แนะนำจังหวัดที่น่าสนใจในภูมิภาคชูโงะคุ (Chugoku)

จังหวัดทตโตริ (Tottori) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่ยังคงความดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม ทั้งงานฝีมือ และประเพณีที่ยังคงมีการสืบทอดเอาไว้ได้อย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง มีภูเขาไดเซน (Daisen) และภูเขามิโตะคุ (Mitoku) ที่เป็นสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ใช้ฝึกฝนนักบวชมาหลายศตวรรษ และยังคงเป็นเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นเต้นในปัจจุบัน จังหวัดทตโตริ (Tottori) ยังมีชายฝั่งโขดหินสวยงาม และมีเนินทรายที่สูงและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตั้งกระจายอยู่เป็นจุด ๆ ทั่วจังหวัด ซึ่งบางแห่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องการบูรณะสถาน

ไม่ควรพลาด

• เดินป่า สัมผัสกิจกรรมกลางแจ้ง และมนต์เสน่ห์ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไดเซน (Daisen)
• ชมชายฝั่งโขดหิน น้ำทะเลใส และอ่าวที่ซ่อนตัวอยู่บนชายฝั่งทะเลอุระโดเมะ (Uradome)
• ผ่อนคลายไปกับเซ็นรีสอร์ทอันเก่าแก่อย่าง มิซะซะอนเซ็น (Misasa Onsen) และไคเกะอนเซ็น (Kaike Onsen)
• เส้นทางแสวงบุญที่น่าตื่นตาตื่นใจ เดินตามเส้นทางวัดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นผ่านภูเขามิโตะคุ (Mitoku)

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งกับเทศกาลต่างๆ และการแข่งขันชักเย่อ ที่เป็นสัญญาณบอกว่าฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้วในทตโทริ ดอกซากุระของที่นี่จะบานช้ากว่าบริเวณพื้นที่ที่หันหน้าออกมหาสมุทรแปซิฟิค สามารถชมความงามของดอกซากุระได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงปลายเดือนเมษายน
• ฤดูร้อน ชายฝั่งทะเลอุระโดเมะ (Uradome) และอุทยานธรณีซันอินไคกัง (Sanin Kaigan Geopark) อันกว้างขวาง ต่างดึงดูดนักพายเรือคายัก และนักท่องเที่ยวให้มาคลายร้อน อากาศบริสุทธิ์บนภูเขา และดอกอัลไพน์ ก็กำลังรอให้นักปีนเขามาสัมผัสความงดงามอยู่บนยอดเขาไดเซน (Daisen)
• ฤดูใบไม้ร่วง ทั่วทั้งภูเขาไดเซน (Daisen) และภูเขามิโตะคุ (Mitoku) จะถูกย้อมให้เป็นสีแดงอมส้มด้วยใบเมเปิ้ล เกิดเป็นภาพที่งดงามตระการตา สามารถชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม รวมถึงตื่นตากับพิธีเดินลุยไฟในเทศกาลที่วัดซันบุทสึจิ (Sanbutsu-ji Temple)
• ฤดูหนาว ภูเขาไดเซน (Daisen) จะกลายเป็นสนามเด็กเล่นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และเนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes) จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสถานที่สุดโรแมนติกซึ่งรายล้อมไปด้วยแสงไฟประดับส่องประกายสดใส

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/chugoku/tottori/

จังหวัดชิมะเนะ (Shimane) ทอดยาวไปตามชายฝั่งทางตอนเหนือของภูมิภาคชูโงะคุ (Chugoku) เป็นจังหวัดที่มีประชากรเบาบาง และยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตัวจังหวัดถูกล้อมรอบด้วยภูเขา เต็มไปด้วยสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญเช่น ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะ (Izumo Taisha Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เหมืองเงินอิวามิ (Iwami Ginzan Silver Mine) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ระบำพื้นบ้านอิวามิคางุระ (Iwami Kagura) รวมถึงยังมีเมืองปราสาทเก่าทสึวะโนะ  (Tsuwano) และมัตสึดะ (Matsuda) ให้ได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

นอกชายฝั่งเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะโอกิ (Oki Islands) ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง น้ำทะเลใสเหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการัง ตกปลา และพายเรือคายัค นอกจากนี้ยังมีมีภูเขาไดมันจิ (Daimanji) และภูเขาทะคุฮิ (Takuhi) ตั้งตระหง่าน คอยท้าทายนักปีนเขาอีกด้วย

ไม่ควรพลาด

• สักการะศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะ (Izumo Taisha Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
• เดินสำรวจเหมืองเงินอิวามิ (Iwami Ginzan Silver Mine) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยผลิตหนึ่งในสามเครื่องเงินของโลก
• ว่ายน้ำและดำน้ำดูปะการังในทะเลใสที่หมู่เกาะโอกิ (Oki Islands)
• ชมการแสดงระบำพื้นบ้านอิวามิคางุระ (Iwami Kagura) พิธีกรรมการเต้นรำท้องถิ่นตามตำนานโบราณ

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ เพลิดเพลินไปกับงานเทศกาลยิงธนูบนหลังม้า และขบวนพาเหรดที่เต็มไปด้วยชาวบ้านแต่งกายในชุดซามูไร น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งตารอชมความสวยงามของดอกซากุระบานสะพรั่งได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม
• ฤดูร้อน ใช้เวลาในฤดูร้อนแบบฉบับชิมะเนะ (Shimane) ด้วยการว่ายน้ำ และดำน้ำดูปะการังในน่านอันแสนเย็นฉ่ำของหมู่เกาะโอกิ (Oki Islands) หรือตกปลายามค่ำคืน และชมการแสดงดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่บนชายฝั่ง
• ฤดูใบไม้ร่วง เฉลิมฉลองฤดูใบไม้ร่วงกับเทศกาลในอิซุโมะ (Izumo) ขบวนแห่กลอง และพิธีกรรมในมัตสึเอะ (Matsue) สภาพอากาศที่เย็นสบาย และใบไม้สีส้มและแดงสะพรั่ง ทำให้การเยี่ยมชมวัด และศาลเจ้า หรือการเดินป่าบนภูเขาเป็นประสบการณ์พิเศษที่ยากจะลืมเลือน
• ฤดูหนาว คว้าอุปกรณ์สกีของคุณ ออกไปสัมผัสหิมะอย่างน่าทึ่งบนเนินเขา ใช้เวลาริมทะเลกับปูหิมะที่จับมาสดๆ และคลายความหนาวด้วยการแช่บ่อน้ำพุร้อนอนเซ็น

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/chugoku/shimane/

จังหวัดโอคะยะมะ (Okayama) ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งผลิตผลไม้แสนอร่อย และยังเป็นที่รู้จักกันในนามของดินแดนแห่งแสงตะวัน รวมถึงเป็นต้นกำเนิดของตำนานโมโมทาโร่ “เด็กชายลูกท้อ” ที่ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด

จังหวัดโอคะยะมะ (Okayama) เป็นจังหวัดใหญ่ที่รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ปราสาทโอคะยะมะ (Okayama Castle) ปราสาทสีดำที่งดงาม และสวนโคราคุเอน (Korakuen Garden) 1 ใน 3 อันดับสวนที่มีภูมิทัศน์สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้บริเวณใกล้กันมีเมืองคุระชิกิ (Kurashiki) ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าที่ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าขาย โดดเด่นด้วยลำคลองที่ไหลผ่านใจกลางเมือง ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุค คงความเป็นญี่ปุ่นโบราณเอาไว้อย่างดี อีกทั้งยังมีย่านโคจิมะ (Kojima) เป็นแหล่งแห่งการผลิตยีนส์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดของโลกอีกด้วย และยังสามารถแวะชมผลงานศิลปะร่วมสมัยได้ที่เกาะศิลปะนะโอชิมะ  (Naoshima) ตั้งอยู่ใกล้กับจังหวัดคางาวะ

ไม่ควรพลาด

• เดินเล่น ชมเมืองที่เขตอนุรักษ์คุระชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter)
• ชมความงดงามของธรรมชาติที่สวนแบบญี่ปุ่นที่ โคราคุเอน (Korakuen Garden)
• ชมความอลังการของปราสาทโอคะยะมะ (Okayama Castle) สัมผัสบรรยากาศโดยรอบ
• ทานขนมหวานชื่อดัง คิบิดังโงะ (Kibi dango) ทำจากแป้งโมจิ

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระริมแม่น้ำอาซาฮิ (Asahi River) ในเมืองโอคะยะมะ (Okayama) ออกดอกบานสะพรั่งตลอดสองข้างทาง ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาชมซากุระกันอย่างไม่ขาดสาย รวมถึงสวนทะเคเบโนโมริ (Takebenomori Park) ก็เต็มไปด้วยดอกซากุระตระการตา เหมาะแก่การเยี่ยมชม
• ฤดูร้อน ท้องฟ้าช่วงฤดูร้อนเจิดจรัสด้วยประกายแสงของโชว์ดอกไม้ไฟสุดครึกครื้น เหมือนกับผู้คนท้องถิ่นที่ต่างมุ่งหน้าไปยังเทศกาลโอคะยะมะ โมโมทาโร่ (Okayama Momotaro Festival) เพื่อไปร่วมสนุกกับงานเต้นรำ และอาหารข้างทาง ฤดูกาลนี้สามารถเก็บผลไม้ได้ทั้งองุ่นและลูกพีช
• ฤดูใบไม้ร่วง ทั่วเมืองโอคะยะมะ (Okayama) จะอาบย้อมไปด้วยสีแดงส้มของใบเมเปิ้ล เหมาะแก่การเดินเล่น รับลมเย็นๆ ชมงานไฟประดับในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีสุดแสนโรแมนติกที่สวนโคราคุเอน (Korakuen Garden)
• ฤดูหนาว คลายหนาวด้วยการแช่น้ำพุร้อนที่ยูบะระอนเซ็น (Yubara Onsen) ที่พิเศษไม่เหมือนที่ไหนด้วยการใส่ส้มยูซุลงในบ่อ ช่วยเพิ่มการผ่อนคลาย หรือเที่ยวชมงานเทศกาลเปลืองผ้าประจำท้องถิ่น (Naked Man Festival) ได้ที่วัดไซไดจิ (Saidai-ji Temple)

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/chugoku/okayama/

เมืองฮิโรชิมะ  (Hiroshima City) เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินป่า และเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนตามธรรมชาติในระหว่างทาง สัมผัสเสน่ห์ของเมืองโอโนมิจิ (Onomichi) และเมืองโทโมโนะอุระ (Tomonoura) หรือเพลิดเพลินกับชายหาดสีทอง และทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) รวมถึงสักการะศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine ) ที่โดดเด่นด้วยเสาโอโทริอิ (Torii) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเล อันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะมิยะจิมะ (Miyajima Island) นอกจากนี้จังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima) ยังเต็มไปด้วยมรดกโลกทางวัฒนธรรมอื่น ๆ เช่น โดมปรมาณู ซึ่งถูกรายล้อมด้วยอุทยานที่ระลึก เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งสันติภาพ  และอาหารอร่อยขึ้นชื่อของที่นี่คือ โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) หรือที่รู้จักกันว่าเป็นแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่น และปลาไหลอานะโงะ (Anago) ปลาไหลจากทะเลน้ำเค็ม และอาหารเลิศรสอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงกิจกรรมเดินป่า ขี่จักรยาน กีฬาทางทะเล และการเล่นสกีล้วนเป็นกิจกรรมกลางแจ้งยอดนิยม

ไม่ควรพลาด

• ชมสวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Park) และอาคารโดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)
• ชมประตูโทริอิสีแดงที่ลอยอยู่กลางน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าทางเข้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) บนเกาะมิยะจิมะ (Miyajima Island)
• เที่ยวทะเคะฮาระ (Takehara) หรือ “ลิตเติ้ลเกียวโต” ที่เต็มไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ และสาเกชั้นเยี่ยม
• เที่ยวเมืองคุเระ (Kure) เมืองที่สร้างเรือรบยามาโตะในตำนาน และพิพิธภัณฑ์

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ เปี่ยมไปด้วยความสดใสของดอกซากุระ ดอกทิวลิป และกุหลาบนับร้อยพัน ที่แข่งกันออกดอกผลิบาน อวดโฉมทั่วทั้งเมืองฮิโรชิมะ (Hiroshima City) และยังเป็นช่วงที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับเทศกาลอาหารประจำฤดูใบไม้ผลิได้ รวมถึงเหล่าได้สัมผัสความน่ารักของกระต่ายน้อยบนเกาะโอะคุโนะชิมะ ( Okunoushima) หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะกระต่าย
• ฤดูร้อน เทศกาลต่างๆ ที่คอยสร้างสีสันให้กับฤดูร้อนทั้งเทศกาลมิฮะระ ยัสสะ (Mihara Yassa Festival) หนึ่งในเทศกาลเต้นระบำฤดูร้อนอันดับต้นๆ เทศกาลดอกไม้ไฟกลางน้ำแห่งมิยะจิมะ (Miyajima Water Fireworks) และงานรำลึกประจำปีที่สวนสันติภาพที่จัดขึ้นในวันที่ 6 สิงหาคมของทุกปี โดยจะมีการจัดพิธีรำลึกในตอนเช้า และเสร็จสิ้นพิธีฃด้วยการน้ำโคมไฟกระดาษไปลอยที่แม่น้ำ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต
• ฤดูใบไม้ร่วง หุบเขาซันดังเคียว (Sandankyo Gorge) และหุบเขาไทฉะคุเคียว (Taishakukyo Gorge) มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่แดงก่ำ เหมาะแก่การเยี่ยมชมก่อนจะปิดพื้นสำหรับช่วงฤดูหนาว
• ฤดูหนาว วัด และศาลเจ้าต่างคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาสักการะ และเฉลิมฉลองวันปีใหม่ แม้กระทั้งเรือข้ามฟากอีกหลายพันลำที่เดินทางจากเกาะมิยะจิมะ (Miyajima Island) มาเยี่ยมชมศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine ) ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ตื่นตาตื่นใจกับงาน Hiroshima Dreamination งานไฟประดับประจำฤดูหนาวที่จัดขึ้นบนถนน Peace Boulevard แสงไฟส่องสว่างระยิบระยับไปทั่วเมือง นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่ผู้คนยังมุ่งหน้าไปพักผ่อนหย่อนใจตามลานสกี และอนเซ็น

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.japan.travel/en/destinations/chugoku/hiroshima/

จังหวัดยะมะงุชิ (Yamaguchi) เป็นจังหวัดชนบทที่เงียบสงบ แต่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย มีเมืองฮะงิ (Hagi) เป็นเมืองหลวงของซามูไร ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ปราสาทเก่าแก่ไว้ได้อย่างสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น รวมทั้งโดดเด่นเรื่องของเครื่องปั้นดินเผาพื้นเมือง นอกจากนี้จังหวัดยะมะงุชิ (Yamaguchi) ยังมีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมด้วยชายหาดอันแสนสงบ ศาลเจ้าอันลึกลับศักดิ์สิทธิ์ และถ้ำอะคิโยะชิโด (Akiyoshido Cave) ที่เป็นถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และยังมีเมืองชิโมะโนะเซคิ (Shimonoseki) ที่พร้อมนำเสนออาหารทะเลเลิศรส ทั้งตลาด และร้านอาหาร โดยเฉพาะปลาปักเป้าที่เป็นอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง

ไม่ควรพลาด

• สำรวจเมืองปราสาทเก่าแก่ของเมืองฮะงิ (Hagi) และแหล่งมรดกโลกทั้งห้า
• เลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาพื้นเมืองฮากิยะกิ (Hagi Yaki)
• ลิ้มรสอาหารทะเลที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นที่ตลาดปลาคะระโตะ (Karato Ichiba) ในเมืองชิโมโนะเสคิ (Shimonoseki)
• เยี่ยมชมเจดีย์อันสวยงามแห่งวัดรูริโคจิ (Ruriko-ji Temple) ก่อนไปผ่อนคลายกับการแช่น้ำร้อนที่ยูดะอนเซ็น (Yuda Onsen)

ไฮไลท์ตามฤดูกาล

• ฤดูใบไม้ผลิ จังหวัดยะมะงุชิ (Yamaguchi) ตั้งอยู่ที่ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮอนชู (Honshu) ทำให้ดอกซากุระเริ่มบานเร็วที่สุดบนพื้นที่เกาะหลัก บริเวณรอบซากปราสาทฮะงิ (Hagi)  และรอบสะพานคินไตเคียว (Kintai Bridge) ในเมืองอิวะคุนิ (Iwakuni) นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยม
• ฤดูร้อน ตำแหน่งที่ตั้งของชายฝั่งทำให้จังหวัดยะมะงุชิ (Yamaguchi) เป็นเมืองชายทะเลที่สำคัญ รายล้อมด้วยหาดคิคุกะฮามะ (Kikugahama Beach) และถ้ำหินปูนอะคิโยะชิโด (Akiyoshido Cave) อันแสนเย็นสบาย  พร้อมทั้งดื่มด่ำความอร่อยของไอศกรีมส้มท้องถิ่นของเมืองฮะงิ (Hagi) ที่ถือเป็นไฮไลท์ของฤดูร้อน
• ฤดูใบไม้ร่วง เต็มอิ่มกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดโทโคจิ (Toko-ji Temple) เมืองฮะงิ (Hagi) เหมาะแก่การเดินเล่นท่ามกลางโคมไฟหิน และใบเมเปิ้ลสีแดง และหมู่พรรณไม้นานาชนิดถูกย้อมด้วยสีสันทั้ง เหลือง แดง ส้ม ตัดกันสวยงามที่สวนสาธารณะคิกโกะ (Kikko Park) ในเมืองอิวะคุนิ (Iwakuni)
• ฤดูหนาว ทำร่างกาย และจิตใจให้อบอุ่นด้วยการแช่เท้าที่บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง (Ashi-Yu) ที่ยุดะอนเซ็น (Yuda Onsen) และอุ่นท้องด้วยคะวะระ โซบะ (Kawara Soba) สุดยอดเมนูท้องถิ่นของจังหวัด ที่เสิร์ฟโซบะร้อนๆ บนจานกระเบื้องที่มีลักษณะคล้ายหลังคา

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) :https://www.japan.travel/en/destinations/chugoku/yamaguchi/