)
อากาศเย็นสบายในที่ราบ มีดอกซากุระบานสะพรั่งในหลายพื้นที่ บางพื้นที่ยังสามารถพบเจอหิมะหรือเล่นสกีได้
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 ถึง 25 องศาเซลเซียส
 ฤดูร้อน
(มิ.ย. – ส.ค.)
มีกิจกรรมฤดูร้อนให้ได้ร่วมมากมาย หรือไปทะเลรับลมรับแดดได้เช่นกัน
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28 ถึง 38 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง
(ก.ย. – พ.ย.)
ฤดูที่จะเต็มไปด้วยใบไม้แดง ส้ม และเหลืองทั่วทั้งเมือง
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 ถึง 22 องศาเซลเซียส
ฤดูหนาว
(ธ.ค. – ก.พ.)
สัมผัสกับหิมะนุ่ม ๆ ได้หลากหลายที่พร้อมทัศนียภาพที่สุดแสนประทับใจของหิมะที่โปรยปราย
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 0 ถึง 8 องศาเซลเซียส

* อุณหภูมิอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ละแห่ง

PASS ที่แนะนำในภูมิภาคคันโต (Kanto), ภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu) และภูมิภาคชูบุ (Chubu) ได้แก่

  • JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)
  • JR TOKYO Wide Pass
  • Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass
  • Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass
  • Central Nippon Expressway Pass

JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)

JR-EAST-PASS-Nagano-Niigata-area
Map_Pass_Nagano_Niigata_area

พาสรถไฟที่ใช้ในการเดินทางในภูมิภาคคันโต (Kanto) รวมไปถึงจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และจังหวัดนีงะตะ (Niigata) เหมาะสำหรับคนที่เดินทางมาที่โตเกียว (Tokyo) เป็นจุดตั้งต้นในการเดินทางออกนอกเมือง JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area) สามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) รถไฟแบบ Limited Express รวมถึงรถไฟธรรมดาที่อยู่ในการบริหารของ JR-EAST พาสมีอายุของการใช้งานมากถึง 5 วัน ซึ่งสามารถเลือกวันที่จะใช้งานได้อย่างอิสระในช่วงระยะเวลา 14 วัน ใครที่ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวนอกเมืองโตเกียว (Tokyo) และอยากจะไปจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และจังหวัดนีงะตะ (Niigata) ก็ต้องไม่พลาดกับการใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)

จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และจังหวัดนีงะตะ (Niigata) มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหรือหุบเขา ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และยังมีวัดกับศาลเจ้าอีกมากมายให้ได้เยี่ยมชม โดยในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) จะมีจุดเด่นในเรื่องของสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างเช่น วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple) วัดเก่าแก่ของจังหวัดนะงะโนะ หรือปราสาทมัตสึโมะโตะ (Matsumoto Castle) ปราสาทสีดำที่เป็นที่นิยมของหมู่นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่เมืองตากอากาศอย่างเมืองคารุอิซาวะ (Karuizawa) เมืองที่มีจุดท่องเที่ยวรวมกันอยู่มากมาย และยังสามารถช้อปปิ้งหรือเล่นหิมะได้ในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย ในฝั่งของจังหวัดนีงะตะ (Niigata) ก็มีลานสกีให้ได้เล่นหลายสถานที่ แต่หากพูดถึงสถานที่ที่นิยมกันมากที่สุดนั่นก็คือลานสกีบริเวณเมืองเอจิโกะ-ยูซะวะ (Echigo-Yuzawa) แต่ถ้าหากอยากจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยพาสนี้ สามารถเดินทางไปที่สวนยะฮิโกะ (Yahiko Park Maple Valley) สวนที่เต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนสีแดงส้มอบอุ่นเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคคันโต (Kanto)

มหานครโตเกียว (Tokyo)

  • ย่านชินจุกุ (Shinjuku)
  • โตเกียว ทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
  • เขาทะคะโอะ (Takaosan)

จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi)

  • ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi)
  • เจดีย์ 5 ชั้น ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
  • สวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji Q Highland)

จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa)

  • โยโกฮะมะ (Yokohama)
  • ย่านคะมะคุระ (Kamakura)
  • ปราสาทโอดะวะระ (Odawara Castle)

จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)

  • มรดกโลกเมืองนิกโก (Nikko World Heritage Area)
  • สวนดอกไม้อะชิคะงะ (Ashikaga Flower Park)

จังหวัดไซตะมะ (Saitama)

  • คะวะโกะเอะ (Kawagoe)
  • พิพิธภัณฑ์รถไฟ (Railway Museum)

จังหวัดกุมมะ (Gunma)

  • คุซัทสึ อนเซ็น (Kusatsu Onsen)
  • วัดโชรินซัง ดารุมะจิ (Shorinzan Darumaji)

จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki)

  • ฮิตะชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park)
  • สวนไคระคุเอน (Kairakuen)

จังหวัดชิบะ (Chiba)

  • วัดนาริตะ (Naritasan Temple)
  • โตเกียวดิสนี่ย์ รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu)

จังหวัดนะงะโนะ (Nagano)

  • วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple)
  • ปราสาทมัตสึโมะโตะ (Matsumoto Castle)
  • คะมิโคจิ (Kamikochi)
  • คารุอิซาวะ (Karuizawa)
  • ปราสาทอุเอะดะ (Ueda Castle)

จังหวัดนีงะตะ (Niigata)

  • เกาะซะโดะ (Sado Island)
  • เมืองนากะโอกะ (Nagaoka)
  • เมืองโทคะมะจิ (Tokamachi)
  • หุบเขาคิโยะสึ (Kiyotsu Gorge)
  • เมืองเอจิโกะ-ยูซะวะ (Echigo-Yuzawa)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคชูบุ (Chubu)

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

  • อะตะมิ อนเซ็น (Atami Onsen)
  • เมืองคะวะซุ (Kawazu)

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

ชื่อพาส
JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)
เงื่อนไข

สำหรับชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตของประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น และเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยสถานะ “พำนักระยะสั้น”

*หมายเหตุ: โดยต้องแสดงพาสปอร์ตที่มีสติกเกอร์ / ตราประทับ ว่าเป็น “พำนักระยะสั้น” ตอนที่ซื้อ หรือแลกตั๋วที่สถานีรถไฟที่กำหนดในประเทศญี่ปุ่น*

การใช้งาน

สำหรับการเดินทางด้วยไฟของ JR และรถบัสที่กำหนดในระยะเวลาตามที่กำหนดทั้งรถไฟธรรมดา รถไฟแบบ Limited Express รถไฟชินคันเซน (Shinkansen) ทั้งแบบจองที่นั่งและไม่จองที่นั่ง

ไม่สามารถใช้งานได้
Hokkaido Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Nasushiobara ถึงสถานี Shin-Hakodate Hokuto)
Tohoku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Nasushiobara ถึงสถานี Shin-Aomori)
Hokuriku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Joetsumyoko ถึงสถานี Kanazawa)
Tokaido Shinkansen Line
รถไฟเอกชนสายอื่น ๆ

พื้นที่ครอบคลุม
สายรถไฟ JR ที่สามารถใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area) ได้
Hokkaido Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Tohoku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Akita Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Yamagata Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Joetsu Shinkansen Line
Hokuriku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Joetsumyoko)
สายรถไฟทั้งหมดของ JR EAST
เส้นทางอื่น ๆ ที่สามารถใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area) ได้
Echigo TOKImeki Raiway Line (ระหว่างสถานี Naoetsu กับสถานี Arai)
Tobu-Kinugawa Line (เฉพาะสถานีที่กำหนด)
Tobu-Nikko Line (เฉพาะสถานีที่กำหนด)
Narita Express (N’EX)
Tokyo Monorail (Haneda International Airport)
Izu Kyuko Line
JR Bus ที่กำหนดดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.jreast.co.jp/multi/pass/eastpass_n.html
ระยะเวลาใช้งาน / ราคา
5 วัน ไม่ต่อเนื่อง*
* สามารถเลือกวันใช้งานได้ในช่วงระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งานพาส
ซื้อภายนอกประเทศญี่ปุ่น
ผู้ใหญ่ 17,310 เยน / เด็ก 8,650 เยน
ซื้อภายในประเทศญี่ปุ่น
ผู้ใหญ่ 18,330 เยน / เด็ก 9,160 เยน
สิทธิพิเศษ
สามารถจองที่นั่งรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) รถด่วนพิเศษ (Limited Express) ได้ฟรี ทั้งแบบปกติและผ่านระบบจองออนไลน์
จองที่นั่งแบบออนไลน์ได้ทาง
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/menu/menu.aspx
ไม่สามารถจองที่นั่งแบบ GranClass และ Green Car (จำเป้นต้องชำระค่าจองที่นั่งสำหรับ GranClass และ Green Car เพิ่มเติมนอกเหนือจากราคาค่าโดยสารปกติ)
วีธีการซื้อพาส
ซื้อพาสนอกประเทศญี่ปุ่น และซื้อพาสผ่านทางอินเตอร์เน็ต
ก่อนมาญี่ปุ่นให้ซื้อเวาเชอร์จากบริษัทนำเที่ยวที่เป็นตัวแทนจำหน่าย
หลังจากเดินทางถึงญี่ปุ่นให้นำเวาเชอร์ไปแลกเป็นพาส ณ.จุดแลกที่กำหนด
ซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
สามารถซื้อตามจุดจำหน่ายที่ให้บริการตามกำหนดตรวจสอบสถานที่จำหน่ายและแลกพาส
https://www.jreast.co.jp/e/ticketwindow/?selectPass=eastT
สถานที่จำหน่าย
  • การซื้อพาสผ่านตัวแทนการท่องเที่ยวในประเทศไทย
  • การซื้อพาสผ่านทางอินเทอร์เน็ต
  • การซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.jreast.co.jp/multi/pass/eastpass_n.html

JR TOKYO Wide Pass

TOKYO-WIDE-PASS_TH_2001ol-1
Map_Pass_Tokyo_Wide

พาสสุดคุ้มสำหรับท่องเที่ยวในโตเกียว (Tokyo) และรอบนอก ซึ่งประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) จังหวัดกุมมะ (Gunma) จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki) จังหวัดไซตะมะ (Saitama) จังหวัดชิบะ (Chiba) จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) และมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan) รวมถึงบางส่วนของจังหวัดนีงะตะ (Niigata) จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) และจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) อีกด้วย

JR TOKYO Wide Pass นี้มีขายแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น สามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) และรถไฟอื่น ๆ ที่กำหนดได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งนานถึง 3 วันแบบติดต่อกัน เหมาะแก่การท่องเที่ยวแบบพักในโตเกียว (Tokyo) แล้วนั่งรถไฟออกไปเที่ยวต่างจังหวัดรอบนอกด้วยเช่นกัน เพราะใช้เวลาในการเดินทางแค่ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงต่อเที่ยวเท่านั้น จะจัดแผนท่องเที่ยวแบบ 1 วัน หรือค้างคืนก็สะดวกสบาย จะพักในเรียวกัง แช่อนเซ็น หรือจะไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติกลางป่าเขา หรือจะเที่ยวชมแสงสี เดินเล่นช้อปปิ้งในเมืองใหญ่ก็มีให้เที่ยวแบบครบครัน พร้อมตอบโจทย์ในทุกกิจกรรม ทำให้ JR TOKYO Wide Pass เป็นหนึ่งในพาสที่คุ้มค่าที่สุดพาสหนึ่งของภูมิภาคคันโต (Kanto)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคคันโต (Kanto)

มหานครโตเกียว (Tokyo)

  • ย่านชินจุกุ (Shinjuku)
  • โตเกียว ทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
  • เขาทะคะโอะ (Takaosan)

จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi)

  • ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi)
  • เจดีย์ 5 ชั้น ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
  • สวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji Q Highland)

จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa)

  • โยโกฮะมะ (Yokohama)
  • ย่านคะมะคุระ (Kamakura)
  • ปราสาทโอดะวะระ (Odawara Castle)

จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)

  • มรดกโลกเมืองนิกโก (Nikko World Heritage Area)
  • คินุงะวะ อนเซ็น (Kinugawa Onsen)
  • ย่านนะซุ (Nasu Area)

จังหวัดไซตะมะ (Saitama)

  • ย่านคะวะโกะเอะ (Kawagoe)
  • พิพิธภัณฑ์รถไฟ (Railway Museum)
  • ย่านคุมะกะยะ (Kumagaya)

จังหวัดกุมมะ (Gunma)

  • คุซัทสึ อนเซ็น (Kusatsu Onsen)
  • วัดโชรินซัง ดารุมะจิ (Shorinzan Darumaji)
  • มินะคะมิ อนเซ็น (Minakami Onsen)

จังหวัดอิบะระกิ (Ibaraki)

  • ฮิตะชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park)
  • พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu (Buddha)
  • ทะเลสาบ คะสุมิกาอุระ (Lake Kasumigaura)

จังหวัดชิบะ (Chiba)

  • วัดนาริตะ (Naritasan Temple)
  • ย่านซาวาระ (Sawara)
  • พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคะโมะกะวะ (Kamogawa Sea World)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu)

จังหวัดนะงะโนะ (Nagano)

  • คารุอิซาวะ (Karuizawa)
  • ปราสาทโคะโมะโระ (Komoro Castle)

จังหวัดนีงะตะ (Niigata)

  • เมืองเอจิโกะ-ยูซะวะ (Echigo-Yuzawa)
  • กาล่า ยูซาว่า (GALA Yuzawa)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคชูบุ (Chubu)

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

  • อะตะมิ อนเซ็น (Atami Onsen)
  • เมืองคะวะซุ (Kawazu)

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

ชื่อพาส
JR TOKYO Wide Pass
เงื่อนไข
  • สำหรับชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตของประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สัญชาติญี่ปุ่น
    (เช่น คนสัญชาติญี่ปุ่นไม่สามารถใช้งานได้)
  • สามารถระบุวันที่เริ่มต้นสำหรับวันที่ต้องการใช้งานให้อยู่ภายใน 1 เดือนตั้งแต่วันที่ซื้อบัตร
การใช้งาน

สำหรับการเดินทางด้วยไฟของ JR ที่กำหนดในระยะเวลาตามที่กำหนดทั้งรถไฟธรรมดา รถไฟแบบ Limited Express รถไฟชินคันเซน ทั้งแบบจองที่นั่งและไม่จองที่นั่ง

ไม่สามารถใช้งานได้
Hokkaido Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Nasushiobara ถึงสถานี Shin-Hakodate Hokuto)
Tohoku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Nasushiobara ถึงสถานี Shin-Aomori)
Akita Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Nasushiobara ถึงสถานี Akita)
Yamagata Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Nasushiobara ถึงสถานี Shinjo)
Joetsu Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Echigo-Yuzawa ถึงสถานี Niigata)
Hokuriku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Sakudaira ถึงสถานี Kanazawa)
Tokaido Shinkansen Line
รถไฟเอกชนสายอื่น ๆ

พื้นที่ครอบคลุม
สายรถไฟ JR ที่สามารถใช้ JR TOKYO Wide Pass ได้
Hokkaido Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Tohoku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Akita Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Yamagata Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Nasushiobara)
Joetsu Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี GALA Yuzawa)
Hokuriku Shinkansen Line (ระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Sakudaira)
สายรถไฟทั้งหมดของ JR EAST
เส้นทางอื่น ๆ ที่สามารถใช้ JR TOKYO Wide Pass ได้
Fujikyu Railway Line
Joshin Dentetsu Line
Saitama New Urban Transit (Ōmiya – the Railway Museum)
Tokyo Waterfront Area Rapid Transit Line (Rinkai Line)
Tobu-Kinugawa Line (เฉพาะสถานีที่กำหนด)
Tobu-Nikko Line (เฉพาะสถานีที่กำหนด)
Narita Express (N’EX)
Tokyo Monorail (Haneda Airport)
Izu Kyuko Lineดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.jreast.co.jp/multi/pass/tokyowidepass.html
ระยะเวลาใช้งาน / ราคา
3 วันต่อเนื่อง นับจากวันที่ระบุการใช้งาน
ซื้อภายในประเทศญี่ปุ่น
ผู้ใหญ่ 10,180 เยน / เด็ก 5,090 เยน
สิทธิพิเศษ
สามารถจองที่นั่งรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) รถด่วนพิเศษ (Limited Express) ได้ฟรี ทั้งแบบปกติและผ่านระบบจองออนไลน์
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/menu/menu.aspxส่วนลดในการเช่าอุปกรณ์เล่นสกี สโนวบอร์ด หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ลานสกี GALA Yuzawa เมื่อแสดงพาสกับเจ้าหน้าที่
วีธีการซื้อพาส
ซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
สามารถซื้อตามจุดจำหน่ายที่ให้บริการตามกำหนดตรวจสอบสถานที่จำหน่ายและแลกพาส
สถานที่จำหน่าย
ตรวจสอบสถานที่จำหน่าย JR TOKYO Wide Pass
https://www.jreast.co.jp/e/ticketwindow/?selectPass=tokyoWide
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.jreast.co.jp/multi/pass/tokyowidepass.html

Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini

Mt-Fuji-Shizuoka-face
Mt-Fuji-Shizuoka-area

พาสสุดพิเศษที่ใช้สำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) รวมไปถึงบางส่วนของจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) สามารถใช้ในการเดินทางด้วยรถไฟของ JR และรถไฟเอกชน รวมไปจนถึงรถบัส และเรือเฟอร์รี่ เรือข้ามฟากระหว่างท่าเรือชิมิซุ (Shimizu Port) กับท่าเรืออิโตะ (Ito Port) ที่มีจุดเด่นคือการชมวิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) จากบนเรือที่กำลังเดินทางข้ามฟากบนท้องทะเล นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ได้หลากหลายอย่างเช่น ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮงงุ เซนเกน ไทฉะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha Shrine) มิชิมะ สกายวอร์ค (Mishima Skywalk) อะตะมิ อนเซ็น (Atami Onsen) ชูเซนจิ อนเซ็น (Shuzenji Onsen) หรือชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากมุมยอดนิยมที่ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho-no-Matsubara) หรือชมปราสาทคะเคกะวะ (Kakegawa Castle) และปราสาทฮามะมัตสึ (Hamamatsu Castle) ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถบัสไปเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ได้อย่างสวยงาม สามารถมาเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู แต่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันสูงสุดก็คือช่วงดอกซากุระบาน หรือประมาณกลางเดือนเมษายน และช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน และยังรวมไปถึงสวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji Q Highland) และทะเลสาบยะมะนะกะ (Lake Yamanaka) เป็นต้น

Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini สามารถใช้งานได้ติดต่อกันนานถึง 3 วัน ครอบคลุมเส้นทางที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบให้ได้ท่องเที่ยว จึงเหมาะกับทุกคนที่อยากมาท่องเที่ยวในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) อย่างยิ่ง

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคคันโต (Kanto)

จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi)

  • ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi)
  • สวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji Q Highland)
  • ทะเลสาบยะมะนะกะ (Lake Yamanaka)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคชูบุ (Chubu)

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

  • น้ำตกชิไรโตะ (Shiraito no Taki)
  • โกเทมบะ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตส์ (Gotemba Premium Outlets)
  • สวนสนุกกรินปะ (Grinpa)
  • มิชิมะ สกายวอร์ค (Mishima Skywalk)
  • อะตะมิ อนเซ็น (Atami Onsen)
  • ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮงงุ เซนเกน ไทฉะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha Shrine)
  • ท่าเรือนุมะซุ (Numazu Port)
  • ชูเซนจิ อนเซ็น (Shuzenji Onsen)
  • ล่องเรือ S-pulse Dream
  •  ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho-no-Matsubara)
  • ปราสาทคะเคกะวะ (Kakegawa Castle)
  • ปราสาทฮามะมัตสึ (Hamamatsu Castle)
  • สวนดอกไม้ฮามะมัตสึ (Hamamatsu Flower Park)
  • คันซังจิ อนเซ็น (Kanzanji Onsen)
  • ทะเลทรายนะคะตะจิมะ (Nakatajima Sand Dunes)

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

ชื่อพาส
Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini
เงื่อนไข

สำหรับชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตของประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น และเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยสถานะ “พำนักระยะสั้น”

*หมายเหตุ: โดยต้องแสดงพาสปอร์ตที่มีสติกเกอร์/ตราประทับ ว่าเป็น “พำนักระยะสั้น” ตอนที่ซื้อ หรือแลกตั๋วที่สถานีรถไฟที่กำหนดในประเทศญี่ปุ่น*

การใช้งาน

สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟของ JR สายรถไฟเอกชน รถบัส และเรือเฟอร์รี่ที่กำหนด

*ไม่สามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟ Limited Express แบบจองที่นั่งได้

ไม่สามารถใช้งานได้
Tokaido Shinkansen Line
พื้นที่ครอบคลุม
สายรถไฟที่สามารถใช้งานได้
JR Gotemba Line (ระหว่างสถานี Matsuda ถึงสถานี Numazu)
JR Minobu Line (ระหว่างสถานี Shimobe Onsen ถึงสถานี Fuji)
JR Tokaido Line (ระหว่างสถานี Atami ถึงสถานี Toyohashi)
Izuhakone Line (ระหว่างสถานี Mishima ถึงสถานี Shuzenji)

รถบัสที่กำหนด

(1) รถบัส Fujikyoko
สถานี Gotemba ถึง Gotemba Premium Outlets
สถานี Gotemba ถึงสถานี Kawaguchiko
สถานี Gotemba ถึง Grinpa
สถานี Shin-Fuji ถึงสถานี Fujisan
สถานี Shin-Fuji ถึงสถานี Fuji (ทางออกทิศใต้)
(2) รถบัส Tokai
สถานี Mishima ถึง Yamanaka Castle Ruins
สถานี Numazu ถึง Numazu Minato-Shinkansen
สถานี Shuzenji ถึง Shuzenji Onsen
สถานี Shuzenji ถึงท่าเรือ Toi
(3) รถบัส Izuhakone
สถานี Numazu ถึงท่าเรือ Numazu
สถานี Izunagaoka ถึง Izu-Mito Sea Paradise
สถานี Shuzenji ถึง Shuzenji-Onsen
(4) รถบัส Shizutetsu Justline
สถานี Shimizu ถึง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Miho มหาวิทยาลัย Tokai
(5) รถบัส Entetsu
สถานี Hamamatsu ถึง Nakatajima Shako
สถานี Hamamatsu ถึง Kanzanji-Onsen (สวนดอกไม้ Hamanako)
เรือเฟอร์รี่ S-pulse Dream
ท่าเรือ Shimizu ถึงท่าเรือ Toi
ระยะเวลาใช้งาน / ราคา
3 วันต่อเนื่อง
ซื้อภายนอกประเทศญี่ปุ่น
ผู้ใหญ่ 4,570 เยน / เด็ก (อายุระหว่าง 6 – 11 ปี) 2,280 เยน
ซื้อภายในประเทศญี่ปุ่นหรือระบบออนไลน์
ผู้ใหญ่ 5,080เยน / เด็ก (อายุระหว่าง 6 – 11 ปี) 2,540 เยน
สิทธิพิเศษ
สามารถใช้โดยสารเรือเฟอร์รี่ S-pulse Dream ได้
วีธีการซื้อพาส
ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
ก่อนมาญี่ปุ่นให้ซื้อเวาเชอร์จากบริษัทนำเที่ยวที่เป็นตัวแทนจำหน่าย
หลังจากเดินทางถึงญี่ปุ่นให้นำเวาเชอร์ไปแลกเป็นพาส ณ.จุดแลกที่กำหนด
ซื้อพาสผ่านระบบออนไลน์
ก่อนมาญี่ปุ่นให้เตรียมเวาเชอร์สำหรับการแลกพาสติดตัวมาด้วย
หลังจากเดินทางถึงญี่ปุ่นให้นำเวาเชอร์ไปแลกเป็นพาส ณ.จุดแลกที่กำหนด
ซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
ติดต่อที่เค้าเตอร์บริการที่กำหนดเพื่อทำการซื้อพาส
สถานที่จำหน่าย
ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
https://touristpass.jp/common/pdf/purchase/ASIA/thailand.pdf
ซื้อพาสผ่านระบบออนไลน์
https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/pass/reservation_form/index.php?p=fuji-shizuoka-areapassmini
ซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
https://touristpass.jp/common/pdf/locations/locations_th.pdf
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://touristpass.jp/th/fuji_shizuoka/

Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass

alpine1
alpine2

พาสสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ ที่มีจุดประสงค์หลักคือการเที่ยวเส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) โดยมีจุดเริ่มต้นที่เมืองนาโกย่า (Nagoya) สามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินทางโดยรถไฟของ JR ทั้งแบบธรรมดาและ Limited Express ในการท่องเที่ยวในจังหวัดไอจิ (Aichi) จังหวัดกิฟุ (Gifu) จังหวัดโทยามะ (Toyama) จังหวัดนะงะโนะ (Nagano) และเส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) มีอายุใช้งานนานถึง 5 วันแบบติดต่อกัน มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้แวะเที่ยวระหว่างทางมากมาย โดยในเส้นทางไฮไลท์ของพาสนี้คือ เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมโดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวสามารถชมกำแพงหิมะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการมาดูความยิ่งใหญ่ของหิมะหนาสูงเฉลี่ย 7 เมตร และอาจจะสูงได้มากสุดถึง 20 เมตร หรือเทียบเทียบกันตึก 10 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากกำแพงหิมะยังมีจุดท่องเที่ยวสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง อย่างเช่นบริเวณที่กำลังเดินทางด้วยกระเช้าลอยฟ้าทาเตยะมะ (Tateyama Ropeway) ระหว่างเขาไดคังโบะ (Daikanbo) กับคุโรเบะไดระ (Kurobedaira) หากมาในช่วงฤดูร้อน ต้นไม้จะมีสีเขียวสดใส เป็นเหมือนพรมสีเขียวอยู่เบื่องล่าง แต่ถ้าหากมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ต้นไม้เบื้องล่างจะกลายเป็นสีแดงส้มเต็มไปทั้งแนวเขาให้ได้ถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศแบบนี้ยังสามารถสัมผัสได้ที่เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) ด้วยเช่นกัน หรือถ้ามาเที่ยวเส้นทางนี้ในฤดูร้อน นักท่องเที่ยวสามารถหนีอากาศร้อนของประเทศญี่ปุ่นมาเดินเทรกกิ้งรับอากาศเย็น ๆ ชมวิวเขาที่สวยงามนี้ได้ และยังมีโอกาสเจอหิมะที่ยังหลงเหลือจากฤดูหนาวได้อีกด้วย

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu)

จังหวัดโทยะมะ (Toyama)

  • ปราสาทโทยะมะ (Toyama Castle)
  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะและดีไซน์จังหวัดโทยะมะ (Toyama Prefectural Museum of Art and Design)
  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกโทยะมะ (Toyama Glass Art Museum)
  • สวนสาธารณะฟุกังอึนกะคังซุย (Fugan-ungakansui Park)

จังหวัดนะงะโนะ (Nagano)

  • ปราสาทมัตสึโมะโตะ (Matsumoto Castle)
  • ชินาโนะ โอมาจิ อนเซ็น (Shinano Omachi Onsen)
  • เส้นทางการค้าโบราณนะระอิจุคุ (Narai-juku)
  • เส้นทางการค้าโบราณสึมะโกะจุคุ (Tsumago-juku)

สถานที่น่าท่องเที่ยวในเส้นทางแอลป์
ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine route)
จังหวัดโทยะมะ (Toyama)

  • น้ำตกโชเมียว (Shomyo Falls)
  • ที่ราบบิโจไดระ (Bijodaira)
  • ทุ่งมิดะงะฮะระ (Midagahara)
  • เท็งงูไดระ (Tengudaira)
  • กำแพงหิมะ (Snow Wall)
  • บ่อน้ำมิคุริกะ (Mikuriga-ike)
  • กระเช้าลอยฟ้าทาเตยะมะ (Tateyama Ropeway)
  • เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคชูบุ (Chubu)

จังหวัดไอจิ (Aichi)

  • ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
  • สวนญี่ปุ่นโทคุกะวะ (Tokugawa Japanese Garden)
  • วัดโอสุคันนง (Osu Kannon Temple) และย่านการค้าโอสุ (Osu Shopping District)
  • นาโกย่า ทีวี ทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower)
  • พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (Toyota Commemorative Museum of Industry and Technology)

จังหวัดกิฟุ (Gifu)

  • ย่านฮิดะฟุรุคะวะ (Hida Furukawa)
  • ย่านทะคะยะมะ (Takayama)
  • เกโระ อนเซ็น (Gero Onsen)
  • หุบเขาเอนะ (Ena Gorge)
  • เส้นทางการค้าโบราณมาโกเมะจุคุ (Magome-juku)

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

ชื่อพาส
Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass
เงื่อนไข

สำหรับชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตของประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น และเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยสถานะ “พำนักระยะสั้น”

*หมายเหตุ: โดยต้องแสดงพาสปอร์ตที่มีสติกเกอร์/ตราประทับ ว่าเป็น “พำนักระยะสั้น” ตอนที่ซื้อ หรือแลกตั๋วที่สถานีรถไฟที่กำหนดในประเทศญี่ปุ่น*

การใช้งาน
สำหรับการเดินทางด้วยไฟของ JR ที่กำหนดในระยะเวลาตามที่กำหนด
ทั้งรถไฟธรรมดา รถไฟแบบ Limited Express แบบไม่จองที่นั่ง และแบบจองที่นั่ง (จองได้สูงสุด 4 เที่ยว)
ช่วงเวลาจำหน่าย 1 กุมภาพันธ์ – 6 พฤศจิกายน
แลกพาสได้ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม – 6 พฤศจิกายน
ใช้งานได้ระหว่างวันที่ 15 เมษายน – 10 พฤศจิกายน
ไม่สามารถใช้งานได้
Tokaido Shinkansen Line
Hokuriku Shinkansen Line
สายรถไฟของ JR และเอกชนนอกเหนือจากเส้นทางที่กำหนด
พื้นที่ครอบคลุม
สายรถไฟที่สามารถใช้ Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass ได้
JR Tokaido Line
JR Takayama Line
JR Chuo Main Line
JR Oito Line
เส้นทางอื่น ๆ ที่สามารถใช้ Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass ได้
เส้นทาง Alpine Route ทั้งหมดระหว่างสถานี Dentetsu-Toyama กับสถานี Shinano Omachi
ระยะเวลาใช้งาน / ราคา
5 วันต่อเนื่อง
ซื้อภายนอกประเทศญี่ปุ่น
ผู้ใหญ่ 17,830 เยน / เด็ก (อายุระหว่าง 6 – 11 ปี) 8,910 เยน
ซื้อภายในประเทศญี่ปุ่นหรือระบบออนไลน์
ผู้ใหญ่ 18,850 เยน / เด็ก (อายุระหว่าง 6 – 11 ปี) 9,420 เยน
สิทธิพิเศษ
สามารถใช้พาสเดินทางเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route ได้ตลอดเส้นทาง
วีธีการซื้อพาส
ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
ก่อนมาญี่ปุ่นให้ซื้อเวาเชอร์จากบริษัทนำเที่ยวที่เป็นตัวแทนจำหน่าย
หลังจากเดินทางถึงญี่ปุ่นให้นำเวาเชอร์ไปแลกเป็นพาส ณ.จุดแลกที่กำหนด
ซื้อพาสผ่านระบบออนไลน์
ก่อนมาญี่ปุ่นให้เตรียมเวาเชอร์สำหรับการแลกพาสติดตัวมาด้วย
หลังจากเดินทางถึงญี่ปุ่นให้นำเวาเชอร์ไปแลกเป็นพาส ณ.จุดแลกที่กำหนด
ซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
ติดต่อที่เค้าเตอร์บริการที่กำหนดเพื่อทำการซื้อพาส
สถานที่จำหน่าย
ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
https://touristpass.jp/common/pdf/purchase/ASIA/thailand.pdf
ซื้อพาสผ่านระบบออนไลน์
https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/pass/reservation_form/index.php?p=alpine-takayama-matsumoto-areapass
ซื้อพาสภายในประเทศญี่ปุ่น
https://touristpass.jp/common/pdf/locations/locations_th.pdf
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://touristpass.jp/en/alpine/

Central Nippon Expressway Pass

cnp
cpnetc

การเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์แบบเช่าจะสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม เมื่อใช้ Central Nippon Expressway Pass คลอบคลุมทางด่วนจากโตเกียว (Tokyo) ตลอดไปจนถึงภูมิภาคชูบุ (Chubu) โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม หรือต้องเตรียมเงินในการชำระเงินอีกต่อไป อีกหนึ่งความพิเศษเมื่อเดินทางบนทางด่วนคือจุดแวะพักต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะมีห้องน้ำหรือร้านค้าให้บริการแล้ว ยังประกอบไปด้วยของฝากหรือสินค้าท้องถิ่นให้ได้ช้อปปิ้ง หรือลิ้มลองอาหารประจำถิ่นของจุดพักรถนั้น ๆ ได้อีกด้วย
Expressway Pass จะใช้แทนบัตร Electronic Toll Collection (ETC) ที่เป็นบัตรเงินสดสำหรับใช้ผ่านด่านเก็บเงินอัตโนมัติซึ่งมีอยู่ทุกทางด่วนในประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่จำเป็นต้องเติมเงินลงไปในบัตร เพราะ Expressway Pass จะไม่คิดค่าผ่านทางนอกเหนือไปจากการจ่ายครั้งแรก สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวหลายแห่งที่เน้นใช้งานทางด่วนเป็นหลัก
สำหรับใครที่สนใจจะใช้ Central Nippon Expressway Pass สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการเช่ารถของแต่ละบริษัทได้ทันที โดยการแสดงพาสปอร์ตพร้อมกับใบอนุญาตขับขี่สากลกับเจ้าหน้าที่ ขั้นตอนการใช้งานง่าย ๆ เพียงการขับรถเข้าไปในช่องทางที่มีข้อความระบุว่า “ETC” ซึ่งเป็นช่องทางอัตโนมัติ ชะลอรถรอเครื่องจับสัญญาณ แค่นี้ก็ผ่านเข้าไปในเส้นทางด่วนได้แล้ว
Central Nippon Expressway Pass อาจไม่ได้ครอบคลุมทางด่วนทั้งหมด สำหรับการเดินทางนอกพื้นที่ บัตร ETC จะคิดค่าใช้จ่ายเอาไว้ในบัตร และจะต้องทำการชำระเพิ่มเติมเมื่อทำการคืนรถกับบริษัทที่เช่าในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีออปชั่นเสริมของพาสอย่าง Nagoya Expressway Pass กับ Aichi Toll Road Pass สำหรับเส้นทางบางส่วนเพิ่มเติมอีกด้วย

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคคันโต(Kanto)

มหานครโตเกียว (Tokyo)

  • เขาทะคะโอะ (Takaosan)
  • ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland)
  • ซากปราสาทฮะจิโอจิ (Hachioji Castle Ruins)

จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi)

  • ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi)
  • เจดีย์ 5 ชั้น ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
  • สวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji Q Highland)
  • โอชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai)
  • ทะเลสาบยะมะนะกะ (Lake Yamanaka)

จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa)

  • ย่านฮะโกเนะ (Hakone)
  • เขื่อนมิยะกะเสะ (Miyagase Dam)
  • เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima Island)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu)

จังหวัดโทยะมะ (Toyama)

  • หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge)
  • หมู่บ้านโกะคะยะมะ (Gokayama)
  • เมืองทะกะโอกะ (Takaoka)

จังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa)

  • เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa)
  • เขาฮะคุซัง (Mt. Hakusan)
  • คะงะ อนเซ็น (Kaga Onsen)

จังหวัดนะงะโนะ (Nagano)

  • คะมิโคจิ (Kamikochi)
  • ปราสาทมัตสึโมะโตะ (Matsumoto Castle)
  • ทะเลสาบสุวะ (Suwa Lake) และ คะมิสุวะ อนเซ็น (Kami-Suwa Onsen)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคชูบุ (Chubu)

จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

  • ศาลเจ้าฟูจิซัง ฮงงุ เซนเกน ไทฉะ (Fujisan Hongu Sengen Taisha Shrine)
  • ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho no Matsubara)
  • ปราสาทคะเคกะวะ (Kakegawa Castle)
  • ทะเลสาบฮามะมัตสึ (Hamamatsu Lake)
  • ไร่ชากับฟูจิที่เนินเขานิฮงไดระ (Nihondaira)

จังหวัดกิฟุ (Gifu)

  • หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวะโก (Shirakawago)
  • ปราสาทกิฟุ (Gifu Castle)
  • ย่านทะคะยะมะ (Takayama)

จังหวัดไอจิ (Aichi)

  • ปราสาทอินุยะมะ (Inuyama Castle)
  • สวนสนุกลิตเติ้ลเวิร์ล (Little World)
  • พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านเมจิ (Meiji-mura Museum)

จังหวัดฟุคุอิ (Fukui)

  • ผาหินโทจินโบ (Tojinbo)
  • อะวะระ อนเซ็น (Awara Onsen)
  • ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle)
  • พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ฟุคุอิ (Fukui Prefectural Dinosaur Museum)
  • วัดเอเฮจิ (Eiheiji Temple)
  • ทะสาบ 5 สี มิคะตะ (Mikata Five Lakes)

จังหวัดมิเอะ (Mie)

  • นะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) และนะกะชิมะ สปา แลนด์ (Nagashima Spa Land)
  • ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine)
  • เกาะคาชิโคจิมะ (Kashikojima)
  • น้ำตกอากาเมะชิจูฮะจิทะคิ (Akame 48 Waterfalls) และ นินจาโนะโมริ (Ninja no Mori)
  • ทางเดินแสวงบุญเส้นทางมะโกเสะ โทะเกะ (Magose Toge Pass)

สถานที่น่าท่องเที่ยวโดยใช้พาสนี้ ในภูมิภาคคันไซ (Kansai)

จังหวัดชิกะ (Shiga)

  • ทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa)
  • ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle)

จังหวัดเกียวโต (Kyoto)

  • เมืองอุจิและวัดเบียวโดอิน (Uji and Byodo-in Temple)
  • ศาลเจ้าฟุชิมิ อินะริ ไทฉะ (Fushimi Inari Taisha Shrine)

ข้อมูลพาสเพิ่มเติม

ชื่อพาส
Central Nippon Expressway Passs
เงื่อนไข
สำหรับชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตของประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น หรือชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ และต้องมีใบขับขี่สากลที่ยังไม่ครบกำหนดอายุการใช้งาน
การใช้งาน

ขั้นตอนการใช้งาน Central Nippon Expressway Pass

  • ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้บริการเช่ารถเพื่อทำการซื้อบัตร Central Nippon Expressway Pass ในระหว่างดำเนินการเช่ารถ พร้อมเลือกจำนวนวันที่ต้องการใช้งาน รอรับบัตรและรับรถ
  • เสียบ Central Nippon Expressway Pass ไปในอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ในรถ และจำวันหมดอายุของบัตรไว้เสมอ
  • ขณะกำลังขับรถขึ้นทางด่วน เลือกเข้าช่องทางที่ระบุว่า “ETC”
  • ใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการเข้าช่อง ETC เพื่อให้เครื่องทำการสแกนบัตร Central Nippon Expressway Pass ที่กำลังใช้งาน หากบัตรหมดอายุ หรือไม่มีบัตร ไม้กั้นจะปิดไม่ให้สามารถไปต่อได้
  • รักษาระยะห่างกับรถคันด้านหน้า เพื่อความปลอดภัย
  • ขับรถอย่างช้า ๆ และตรวจสอบจอมอนิเตอร์ข้างทางและไม้กั้นในระหว่างอยู่ช่องทาง ETC เมื่อผ่านแล้ว สามารถขับรถเข้าทางด่วนได้
พื้นที่ครอบคลุม
ครอบคลุมทางด่วนในพื้นที่ชูบุ (Chubu) และคันโต (Kanto) บางส่วน หากเดินทางนอกเส้นทาง จะคิดราคาค่าเดินทางตามปกติ สามารถชำระเงินส่วนเกินได้ในภายหลังทำการคืนรถแล้ว
https://hayatabi.c-nexco.co.jp/img/cms/1576733342036.pdf
https://hayatabi.c-nexco.co.jp/img/cms/1498204258084.pdf
ระยะเวลาใช้งาน / ราคา
ออปชั่นเสริม Nagoya Expressway Pass (NEP) ออปชั่นเสริม Aichi Toll Road Pass (AIP)
2 วัน 5,100 เยน + 1,530 เยน* + 1,500 เยน*
3 วัน 6,100 เยน
4 วัน 7,100 เยน
5 วัน 8,100 เยน
6 วัน 9,200 เยน
7 วัน 10,200 เยน

8 วัน 11,200 เยน + 2,040 เยน* + 2,000 เยน*
9 วัน 12,200 เยน
10 วัน 13,200 เยน
11 วัน 14,300 เยน
12 วัน 15,300 เยน
13 วัน 15,800 เยน
14 วัน 13,300 เยน

*ไม่สามารถใช้ NEP หรือ AIP แยกได้
*ไม่รวมค่าธรรมเนียมในการเช่ารถและการเช่าบัตร ETC
*ไม่สามารถขยายระยะเวลาการใช้งานในระหว่างที่ใช้งานอยู่ได้

สิทธิพิเศษ
วีธีการซื้อพาส
แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์เพื่อซื้อพาส
สถานที่จำหน่าย
จำหน่ายผ่านบริษัทเช่ารถยนต์ที่กำหนด
https://hayatabi.c-nexco.co.jp/page/?id=91
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://hayatabi.c-nexco.co.jp/cep/en/

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ

หุบเขาเมเปิ้ลยะฮิโกะ (Yahiko Park Maple Valley), นีงะตะ (Niigata)

SEP20_pass_12
SEP20_pass_13

ทัศนียภาพของใบไม้แดงที่สวยงามจนได้รับขนานนามว่า หุบเขาเมเปิ้ลยะฮิโกะ (Yahiko Park Maple Valley) แห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในสวนยะฮิโกะ (Yahiko Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่เป็นที่พักผ่อนประจำของชาวเมือง ในทุก ๆ ปีจะมีนักท่องเที่ยวมากมายต่างเดินทางมาชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงปลายเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน และนอกจากใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามแล้ว ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นจุดชมซากุระติดอันดับที่สวยงามไม่แพ้กันอีกด้วย!
อีกจุดที่น่าสนใจภายในสวนยะฮิโกะก็คือสะพานคันทสึกิ (Kan-tsuki) ซึ่งเป็นสะพานสีแดงที่ทอดยาวข้างสระน้ำ กิ่งของต้นเมเปิ้ลโน้มเข้ามาคลุมราวสะพานจึงเป็นจุดที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันมากที่สุด

 

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Yahiko Park
Yahiko, Nishikanbara, Niigata
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Niigata โดยสารรถไฟสาย JR Echigo ลงที่สถานี Yoshida ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นเปลี่ยนรถไฟสาย JR Yahiko ลงที่สถานี Yahiko ใช้เวลา 8 นาที จากนั้นเดิน 2 นาที
เวลาทำการ

เปิด 24 ชั่วโมง

ช่วงเวลาเปิดไฟไลท์อัพสำหรับฤดูใบไม้ผลิ
ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
เวลา: 18.30 น. – 22.00 น.
ช่วงเวลาเปิดไฟไลท์อัพสำหรับฤดูใบไม้ร่วง
เวลา: 17.00 น. – 21.30 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย เข้าชมฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://niigata-kankou.or.jp/spot/7482
http://www.vill.yahiko.niigata.jp/pdf/051/parkmap.pdf
https://www.e-yahiko.com/fes/yukake
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://enjoyniigata.com/en/spot/7482
https://www.e-yahiko.com/PDF/english-yahiko-roman.pdf
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

นิกโก (Nikko), โทชิงิ (Tochigi)

SEP20_pass_03
SEP20_pass_01

นิกโก (Nikko) เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นชื่อดัง ตั้งอยู่ในจังหวัด โทชิงิ (Tochigi) ที่สามารถเดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองโตเกียวได้ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงโดยรถไฟ พื้นที่บริเวณนิกโกจะเต็มไปด้วยศาลเจ้า และวัดรอบ ๆ แบ่งออกเป็นสองโซนใหญ่ ๆ คือโซนธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ได้แก่ ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) น้ำตกเคะกง (Kegon Falls) และโซนมรดกโลกที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์อันสวยงาม อย่างศาลเจ้านิกโกโทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) มรดกโลกที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยเอโดะ หรือวัดชูเซ็นจิ (Chuzenj Temple)

เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมายังนิกโก ก็จะพบกับแลนด์มาร์คอย่างสะพานชินเคียว (Shinkyo Sacred Bridge) ที่เป็นสะพานไม้โบราณ และชาวญี่ปุ่นยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 สะพานไม้ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น เมื่อข้ามมาฝั่งตรงข้ามก็จะเข้าสู่โซนที่เป็นมรดกโลก (World Heritage Site) ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของศาลเจ้าชื่อดังในเมืองนี้อย่าง ศาลเจ้านิกโกโทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับโชกุนโทคุกะวะ อิเอะยะสึ (Tokugawa Ieyasu) ด้านในมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญนั่นก็คือ ซุ้มประตูโยเมมง (Yomeimon Gate) ซึ่งเป็นงานแกะสลักไม้มีลวดลายเป็นสัตว์ต่าง ๆ สวยงาม และประณีตโดยช่างไม้ฝีมือดีที่เชี่ยวชาญด้านในการแกะสลัก ซึ่งรูปสลักที่มีชื่อเสียงอันหนึ่ง ก็คือรูปแกะสลักลิง 3 ตัว “Three Wise Monkeys” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคำสอนที่ว่า “See no evil, speak no evil, hear no evil” หมายถึงการไม่รับรู้โดยการมองในสิ่งไม่ดี การไม่ฟังในสิ่งที่ไม่ดี และการไม่กล่าววาจาในสิ่งที่ไม่ดี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานนิกโกที่ไม่พลาดไม่ได้คือ ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญสำหรับการชื่นชมธรรมชาติอันงดงามของนิกโก (Nikko) มีพื้นที่ถึง 11.62 ตารางกิโลเมตร เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟนันไต (Mt. Nantai) เมื่อ 20,000 ปีที่ผ่านมา บริเวณรอบทะเลสาบมีเส้นทางท่องเที่ยวให้ได้เต็มอิ่มกับใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงามอยู่หลายเส้นทางด้วยกัน โดยเฉพาะช่วงกลาง-ปลายเดือนตุลาคมจะสวยงามเป็นพิเศษ สามารถขึ้นรถบัสไปยังจุดชมวิวฮังเก็ทสึยะมะ (Hangetsuyama Observation Park) ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวพาโนรามาของทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น บริการล่องเรือไปตามจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ ที่สะท้อนบนผืนน้ำ

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)
  • JR TOKYO Wide Pass

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Nikko
Matsubaracho, Nikko, Tochigi 321-1406
แผนที่
การเดินทาง
เดินทางโดยรถไฟ JR
จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen ลงสถานี Utsunomiya ใช้เวลา 53 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Nikko ลงสถานี Nikko ใช้เวลา 43 นาที

เดินทางโดยรถไฟ Tobu-Nikko
จากสถานี Asakusa โดยสารรถไฟ TOBU LTD. EXP ลงสถานี Tobu-Nikko ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที

เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
ระยะเวลาทำการ ตลอดทั้งปี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.nikko-kankou.org/
https://www.tobu.co.jp/odekake/area/nikko-kinugawa/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.visitnikko.jp/en/
https://www.tobu.co.jp/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.tobu.co.jp/th/sightseeing/information/nikkoguide/
https://www.jnto.or.th/newsletter/nikko-in-autumn/

เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine route), โทยามะ (Toyama)

SEP20_pass_04
SEP20_pass_07

เส้นทางเที่ยวชมธรรมชาติบนเขาทาเตยามะ (Tateyama) ระยะทางกว่า 25 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้น และสิ้นสุดเส้นทางอยู่ในจังหวัดโทยามะ (Toyama) และจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นเส้นทางที่จะเปิดให้เข้าชมแค่ระหว่างกลางเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน มีการเดินทางด้วยยานพาหะนะที่หลากหลายสูงสุดถึง 8 ช่วงหากเดินเลือกทางแบบเต็มเส้นทาง ประกอบไปด้วยรถไฟ รถบัส เคเบิ้ลคาร์ กระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น ไฮไลท์ของเส้นทางนี้ จะประกอบไปด้วย 3 จุดหลักที่นักท่องเที่ยวนิยมกันอย่างมาก ประกอบไปด้วย

กำแพงหิมะ (Snow Wall) บริเวณมุโรโด (Murodo) กำแพงหิมะนี้เกิดจากการทับถมกันของหิมะในช่วงฤดูหนาว มีความสูงเฉลี่ยที่ 7 เมตร และอาจจะสูงได้ถึง 20 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 10 ชั้น หากในปีนั้นมีหิมะตกหนัก สามารถเดินชม และถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลินตลอดเส้นทางกว่า 500 เมตร ช่วงเวลาที่หิมะสะสมกันสูงที่สุดจะอยู่ในช่วงระหว่างปลายเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน และยังสามารถสัมผัสหิมะนี้ได้จนถึงเดือนสิงหาคมเลยทีเดียว

ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีจาก ทาเตยามะโรปเวย์ (Tateyama Ropeway) ในระหว่าง 7 นาทีที่เดินทางอยู่ในโรปเวย์นี้ เบื้องล่างนั้นจะเต็มไปด้วยใบไม้สีเหลืองส้ม หรือก็คือใบไม้เปลี่ยนสีที่กระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณภูเขา เหมือนกำลังลอยอยู่บนฟ้าชมความสวยงามจากธรรมชาติ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ กลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนกันยายน

เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) บริเวณเขื่อนนี้นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าข้ามไปอีกฝั่งของเขื่อนโดยจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) สร้างแล้วเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1963 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 7 ปี ด้วยแรงงานมากถึง 10 ล้านคน เขื่อนมีความสูงมากถึง 186 เมตร บ่อยครั้งที่จะสามารถเห็นรุ้งกินน้ำจากน้ำที่ออกมาจากเขื่อน ซึ่งเป็นที่นิยมมากของนักท่องเที่ยวทีได้เห็น และคอยเก็บภาพที่สวยงามนี้ หากมาในช่วงเดือนตุลาคม เหล่าใบไม้รอบเขื่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานมากขึ้นอย่างแน่นอน

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass ครอบคลุมตลอดเส้นทาง
  • JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area) *ถึงแค่สถานีเริ่มต้น สถานี Shinano-Omachi หรือสถานี Nagano
  • Central Nippon Expressway Pass *ถึงแค่สถานีเริ่มต้น สถานี Tateyama

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Tateyama Kurobe Alpine Route
Tateyama, Nakaniikawa District, Toyama 930-1406
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Toyama เดินต่อไปที่สถานี Detetsu Toyama ใช้เวลา 3 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Toyama Chiho Main Line ลงสถานี Tateyama ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 4 นาที
เวลาทำการ เวลาให้บริการขึ้นอยู่กับระบบขนส่งในแต่ละเส้นทาง
ระยะเวลาทำการ
15 เมษายน – 30 พฤศจิกายน
(เส้นทางทั้งหมดระหว่าง สถานี Dentetsu Toyama – สถานี Nagano)
10 เมษายน – 14 เมษายน
(เปิดเส้นทางบางส่วนระหว่างสถานี Dentetsu Toyama – สถานี Midagahara)

*เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

วันหยุด 1 ธันวาคม – ต้นเดือนเมษายน
เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
ค่าใช้จ่าย

12,460 เยน (แบบเที่ยวเดียว จากสถานี Dentetsu Toyama – สถานี Nagano)

ราคาขึ้นอยู่กับรูปแบบการเดินทางที่กำหนด มีทั้งแบบเที่ยวเดียว และไปกลับ สามารถตรวจสอบราคาได้ทาง
https://www.alpen-route.com/th/transport/fare.html

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.alpen-route.com/index.php
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.alpen-route.com/en/
https://foreign.info-toyama.com/en/
https://www.tateyama-kurobe.com/en/area/alpine.php
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.alpen-route.com/th/
https://www.jnto.or.th/newsletter/tateyama-kurobe-alpine-route/
https://www.jnto.or.th/newsletter/alpen-route/

คารุอิซาวะ (Karuizawa), นะงะโนะ (Nagano)

SEP20_pass_11
SEP20_pass_10

เมืองคารุอิซาวะ (Karuizawa) แห่งจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเหมาะแก่การมาพักตากอากาศ โดยเฉพาะฤดูร้อนคนญี่ปุ่นนิยมมาพักผ่อนกันที่รีสอร์ท เพราะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี รวมถึงมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่นเดินช้อปปิ้งที่เอ้าท์เลทคารุอิซาวะ (Karuizawa Outlet) หรือย่านคิวคะรุอิซาวะกินซ่า (Old Street Ginza) ตลอดจนฤดูหนาวก็ยังเป็นที่นิยมมาเล่นสกีกันอีกด้วย สามารถเดินทางมาที่สถานีคะรุอิซาวะได้ง่ายเพราะเป็นจุดที่เชื่อมต่อไปยังเมืองอื่น ๆ โดยช่วงที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองคะรุอิซาวะ คือ ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมติดอันดับของคนญี่ปุุ่นอย่าง บ่อน้ำคุโมบะ (Kumoba Pond) เพราะสามารถดื่มด่ำไปกับภาพบรรยากาศภายในสวนโดยรอบที่ร่มรื่นด้วยใบไม้สีแดงส้ม สลับเหลืองทองสะท้อนบนผิวน้ำ ตัดกับท้องฟ้าสีครามสดใสราวกับภาพวาด ส่วนน้ำตกชิระอิโตะ (Shiraito Falls) ในบริเวณคิตะคารุอิซาวะ (Kita-Karuizawa) เป็นผาหินทรงโค้งสูง 3 เมตร กว้าง 70 เมตร น้ำใสสะอาดจากใต้ดินจะพวยพุ่งออกมาหลายร้อยสาย เกิดเป็นภาพสายน้ำตกที่แสนจะอ่อนละมุนดูงดงามราวกับเส้นไหมเลยทีเดียว

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area)
  • JR TOKYO Wide Pass

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Karuizawa
Karuizawa, Nagano 389-0102
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสาร Hokuriku Shinkansen ลงสถานี Karuizawa ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 6 นาที
เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
ระยะเวลาทำการ ตลอดทั้งปี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.town.karuizawa.lg.jp/www/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://visitkaruizawa.com/en/
https://www.go-nagano.net/en/theme/id=18082
https://www.gotokyo.org/en/destinations/beyond-tokyo/karuizawa.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.go-nagano.net/th/theme/id=18082
https://www.jnto.or.th/newsletter/resort-in-summer/

ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi), ยะมะนะชิ (Yamanashi)

SEP20_pass_14
SEP20_pass_05

หากพูดถึงการไปชมภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) หนึ่งในที่ที่คนจะนึกถึงกันเป็นอันดับแรก ๆ คือทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) เพราะเป็นสถานที่ที่เดินทางมาจากโตเกียวได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน แถมยังสามารถเที่ยวแบบทริป 1 วันได้ ที่สำคัญคือความสวยงามของวิวทิวทัศน์และบรรยากาศของทะเลสาบที่สวยงามและปลอดโปร่ง มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งกระจายกันอยู่โดยรอบของทะเลสาบ ทำให้การมาเที่ยวที่ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำในทุกฤดูกาล ตัวอย่างเช่น ฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระบริเวณริมทะเลสาบจะผลิบานเป็นสีชมพูขาวสว่างสดใสโดยมีฉากหลังเป็นทะเลสาบและภูเขาไฟฟูจิ หรือจะขึ้นกระเช้าไปชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากสวนเท็นโจซัง (Kawaguchiko Tenjozan Park) ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน หากมาในช่วงฤดูหนาวก็จะสามารถสนุกไปกับหิมะที่ตกได้อย่างเพลิดเพลิน แต่ถ้าหากพูดถึงการชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะความสวยงามของใบไม้แดงจากต้นเมเบิ้ลที่ตัดกับฉากหลังที่เป็นภูเขาไฟฟูจินั้นสวยงามเกินกว่าที่ใครจะอดใจไหว ต้องหยิงกล้องออกมาถ่ายภาพกันรัว ๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้บริเวณอุโมงค์ต้นเมเปิ้ล (Maple Corridor) สามารถมองเห็นอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นทางยาว เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่จะมีการฉายไฟประดับต้นไม้ตลอดแนวอีกด้วย

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • JR EAST PASS (Nagano, Niigata Area) *จากสถานี Otsuki ถึงสถานี Kawaguchiko ต้องชำระค่าเดินทางเพิ่มเติม
  • JR TOKYO Wide Pass
  • Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini
  • Central Nippon Expressway Pass

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Lake Kawaguchi
Fujikawaguchiko, Minamitsuru, Yamanashi, Japan
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Shinjuku โดยสารรถไฟ Fuji-Excursion ลงสถานี Kawaguchiko ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 54 นาที
เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
ระยะเวลาทำการ ตลอดทั้งปี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://kawaguchiko.net/
https://www.mtfujiropeway.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://en.kawaguchiko.net/
https://www.mtfujiropeway.jp/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/attractions/mt-fuji/lake-kawaguchi/
https://www.mtfujiropeway.jp/th/
https://www.jnto.or.th/newsletter/mt-fuji/
https://www.jnto.or.th/newsletter/fuji/

เกะโระ อนเซ็น (Gero Onsen), กิฟุ (Gifu)

SEP20_pass_08
SEP20_pass_02

เกะโระอนเซ็น (Gero Onsen) เป็นเมืองอนเซ็นเก่าแก่ตั้งแต่ยุคเอโดะ ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพของน้ำพุร้อนมากว่า 1,000 ปี จนติดอับดับ 1 ใน 3 ของเมืองอนเซ็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น น้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นตามธรรมชาติของเมืองเกะโร อนเซ็นแห่งนี้ มีอุณภูมิสูงถึง 84 องศา อุดมไปด้วยแร่ธาตุอัลคาไลน์ (ALKALINE) ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มลื่น จึงทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่า “น้ำแร่แห่งความงาม”

บริเวณใจกลางเมือง จะมีบ่ออนเซ็นกลางแจ้งทีเรียกว่า โระเท็นบุโระ (Rotenburo) 3 แห่งให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสแช่อนเซ็นกลางแจ้ง ซึ่งจะเป็นเพียงตัวบ่อโล่ง ๆ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการ สามารถนอนแช่ไปพลาง ชมวิวสะพานสวย ๆ ไปพลาง และในตัวเมืองยังมีบ่อแช่เท้าที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแช่ฟรี ๆ ในการใช้บริการบ่อแช่เท้า ควรพกผ้าขนหนูผืนเล็กไปด้วย ไว้เพื่อเช็ดเท้าหลังแช่เสร็จ หรือใครที่ไม่สะดวกแช่กลางแจ้ง ก็มีเรียวกังวิวสวย ๆ กลางหุบเขาให้เลือกเข้าพักอยู่หลายที่

จุดท่องเที่ยวที่น่าแวะอีกแห่งคือ หมู่บ้านโบราณเกโระ (Gassho Folk Village) ที่เต็มไปด้วยบ้านที่มีหลังคาหญ้า ทรงสามเหลี่ยมสไตล์กัชโชคล้ายกับหมู่บ้านชิราคาวะโก (Shirakawago) และมีบ่อแช่เท้าให้บริการด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้เพลิดเพลินกันมากมายเช่น ไหว้พระที่วัดอนเซ็นจิ (Onsenji Temple) บนเนินเขา หรือชมพิพิธภัณฑ์เกะโระอนเซ็น (Gero Onsen Museum) ที่จัดแสดงประวัติอนเซ็นของเมืองเกะโระ

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass
  • Central Nippon Expressway Pass

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Gero Onsen
758-15 Yunoshima, Gero, Gifu
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟชินคันเซน Nozomi ลงสถานี Nagoya ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Wide View Hida สาย Takayama ลงสถานี Gero Onsen ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 27 นาที
เวลาทำการ Gassho Folk Village
8:30-17:00 น. /วันที่ 31 ธ.ค.-2 ม.ค. 9:00-16:00 น.
วันหยุด Gassho Folk Village
ไม่มี
ค่าใช้จ่าย Gassho Folk Village
ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็ก 400 เยน
บ่ออนเซ็นกลางแจ้ง
ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.gero-spa.com/
http://www.gero-gassho.jp/
http://www.city.gero.lg.jp/kankou/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://centrip-japan.com/spot/gerospa.html
https://www.japan.travel/en/spot/2033/
http://www.city.gero.lg.jp/kankou/data/language/e/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/chubu-onsen/
https://www.jnto.or.th/newsletter/top-5-onsen-2018/

ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho-no-Matsubara), ชิซุโอกะ (Shizuoka)

SEP20_pass_06
SEP20_pass_09

หากใครกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการชมภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ที่แปลกใหม่ บริเวณป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho-no-Matsubara) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำ ที่นี่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน และยังมีหาดทรายสีดำตัดกับท้องฟ้าสีคราม แถมยังมีคลื่นทะเลที่ซัดกระทบหาดตลอดเวลา และที่สำคัญคือแนวต้นสนที่เรียงรายยาวไปตลอดแนวหาด เป็นภาพจำที่งดงามของที่นี่ ป่าสนของที่นี่เป็น 1 ใน 3 ป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยต้นสนกว่า 3 หมื่นต้น ไกลถึง 7 กิโลเมตรตลอดแนวชายฝั่ง สามารถเดินหรือเช่าจักรยานปั่นไปตามแนวทางเดินใต้ต้นสนเหล่านี้ได้ ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบะระ (Miho-no-Matsubara) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2013 อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีตำนานชุดคลุมฮะโกะโระโมะ (Hagoromo) ที่ว่าด้วยเรื่องของชาวประมงท่านหนึ่ง ที่กำลังเดินสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่บริเวณป่าสนแห่งนี้ แล้วบังเอิญได้พบชุดคลุมฮะโกะโระโมะ (Hagoromo) สีทองแขวนอยู่กับต้นสนต้นหนึ่ง ชาวประมงคนนั้นไม่รู้ว่าเป็นของใคร จึงหยิบชุดนั้นหวังว่าจะเอากลับบ้านแล้วนำไปขายเอาเงินมาให้ครอบครัว เพราะมองว่าชุดนี้น่าจะมีมูลค่าพอสมควร แต่สักพักหนึ่งก็ได้พบกับนางฟ้าเจ้าของชุด ซึ่งนางต้องการชุดคลุมนั้นคืน เพราะจะกลับสวรรค์ไม่ได้หากไม่มีชุดคลุมชุดนี้ แต่ชาวประมงนั้นก็ไม่คิดจะคืน จนนางเริ่มร้องไห้ สุดท้ายชาวประมงจึงเสนอขอให้นางเต้นรำให้ชาวประมงดู สุดท้ายชาวประมงได้คืนชุดคลุมนั้นกับนาง และนางก็ได้เต้นรำให้ชาวประมงดูจนสุดท้ายนางก็หายไปกับหมอก หลงเหลือไว้แต่ความทรงจำของชาวประมงท่านนั้น ซึ่งเรื่องราวนี้เป็นที่เล่าขานกันมาจนเป็นตำนานชุดคลุมฮะโกะโระโมะ (Hagoromo)

พาสที่เกี่ยวข้อง

  • Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini
  • Central Nippon Expressway Pass

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Miho-no-Matsubara
1338-45 Miho, Shimizu Ward, Shizuoka, 424-0901
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Shizuoka โดยสารรถไฟสาย Tokaido ลงสถานี Shimizu ใช้เวลา 12 นาที โดยสารรถบัส Shizutetsu Bus ลงป้าย Hagoromo-no-Matsu ใช้เวลา 25 นาที เดินต่ออีก 15 นาที
เวลาทำการ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ระยะเวลาทำการ ตลอดทั้งปี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://miho-no-matsubara.jp/
https://www.visit-shizuoka.com/gokuraku/content.php?t=1
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://miho-no-matsubara.jp/lang/en/
https://www.visit-shizuoka.com/en/spots/detail.php?kanko=336
https://www.japan.travel/en/spot/1303/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.visit-shizuoka.com/th/spots/detail.php?kanko=336
https://www.japan.travel/th/spot/1303/

[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]

ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2020

จดหมายข่าวอื่นๆ