ตามหาความแปลกใหม่ ที่ใครหลายคนยังไม่เคยไป ในเส้นทางซันโยซันอิน : วันที่ 4 ชิมะเนะ (Shimane)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอะดะจิ (Adachi Museum of Art)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอะดะจิ (Adachi Art Museum) ก่อตั้งโดย เซงโกะ อะดะจิ (Zenko Adachi) ภายในมีสวนที่ออกแบบตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างงดงาม จนได้รับรางวัลสวนที่มีความสวยงามและยอดเยี่ยมที่สุดจากนิตยสารชื่อดังเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา ซึ่งในแต่ละฤดูกาลความสวยงามจะแตกต่างกันออกไป ทำให้สามารถเข้าชมสวนได้ตลอดปี   นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์อะดะจิยังสะสมภาพวาดอันทรงคุณค่าตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 รวมแล้วกว่า 1,300 ชิ้น จัดแสดงหมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล และมีส่วนที่เป็นนิทรรศการถาวรเช่นกัน

แนะนำสวนในพิพิธภัณฑ์ศิลปะอะดะจิ (Adachi Art Museum)
สวนมอส สไตล์เกียวโต เด่นที่ต้นสนแดงซึ่งปลูกในแนวเฉียง มีต้นมอสเกาะตามผนังแบบนามาโกะ คาเบะ ซึ่งเป็นการก่อสร้างแบบญี่ปุ่นโบราณ
สวนหินญี่ปุ่น หินและกรวดสีขาวแต่ละก้อนแฝงด้วยปรัชญาล้ำลึก ด้านหลังมีเขาคัทสึยามะเป็นฉากหลัง
สวนจูริวอัน เด่นในการชมใบไม้แดงที่สวยที่สุด ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม
สวนสระน้ำ มีสระพานทอดข้ามสระซึ่งออกแบบให้ทุกตำแหน่งสามารถมองสวนได้ทุกทิศทาง ส่วนสระน้ำก็เต็มไปด้วยปลาคาร์พสีสวยงาม
สวนต้นสนและกรวดขาว จุดเด่นคือต้นสนดำสลับกับพุ่มดอกอะซาเลีย มีหินกรวดขาวถูกจัดวางอยุ่ด้านหน้า
น้ำตกคิคาคุ โนะ ทากิ เป็นน้ำตกจำลองที่มีความสูง 15 เมตร

ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle)

ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) มีตัวปราสาทที่เน้นสีโทนดำจึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า  “ปราสาทดำ”  เป็น 1 ใน 12 ปราสาทที่มีหอคอยปราสาทหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น และถูกเลือกให้เป็นสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ปราสาทมัตสึเอะเป็นปราสาท 6 ชั้น สร้างโดยขุนนางในท้องถิ่น โยะชิฮะรุ โฮะริโอะ  (Horio Yoshiharu) มีลักษณะพิเศษของปราสาทในสมัยอัทซึจิโมะโมะยะมะ แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1611 ภายในตัวอาคารหลักเป็นพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์แล็ฟคาดิโอ เฮิร์น (Lafcadio Hearn) บ้านพักของ Yakumo Koizumi และบ้านพักซามูไร ทางทิศเหนือของปราสาทเป็นที่ตั้งบ้านพักของแล็ฟคาดิโอ เฮิร์น และหมู่บ้านซามูไร รอบปราสาทบริเวณคูน้ำสามารถล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้อีกด้วย

ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Shrine)

ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Shrine) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาชินโต ตั้งอยู่เมืองอิสุโมะ (Izumo) สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งความสุขและการสมรส (Okuninushi-no-mikoto) ศาลเจ้าอิซุโมะมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความรักและการหาคู่ครอง มีความเชื่อว่าถ้าโยนเหรียญให้เข้าไปติดในชิเมะนาวะ (Shimenawa) หรือฟางศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 13 เมตร หนักถึง 5 ตัน ได้สำเร็จพรที่ขอกับทางศาลเจ้าจะเป็นจริง รวมทั้งจะได้รับความคุ้มครองจากเทพเจ้าทั้งหลายอีกด้วย  ศาลเจ้าแห่งนี้ยังได้ชื่อว่ามีสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ 1952

พิพิธภัณฑ์อิสุโมะยุคโบราณ (Shimane Museum of Ancient Izumo)

พิพิธภัณฑ์อิสุโมะยุคโบราณ (Shimane Museum of Ancient Izumo) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นบริเวณด้านหลังศาลเจ้าอิสุโมะไทชะ จัดแสดงของเก่าแก่โบราณในยุคยะโยะอิ (Yayoi) ที่พบจาก Kojindani (ในเมืองอิสุโมะ) และ Kamoiwakura (ในเมืองอุนนัน) เช่น อาวุธ ดาบ โล่  ปลายหอก และโลหะในยุคแรกๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของจังหวัดชิมะเนะอีกด้วย และที่สะดุดตาที่สุดในพิพิธภัณฑ์คือตอไม้ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ขุดพบบริเวณศาลเจ้าอิสุโมะไทชะเมื่อระหว่างปี ค.ศ. 2000-2001 ในสภาพที่สมบูรณ์มากจนทำให้ง่ายต่อการสืบค้นประวัติศาสตร์ โดยตอไม้นี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร เป็นเสาค้ำยันหลังคาที่มีความสูงจากพื้นมาก ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีภาพเขียนและงานศิลปะที่เกี่ยวกับตำนานอิสุโมะและความเชื่อของอิสุโมะอีกด้วย

ศาลเจ้าเบนเท็นจิมะและหาดอินะสะ (Bentenjima and Inasa Beach)

ศาลเจ้าเบนเท็นจิมะและหาดอินะสะ (Bentenjima and Inasa Beach) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของศาลเจ้าอิสุโมะไทชะ บริเวณชายหาดขนาดเล็กที่เรียกว่าอินะสะ มีโขดหินเพียงหนึ่งเดียวตั้งอยู่ และใกล้กันมีศาลเจ้าเล็กๆ ที่เรียกว่าเบนเท็นจิมะ สร้างขึ้นเพื่อบูชาบุตรสาวของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เชื่อกันว่าเทพเจ้า Yatsu-kami-zu-omizunu ได้ใช้เชือกผูกติดกับโขดหินนั้นแล้วดึงขึ้นมาจนเกิดเป็นหาดอินะสะที่เห็นกันในทุกวันนี้

ทะมะทสึคุริอนเซ็น (Tamatsukuri Onsen)

ทะมะทสึคุริอนเซ็น (Tamatsukuri Onsen) แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงและเป็นรีสอร์ทอนเซ็นแห่งแรกในชิมะเนะ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มาตั้งแต่ยุคนารา (ราวปี ค.ศ. 720-794) ปรากฎครั้งแรกในหนังสือโบราณตำนานของเมือง Izumo ที่ถูกเขียนขึ้นเมื่อกว่า 1,300 ปีที่แล้ว กล่าวไว้ว่า “น้ำของบ่อน้ำร้อนจะทำให้ผิวของท่านชุ่มชื้นตั้งแต่การดูดซึมครั้งแรกและโรคภัยจะถูกรักษาให้หายในการดูดซับครั้งที่สอง” ผู้คนจึงมักเรียกว่า “บ่อน้ำร้อนของเทพเจ้า” อนเซ็นแห่งนี้มีทำเลที่ติดกับทะเลสาบชินจิ โดยมีแม่น้ำทะมะยุไหลผ่าน ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

พักในเมืองทะมะทสึคุริอนเซ็น (Tamatsukuri Onsen)

*แผนการเดินทางเสริม*

สวนนกมัตสึเอะ (Matsue Vogel Park)

สวนนกมัตสึเอะ (Matsue Vogel Park) ภายในมีทั้งสวนนกและสวนดอกไม้เรือนกระจกจัดตกแต่งย่างสวยงาม ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับความงามอย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังมีนกนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นนกกระยาง นกแก้ว นกอีมู หรือนกเพนกวิน โดยนักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารนกได้อย่างเพลินใจ บริเวณบึงขนาดใหญ่จะได้พบกับเป็ด ห่าน หงส์ และนกน้ำหลากชนิด ส่วนโซนกลางแจ้งจะใช้แสดงโชว์การฝึกเหยี่ยว นกอินทรี และนกฮูก นอกจากนี้ภายในสวนยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของทะเลสาบชิจิสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว

ทะเลสาบชินจิ (Shinji Lake)

ทะเลสาบชินจิ (Shinji Lake) ทะเลสาบชินจิเป็นทะเลสาบน้ำกร่อย ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของญี่ปุ่น มีความกว้างถึง 45 กิโลเมตร และมีชื่อเสียงในการเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม จนถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ที่มีพระอาทิตย์ตกสวยงามที่สุด ยามอาทิตย์ลับขอบฟ้ายิ่งทำให้เกาะโยะเมะงะชิมะ ( Yomegashima IsLand) ดูเหมือนลอยอยู่ในทะเลสาบ จุดชมวิวจากสะพาน Shinji-ko-Ohashi เป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับชมความงดงาม นอกจากนี้อาจเลือกเปลี่ยนบรรยากาศโดยการนั่งเรือดูทิวทัศน์กลางทะเลสาบได้เช่นกัน สำหรับช่วงหน้าร้อนจะมีการจัดงานเทศกาล Matsue Sugosai Festival เพื่อชมความงามของทะเลสาบและเฉลิมฉลองเมืองแห่งน้ำ

หมู่เกาะโอกิ (Oki Islands) ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของคาบสมุทรชิมาเนะ 50 กิโลเมตร เป็นอุทยานที่ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในอุทยานธรณีของโลก ถือเป็นเกาะที่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ จุดชมวิวที่งดงามที่สุดคือบริเวณชายฝั่งคุนิงะบนเกาะนิชิโนะชิมะที่มีความสูง 257 เมตร สามารถมาสัมผัสธรรมชาติได้หลากหลาย เช่น ชมการทำปศุสัตว์เลี้ยงม้าและวัวแบบเปิดบนที่ราบของเกาะ ล่องเรือชมเกาะแก่งและถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติ หรือดำน้ำดูความงามใต้ทะเล