สูดกลิ่นอายธรรมชาติท่ามกลางหมู่บ้านโบราณ ทิวทัศน์ของบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่หาชมได้ยาก ควรค่ากับการแวะเวียนมาชม

หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็ก ๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) เกียวโต (Kyoto) ลักษณะของบ้านเรือนเป็นหลังคาทรงสูงและมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ (Kaya) ซึ่งเรียกรูปแบบหลังคานี้ว่าคายาบุกิ (Kayabuki) นั่นเอง มีบ้านอยู่ 50 หลัง โดย 38 หลังคงโครงสร้างแบบดั้งเดิมที่สร้างขึ้นเมื่อราวเกือบ 200 ปีมาแล้วไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งคนในเกียวโตเรียกบ้านแบบนี้ว่าแบบคิตายามะ (Kitayama Style Farmhouse) ด้านหน้าหมู่บ้านเป็นทุ่งดอกโซบะ (Soba) สีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณโดยมีบ้านคายาบุกิเป็นฉากหลังที่งดงาม อีกทั้งยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลที่ผลัดกันชูช่อสวย ๆ ตลอดทั้งปี เมื่อเดินเข้ามาถึงทางเข้าหมู่บ้านก็จะเห็นตู้ไปรษณีย์สีแดงเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่น ทางเดินในหมู่บ้านที่กว้างราว 5 เมตรมีฝาท่อระบายน้ำลวดลายปลาคู่ตรงกลางถนน และยังมีแม่น้ำยุระ (Yura) ที่ไหลลงจากหุบเขาทอดโค้งผ่านหน้าหมู่บ้านซึ่งคนนิยมมาตั้งแคมป์กันในช่วงฤดูร้อน

ภายในหมู่บ้านเป็นบ้านที่ใช้อยู่อาศัยจริง มีเรือกสวนไร่นาและแปลงผักต่าง ๆ ที่ปลูกไว้รับประทานเอง มีบ้าน 2 หลังเปิดเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ คือบ้านมาตาเบะ (Matabe) และบ้านฮิซายะ (Hisaya) บ้านบางหลังรีโนเวททำเป็นคาเฟ่น่านั่ง เช่นคาเฟ่ไซกะ (Café Saika) สไตล์ญี่ปุ่นที่นั่งพื้นและมีโต๊ะญี่ปุ่นกับเบาะรองนั่ง เมนูแนะนำจะเป็นชีสเค้กมิยามะและไดฟุกุไส้ถั่วดำ คาเฟ่มิลัน (Milan) ซึ่งชื่อ Milan ของคาเฟ่นั้นพ้องเสียงกับคำญี่ปุ่นที่มีความหมายว่าไข่งาม ที่นี่จึงมีเมนูที่ทำจากไข่หลายอย่าง ไอศกรีมมิยามะและพุดดิ้งไข่สูตรเฉพาะเป็นเมนูเด็ดของคาเฟ่มิลัน นอกจากขนมแล้วก็ยังมีโปสการ์ด ของที่ระลึกน่ารัก ๆ และไข่ไก่สดจากฟาร์มวางจำหน่าย

นอกจากนี้ ยังมีศาลเจ้าคามาคุระ (Kamakura Shrine) ศาลเจ้าเล็ก ๆ บนยอดเขาที่สามารถขึ้นไปขอพรและชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านในมุมสูงได้ และศาลเจ้าจิอิฮะจิมัง (Chii Hachiman Shrine) ที่เป็นศาลเจ้าหลักของที่นี่ซึ่งเชื่อกันว่ามีพลังปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและนำความสุขมาให้ และหากต้องการศึกษาประวัติความเป็นมาของคายาบุกิโนะซาโตะเพิ่มเติมก็มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน (Kayabuki no Sato Folk Museum) ที่นำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์และจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องใช้ในสมัยโบราณให้ได้ชม ปิดท้ายด้วยของขึ้นชื่อของหมู่บ้านซึ่งก็คือไข่ไก่และถั่วดำซึ่งเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นที่ร้านอาหารกับคาเฟ่นำไปใช้ทำเมนูสูตรพิเศษของตัวเอง สามารถซื้อหากลับไปเป็นของฝากที่ไม่เหมือนใครได้ด้วย

ค่าที่พัก

1. บ้านมาตาเบะ (Matabe)
ราคา 9,900 เยน / ผู้ใหญ่ 1 คน / 1 คืน
รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น
ห้องแบบญี่ปุ่น 3 ห้อง (พักได้ 14 คน / แบบเหมาห้อง)
ติดต่อสำรองห้องพัก 0771-77-0258 หรือจองผ่านเว็บไซต์
(ที่พักเปิดให้บริการตามปกติ / มื้อกลางวันปิดให้บริการในขณะนี้)

2. บ้านฮิซายะ (Hisaya)
ราคา 13,200 – 16,500 เยน / ผู้ใหญ่ 1 คน / 1 คืน
รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น
ห้องแบบญี่ปุ่น 3 ห้อง (พักได้ 10 คน / แบบเหมาห้อง)
ติดต่อสำรองห้องพัก 0771-77-0550(ขณะนี้อยู่ระหว่างหยุดให้บริการ)

หมายเหตุ : พิพิธภัณฑ์ The Little Indigo Museum ปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2021 – 28 กุมภาพันธ์ 2022

(ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม ปี 2022)