เที่ยวชิมสุดยอดอาหารทะเลในญี่ปุ่น

กินปลาหมึกหิ่งห้อย
เที่ยวชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast)
best-seafood-in-japan-01

©︎ Toyama Prefectural Tourism Association

กินโอตารุซูชิ (Otaru Sushi)
ที่ถนนสายซูชิของโอตารุ (Otaru Sushi Street)
best-seafood-in-japan-02

©︎ JNTO

แหล่งสุดยอดอาหารทะเลที่มีทั้งอาหารท้องถิ่นและสถานที่เที่ยวอยู่ไม่ไกลกัน  เรามาออกเดินทางไปเพลิดเพลินกับอาหารทะเลอร่อยๆ และวิวสวยๆ กันเลยดีกว่า

กินโอตารุซูชิ (Otaru Sushi) เที่ยวที่คลองโอตารุ (Otaru Canal), ฮอกไกโด (Hokkaido)

best-seafood-in-japan-03

©︎ JNTO

best-seafood-in-japan-04

©︎ Hokkaido Tourism Organization

best-seafood-in-japan-05

©︎ Hokkaido Tourism Organization

best-seafood-in-japan-06

©︎ Hokkaido Tourism Organization

เมื่อเอ่ยชื่อโอตารุ (Otaru) ในฮอกไกโด (Hokkaido) หลายคนคงคิดในใจว่า “อยากกินซูชิจังเลย!” อย่างแน่นอน โอตารุ (Otaru) อยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือจึงเต็มไปด้วยร้านซูชิมากมายกว่า 100 ร้าน ปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลทางเหนือจะมีเนื้อแน่นอร่อยมาก เมื่อนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ และวางลงบนข้าวพร้อมด้วยอุนิ (Uni) หรือไข่หอยเม่นอีกทั้งอิคุระ (Ikura) หรือไข่ปลาแซลมอนก็จะได้เป็นไคเซ็นด้ง (Kaisen-don) หรือจะหั่นเป็นชิ้นใหญ่หน่อยทำเป็นนิกิริซูชิ (Nigiri Sushi) สุดอลังการไม่ว่าจะอันไหนก็ล้วนแต่เป็นเมนูในสไตล์ของโอตารุทั้งสิ้น

ในบริเวณรอบๆ คลองโอตารุ (Otaru Canal) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโอตารุ ก็ยังเป็นที่ตั้งของ ถนนสายซูชิของโอตารุ (Otaru Sushi Street) ย่านที่เต็มไปด้วยร้านซูชิกว่า 100 ร้านเรียงราย โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปจะเริ่มเข้าสู่ฤดูจับกุ้งอีกครั้งซึ่งเราจะได้เห็นกุ้งจำนวนมากเรียงรายอยู่ในตลาดและตามร้านซูชิต่างๆ นอกจากนี้ยังมีภูเขาเท็งกุยะมะ (Mt. Tenguyama) ที่สูง 532 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งสามารถใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปชมวิวสวยๆ กันได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองโอตารุ (Otaru City) เมื่อมองลงมาจากจุดชมวิวบนเขานับว่าเป็นทิวทัศน์ที่งดงามและมีชื่อเสียงมากทีเดียว กระเช้าไฟฟ้าจะให้บริการจนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2019 และจะเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป หากได้ไปเยือนโอตารุถูกจังหวะพอดีก็อย่าลืมแวะขึ้นไปชมวิวบนเขากันด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Otaru Canal

Minatomachi, Otaru, Hokkaido

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟสาย JR Hakodate Main Line ไปลงที่สถานี Otaru ใช้เวลา 45 นาที จากนั้นเดินอีก 8 นาที
เวลาทำการ ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านและสถานที่
วันหยุด ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านและสถานที่
ค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านและสถานที่
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://otaru.gr.jp/shop/otarucanal
https://www.visit-hokkaido.jp/info/detail/93
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://uu-hokkaido.com/corporate/otaru.shtml
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/activities/all-around-japan/9-shopping-area/otaru/

กินปูคะโน (Kano Crab) เที่ยวที่สวนเคนโระคุเอ็น (Kenroku-en Garden), อิชิคะวะ (Ishikawa)

best-seafood-in-japan-07

©︎ Kanazawa City Tourism Association

best-seafood-in-japan-08

©︎ Kanazawa City Tourism Association

เมืองคะนะซะวะ (Kanazawa City) ในจังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือในเรื่องความอร่อยของปู และหากจะมาเยือนที่นี่ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ขอแนะนำให้หาโอกาสลิ้มลอง ปูคะโน (Kano Crab) ซึ่งหาทานได้ตามร้านทั่วไปรอบๆ บริเวณสถานีรถไฟคะนะซะวะ (Kanazawa Station) ปูคะโนคือชื่อเรียกของปูซุไว (Zuwai Crab) หรือปูหิมะ (Snow Crab) ตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่กว่า 9 เซนติเมตรขึ้นไป ภายในอัดแน่นไปด้วยเนื้อหวานนุ่มฟูแสนอร่อย แต่เนื่องจากมีการจำกัดฤดูจับปูชนิดนี้ จึงสามารถหาทานได้เฉพาะในช่วงเวลานี้เท่านั้น สามารถหาทานปูคะโนได้ตามเรียวกังและภัตตาคารใหญ่ๆ ซึ่งนิยมเสิร์ฟสดๆ เป็นซาชิมิ หรือนำไปต้มหรือย่างทานก็อร่อย

และหากมีโอกาสได้มาเยือนคะนะซะวะจริงๆ แนะนำให้แวะไปเที่ยวที่สวนเคนโระคุเอ็น (Kenroku-en Garden) อันสวยงามในฤดูใบไม้ผลิกันด้วย ดอกบ๊วยกว่า 20 สายพันธุ์รวม 200 ต้นจะเริ่มผลิบานให้ชมกันได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ซึ่งในญี่ปุ่นเองก็มีสถานที่ที่สามารถชมดอกบ๊วยได้พร้อมกันทีเดียวหลากหลายสายพันธุ์ขนาดนี้อยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้นเอง

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Kenroku-en Garden

1 Kenrokumachi, Kanazawa-shi, Ishikawa

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Kanazawa โดยสารรถบัสประจำทางหรือรถ Kenrokuen Shuttle Bus ไปลงที่ป้าย Kenrokuen Shita ใช้เวลา 20 นาที
เวลาทำการ 1 มีนาคม – 15 ตุลาคม
07:00 – 18:00 น. (เวลาออกจากสวน)
16 ตุลาคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์
08:00 – 17:00 น. (เวลาออกจากสวน)
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 310 เยน
เด็ก (6 – ต่ำกว่า 18 ปี) 100 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.hot-ishikawa.jp/feature/gourmet/seafood
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.pref.ishikawa.jp/siro-niwa/kenrokuen/e/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://www.kanazawa-tourism.com/thai/guide/guide1_1.php?no=1
http://www.kanazawa-tourism.com/thai/info/info4.php

กินปลาหมึกหิ่งห้อย เที่ยวที่ชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast), โทยามะ (Toyama)

best-seafood-in-japan-09

©︎ Toyama Prefectural Tourism Association

best-seafood-in-japan-10

©︎ Toyama Prefectural Tourism Association

best-seafood-in-japan-11

©︎ Toyama Prefectural Tourism Association

ปลาหมึกหิ่งห้อยหรือที่ญี่ปุ่นเรียกกันว่าโฮตารุอิกะ (Hotaru-ika) ในช่วงเดือนมีนาคม – มิถุนายนของทุกปี บริเวณนอกชายฝั่งในจังหวัดโทยามะ (Toyama) จะเต็มไปด้วยแสงสีน้ำเงินระยิบระยับอยู่นับไม่ถ้วน พวกมันคือเหล่าปลาหมึกตัวจิ๋วยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร มีตาเรืองแสงสว่างได้ราวกับแสงจากหิ่งห้อย จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก “โฮตารุอิกะ (Hotaru-ika)” ที่แปลว่าปลาหมึกหิ่งห้อยนั่นเอง ปลาหมึกตัวนุ่มพอง เนื้อกรุบและมีรสหวานนี้นำไปต้มสุกหรือทานสดเป็นซาชิมิ (Sashimi) เป็นเมนูขึ้นชื่อของโทยามะ สามารถหาทานได้ตามร้านต่างๆ บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟโทยามะ (Toayama Station)

และหากพูดถึงโทยามะก็จะต้องนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast) ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับ “100 ชายฝั่งที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” และมีทำเลที่ตั้งแปลกไปจากที่อื่นๆ ในโลกเพราะสามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่ล้วนสูงระดับ 3,000 เมตรได้จากเหนือท้องทะเล จึงเป็นทิวทัศน์ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีต ถึงขนาดที่มีการบันทึกบทเพลงกลอนเก่าแก่กว่า 1,000 ปีที่พรรณนาถึงทัศนียภาพอันงดงามของที่นี่ให้เราได้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบันทีเดียว อีกทั้งทิวทัศน์เลียบฝั่งทะเลเมื่อมองออกมาจากหน้าต่างรถไฟก็สวยงามน่าประทับใจมาก การนั่งรถไฟเที่ยวชมวิวจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่แนะนำ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Amaharashi Coast

Matsudae-no-Nagahama, Takaoka-shi, Toyama

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี JR Toyama โดยสารรถไฟ Ainokaze Toyama Railway ไปลงที่สถานี Takaoka ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเปลี่ยนมาโดยสารรถไฟ Himi Line ไปลงที่สถานี Amaharashi ใช้เวลา 20 นาที แล้วเดิน 5 นาที
เวลาทำการ ตลอด 24 ชั่วโมง
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.takaoka.or.jp/viewpoint/archives/524
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.takaoka.or.jp/en/archives/274?lang=en
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/toyama/

กินหอยนางรม เที่ยวที่ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle), ฮิโรชิมะ (Hiroshima)

best-seafood-in-japan-12

 ©︎ Hiroshima Prefectural Tourism Federation / Hiroshima Prefecture

best-seafood-in-japan-13

 ©︎ Hiroshima Prefectural Tourism Federation / Hiroshima Prefecture

เมื่อพูดถึงของอร่อยจังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima) ก็ต้องนึกถึง “หอยนางรม” แน่นอน ที่ญี่ปุ่นเราสามารถหาทานหอยนางรมนานาชนิดได้ตลอดทั้งปี แต่หอยนางรมที่เลี้ยงในช่วงเดือนพฤศจิกายนซึ่งอากาศเริ่มหนาวเย็นทำให้เนื้อรัดตัวกระชับจนถึงเดือนเมษายนเนื้อจะแน่นเด้งอร่อยเป็นที่สุด จังหวัดฮิโรชิมะเป็นแหล่งประมงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หอยนางรมตัวอวบใหญ่ เนื้อหนา และรสหวานโดดเด่น วิธีทานที่เรียบง่ายที่สุดก็คือทานสดๆ หรือนำไปย่าง ซึ่งร้านอาหารที่สามารถเอร็ดอร่อยกับหอยนางรมที่เพิ่งขึ้นจากทะเลสดๆ นำมาย่างหรือนึ่งทานเองแบบที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “คะคิโกะยะ (Kakigoya)” นั้นมีอยู่มากมายบริเวณริมฝั่งทะเลในจังหวัดฮิโรชิมะ และหากได้มาเยือนจังหวัดฮิโรชิมะก็อย่าลืมแวะเที่ยวปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle) ที่ตั้งตระหง่านงดงามอยู่ท่ามกลางพื้นที่กว้างใหญ่มีคูน้ำล้อมรอบ อีกทั้งไฟประดับยามค่ำคืนก็น่าชมเป็นอย่างมาก

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Hiroshima Castle

21-1 Motomachi, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Hiroshima โดยสารรถรางไปลงที่สถานี Kamiya-cho Higashi ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเดินอีก 15 นาที
เวลาทำการ 09:00 – 18:00 น.
(ธันวาคม – กุมภาพันธ์ : 09:00 – 17:00 น.)
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ : 370 เยน
ผู้สูงอายุและนักเรียนมัธยมปลาย : 180 เยน
ต่ำกว่าชั้นมัธยมปลายเข้าชมฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.rijo-castle.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://visithiroshima.net/things_to_do/attractions/historical_places/hiroshima_castle.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

กินเซะกิซาบะ (Seki Saba) เที่ยวที่เบปปุอนเซ็น (Beppu Onsen), โออิตะ (Oita)

best-seafood-in-japan-14

 ©︎ Oita Prefectural Tourism Association

best-seafood-in-japan-15

 ©︎ Oita Prefectural Tourism Association

เคยได้ยินคำว่าเซะกิซาบะ (Seki Saba) กันบ้างไหม? เซะกิซาบะ คือปลาซาบะแบรนด์ดังที่อาศัยอยู่ในบริเวณช่องแคบโฮโยะ (Hoyo Strait) ซึ่งมีสายน้ำเชี่ยวกราก โดยจะใช้วิธีตกด้วยเบ็ดทีละตัว ทำให้เนื้อไม่ช้ำ มีขนาดตัวใหญ่ เนื้อแน่น และสดมาก หากได้มาเยือนเมืองเบปปุ (Beppu City) ขอแนะนำให้ลองหาทานแบบซาชิมิกันดูให้ได้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าที่จะสามารถหาปลาเซะกิซาบะอร่อยๆ ทานได้กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองเลยทีเดียว และแน่นอนหากพูดถึงเบปปุก็ต้องนึกถึงอนเซ็น ซึ่งที่นี่ไม่ได้โดดเด่นเฉพาะน้ำพุร้อนที่มีไว้สำหรับลงแช่เท่านั้น แต่ยังมีน้ำพุร้อนที่มีไว้สำหรับเที่ยวชมเพลินๆ อีกด้วย น้ำพุร้อน 7 แห่งที่ได้ชื่อว่าเป็น “จิโกะคุ (Jigoku)” หรือบ่อนรก อันได้แก่ น้ำพุร้อนสีแดงเข้ม น้ำพุร้อนสีน้ำเงินเข้ม น้ำพุร้อนที่มีจระเข้อาศัยอยู่ และน้ำพุร้อนที่มีไอน้ำพุ่งออกมา และอื่นๆ นั้นสวยงามน่าตื่นตาควรค่าแก่การไปเที่ยวชมอย่างที่สุด  และ 4 ใน 7 น้ำพุร้อนกลุ่มนี้ยังได้รับการรับรองให้เป็นน้ำพุร้อนทรงคุณค่าทั้งในแง่ของความงามและในแง่วิชาการด้วย อีกทั้งยังมีของฝากอย่างพุดดิ้งที่นึ่งโดยใช้ไอจากน้ำพุร้อนวางขายด้วยเช่นกัน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่
Beppu City Tourist Information Center

JR Beppu Station yard, 12-12 Ekimae-cho, Beppu-shi, Beppu, Oita

แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ JR Limited Express Sonic – Nichirin ไปลงที่สถานี Beppu ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
เวลาทำการ บ่อนรก / จิโกะคุ (Jigoku)
08:00 – 17:00 น.
วันหยุด บ่อนรก / จิโกะคุ (Jigoku)
เปิดทำการตลอดปีไม่มีวันหยุด
ค่าใช้จ่าย บัตรเข้าชม “บ่อนรก / จิโกะคุ (Jigoku)”
ผู้ใหญ่ : 2,000 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย : 1,350 เยน
นักเรียนมัธยมต้น : 1,000 เยน
เด็กประถม : 900 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.beppu-jigoku.com/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.beppu-jigoku.com/index.html
(บนหน้าเว็บไซต์มีปุ่มให้กดเลือกแปลภาษา)
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://th.visit-oita.jp/oita/onsen

[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]

 

ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2019

จดหมายข่าวอื่นๆ