5 สถานที่ชมไลท์อัพช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่แถบคันไซ

Kiyomizu-dera-Temple_shutterstock_606240002_resized

วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)

Koko-en-Garden-1-©KOKO-EN_resized

สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden)

© KOKO-EN

ภูมิภาคคันไซ (Kansai)

ภูมิภาคคันไซ (Kansai) หรือคิงกิ (Kinki) อยู่ตอนกลางทางตะวันตกของเกาะฮอนชู (Honshu) ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชิงะ (Shiga) จังหวัดนารา (Nara) จังหวัดวากายะมะ (Wakayama) จังหวัดเกียวโต (Kyoto) จังหวัดโอซาก้า (Osaka) และจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)

ภูมิภาคคันไซ (Kansai) เป็นภูมิภาคที่ผสมผสานความบันเทิง ความทันสมัยมีชีวิตชีวา ตลอดจนกลิ่นอายและเสน่ห์ของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์เก่าแก่ในสมัยโบราณเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังมีธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างไปตามฤดูกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส

การเดินทาง

เมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคมเป็นช่วงฤดูกาลสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีแถบภูมิภาคคันไซ (Kansai) หรือคิงกิ (Kinki) เป็นภูมิภาคที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในการชมใบไม้แดง นอกจากการชมทัศนียภาพในตอนกลางวันแล้ว ยังมีหลายสถานที่ที่สามารถชมบรรยากาศสุดพิเศษในตอนกลางคืนได้ด้วย ครั้งนี้เราขอแนะนำ 5 สถานที่ห้ามพลาดที่แถบคันไซในการชมใบไม้แดงพร้อมการประดับไฟไลท์อัพในยามค่ำคืน

1. วัดอิชิยามะเดระ (Ishiyama-dera Temple), ชิงะ (Shiga)

Ishiyama-dera_pixta_60085289_S
Ishiyama-dera_pixta_56207418_S
ช่วงเวลาในการชมการประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสี: ช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

วัดอิชิยามะเดระ (Ishiyama-dera Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 747 ชื่อของวัดมีความหมายว่า “ภูเขาหิน” เนื่องจากวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนก้อนหินขนาดสูงใหญ่ที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน นอกจากวัดแห่งนี้จะเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาแสวงบุญเป็นศูนย์รวมความเลื่อมใสศรัทธามาตั้งแต่สมัยนาราแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น มีอุโบสถหลักและเจดีย์ที่มีเอกลักษณ์และได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายนจะมีการจัดงานชมใบไม้เปลี่ยนสีในยามค่ำคืนเป็นประจำทุกปี หลังจากชมบรรยากาศภายในวัดและสัมผัสความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงกลางวันแล้ว ในตอนกลางคืนจะมีการประดับโคมไฟตามทางเดินลอดซุ้มต้นโมมิจิ พร้อมประดับประดาไฟบริเวณเจดีย์ และอาคารต่างๆ ช่วยสร้างบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกที่แตกต่างจากในช่วงกลางวันไปอีกรูปแบบหนึ่ง

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Ishiyama-dera Temple
1-1-1 Ishiyamadera, Otsu, Shiga
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟ JR Tokaido Sanyo Line ลงที่สถานี Ishiyama ใช้เวลา 15 นาที โดยสารรถไฟจากสถานี Keihan-Ishiyama ลงที่สถานี Ishiyamadera ใช้เวลา 4 นาที แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 16:30 น. (เข้าชมก่อน 16:00 น.)
Light Up Event
ระหว่างวันที่ 13 – 29 พฤศจิกายน 2020
17:30 – 21:00 น. (เข้าชมก่อน 20:30 น.)
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ค่าเข้าชม Light Up Event
ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กประถม 300 เยน
(ไม่รวมค่าเข้าชมในช่วงกลางวัน ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กประถม 250 เยน)
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.ishiyamadera.or.jp/
https://www.ishiyamadera.or.jp/guide/event/atarayo
https://otsu.or.jp/thingstodo/spot47
https://www.okeihan.net/recommend/momiji/detail/28_isiyamadera.php
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://en.biwako-visitors.jp/spot/detail/108
https://otsu.or.jp/en/thingstodo/spot47
https://www.japan.travel/en/spot/1064/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://www.otsu.or.jp/th/templesandshrines/0002/index.html
https://www.japan.travel/th/spot/1064/
https://centrip-japan.com/th/spot/891.html

2. วัดคัตสึโอจิ (Katsuoji Temple), โอซาก้า (Osaka)

Katsuoji-Temple_pixta_46476559_S
Katsuoji-Temple_pixta_67276596_M_resized
ช่วงเวลาในการชมการประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสี: วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนพฤศจิกายน

วัดคัตสึโอจิ (Katsuoji Temple) หรือ “วัดแห่งชัยชนะ” ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนเหนือของโอซาก้า เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิเคยเดินทางมาสักการะแล้วหายจากอาการประชวร วัดแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นวัดซึ่งช่วยนำพาโชคลาภ ช่วยให้ประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องการงาน ธุรกิจ การสอบแข่งขัน หรือความรัก ภายในวัดจึงมีตุ๊กตาดารุมะวางอยู่ทั่วบริเวณเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม เมื่อเดินผ่านประตูวัดเข้าไปก็จะพบกับใบไม้เปลี่ยนสีที่มีสีสันภายในบริเวณวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ และมีภูเขาทั้งลูกที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเหลือง ส้ม และแดงเป็นฉากหลัง ในวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ทางวัดจะมีการประดับไฟไลท์อัพภายในบริเวณวัด ตั้งแต่อุโมงค์ต้นไม้ตลอดจนอุโบสถหลัก โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดินถึงเวลา 19:30 น.

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Katsuoji Temple
2914-1 Aomatani, Minoo, Osaka
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Umeda โดยสารรถไฟ Subway Midosuji Line ลงที่สถานี Senrichuo ใช้เวลา 21 นาที แล้วโดยสารรถบัส ไปลงที่ป้ายรถบัสหน้า Katsuoji Temple ใช้เวลา 33 นาที
เวลาทำการ
วันจันทร์ – ศุกร์ 8:00-17:00 น.
วันเสาร์ 8:00-17:30 น.
วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8:00-18:00 น.
ประดับไฟตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดินถึงเวลา 19:30 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมปลายขึ้นไป) 400 เยน เด็กประถมและต่ำกว่า 300 เย็น เด็กก่อนวัยเรียน 100 เยน เด็กต่ำกว่า 2 ปี เข้าฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.katsuo-ji-temple.or.jp/
https://osaka-info.jp/page/katsuoji
https://minohkankou.net/sights/area/katuoji/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.katsuo-ji-temple.or.jp/en/
https://osaka-info.jp/en/page/katsuoji
http://kansai-odyssey.com/katsuo-ji-temple-osakas-hidden-daruma-temple/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

3. วัดเอคันโด เซ็นรินจิ (Eikando Zenrinji Temple), เกียวโต (Kyoto)

Eikando-Zenrinji-Temple_pixta_60236605_S
Eikando-Zenrinji-Temple-©Photoac_resized

© Photo ac

ช่วงเวลาในการชมการประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสี: ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม

วัดเอคันโด เซ็นรินจิ (Eikando Zenrinji Temple) หรือมีอีกชื่อที่เรียกว่า วัดเซ็นรินจิ (Zenrinji Temple) เป็นวัดพุทธนิกายโจโด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต (Kyoto) วัดแห่งนี้มีอาคารที่ใช้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่หลายอาคารกระจายตัวกันอยู่ทั่วอาณาเขตวัด นอกจากนี้ที่เนินเขาด้านหลังยังมีเจดีย์ใหญ่ซึ่งใช้สถาปัตยกรรมแบบทาโฮโทะ (Tahoto) ประกอบไปด้วยสองชั้นซึ่งเป็นจุดชมวิวของวัดและเห็นวิวเมืองเกียวโตได้ที่บริเวณเจดีย์นี้ และภายในวัดยังมีร้านชาเขียวและขนมหวานญี่ปุ่นในสวนสไตล์ญี่ปุ่น

นอกจากนี้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ในด้านการชมใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโต ภายในวัดมีต้นโมมิจิมากถึง 3,000 ต้น และบริเวณที่เป็นจุดชมใบไม้แดงที่เป็นไฮไลท์คือบริเวณสวนโฮโจ (Hojo) ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มีบ่อน้ำ และสะพาน ในตอนกลางคืนที่มีการประดับไฟไลท์อัพภาพของใบไม้แดงและแสงไฟที่สะท้อนบนผืนน้ำนั้นเป็นภาพที่งดงามเกินบรรยาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนชอบการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง และภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างเจดีย์ทาโฮโทะ (Tahoto) ซึ่งตั้งอยู่บนเนิน  เมื่อต้องแสงไฟในยามค่ำคืนยิ่งดูสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Eikando Zenrinji Temple
48 Eikandocho, Sakyo, Kyoto
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Kyoto โดยสารรถบัส Kyoto City Bus Number 5 ลงที่ป้ายรถ Nanzenji-Eikando-michi ใช้เวลา 35 นาที แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 16:00 น.
Light Up Event ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2020
17:30-20:30 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าชมภายในวัด
ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กประถมถึงมัธยมปลาย 400 เยน
(ช่วงจัดงาน Light Up Event ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กประถมถึงมัธยมปลาย 600 เยน)
ค่าเข้าชมเฉพาะช่วงเย็นที่มี Light Up
ผู้ใหญ่และเด็กมัธยมต้นขึ้นไป 600 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.eikando.or.jp/
https://www.kyoto-kankou.or.jp/event/?id=8552&r=1598868173.5958
https://souda-kyoto.jp/travel/koyo/index.html?idk=0000152
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://prev.kyoto.travel/th/shrine_temple/152
https://www.japan.travel/en/spot/1172/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

4. วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple), เกียวโต (Kyoto)

Kiyomizu-dera-Temple_shutterstock_606240002_resized
Kiyomizu-dera-Temple_shutterstock_1257147319_resized
ช่วงเวลาในการชมการประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสี: ช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) มีความหมายว่า “วัดน้ำใส” นับว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเกียวโต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 778 เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1,000 กร และเทพเอบิสึ (Ebisu) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งร่ำรวยของญี่ปุ่น อีกไฮไลท์หนึ่งภายในวัดคือระเบียงของวัดประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น ในอดีตสร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว เนื่องจากช่างไม้ใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ และบนระเบียงนั้นสามารถมองเห็นทัศนียภาพสวยงามของเกียวโตได้ทั่วทั้งตัวเมือง และ ชื่อวัดน้ำใส มาจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) เป็นน้ำตกที่แบ่งย่อยออกเป็น 3 สายไหลลงมาภายในบริเวณวัด เนื่องจากน้ำดังกล่าวมีความใส จึงตั้งชื่อวัดตามลักษณะดังกล่าว ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า หากผู้ใดได้ดื่มน้ำใสที่วัดคิโยมิสึเดระ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้ตามความเชื่อ โดยความหมายของสายน้ำที่ไหลมาได้แก่ สายน้ำที่จะให้ประสบความสำเร็จด้านการเรียน สายน้ำที่จะให้สมหวังเรื่องความรัก และ สายน้ำที่จะให้มีสุขภาพแข็งแรงทำให้มีอายุยืนยาว

นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาด บริเวณด้านล่างของระเบียงวัดเป็นหุบเขาที่เรียงรายไปด้วยต้นโมมิจิที่เปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดงสดใส ในตอนกลางคืนก็มีการประดับไฟไลท์อัพตระการตาต่างจากบรรยากาศในตอนกลางวัน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kiyomizu-dera Temple
1-294 Kiyomizu, Higashiyama, Kyoto
แผนที่
การเดินทาง สถานี Kyoto โดยสารรถไฟสาย JR Nara Line ลงที่สถานี Tofukuji ใช้เวลา 3 นาที แล้วเปลี่ยนสายรถไฟ Keihan Line ไปลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo ใช้เวลา 3 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 20 นาที
หรือ สถานี Kyoto โดยสารรถไฟรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi ใช้เวลา 20 นาที แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
เวลาทำการ 6:00 – 18:00 น.
Special Night Viewing in Autumn ระหว่างวันที่ 18- 30 พฤศจิกายน 2020
6:00 – 21:30 น. (เข้าชมก่อน 21:00 น.)
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย
ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 200 เยน
Special Night Viewing in Autumn
17:30 – 21:30 น. (เข้าชมก่อน 21:00 น.)
ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 200 เยน
ค่าเข้าชมสวน Seishoin (เปิดให้เข้าชมเป็นพิเศษ)
18:00 – 21:00 น. (เข้าชมก่อน 20:30 น.)
ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 300 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.kiyomizudera.or.jp/
https://ja.kyoto.travel/tourism/single02.php?category_id=7&tourism_id=267
http://www.monzenkai.com/yakan.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.kiyomizudera.or.jp/en/
https://kyoto.travel/en/shrine_temple/131.html
https://www.japan.travel/en/spot/2199/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.japan.travel/th/spot/2199/
https://www.jnto.or.th/newsletter/temples-2014/
https://th.trip-node.com/events/autumn-leaves-events/9237/

5. สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden), เฮียวโงะ (Hyogo)

Koko-en-Garden-1-©KOKO-EN_resized

© KOKO-EN

Koko-en-Garden-2-©KOKO-EN_resized

© KOKO-EN

ช่วงเวลาในการชมการประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม

สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden) เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ปราสาทชื่อดังของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สวนแห่งนี้เป็นสวนเก่าแก่ที่ได้รับการตกแต่งตามสไตล์ของสิ่งก่อสร้างในยุคเอโดะ ภายในบริเวณสวนมีสวนน้อยใหญ่มากถึง 9 แห่งตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของสวนเป็นบ้านพักที่ขุนนางเคยอยู่อาศัยเมื่อในอดีต สวนแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครหรือภาพยนตร์ย้อนยุคมาแล้วหลายเรื่อง

นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นไม้น้อยใหญ่จำนวนกว่า 160 ต้นจะผลัดเปลี่ยนสีแต่งแต้มความสวยงามให้กับภายในสวน ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการชมใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณบ่อน้ำซึ่งมีปลาคาร์ฟแหวกว่ายและมีน้ำตกเป็นฉากหลังในตอนกลางคืนมีการประดับไฟไลท์อัพที่ประดับประดาไปทั่วบริเวณช่วยเพิ่มเสน่ห์สไตล์ญี่ปุ่นโบราณและความสวยงามอลังการให้กับใบไม้แดงมากยิ่งขึ้นไปอีก ในช่วงชมงานประดับไฟนี้จะมีการแสดงดนตรีช่วยสร้างบรรยากาศสุดแสนพิเศษอีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Koko-en Garden
68 Honmachi, Himeji, Hyogo
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ JR Kobe Line Rapid Service ลงที่สถานี Himeji ใช้เวลา 35 นาที แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
เวลาทำการ

9:00 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)

Light Up Event
วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2020
ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน – 21:00 น. (เข้าก่อน 20:30 น.)
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 310 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 150 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://himeji-machishin.jp/ryokka/kokoen/
https://www.city.himeji.lg.jp/shisei/0000009948.html
https://www.kobe-np.co.jp/news/himeji/201911/0012899341.shtml
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://himeji-machishin.jp/ryokka/kokoen/en/index.php
https://www.japan.travel/en/spot/1029/
https://www.travelhyogo.org.e.aas.hp.transer.com/himeji.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.japan.travel/th/spot/1029/
https://th.trip-node.com/events/autumn-leaves-events/10176/

[ เพจที่เกี่ยวข้อง ]

[ เส้นทางแนะนำ ]

ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2020

จดหมายข่าวอื่นๆ