เผยเสน่ห์แห่งวากายะมะ (Wakayama)

เมืองวากายะมะ (Wakayama City) สามารถเดินทางไปได้แสนสะดวกจากสนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) และเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจรวมกันอยู่หลายแห่ง จึงสามารถตระเวนเที่ยวได้ทั่วภายในเวลาสั้นๆ ก่อนอื่นอยากแนะนำให้ไปเที่ยวที่ปราสาทวากายะมะ (Wakayama Castle) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้เพื่อขึ้นไปชมภูมิทัศน์เมืองได้เต็มๆ จากบนหอคอยยอดปราสาทกันก่อน และหากได้ไปที่ ศาลเจ้าอะวะชิมะ (Awashima Shrine) ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณเมืองท่ารับรองว่าคุณจะได้ตื่นตะลึงกับตุ๊กตาญี่ปุ่นจำนวนมหาศาลที่มีผู้คนนำมาถวายไว้ที่อาคารหลักของศาลเจ้าแห่งนี้อย่างแน่นอน ส่วนที่รีสอร์ทริมทะเลวากายะมะมารีน่าซิตี้ (Wakayama Marina City) นั้น นอกจากจะมีธีมพาร์คน่าตื่นตาแล้ว ก็ยังมีตลาดปลาที่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับเมนูอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ กันอย่างจุใจอีกด้วย เรียกว่าสามารถเที่ยวเล่นอยู่ข้างในพร้อมหน้ากับครอบครัวกันได้ทั้งวันไม่เบื่อเลยทีเดียว นอกจากนี้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนก็จะเป็นช่วงฤดูกาลที่บรรดาต้นพีชในสวนโทเก็นเคียว (Togenkyo Park) ริมแม่น้ำคิโนะคะวะ (Kinokawa River) พากันผลิดอกบานเต็มที่ให้ผู้มาเที่ยวชมได้รื่นรมย์กับกลิ่นหอมหวานของดอกสวยสีชมพูอีกด้วย

ภูเขาโคยะ (Mt. Koya) หรือ โคยะซัง (Koyasan) เมืองหลวงแห่งพุทธศาสนาบนเขาสูง 800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลแห่งนี้ คือเมืองมรดกโลกที่คุณจะได้สัมผัสกับโลกแห่งพุทธศาสนาที่ได้พัฒนามาจนก่อเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบฉบับญี่ปุ่นขึ้น วัดวาอารามรวมถึงศาลเจ้าจำนวนมากที่กระจัดกระจายอยู่บนโคยะซังอย่างเช่น วัดคงโกบุจิ (Kongobuji Temple), บริเวณดันโจกะรัน (Danjogaran) และอื่นๆ อีกมากมายนั้นล้วนแล้วแต่งดงามควรค่าแก่การเยี่ยมชมทั้งสิ้น ส่วนที่วัดโอะคุโนะอิน (Okunoin Temple) นั้นนับเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของโคยะซังที่เรียงรายไปด้วยหินจารึกหลุมฝังศพจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนและแนวต้นสนซีดาร์อายุกว่าพันปี และสำหรับที่วัดบางแห่งรวมถึงวัดเอะโคอิน (Ekoin Temple) มีบริการห้องพักแรมภายในวัดที่เรียกว่า “ชุคุโบ (Shukubo)” ให้ได้ลองใช้เวลาช้าๆ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบพระสงฆ์ญี่ปุ่น และยังจะได้ลิ้มรสชาติอาหารมังสวิรัติตามแบบศาสนาพุทธในญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า “โชจินเรียวริ (Shojin Ryori)” ที่ปรุงจากผักกันอีกด้วย

บริเวณคิชู (Kichu) นั้นนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้รักการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ เนื่องจากพื้นที่ในแถบนี้มีชายฝั่งที่สลับซับซ้อนและเทือกเขาทอดตัวยาวและเต็มไปด้วยสวนผลไม้นั่นเอง ดินแดนแถบนี้เป็นที่ตั้งของเมืองยุอะซะ (Yuasa Town) ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น หรือที่เรารู้จักกันในนาม “โชยุ” นั่นเอง

ภายในเมืองยุอะซะเต็มไปด้วยโกดังแบบดั้งเดิมและบ้านเรือนที่มีลักษณะเป็นร้านค้าในอาคารเดียวกันหลงเหลืออยู่มากมาย และยังมีทัวร์เที่ยวชมการผลิตโชยุแบบดั้งเดิมอีกด้วย สำหรับที่อะระจิชิมะ (Arigishima) ซึ่งเป็นนาขั้นบันไดในเมืองอะริดะงะวะ (Aridagawa Town) จะได้ชมนาข้าวในแบบทรงกลมริมแม่น้ำดูสวยงามแปลกตา นอกจากนี้ยังมีชายฝั่งชิระซะกิ (Shirasaki Coast) สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำอย่างการตกปลาหน้าหาด และดำน้ำ รวมถึงยังได้เอร็ดอร่อยกับอาหารท้องถิ่นดั้งเดิมอย่างมิโซะตำรับวัดคินซันจิ “คินซันจิมิโซะ (Kinzanji Miso)” และ “อุเมะโบชิ (Umeboshi)” หรือบ๊วยตากแห้งอีกด้วย

เมืองชิระฮะมะ (Shirahama Town) ทางใต้สุดของจังหวัดวากายะมะนั้นเป็นแหล่งตากอากาศที่งดงามด้วยท้องทะเลและบ่อน้ำพุร้อน บริเวณชายหาดชิระฮะมะ (Shirahama Beach) เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนเราจะได้เห็นร่มชายหาดหลากสีสันเรียงรายอยู่บนชายหาดสีขาวสะอาดตา ส่วนที่ชิระฮะมะอนเซ็น (Shirahama Onsen) นั้นก็เป็นสถานที่ที่จะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพแหล่งน้ำพุร้อนเก่าแก่ ทั้งเที่ยวชมบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่หันหน้าออกทะเล บ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่ต่างๆ ตลอดจนตระเวนชมและลงแช่บ่อน้ำพุร้อนแบบที่ไม่มีที่พักแรมบริการหรือที่เรียกว่า ไกยุ (Gaiyu) เป็นต้น

นอกจากนี้กิจกรรมแนะนำอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้พาครอบครัวไปเที่ยวชมแพนด้าแม่ลูกแสนน่ารักน่าเอ็นดูที่ “แอดเวนเจอร์เวิลด์ (Adventure World)” และสำหรับใครที่เดินทางมาชิระฮะมะจากโอซาก้า ขอแนะนำให้นั่งรถไฟแพนด้าคุโระชิโอะ (Panda Kuroshio) ที่ออกแบบเป็นลวดลายแพนด้าสุดน่ารักบนขบวนรถ รับรองว่าจะเพิ่มอรรถรสในการเดินทางได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว (รถไฟขบวนแพนด้าคุโระชิโอะไม่ใช่ขบวนรถไฟที่วิ่งให้บริการแบบประจำ)

คุมะโนะโคะโด (Kumano Kodo) คือเส้นทางเดินบนเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงชันเป็นที่รู้จักกันในฐานะเส้นทางแสวงบุญ (เส้นทางสำหรับเดินทางไปสักการะนมัสการวัดและศาลเจ้า) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่ก็มีเส้นทางเดินง่ายๆ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยแสวงบุญมาก่อนด้วยเช่นกัน บนเส้นทางสายนี้มีศาลเจ้าใหญ่อยู่ 3 แห่ง แต่ละแห่งห่างกันประมาณ 20-40 กิโลเมตร ได้แก่ ศาลเจ้าคุมะโนะฮงกูไทฉะ (Kumano Hongu Taisha Grand Shrine),ศาลเจ้าคุมะโนะฮะยะทะมะไทฉะ (Kumano Hayatama Taisha Grand Shrine) และศาลเจ้าคุมะโนะนะชิไทฉะ (Kumano Nachi Taisha Grand Shrine) เรียกรวมว่า คุมะโนะซันซัง (Kumano Sanzan) ซึ่งเส้นทางสายนี้ก็คือเส้นทางที่เพื่อมาสักการะนมัสการศาลเจ้าทั้ง 3 แห่งนี้นั่นเอง หลังจากนมัสการศาลเจ้าเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมแวะคลายความเมื่อยล้ากันที่ยุโนะมิเนะอนเซ็น (Yunomine Onsen) ที่มีบ่อแช่น้ำร้อนธรรมชาติขนาดเล็กๆ ที่เรียกว่า “ซึโบะยุ (Tsuboyu)” และที่ริวจินอนเซ็น (Ryujin Onsen) บ่อน้ำพุร้อนที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขา