ท่องเที่ยวแบบเจาะลึกเมืองหลวงเก่าในภูมิภาคคันไซ โอซาก้า เกียวโต นารา และโกเบ : วันที่ 5 เกียวโต (Kyoto)

ท่องเที่ยวไปยังเมืองเกียวโต เมืองเก่าที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ด้วยศิลปะและวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ ขอแนะนำเมืองอุจิ (Uji) เมืองเล็กแต่มากด้วยประวัติศาสตร์ และมีความสำคัญแห่งหนึ่ง ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งผลิตชาเขียวอุจิ (Uji matcha) ที่ถูกเลือกใช้เป็นส่วนผสมของขนมอร่อยมากมาย บริเวณแม่น้ำUji ที่มีการโชว์วิธีการจับปลาแบบโบราณโดยชาวประมงญี่ปุ่นใช้นกกาน้ำจับปลาอะยุ โดยวิธีนี้เป็นการจับแบบดั้งเดิมที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 1,000 กว่าปี แวะสักการะวัดเบียวโดอิน (Byodo-in) และที่พลาดไม่ได้คือ การชิมโซบะที่ทำจากชาเขียว
สักการะวัดเบียวโดอิน (Byodo-in Temple) เป็นวัดที่ปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1052 เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระพุทธรูปไม้แกะสลักประทับบนดอกบัว ที่มีความละเอียดและงดงามมาก ภาพของวัดที่สะท้อนบนผิวน้ำเป็นภาพที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมด้วยตาตัวเอง วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อค.ศ.1994 ระหว่างทางเดินไปยังวัด จะพบกับที่ถนนสายชาเขียวเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ขึ้นชื่อของเมืองอุจิ (Uji) อย่างโซบะชาเขียว (Uji Matcha Soba) และซอฟต์ครีมชาเขียว (Uji Matcha Softcream)

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ ที่ชาวญี่ปุ่นนับถือมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยถือเป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ที่สุดของบรรดาศาลเจ้าอินาริทั้งหมดในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงโด่งดัง จากแนวเสาประตูโทริอิ (Torii) สีแดงที่เรียงตัวกันด้านหลังศาลนับหมื่นต้น เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้น ไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ถ้าตั้งใจเดินตลอดอุโมงค์โทริอิรอบเขานี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว และสถานที่นี้ยังปรากฏในภาพยนตร์ดังเรื่องนางโลมโลกจารึก (Memoirs of a Geisha)

วัดคิโยมิสุ (Kiyomizu Dera) เป็นที่รู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส ตั้งอยู่ที่เชิงเขาเขตฮิกาชิยามะ โอโตวะด้านทิศตะวันออกของเมืองเกียวโต มีอายุมากกว่า 1,000 ปีสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 778 ที่มาของชื่อวัดคิโยมิสึเดระ ได้มาจากน้ำพุธรรมชาติที่ไหลมาจากเขาโอโตวะที่มีความใส บริสุทธิ์และเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นจุดชมซากุระและชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของเกียวโตอีกที่หนึ่ง ด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณที่สามารถสร้างวัดที่ใหญ่โตมากขนาดนี้โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ทำให้ยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก เมื่อปีค.ศ.1994 นอกจากนี้ระหว่างทางเดินไปยังวัด จะมีถนนสายฮิกาชิยะมะ (Higashiyama) ที่มีร้านค้าและร้านอาหารมากมายในบรรยากาศเมืองเก่า

ย่านชังโจ-ชิโจ (Sanjo-Shijo) , จังหวัดเกียวโต (Kyoto)

ย่านชังโจ-ชิโจ (Sanjo-Shijo) เป็นย่านขนาดใหญ่ เน้นความบันเทิงของเกียวโต น่านนั้นมีถนนคนเดินที่สามารถช้อปปิ้งใจกลางเกียวโตจะมีอยู่ 2 เส้นหลักๆ คือ ชินเคียวโกกุ (Shinkyogoku) กับ เทะระมะชิ (Teramachi) ที่อยู่ขนานกัน เป็นตรอกเล็กๆอยู่บนถนนชิโจ โดริ (Shijo Dori) ภายในบริเวณนั้นมีสินค้าขายอยู่มากมายตั้งแต่ของที่ระลึก เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของกิน ขนม ร้านอาหาร คาเฟ่ หนังสือ รวมถึงศาลเจ้า และห้างใหญ่ๆหลายเครือก็รวมตัวกันมีทั้งช้อปปิ้งอาเขต และห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่าง Marui และ Takashimaya ซึ่งเดินไปไม่ไกลนักยังมีตลาดนิชิกิ (Nishiki) ที่เป็ตลาดนัดอาหารสดขนาดใหญ่ที่มีทั้งอาหารและขนมพื้นเมืองให้เลือกมากมาย เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 400 ปี เจ้าของฉายา “ ห้องครัวแห่งเกียวโต ”

หอคอยเกียวโต (Kyoto Tower), จังหวัดเกียวโต (Kyoto)

หอคอยเกียวโต (Kyoto Tower) สร้างเสร็จในปีค.ศ. 1964 มีความสูง 131 เมตร เป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุด และอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเกียวโต ที่อยู่ตรงข้ามกับสถานีเกียวโต ชั้นล่างของเกียวโต ทาวเวอร์เป็นโรงแรม Kyoto tower Hotel ส่วนด้านบนเป็นจุดชมวิว (observation deck) แบบ 360 องศาที่จุดชมวิวบนความสูง 100 เมตร

พักในเมืองโอซาก้า (Osaka)