อาหารท้องถิ่นของคันไซ (Kansai) หรือคิงกิ (Kinki)

ฟุนะซูชิ (Funazushi), ชิงะ (Shiga)

ฟุนะซูชิ (Funazushi) อาหารท้องถิ่นจานเด่นของจังหวัดชิงะ (Shiga) ทำโดยการนำวัตถุดิบหลักอย่างปลาน้ำจืดอย่างฟุนะ (Funa) มาผ่านกรรมวิธีการหมักในรูปแบบนะเระซูชิ (Narezushi) หรือการนำปลามาหมักกับเกลือและข้าวสวย ให้รสเปรี้ยวแหลมและมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ จนบางตำรากล่าวว่าเมนูนี้เป็นต้นกำเนิดของซูชิเลยทีเดียว

บริเวณรอบๆ ทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ในจังหวัดชิงะ (Shiga) มีร้านอาหารที่ขายฟุนะซูชิ (Funazushi) อยู่หลายร้าน การจะทานฟุนะซูชิให้อร่อยนั้น แนะนำว่าให้ค่อยๆ ทานทีละน้อยพร้อมกับจิบเหล้าไปด้วยจะอร่อยยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่อยากลิ้มลองซูชิแปลกๆ แล้วยิ่งไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

เทะมะริซูชิ (Temarizushi), เกียวโต (Kyoto)

เทะมะริซูชิ (Temarizushi) คือเมนูซูชิที่นำเอาวัตถุดิบต่างๆ มาจัดวางลงบนข้าวคลุกน้ำส้มสายชู ลักษณะเป็นก้อนกลมดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม จึงเป็นที่มาของคำว่า เทะมะริ (Temari) ในชื่อซูชินี้ ที่หมายถึงลูกบอลที่ทำจากไหมพรมสวยสดหลากสีสันนำมาพันม้วนเข้ากับแกนไปเรื่อยๆ จนเป็นก้อนกลม ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมทำขึ้นเพื่อเป็นของเล่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เทะมะริซูชิ (Temarizushi) มีขนาดเล็ก จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่สาวๆ เพราะสามารถทานได้หลายหน้าอย่างละนิดละหน่อย ตามท้องถนนในเมืองเกียวโตนั้นมีร้านซูชิที่สามารถหาทานเทะมะริซูชิ (Temarizushi) อร่อยๆ และหน้าตาน่ารักสวยงามได้อยู่มากมาย วัตถุดิบที่ใช้เป็นหน้าสำหรับเทะมะริซูชิ (Temarizushi) นั้นมีหลากหลาย ทั้งฟองเต้าหูสด นะมะฟุ (Namafu) หรือโปรตีนกลูเตนจากแป้งสาลี ปลาดิบ และของหมักดองต่างๆ หลากชนิด นับเป็นเมนูอาหารที่หน้าตาน่ารักมากทีเดียว

ยุโดฟุ (Yudofu), เกียวโต (Kyoto)

ยุโดฟุ (Yudofu) หรือเต้าหู้ต้ม เป็นเมนูอาหารประเภทหม้อไฟชนิดหนึ่งที่เรียบง่าย ใช้วัตถุดิบคือเต้าหู้เพียงอย่างเดียว รับประทานกับซอสโชยุหรือพอนสุ (Ponsu) ต้นหอมญี่ปุ่น ส้มยูซุ (Yuzu / พืชตระกูลส้มชนิดหนึ่ง รสเปรี้ยว) หัวไชเท้าขูด และปลาคัทสึโอะแห้ง เป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยรสสัมผัสอ่อนนุ่มของเต้าหู้และรสชาติน้ำซุปจากสาหร่ายแห้งคมบุ (Konbu)

ยุโดฟุ (Yudofu)นั้นแต่เดิมเป็นอาหารเจที่รับประทานกันในหมู่พระสงฆ์ ถือกำเนิดจากวัดนันเซนจิ (Nanzen-ji Temple) ในเกียวโต ที่นี่จึงมีร้านที่จะสามารถหาทานเต้าหู้ต้มอร่อยๆ ได้อยู่มากมาย หากหิวและต้องการทานเยอะเป็นพิเศษก็มีคอร์สไคเซะกิ (Kaiseki Course) ที่เสิร์ฟยุโดฟุ (Yudofu) มาเป็นชุดพร้อมกับเทมปุระหรืออาหารชนิดอื่นๆ ไว้บริการ

คะคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi), นารา (Nara)

คะคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi) เมนูสุดพิเศษของจังหวัดนารา (Nara) คือซูชิที่ใช้ชิ้นปลาซาบะหรือแซลมอนมาวางบนก้อนข้าวคลุกน้ำส้มสายชูขนาดพอดีคำ แล้วห่อด้วยใบพลับ (Kakinoha) เมื่อจะรับประทานก็ต้องลอกใบพลับออกก่อน การนำปลามาหมักเกลือแล้วห่อด้วยใบพลับไว้ก็เพื่อไม่ให้เนื้อปลาแห้ง ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารในยุคที่ยังไม่มีตู้เย็นใช้ และเป็นต้นกำเนิดของซูชิใบพลับหรือคะคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi) นี้นั่นเอง

คะคิโนะฮะซูชิ (Kakinohazushi)นั้นสามารถหาซื้อได้ตามแผนกที่จำหน่ายกับข้าวในห้างสรรพสินค้าทั่วไป และเคล็ดลับในการรับประทานให้อร่อยคือ จะไม่รับประทานทันทีเมื่อทำเสร็จ แต่ให้ทิ้งไว้แล้วรับประทานในวันรุ่งขึ้นจะกลมกล่อมได้ที่และอร่อยยิ่งขึ้น

ทาโกะยากิ (Takoyaki), โอซาก้า (Osaka)

อาหารโอซาก้าเมนูหลักเคียงคู่กับโอโคโนะมิยะกิ (Okonomiyaki) และมงจะยากิ (Monjayaki) ก็คือ ทาโกะยากิ (Takoyaki) ซึ่งเป็นอาหารที่ใช้ปลาหมึก (Tako) และขิงดองสีแดงใส่ลงไปในแป้งสาลี แล้วทอดออกมาเป็นลูกกลมๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-5 เซนติเมตร

ทาโกะยากิ (Takoyaki) แบบโอซาก้านั้นจะมีลักษณะกรอบนอกนุ่มใน  ซึ่งจะพบร้านขายทาโกะยากิในโอซาก้าได้มากมายตามย่านอย่างอุเมะดะ (Umeda) ชินไซบะชิ (Shinsaibashi) และโดทงโบริ (Dotonbori)

คุเอะนาเบะ (Kuenabe), วากายะมะ (Wakayama)

หากพูดถึงอาหารอร่อยขึ้นชื่อในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาวของเมืองฮิดะกะโจ (Hidaka-cho) จังหวัดวากายะมะ (Wakayama)  ก็จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก คุเอะนาเบะ (Kuenabe) หรือหม้อไฟปลาคุเอะนั่นเอง ปลาคุเอะ (Kue) อาศัยอยู่ในทะเลจังหวัดวากายะมะ เป็นปลาขนาดใหญ่ลำตัวยาวกว่า 1 เมตร เป็นปลาราคาแพง มีเนื้อสีขาวอุดมด้วยไขมันแต่รสชาติไม่เลี่ยน และเนื่องจากเป็นปลาที่หาได้ค่อนข้างยาก คนท้องถิ่นจึงมักเรียกกันว่า ปลามายา

ปลาคุเอะนี้ สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารอร่อยๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสเต็ก ซาชิมิ เทมปุระ หรือทอดแบบคาราอาเกะ แต่เมนูที่แนะนำให้ลองหาโอกาสชิมกันให้ได้คือหม้อไฟปลาคุเอะ หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คุเอะนาเบะ (Kuenabe) โดยจะใส่วัตถุดิบต่างๆ อย่างผัก เต้าหู้ และเส้นบุก แล้วรับประทานตอนร้อนๆ

เนื้อโกเบ (Kobe Beef), เฮียวโงะ (Hyogo)

เนื้อโกเบ (Kobe Beef) อันเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกนั้น เป็นเนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำด้วยไขมันในปริมาณมากเมื่อเทียบกับเนื้อวะกิว (Wagyu) จากที่อื่นๆ แต่รสชาติกลับไม่เลี่ยนหนักกระเพาะจึงนับเป็นเนื้อวัวชั้นสูงราคาแพง

เราสามารถลิ้มลองรสชาติเมนูอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อโกเบได้ตามร้านอาหารและร้านกินดื่มทั่วไปในเมืองโกเบ (Kobe City) ตั้งแต่เมนูสุดหรูอย่างสเต๊ก เนื้อย่าง ชาบูชาบู และสุกี้ยากี้ ไปจนถึงอาหารง่ายๆ อย่าง แฮมเบอร์เกอร์เนื้อโกเบ และ ราเมงเนื้อโกเบ เป็นต้น