ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ
จาก 5 แกลมปิ้ง (Glamping) ทั่วญี่ปุ่น

apr20_glaming_01

ช่วงฤดูใบไม้ผลิในเดือนมีนาคม จนถึง เดือนพฤษภาคม อากาศจะเริ่มอุ่นดอกไม้นานาพันธุ์จะบานสะพรั่งรวมถึงดอกซากุระ นอกจากนี้แล้วช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมเป็นวันหยุดยาวญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า โกลเด้นวีค (Golden Week) สถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศจะคึกคักหนาแน่นเป็นพิเศษ และช่วงฤดูร้อนในเดือนมิถุนายน จนถึง เดือนสิงหาคม อากาศแจ่มใสเหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ รวมถึงร่วมสนุกไปกับเทศกาลฤดูร้อนของญี่ปุ่น

ดังนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จนถึง ฤดูร้อน ทั้งสองฤดูนี้เหมาะแก่การทำกิจกรรมที่สามารถผ่อนคลายไปกับธรรมชาติยอย่างใกล้ชิด โดยการไปตั้งแกลมปิ้ง (Glamping) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมพร้อมสนุกไปกับครอบครัว และเหล่าเพื่อนๆ

แกลมปิ้ง (Glamping) คืออะไร

แกลมปิ้ง (Glamping) เป็นการผสมคำว่า Glamorous ที่แปลว่าหรูหรา และคำว่า Camping ที่แปลว่าการตั้งแคมป์ เมื่อรวมกันจะได้คำว่า Glamping ซึ่งก็หมายถึงการตั้งแคมป์แบบหรูหรา และครบครันด้วยอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกต่างๆ เช่น เต๊นท์พักหรูหรา ห้องน้ำแบบกิจลักษณะ ท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมอย่างใกล้ชิด รวมถึงแม้แต่ห้องครัว เตา ตู้เย็น ทีวี และเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำร้อนก็มีเตรียมพร้อมให้ครบครันราวกับว่าได้เข้าพักในโรงแรมหรู

สถานที่ที่สามารถแกลมปิ้ง (Glamping) ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ฮอกไกโด (Hokkaido) ไปจนถึงหมู่เกาะโอกินาวะ (Okinawa)
สามารถเดินทางมาแกลมปิ้งได้ตลอดทั้งปี การมาเปิดประสบการณ์พักแบบแกลมปิ้ง (Glamping) ทั้ง 4 ฤดูกาลมีความสวยและสนุกที่แตกต่าง

ซึ่งในแต่ละฤดูกาลมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกับ เช่น

  ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม) สภาพอากาศเย็นสบายโดยอุณภูมิจะไม่หนาวหรือไม่ร้อนเกินไป สามารถชมซากุระ และดอกไม้นานาพันธุ์ได้ แต่ก็จะมีการกระจายตัวของละอองเกสรดอกไม้ค่อนข้างเยอะ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้

 ช่วงฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม) จะเป็นช่วงที่มีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา เดินป่า ดำน้ำ หรือชมดอกไม้ไฟระหว่างการเข้าพัก เป็นต้น แต่ก็จะเป็นช่วงไฮท์ซีซั่นของชาวญี่ปุ่น ทำให้ราคาของที่พักค่อนข้างสูงกว่าปกติ

 ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (เดือนกันยายน ถึง เดือนพฤศจิกายน) เป็นฤดูที่ต้นไม้ ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ส้ม สวยงาม รวมถึงสภาพอากาศที่เย็นสบายสดชื่น แต่บางวันอาจมีฝนตกหนักกระทันหัน จึงต้องคอยเช็คสภาพอากาศกันให้ดี

 ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์) เป็นฤดูที่คนญี่ปุ่นไม่นิยมไปแกลมปิ้งมากที่สุด จึงทำให้ราคาที่พักถูกลง และยังเป็นฤดูที่สภาพอากาศหนาวจัดทำให้ไม่เหมาะแก่การชมธรรมชาติ หรือกิจกรรมกลางแจ้งเท่าไหร่นัก

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากเปิดประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบใหม่ แกลมปิ้งนับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

นอร์ธซาฟารี (North Safari), ฮอกไกโด (Hokkaido)

apr20_glaming_17
apr20_glaming_16

นอร์ธซาฟารี (North Safari) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นสวนสัตว์ที่เปิดลานแกลมปิ้งแบบ Animal Glamping เป็นแห่งแรกในญี่ปุ่น โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพักแกลมปิ้งพร้อมกับสัตว์ป่าแสนน่ารัก ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเกาะฮอกไกโด โดยจะมีสัตว์มากมายเช่น กระต่ายป่า หมูจิ๋ว อีกัวน่า ลิงมาร์โมเส็ท เมียร์แคต อัลปาก้า นกฮูก ลิงป่า เป็นต้น
ผู้ที่มาพักสามารถเลือกประเภทของสัตว์ที่อยากเข้าพักด้วยได้ โดยจะขึ้นอยู่กับประเภทของเต็นท์ เช่น

  • ที่พักแบบ Aqua Cottage จะได้เข้าพักกับแมวน้ำ
  • ที่พักแบบ Jungle Cottage จะได้เข้าพักกับลิงมาร์โมเส็ท หรืออีกัวน่า หรือ ตัวนาก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับโปรแกรมในแต่ละวัน
  • ที่พักแบบ Rare Animal Cottage จะได้เข้าพักกับหมีคิงคาจู (หมีน้ำผึ้ง) หรือตัวนางอาย (ลิงลม) หรือ ลิงคาปูชิน เป็นต้น

แต่ละที่พักสามารถเลือกสัตว์ป่าขนาดเล็กเพิ่มได้ 1 ชนิด โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประมาณ 3,300 เยน ซึ่งการเข้าพักกับสัตว์ป่าดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามกฎของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดคือ ห้ามให้อาหารสัตว์นอกเหนือจากที่เจ้าหน้าที่กำหนด
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกันทั้งครอบครัว เน้นเป็นกิจกรรมกลางแจ้งอยู่ในช่วงฤดูร้อนอย่าง ซิปไลน์ บันจี้แทรมโพลีน ปีนต้นไม้ ค้นหาซากฟอสซิลในดินแดนจูราสสิก เป็นต้น และกิจกรรมในฤดูหนาวจะมีลานสกี นั่งรถลากเลื่อนโดยสุนัข ขับรถสโนว์โมบิล นั่งบานานาโบ๊ทบนหิมะ เป็นต้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ North Safari
469-1 Toyotaki, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Sapporo โดยสารรถบัส Jotetsu ลงป้าย Toyotaki Shogakko ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นโดยสารรถชัทเทิลบัสลงป้าย North Safari ใช้เวลา 10 นาที
เวลาทำการ โซนสวนสัตว์
เดือนมกราคม-เดือนมีนาคม
10:00-16:00
เดือนพฤษภาคม-เดือนพฤศจิกายน
10:00-17:00 (วันธรรมดา)
09:00-17:00 (วันเสาร์-อาทิตย์)
*กรุณาเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
โซนแกลมปิ้ง
เช็คอิน 15:00-19:00
เช็คเอ้าท์ 11:00
วันหยุด โซนสวนสัตว์จะปิดให้บริการเดือนเมษายน และเดือนธันวาคม
ค่าใช้จ่าย โซนสวนสัตว์
ช่วงฤดูหนาว
ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 500 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ฟรี
ช่วงฤดูร้อน
ผู้ใหญ่ 1,800 เยน / เด็ก 600 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ฟรี
โซนแกลมปิ้ง
เข้าพัก 2 ท่าน ราคาประมาณ 14,300-28,600 เยน
เข้าพัก 3 ท่าน ราคาประมาณ 12,100-25,300 เยน
เข้าพัก 4 ท่าน ราคาประมาณ 9,900-22,000 เยน
*ราคาขึ้นอยู่กับประเภทที่พัก และช่วงเวลาที่เข้าพัก
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.north-safari.com/glamping
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://jozankei.jp/en/north-safari-sapporo/435
https://th.visit-hokkaido.jp/spot/detail.php?id=363&lang=th
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ

หุบเขาโจซังเค (Jozankei Valley), ฮอกไกโด (Hokkaido)

apr20_glaming_28
apr20_glaming_11

หุบเขาโจซังเค (Jozankei Valley) เป็นแหล่งอนเซ็นที่มีชื่อติดอันดับ และเป็นที่รู้จักสำหรับนักเดินทาง ย่านแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโร (Sapporo) ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนั้นต้นไม้โดยรอบก็จะเปลี่ยนสีทั่วทั้งบริเวณ ดูสวยงามตระการตาเหมาะแก่การมาถ่ายภาพ ย่านโจซังเค (Jozankei) มีแหล่งน้ำพุร้อน 56 แห่งซึ่งพ่นน้ำแร่อุณหภูมิ 60-80 ºC ปริมาณถึง 8,600 ลิตรทุกนาที การเปิดบ่อน้ำพุร้อนเกิดขึ้นตั้งแต่โบราณสมัยเริ่มต้นเมื่อครั้งที่พระธุดงค์สร้างโรงน้ำพุร้อนบำบัดขึ้นในปี ค.ศ.1866 และน้ำอนเซ็นของย่านโจซังเค (Jozankei) มีแร่ธาตุสูง ไม่มีสี และใสสะอาดเป็นอย่างมาก และยังเป็นย่านที่มีสถานที่ท่องเที่ยวซ่อนอยู่มากมาย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Jozankei Tourist Information Center
Higashi 3, Jozankei-onsen, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี JR Sapporo โดยสารรถบัส Jozankei Hot Springs Direct Bus Kappa Liner ลงป้าย Jozankei ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เวลาทำการ 09:00 – 17:00 น
วันหยุด 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://jozankei.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.japan.travel/en/spot/1934/
https://www.sapporo.travel/choose/keywords/one-day-driving-trips-to-jozankei/?lang=en
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.sapporo.travel/find/recreational/jozankei_onsen/?lang=th

สวนสาธารณะทาคิโนะ ซุซุรัน ฮิลล์ไซด์พาร์ค (Takino Suzuran Hillside Park), ฮอกไกโด (Hokkaido)

apr20_glaming_08
apr20_glaming_05

สวนสาธารณะแห่งเดียวในสังกัดของรัฐบาลในฮอกไกโด (Hokkaido) มีขนาดกว้างถึง 400 เฮกเตอร์ ตระการตาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งสวยงาม โดยเฉพาะทุ่งดอกทิวลิปหลากสีสันที่จะบานในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม นอกจากทุ่งดอกไม้ ที่นี่ยังมีโซนภูเขา ที่มีทั้งน้ำตก 3 แห่งและแม่น้ำลำธาร และยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่น รถไฟเหาะที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้สนุกทั้งครอบครัว ในฤดูหนาว สวนสาธารณะแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นลานหิมะทาคิโนะสโนว์เวิลด์ (Takino Snow World) ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมหิมะต่างๆ ได้ ตั้งแต่การเล่นสกี คอร์สเดินหิมะเป็นต้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Takino Suzuran Hillside Park
247 Takino, Minami-ku, Sapporo, Hokkaido
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Makomanai โดยสารรถบัส Chuo Bus ลงป้าย Suzurankoen Higashiguchi ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นเดินต่อ 5 นาที
เวลาทำการ 20 เมษายน – 31 พฤษภาคม 9:00 – 17:00 น.
01 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 9:00 – 18:00 น.
01 กันยายน – 10 พฤศจิกายน 9:00 – 17:00 น.
23 ธันวาคม – 31 มีนาคม 9:00 – 16:00 น.
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 450 เยน / เด็ก 210 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.takinopark.com
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.takinopark.com/?go=opening-period-and-admission-fee&lang=en
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/sapporo-park/
https://www.sapporo.travel/find/nature-and-parks/takino_suzuran_hillside_park/?lang=th

โทะวะ เพียว คอตเทจ (TOWA Pure Cottage), โทชิงิ (Tochigi)

apr20_glaming_18
apr20_glaming_19

โทะวะ เพียว คอตเทจ (TOWA Pure Cottage) เป็นโซนแกลมปิ้ง (Glamping) บนที่ราบสูงนาสุรีสอร์ท (Nasu Highland Resort) ในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) รายล้อมไปด้วยที่พักหลายรูปแบบ และสวนสนุก รวมถึงมีกิจกรรมกลางแจ้งมากมายให้ผู้เข้าพักได้สนุกทั้งครอบครัว
สำหรับโซนแกลมปิ้งจะประกอบไปด้วยที่พักนอนเต็นท์ 4 แบบ ได้แก่

  • เต็นท์โดมใส
  • เต็นท์โดมใส่แบบครึ่งเดียว
  • เต็นท์โดมปิด
  • เต็นท์กระโจม

ซึ่งการมาพักที่นี้สามารถเดินทางมาเข้าพักตัวเปล่าได้ เพราะแต่ละเต็นท์จะประกอบด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกเช่น ฟูกนอน โซฟา ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ไฟฟ้า ซึ่งจะถูกจัดสัดส่วนให้ลงตัวในความกะทัดรัด รวมถึงมีอุปกรณ์ และวัตถุดิบสำหรับทำปิ้งย่างในมื้อเย็นให้บริการ
ไฮไลท์ของแกลมปิ้งที่โทะวะ เพียว คอตเทจ (TOWA Pure Cottage) คือการนอนดูหมู่ดาวบนท้องฟ้า หรือฝูงหิ่งห้อยที่บินระยิบระยับในช่วงฤดูร้อนผ่านในเต๊นท์ได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปีนป่ายท้าความเสียวท่ามกลางป่าใหญ่ และบ่ออนเซ็นธรรมชาติสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลาย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ TOWA Pure Cottage
3375 Oaza Takakuotsu, Nasu, Nasu-gun, Tochigi
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Shinkansen ลงสถานี Nasushiobara ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นโดยสารรถชัทเทิลบัส ใช้เวลา 40 นาที
เวลาทำการ โซนแกลมปิ้ง
เช็คอิน 13:00-17:00
เช็คเอ้าท์ 10:00
โซนสวนสนุก
กรุณาเช็คที่เว็บไซต์
วันหยุด โซนสวนสนุก
กรุณาเช็คที่เว็บไซต์
ค่าใช้จ่าย โซนแกลมปิ้ง
เต็นท์โดมใสราคา 13,200 เยนขึ้นไป (ต่อท่าน)
เต็นท์โดมใสแบบครึ่งเดียวราคา 9,900 เยนขึ้นไป (ต่อท่าน)
เต็นท์โดมปิดราคา 13,200 เยนขึ้นไป (ต่อท่าน)
เต็นท์กระโจมราคา 5,500 เยนขึ้นไป (ต่อกระโจม)
*ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าพัก
โซนสวนสนุก
ผู้ใหญ่ 1,600 เยน / เด็ก 800 เยน / ผู้สูงอายุ (เกิน65ปี) 800เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.pure-cottages.jp/rooms/glamping
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.nasuhai.co.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ

นาสุ แอนนิมอล คิงดอม (Nasu Animal Kingdom), โทชิงิ (Tochigi)

nasu_animal_kingdom_06

© Nasu Animal Kingdom

nasu_garden_outletmall_06

© Nasu Animal Kingdom

สวนสัตว์นาสุ แอนนิมอล คิงดอม (Nasu Animal Kingdom) ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงนาสุ (Nasu Highland) ซึ่งรายล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม มีสัตว์นานาชนิดกว่า 150 สายพันธุ์ แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ได้แก่ โซน Kingdom Town ซึ่งเป็นโซนสัตว์เล็กอยู่ในร่ม มีสัตว์หลากหลายชนิด เช่น แพนด้าแดง หมีขอ แมวพัลลัส นาก เป็นต้น และโซน Kingdom Farm ซึ่งเป็นโซนเลี้ยงสัตว์แบบเปิด มีสัตว์น่ารักมากมาย เช่น คาปิบาระ อัลปาก้า ม้า แกะ จิงโจ้ กวางเรนเดียร์ เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและป้อนอาหารสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งชมการแสดงของสัตว์แสนรู้ต่างๆ

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Nasu Animal Kingdom
1042-1 Oshima, Nasu, Tochigi
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen ลงสถานี Nasushiobara ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นโดยสารรถชัทเทิลบัสใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
เวลาทำการ วันธรรมดา: 10:00 น. – 16: 30 น
วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุด: 9:00 น. – 17:00 น
*อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาเช็คอีกครั้งที่เว็บไซต์*
วันหยุด ทุกวันพุธ
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 2,400 เยน / เด็ก (อายุ 3ปี-ประถม) 1,000 เยน
*ราคาช่วงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 7 ธันวาคม 2020
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.nasu-oukoku.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.nasu-oukoku.com/contents/english2015.html
https://travel.tochigiji.or.jp/en/things-to-do/21/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

ที่ราบสูงนาสุ (Nasu kogen), โทชิงิ (Tochigi)

apr20_glaming_03
apr20_glaming_02

ที่ราบสูงนาสุ (Nasu kogen) มีลักษณะเป็นเนินที่มีความชันไม่มากด้วยระดับความสูงจากน้ำทะเลที่ 1,915 เมตร ตั้งอยู่ทางตอนหนือของจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) เป็นเมืองที่ถูกเรียกว่า “Royal Resort” เพราะที่นี่เป็นเมืองที่ราชวงศ์ของญี่ปุ่นเสด็จมาพักผ่อนเป็นประจำ เสน่ห์ของที่ราบสูงนาสุ (Nasu kogen) แห่งนี้คือความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกยามะซึซึจิ (Yamatsutsuji) ที่จะบานสวยในฤดูใบไม้ผลิ หรือ ชมสีของใบไม้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จึงทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับบ่อน้ำพุร้อนที่ใช้รักษาโรค อีกทั้งศูนย์กลางของที่ราบสูงนาสุยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร คาเฟ่ ที่จำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง รวมถึงงานฝีมือ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์, สวนสนุก Rindo, สวนสนุก Nasu Highland, Nasu Safari Park และฟาร์มอัลปาก้า เป็นต้น

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Nasu kogen
Yumoto, Nasu, Nasu District, Tochigi
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ Nasuno Shinkansen หรือรถไฟ Yamabiko Shinkanen ลงสถานี Nasushiobara ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
เวลาทำการ แต่ละสถานที่มีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกัน
วันหยุด แต่ละสถานที่มีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกัน
ค่าใช้จ่าย แต่ละสถานที่มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.nasukogen.org
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.nasukogen.org/common/images/pamphlet_new.pdf
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://magazine.jnto.go.jp/th/TH/special_tochigi04.html

อิซุ ชะโบะเต็น วิลเลจ แกลมปิ้ง (Izu Shaboten Glamping), ชิซุโอกะ (Shizuoka)

apr20_glaming_20
apr20_glaming_21

อิซุ ชะโบะเต็น วิลเลจ แกลมปิ้ง (Izu Shaboten Glamping) ที่ตั้งอยู่ติดกับสวนสัตว์อิซุ ชะโบะเต็น (Izu Shaboten Zoo) และรายล้อมด้วยธรรมชาติอย่างใกล้ชิดขนาดที่ว่าบางวันจะมีนกยูงจากสวนสัตว์ออกมาเดินเล่นอวดโฉมให้ผู้ที่มาพักได้เห็นระหว่างที่เข้าพัก เต๊นท์พักของที่นี่จะเป็นรูปแบบโดม มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งเครื่องปรับอากาศ โซฟา ตู้เย็น ด้านใน ตกแต่งแบบสไตล์ตะวันตกผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่น พร้อมทั้งมีห้องน้ำที่เชื่อมต่อกับตัวเต๊นท์ให้ความเป็นส่วนตัว ด้านนอกมีระเบียงสำหรับปิ้งย่างบาร์บีคิวกับเพื่อนหรือครอบครัว โดยจะเน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นแสนอร่อย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมาย สามารถเดินไปสวนสัตว์อิซุ ชะโบะเต็น (Izu Shaboten Zoo) ชมความน่ารักของสัตว์หายาก หรือสนุกไปกับกิจกรรมกลางแจ้งอย่างซิปไลน์ (Zip line) และชมไฟประดับในช่วงกลางคืนที่สวนอิซุแกรนพาล (Izu Granpal Park)

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Izu Shaboten Village Glamping
1317 Futo, Ito, Shizuoka
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Limited Express Odoriko ลงสถานี Izu Kogen ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถบัส Tokai Bus ลงที่ป้าย Shaboten Koen ใช้เวลา 20 นาที
เวลาทำการ เช็คอิน 15:00 – 20:00 น.
เช็คเอ้าท์ 10:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย 39,600 เยนขึ้นไป (2ท่านต่อ 1 ห้อง)
56,400 เยนขึ้นไป (3ท่านต่อ 1 ห้อง)
71,200 เยนขึ้นไป (4ท่านต่อ 1 ห้อง)
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://id-village.jp/glamping/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ

สวนสัตว์อิซุ ชะโบะเต็น (Izu Shaboten Zoo), ชิซุโอกะ (Shizuoka)

apr20_glaming_27
apr20_glaming_26

สวนสัตว์อิซุ ชะโบะเต็น (Izu Shaboten Zoo) สามารถใกล้ชิดกับสัตว์หลากชนิดได้ เช่น จิงโจ้ กระรอก และนกยูง ที่โด่งดังที่สุดเห็นจะเป็นคาปิบาร่า เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในตระกูลหนู มีขนาดใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ 80 เซนติเมตร เป็นสัตว์ที่ไม่ชอบอากาศหนาว โดยบรรดาคาปิบาร่าทั้งหลายมักจะพากันมาแช่น้ำร้อนเพื่อหนีหนาวอยู่เสมอ ภาพของเหล่าคาปิบาร่ากำลังแช่อยู่ใน “ยูซุยุ (Yuzu-yu)” บ่อน้ำร้อนที่ลอยด้วยผลส้มยูซุ และ “ฮะนะบุโระ (Hanaburo)” บ่อน้ำร้อนที่ลอยด้วยดอกไม้อย่างสบายอารมณ์ และยังมีบริการนั่งเรือชมการใช้ชีวิตของสัตว์ รอบเกาะทั้ง 9 อีกด้วย นอกจากจะมีสัตว์นานาชนิดให้ชมแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวบรวมพืชในตระกูลกระบองเพชร (Shaboten ในภาษาญี่ปุ่น) เอาไว้มากถึง 1,500 ชนิดสายพันธุ์จากทั่วโลก

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Izu Shaboten Zoo
1317-13 Futo, Ito, Shizuoka
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Limited Express Odoriko ลงสถานี Izu Kogen ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถบัส Tokai Bus ลงที่ป้าย Shaboten Koen ใช้เวลา 25 นาที
เวลาทำการ มีนาคม – ตุลาคม 9:00 – 17:00 น.
พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 9:00 – 16:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ และ เด็กมัธยมต้นขึ้นไป 2,400 เยน
เด็กประถม 1,200 เยน
เด็กเล็ก (4 ปีขึ้นไป) 400 เยน
ผู้สูงอายุ (70 ปีขึ้นไป) 2,000 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://izushaboten.com/lang/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://shizuoka-guide.com/english/detail/page/detail/3625
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://centrip-japan.com/th/spot/907.html

ชายฝั่งโจงะซะกิ (Jogasaki Coast), ชิซุโอกะ (Shizuoka)

apr20_glaming_06
apr20_glaming_12

ชายฝั่งโจงะซะกิ (Jogasaki Coast) เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟโอมุโระ (Mt. Omuro) เมื่อราว 4,000 ปีก่อน เป็นชายฝั่งที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองอิโต (Ito) ไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีความยาวกว่า 9 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมท้าทาย เพราะมีเส้นทางเดินป่าให้เลือกหลากหลายเส้นทาง และสามารถเดินไปยังบริเวณแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล ซึ่งถือเป็นจุดเด่นให้ได้เดินไปถ่ายรูป นั่งเล่น หรือตกปลา เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากบริเวณนั้นเป็นพื้นที่เปิดตามธรรมชาติ ไม่มีที่กั้น จุดเด่นอีกแห่งหนึ่งของที่นี่คือ สะพานแขวนคะโดะวะกิ (Kadowaki Suspension Bridge) อยู่เหนือทะเลขนาดความสูง 23 เมตร ความยาวของสะพาน 48 เมตร ที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างแนวชายฝั่งที่ยื่นออกไปในทะเล เป็นจุดที่สามารถชมวิวทะเลสวยๆ ในวันที่ฟ้าเปิดอากาศสดใสอีกด้วย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Jogasaki Coast
Futo, Ito, Shizuoka
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟ JR Tokaido Shinkansen kodama ลงสถานี Atami ใช้เวลา 45 นาที จากนั้นโดยสารไฟ JR Ito ลงสถานี Ito ใช้เวลา 25 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟสาย Izu Express Line ลงสถานี Jogasaki-kaigan ใช้เวลา 19 นาที จากนั้นโดยสารรถแท็กซี่ 10 นาที
เวลาทำการ
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://itospa.com/spot/detail_54002.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.japan.travel/en/spot/163/
http://shizuoka-guide.com/english/detail/page/detail/3615
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/eastern-izu/

แกลมป์ เอเลเม้นต์ (Glamp Element), ชิงะ (Shiga)

apr20_glaming_22
apr20_glaming_23

แกลมป์ เอเลเม้นต์ (Glamp Element) เป็นลานแกลมปิ้งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางตอนเหนือของทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) และรายล้อมด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติอันเขียวขจี ตกแต่งให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ตามธาตุแห่งชีวิตได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยใช้โทนสีที่ปรับให้เข้ากับธรรมชาติ ที่พักมีให้เลือก 4 แบบ ทั้งเต็นท์นอนทรงต่างๆ และบ้านพักแบบวิลล่า ซึ่งมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้เข้าพักเช่น เตียง ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศเป็นต้น นอกจากจะตอบโจทย์ด้านการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว ที่แกลมป์ เอเลเม้นต์ (Glamp Element) ยังตั้งอยู่บนทำเลที่มีทั้งทะเลสาบส่วนตัว ป่าไม้ สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้มากมาย ฤดูร้อนสามารถเพลิดเพลินไปกับกีฬาทางน้ำได้เช่น พายเรือแคนนู ไดร์ฟกอล์ฟ รวมถึงผ่อนคลายกับการแช่อนเซ็นธรรมชาติได้เช่นกัน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Glamp element
60-1 Ikeshita, Maibara, Shiga
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ JR Special Rapid Service ลงสถานี Maibara ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 23 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ JR Tokaido ลงสถานี Ominagaoka ใช้เวลา 9 นาที จากนั้นโดยสาร Free Shuttle Bus ใช้เวลา 10 นาที
เวลาทำการ เช็คอิน 15:00 น. เป็นต้นไป
เช็คเอ้าท์ 11:00 น.
ค่าใช้จ่าย ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของที่พัก และช่วงเวลาที่เข้าพัก
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.glamp-element.jp
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.shiga.love/en/glamp-element/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ

แหลมไคซุ โอซากิ (Kaizu Osaki), ชิงะ (Shiga)

apr20_glaming_13
apr20_glaming_07

แหลมไคซุ โอซากิ (Kaizu Osaki) เมืองทากาชิมะ (Takashima) จังหวัดชิงะ (Shiga) เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ยอดนิยมสำหรับชมดอกซากุระ ด้วยต้นซากุระกว่า 800 ต้น ที่เรียงรายเป็นทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ทำให้เกิดเป็นอุโมงค์ซากุระที่สวยงาม ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ล่องเรือชมทะเลสาบ พายเรือแคนนู หรือเช่าจักรยานปั่นรอบทะเลสาบไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางมาชมซากุระคือช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน และเปิดให้ชมซากุระอย่างจุใจตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kaizu Osaki
Makinocho Kaizu, Takashima, Shiga
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ JR Special Rapid Service ลงสถานี Makino ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที จากนั้น โดยสารรถแท็กซี่ 10 นาที
เวลาทำการ ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.biwako-visitors.jp/spot/detail/869
https://takashima-kanko.jp/sakura/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.japan.travel/en/spot/1053/
https://en.biwako-visitors.jp/spot/detail/307
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/spring2018/sakura/kansai-kinki.html

เมืองนะงะฮะมะ (Nagahama City), ชิงะ (Shiga)

apr20_glaming_15
apr20_glaming_14

เมืองนะงะฮะมะ (Nagahama City) เป็นเมืองปราสาทตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ทางทิศเหนือ ก่อสร้างโดยเจ้าเมืองโทะโยะโทะมิ ฮิเดะโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) มีแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์คือ ย่านคุโรคะเบะสแควร์ (Kurokabe Square) รายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่แต่ยังคงความสวยด้วยสไตล์เรโทรโมเดิรน์ ตลอดสองข้างทาง และเป็นย่านที่เต็มไปด้วยเครื่องแก้วหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ สามารถเพลิดเพลิดกับการทดลองทำเครื่องแก้ว หรือชมผลงานศิลปะเครื่องแก้วอันสวยงามที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเครื่องแก้วได้ที่คุโระคะเบะ (Kurokabe Glass Shop) ที่เดิมทีเคยเป็นธนาคารคุโระคะเบะ (Kurokabe Bank) และได้นำมาดัดแปลงเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และนอกจานี้ยังมีมีพิพิธภัณฑ์ อาคารร้านรวงเก่าแก่ ร้านขายสินค้าเสื้อผ้า อาร์ตแกลเลอรี่ ร้านอาหาร และคาเฟ่เก๋ๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่ดัดแปลงมาจากอาคารบ้านเรือนเก่ามากมาย

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kurokabe Glass Shop
12-38, Motohama-cho, Nagahama-shi, Shiga
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ JR Special Rapid ลงสถานี Nagahama ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
เวลาทำการ 10:00 – 18:00 น.
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.kurokabe.co.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.japan.travel/en/spot/2204/
https://en.biwako-visitors.jp/spot/detail/248
https://kitabiwako.jp/en/travel_guide
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/lake-biwa/#Kurokabe-Square

โคะโมะเระบิ (COMOREBI), โออิตะ (Oita)

apr20_glaming_24
apr20_glaming_25

โคะโมะเระบิ (COMOREBI) ลานแกลมปิ้งในเมืองยุฟุ (Yufu) ที่ผสมผสานระหว่างกิจกรรมกลางแจ้งที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ รวมเข้ากับความสะดวกสบาย และทันสมัยของที่พักระดับโรงแรมชั้นเลิศสไตล์ยุโรป มีที่พักให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ทั้งแบบเต็นท์โดม และห้องพักกระจกใสที่สามารถมองเห็นธรรมชาติแบบ 360 องศาอย่างใกล้ชิด ภายในเต็นท์กว้างขวาง และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันราวกับใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน และพื้นที่สำหรับปิ้งย่างให้ผู้เข้าพักได้สนุกไปกับการทำอาหารด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารฝรั่งเศสไว้บริการด้วย
เนื่องจากจังหวัดโออิตะ (Oita) เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของบ่ออนเซ็นมากที่สุด จึงทำให้ลานแกลมปิ้งแห่งนี้มีบ่ออนเซ็นที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยงาม และนิ่มนวล ด้วยค่า pH ของน้ำที่พอเหมาะ และแร่ธาตุอื่นๆ รวมถึงยังช่วยผ่อนคลายอาหารเมื่อยล้าอีกด้วยเช่นกัน

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ COMOREBI
105 Hasamamachi Tokimatsu, Yufu, Oita
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Oita โดยสารรถไฟ JR Kyudai ลงสถานี Mukainoharu ใช้เวลา 20 นาที จากนั้นโดยสารรถแท็กซี่ 15 นาที
เวลาทำการ เช็คอิน 16:00 – 19:00 น.
เช็คเอ้าท์ 10:00 น.
ค่าใช้จ่าย ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของที่พัก และช่วงเวลาที่เข้าพัก
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://comorebi-camp.jp
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

สถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ

สวนสนุกคิจิมะโคเก็น พาร์ค (Kijima Kogen Park), โออิตะ (Oita)

apr20_glaming_park_01
apr20_glaming_park_02

สวนสนุกคิจิมะโคเก็น พาร์ค ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างภูเขาในเมืองเบปปุ (Beppu) จังหวัดโออิตะ (Oita) สวนสนุกแห่งนี้มีจุดเด่นคือทำเลที่ตั้งท่ามกลางภูเขาและธรรมชาติแวดล้อมที่งดงาม และเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์อย่าง จูปิเตอร์ (Jupiter) รถไฟเหาะตีลังกาที่สร้างขึ้นจากไม้เครื่องแรกในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมมากจากผู้ที่เดินทางมาเที่ยวสวนสนุกแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ อีกทั้งยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมายสำหรับผู้ชื่นชอบความตื่นเต้นเร้าใจ เช่น เวฟ สวิงเกอร์ (WAVE SWINGER) ที่เป็นเก้าอี้คล้ายชิงช้า พอเริ่มเล่นเก้าอี้ที่นั่งอยู่ก็จะถูกดึงสูงขึ้นไป ตามแรงเหวี่ยงที่แรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นทิศทางแบบวงกลม หรือหากชอบความตื่นเต้นเหมือนเล่นบันจี้จัมพ์ ก็มีเครื่องเล่นชื่อ เบิร์ดแมน (Bird Man) ที่จะค่อยๆ ยกตัวผู้เล่นให้สูงขึ้นจนพอใจแล้วปลดสายคาดเองเพื่อให้ดิ่งทะยานลงมา

นอกเหนือจากได้สนุกกับเครื่องเล่นมากมาย ยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติสวยๆ เช่น วิวของภูเขายุฟุดะเกะ (Mt.Yufudake) ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากภายในสวนสนุก หรือเมื่อถึงยามค่ำคืนก็จะสว่างไสวไปด้วยไฟประดับสวยงาม เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนกันทั้งครอบครัว

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Kijima Kogen Park
123 Kijima Kogen, Beppu, Oita
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ LTD. EXP SONIC ลงสถานี Beppu ใช้เวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถบัสไปลงที่ป้าย  Kijima Kogen Park ใช้เวลา 25 นาที
เวลาทำการ 9:00 – 17:00 น.
*ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
ค่าใช้จ่าย ค่าเข้า พร้อมเครื่องเล่น
ผู้ใหญ่ 4,500 เยน / เด็ก 3,600 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.kijimakogen-park.jp
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.discover-oita.com/en/japan-attractions/kijima-kogen-amusement-park
http://english.beppu-navi.jp/item/247
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)

เบปปุ จิโกะคุ อนเซ็น (Beppu Jigoku), โออิตะ (Oita)

apr20_glaming_10
apr20_glaming_09

บ่อน้ำร้อนจิโกะคุ (Jigoku) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ บ่อนรกน้ำพุร้อนทั้งแปด ที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ โดย 6 บ่ออยู่ในเขตคันนะวะ (Kannawa) และอีก 2 บ่ออยู่ในเขตชิบะเซะกิ (Shibaseki) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก โดยบ่อที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุถึงราว 1,300 ปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเบปปุ (Beppu) แต่ละบ่อจะมีสีของน้ำและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่พลาดชมไม่ได้ ได้แก่

  • บ่ออุมิ จิโกะคุ (Umi Jigoku) เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดและมีความร้อนถึง 98 องศา น้ำเป็นสีน้ำเงินโคบอลต์ เพราะมีการละลายของซัลเฟต เป็นบ่อที่ได้รับความนิยมมาก รอบๆ มีสวนสวยงามและมีศาลาแช่เท้าใกล้ๆ
  • บ่อชิโนะเกะ จิโกะคุ (Chinoke Jigoku) เป็นบ่อโคลนสีแดงที่เกิดจากปฏิกิริยาความร้อนของเหล็กออกไซด์กับแมกนีเซียมในชั้นใต้ดินรวมกันปะทุออกมาเป็นโคลนสีแดง ทำให้น้ำในบ่อเกลายเป็นสีแดงไปด้วย เป็นต้น
  • บ่อโอะนิอิชิโบซุ จิโกะคุ (Oniishibozu Jigoku) มีลักษณะเป็นโคลนเดือดปุดๆตลอดเวลา ประกอบด้วยบ่อย่อยๆ 2-3 บ่อ
  • บ่อยะมะ จิโกะคุ (Yama Jigoku) บ่อน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากโขดหิน และยังมีสวนสัตว์ย่อมๆ ซึ่งมีทั้งนกฟลามิงโก ฮิปโป นกยูง และอื่นๆ ให้ชมอีกด้วย
  • บ่อคะมะโด จิโกะคุ (Kamado Jigoku) บ่อนี้คือยักษ์สีฟ้า เรียกว่าเป็น บ่อกระทะทองแดง ด้านในมีจุดแช่เท้าเช่นกัน
  • บ่อโอะนิยะมะ จิโกะคุ (Oniyama Jigoku) มีจุดเด่นตรงที่ความร้อนสูงถึง 99.1 องศา และยังมีจระเข้นับสิบตัวให้เข้าชมได้ด้วย
  • บ่อชิไรเคะ จิโกะคุ (Shiraike Jigoku) น้ำในบ่อมีสีขาวขุ่น บริเวณรอบบ่อตกแต่งด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่น มีศาลาให้พักชมความงามของสวน
  • บ่อชิโนกิเคะ จิโกะคุ (Chinoike Jigoku) อยู่ในเขตชิบะเซะกิ เป็นบ่อนรกที่มีสีแดงฉานเหมือนเลือด มีเส้นทางให้เดินชมธรรมชาติ
  • บ่อทะทรึมะคะ จิโกะคุ (Tatsumaki Jigoku) อยู่ในเขตชิบะเซะกิ ทุกๆ 30 – 40 นาที บ่อน้ำพุจะพุ่งขึ้นมาเพียง 1 ครั้งเป็นเวลา 6 – 10 นาที

รายละเอียดสถานที่เพิ่มเติม

ที่อยู่ Beppu
Beppu-shi, Oita
แผนที่
การเดินทาง จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ LTD. EXP SONIC ลงสถานี Beppu ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
จากสถานี Beppu สามารถเดินเที่ยว 6 บ่อ และอีก 2 บ่อที่อยู่คนล่ะย่านนั้นต่อรถบัส หรือรถแท็กซี่
เวลาทำการ 8:00 – 17:00 น.
วันหยุด
ค่าใช้จ่าย
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.beppu-jigoku.com/index.html
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.visit-kyushu.com/en/spots/beppu-onsen/
https://www.japan.travel/en/spot/713/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://th.visit-oita.jp/files/th/Book/0/Book_47_file.pdf
จดหมายข่าวอื่นๆ