คู่มือแนะนำ ท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยจักรยาน สำรวจญี่ปุ่นบนยานพาหนะสองล้อ

เครือข่ายรถไฟที่ครอบคลุมของญี่ปุ่นนั้นอาจเป็นจุดเด่นของการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่หากลองเปลี่ยนจากการนั่งเจแปนเรลพาส มาเป็นการปั่นจักรยาน คุณก็จะได้พบอีกด้านของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อนหากมัวแต่ท่องเที่ยวในแบบเดิมๆ

คุณอาจจะเคยรู้สึกว่าการวางแผนเดินทางยุ่งยาก ประเทศญี่ปุ่นมีสี่ฤดูกาลที่แตกต่างกันมาก ทั้งยังมีภูมิประเทศและสภาพอากาศในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างหลากหลาย ดังนั้นคุณจึงควรวางแผนการเดินทางให้เหมาะสม

ฤดูหนาวของเกาะทางตอนเหนือสุดอย่างเกาะ ฮอกไกโด จะหนาวมากและกินเวลานาน ในขณะที่ภูมิภาคทางตอนใต้ของเกาะ คิวชู และเกาะ ชิโกะคุ สภาพอากาศอบอุ่นกว่ามาก และเมื่อถึงช่วงฤดูร้อน ตัวของคุณก็จะชุ่มไปด้วยเหงื่อได้ในเวลาไม่นาน เตรียมรับมือกับสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่คุณจะต้องเดินทางไป

เกาะใหญ่ๆ อย่างเกาะฮนชูนั้นมีความแตกต่างของสภาพอากาศมากที่สุด และหากคุณเดินทางจากเมืองอะโอโมริไปยังเมืองยะมะงุชิ คุณจะได้เห็นความหลากหลายที่น่าประทับใจ จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลนั้น คุณควรไปเกาะฮอกไกโดและจังหวัดทางเหนือของเกาะฮนชูในช่วงเดือนที่อากาศร้อนที่สุด และควรออกเดินทางไปทางใต้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง หากคุณรู้สึกอยากผจญภัยเป็นพิเศษ ให้มุ่งหน้าไปที่เมืองเขตร้อนอย่าง โอกินาวะ โดยทั่วไปถนนหนทางมักเงียบสงบในตอนเช้าไม่ว่าคุณจะเดินทางในเส้นทางใด ดังนั้นควรพยายามตื่นแต่เช้าเพื่อใช้เวลาทั้งวันอย่างคุ้มค่า

โดยทั่วไปโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งในญี่ปุ่นนั้นดีมากและถนนก็ได้รับการดูแลอย่างดีทั่วทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าถนนเส้นเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครใช้นักมักจะแคบ ชัน และคดเคี้ยว เส้นทางเหล่านี้อาจท้าทายต่อการสำรวจมากกว่าเส้นทางปกติ แต่วิวสุดวิเศษตลอดข้างทางจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกคุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไป

ผู้ขับขี่ในญี่ปุ่นจะขับรถในช่องเลนซ้ายของถนน คุณจึงควรระมัดระวังหากคุณคุ้นชินกับการขับขี่เลนขวา การปั่นจักรยานในเมืองใหญ่นั้นค่อนข้างตึงเครียดเนื่องจากการจราจรจะติดขัดมาก ดังนั้นพยายามเลือกปั่นจักรยานบนถนนที่การจราจรไม่ติดขัดเท่าที่จะเป็นไปได้จะเป็นการดีที่สุด

ในกรณีที่คุณไม่ต้องการกำหนดเส้นทางขึ้นมาใหม่เองทั้งหมด คุณก็ยังมีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานต่างๆ มากมายที่เคยมีอยู่ให้คุณเลือก หนึ่งในเส้นทางที่ได้รับความนิยมคือ ถนนเซโตะอุจิ ชิมะนะมิ ไคโด ที่ทอดตัวยาวเป็นระยะทาง 60 กิโลเมตรเชื่อมต่อระหว่างเมืองโอโนมิจิในเกาะฮนชูกับเมืองอิมาบาริในเกาะชิโกะคุ คุณจะได้ชื่นชมทัศนียภาพทะเลในเซโตะที่น่าจดจำตลอดเส้นทาง เส้นทางปั่นจักรยานที่ค่อนข้างสะดวกสบายนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักปั่นจักรยานมือใหม่ที่ต้องการสัมผัสการปั่นจักรยานครั้งแรกในญี่ปุ่น เส้นทางนี้เชื่อมต่อเกาะทั้งหมดหกเกาะด้วยสะพานทั้งหมดเก้าแห่ง มีโรงแรมและโฮสเทลมากมายหลายแห่งให้บริการที่พักในราคาสมเหตุสมผลสำหรับนักเดินทางที่เหนื่อยล้า

ลงทะเบียนกิจกรรมปั่นจักรยานวิบาก Japanese Odyssey สำหรับท่านที่ต้องการปั่นจักรยานแบบท้าทายมากยิ่งขึ้น กิจกรรมนี้ผู้ปั่นจะต้องปั่นข้ามจุดตรวจในเกาะฮนชูหลายแห่งในระยะเวลา 10 วันก่อนจะปั่นไปยังพื้นที่อื่นในญี่ปุ่น

กิจกรรมนี้เริ่มจัดขึ้นในปีค.ศ. 2015 และเปลี่ยนเส้นทางปั่นเป็นประจำทุกปี ทำให้เส้นทางไม่จำเจสำหรับนักปั่นจักรยานนานาชาติที่กลับมาร่วมกิจกรรมในทุกๆ ปี มีอีกหลายกิจกรรมที่คล้ายกันนี้จัดขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่นโดยกลุ่มท้องถิ่นต่างๆ ทั้งนี้ หากคุณต้องการมีส่วนร่วม คุณควรตรวจสอบข้อมูลกิจกรรมกับกลุ่มปั่นจักรยานทั้งในและต่างประเทศ

เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเตรียมกางเกงกันน้ำและเสื้อสำรองไว้เปลี่ยน ตอนที่คุณไม่ได้ปั่นจักรยาน แม้ว่าจักรยานของคุณจะไม่ถูกขโมยในญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างไรคุณก็ควรซื้อที่ล็อกอย่างดีไว้เพื่อป้องกันขโมยไว้ก่อน แดดในช่วงฤดูร้อนนั้นมีความรุนแรงเป็นพิเศษ คุณควรพกน้ำติดตัวไว้เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ รวมทั้งแว่นกันแดด ชุดปฐมพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ครบครัน รองเท้าที่ทนทาน และที่ชาร์จสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาใดๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2023 นักปั่นจักรยานในญี่ปุ่นจำเป็นต้องพยายามที่จะสวมหมวกกันน็อค

เนื่องจากธรรมชาติที่เป็นภูเขาของภูมิประเทศ จึงขอแนะนำให้เลือกใช้จักรยานที่มีอัตราทดเกียร์น้อยในการปั่นขึ้นเขาเพื่อช่วยผ่อนแรง จักรยานของคุณจะต้องมีไฟและแถบสะท้อนแสงติดไว้เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง สิ่งเหล่านี้จำเป็นมากเมื่อคุณต้องปั่นจักรยานผ่านอุโมงค์ลอดภูเขาหลายๆ แห่งโดยเฉพาะในฮอกไกโด กฎหมายญี่ปุ่นยังกำหนดให้จักรยานต้องติดกระดิ่งไว้อีกด้วย

คุณสามารถเข้าถึง Wi-Fi ฟรีได้ที่ร้านสะดวกซื้อทุกแห่ง เพราะฉะนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงข่าวสารจากโลกภายนอกได้เสมอ หากจำเป็นจริงๆ คุณยังสามารถเช่าอุปกรณ์พ็อกเก็ต Wi-Fi ที่สนามบินได้เช่นกัน

การพกแผนที่จะช่วยให้คุณไม่หลงทางแม้ว่าจะไม่มีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ก็ตาม และยังเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์เมื่อคุณต้องการถามเส้นทางจากคนท้องถิ่น สอบถามทิศทางและในบางครั้งอาจรวมถึงข้อมูลเชิงลึกต่างๆ กับเหล่าเพื่อนนักปั่นจักรยานของคุณ

ความสุขที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งในการเดินทางด้วยจักรยานคือ สามารถจอดแวะรับประทานอาหารที่ร้านอาหารท้องถิ่นได้ทุกแห่ง ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น และพูดคุยกับเจ้าของร้าน และลูกค้าคนอื่นที่นานๆ ครั้งจะได้พบกับลูกค้าที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือเมืองชนบทในญี่ปุ่นนั้นใช้ภาษาอังกฤษกันน้อยมาก ดังนั้นคุณควรทบทวนวลีภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นเพื่อให้คุณใช้ชีวิตในเมืองชนบทของญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้นเล็กน้อย มีร้านสะดวกซื้อที่จำหน่ายของว่างราคาถูกและอร่อยให้คุณได้แวะหากมีเวลาหยุดพักสั้นๆ ระหว่างทาง คุณสามารถพบร้านสะดวกซื้อได้แทบทุกเมือง

ตัวเลือกในการค้างคืนของคุณจะมีทั้งในโรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม (เรียวคัง (ryokan)) โรงแรม Airbnb หรือแม้กระทั่งตั้งแคมป์ใต้แสงดาว แต่อย่าลืมเก็บกวาดขยะก่อนออกเดินทางต่อ ไรเดอร์เฮาส์เป็นที่พักราคาประหยัดแบบพิเศษที่พบเห็นได้โดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกาะฮอกไกโด เป็นบ้านพักอาศัยแบบเรียบง่ายสำหรับนักเดินทางโดยจักรยานเท่านั้น อย่างไรก็ตามบ้านพักสำหรับนักปั่นบางแห่งไม่เปิดให้เข้าพักในช่วงฤดูหนาวอันยาวนานบนเกาะ

ในกรณีที่จักรยานของคุณประสบปัญหาหรือต้องซ่อมแซม คุณอาจขอให้ร้านซ่อมแซมจักรยานในท้องถิ่นช่วยซ่อมจักรยานให้คุณได้ ควรตรวจสอบจักรยานของคุณเป็นประจำเพื่อดูสัญญาณการสึกหรอ หากต้องไปในพื้นที่ห่างไกลที่อาจไม่มีร้านซ่อมให้บริการ หากมีงบเพียงพอ คุณอาจเดินทางไปที่ศูนย์บริการซ่อมแซมที่มีช่างเฉพาะด้านเพื่อตรวจสอบปัญหาการสึกหรอ

หากคุณจำเป็นต้องพกจักรยานของคุณขึ้นบนรถโดยสารหรือรถไฟ ให้ใส่ไว้ในที่ใส่จักรยาน Rinko มีจำหน่ายในร้านจักรยานญี่ปุ่นทุกแห่งราคาประมาณ 5,000 เยน หลีกเลี่ยงใช้บริการรถไฟช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเพราะจะเกิดปัญหามีพื้นที่สัมภาระไม่เพียงพอ หากคุณเดินทางโดยเรือข้ามฟาก คุณจะได้รับอนุญาตให้นำจักรยานของคุณขึ้นเรือได้โดยไม่ต้องใช้ที่ใส่จักรยาน จักรยานให้เช่า (rentasaikuru) จะมีให้บริการตามสถานที่ที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากและคุณควรเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม แสดงบัตรประจำตัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย เช่น หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ บริษัทให้เช่าจักรยานทั้งภาครัฐและเอกชนเหล่านี้มักจะมีพนักงานที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่งหากเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ๆ เช่นโตเกียวหรือโอซาก้า

หากคุณยังกังวลเล็กน้อยในเรื่องการปั่นจักรยานผจญภัย ยังมีบริษัทจำนวนมากที่ให้บริการทัวร์นำเที่ยวตามเกาะหลักๆ ของญี่ปุ่น การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมไม่ว่าคุณจะเดินทางด้วยวิธีใดก็ตาม

ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับเวบไซต์อย่างเป็นทางการ