เดินทางสู่โทยามะ และ คานาซาวะ ด้วย Hokuriku Shinkansen ใหม่ล่าสุด

“Hokuriku Shinkansen” ชินคังเซ็นเส้นทางใหม่ เชื่อมต่อกรุงTokyo กับ Toyama และ Kanazawa เปิดให้บริการในวันที่ 14 มีนาคม 2015 เป็นต้นไป โดยเดินทางเที่ยวจากเมืองหลวงอย่าง Tokyo ไปถึงภูมิภาค Hokuriku อย่างง่ายพร้อมให้นักท่องเที่ยวสนุกไปกับการเดินทางที่สะดวกสบายและรวดเร็ว

Hokuriku Shinkansen ศูนย์รวมความงามแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ตั้งแต่มีการเปิดให้บริการรถไฟชินคันเซ็นสายแรกในปี 1964 ซึ่งเป็นปีที่จัดโอลิมปิคที่โตเกียว ชินคันเซ็นได้ขยายเส้นทางครอบคลุมหลายภูมิภาคเกือบทั่วญี่ปุ่น และเส้นทางใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดได้แก่ Hokuriku Shinkansen นี้ วิ่งจากเมือง Tokyo ไปสุดที่เมือง Kanazawa ในจังหวัด Ishikawait โดยมีการผ่านไปตามจุดใหญ่ๆ ได้แก่ Ueno, Omiya, Nagano และ Toyama

เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อ Tokyo และ Toyama ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงโดยรถไฟ (ซึ่งก่อนหน้าใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง) และจาก Tokyo กับ Kanazawa ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง (จากแต่ก่อนที่เคยใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง) และผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนขบวนอีกต่อไป

พื้นที่ตามเส้นทางของ Hokuriku Shinkansen เป็นที่รู้จักในด้านความสวยงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะจังหวัดToyama หลังจากผ่านอุโมงค์จากจังหวัดNagano แล้ว คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของเทือกเขาที่สูงกว่า 3,000 เมตร จากหน้าต่างด้านหนึ่งและตื่นตาตื่นใจไปกับวิวทะเลของญี่ปุ่นจากหน้าต่างอีกด้าน

The E7 series การผสานกันระหว่างความดั้งเดิมและเทคโนโลยีล้ำสมัย

Hokuriku Shinkansen ถูกพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิด “นำความงามของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและความสวยงามของเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน” แนวคิดญี่ปุ่นดั้งเดิมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกออกแบบโดยนักออกแบบอุตสาหกรรม คุณ Kikoyuki Okuyama ที่เป็นที่รู้จักในนาม “ผู้ออกแบบเฟอรรารี่ที่ไม่ใช่คนอิตาลีคนแรก” ได้ผสมผสานความสวยงามและความหรูหราอย่างลงตัว

ส่วนหัวรถไฟเป็นออกแบบให้ลู่ลมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยลักษณะการออกแบบที่เรียกว่า “one – motion line” สีฟ้าตรงทั่วขบวนแทนท้องฟ้าที่แผ่ปกคุลมเส้นทางของ Hokuriku Shinkansen และสีทองแดงสื่อถึงสีของเครื่องทองแดงและผลงานสลักซึ่งเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ รถไฟขบวนนี้ยังมีติดตั้งระบบป้องกันการสั่นไหวใหม่ล่าสุด และพื้นที่ภายในก็ได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจแม้แต่รายละเอียดที่เล็กที่สุด ทำให้คุณสามารถสัมผัสได้ถึงทั้งความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไปพร้อมๆกัน

ขบวนรถที่หรูหราที่สุด

Hokuriku Shinkansen มี 3 ระดับด้วยกัน จุดเด่นอยู่ที่ “Gran Class” ระดับสูงสุดที่มีเพียงหนึ่งโบกี้ใน Hokuriku Shinkansen แต่ละขบวน การออกแบบมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมผสมผสานกับสีของงานฝีมือแบบญี่ปุ่น

ภายในนั้น ในขณะที่โบกี้อื่นๆจะมี 5 ที่นั่งใน 1 แถว แต่ภายใน Gran class จะมีเพียง 3 ที่นั่งใน 1 แถวเท่านั้น ทำให้ที่นั่งมีความกว้างขวางและสะดวกสบาย เบาะหนังปรับได้ 45 องศามาพร้อมอุปกรณ์คือโต๊ะ โคมไฟอ่านหนังสือ ฉากกั้น ปลั๊กไฟ และที่วางเท้าเพื่อการันตีความสะดวกสบายและความหรูหราให้ผู้เดินทาง

อย่างไรก็ตามคุณอาจประหลาดใจว่า Hokuriku Shinkansen ที่ถูกผลิตที่โรงงานถูกเคลื่อนย้ายมาบนรางรถไฟได้อย่างไร วีดีโอด้านบนคือคำตอบของคำถามนี้ ในประเทศญี่ปุ่น ความกว้างของรางรถไฟท้องถิ่นและของรางชินคันเซ็นมีความแตกต่างกัน ทำให้ชินคันเซ็นไม่สามารถขับเคลื่อนบนรางของรถไฟธรรมดาได้ ด้วยเหตุผลนี้ Hokuriku Shinkansen จึงถูกขนส่งทางเรือและรถบรรทุกเป็นระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร จากโรงงานในเมือง Kobe มายังเมือง Kanazawa ที่เป็นฐานของ Hokuriku Shinkansen

เดินท่องเที่ยวสบายไปรอบๆ Toyama สัมผัสความงามของธรรมชาติ

(C) Tateyama Kurobe Kanko Yuki no Otani หรือ “กำแพงหิมะ”

 

การเปิดตัวของ Hokuriku Shinkansen ทำให้การเข้าถึงจังหวัด Toyama และจังหวัด Ishikawa สะดวกมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของจังหวัด Toyama คือความสวยงามของธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งรวมถึงช่องแคบระหว่างภูเขา Kurobe ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนท่ามกลางธรรมชาติ รวมทั้งหมู่บ้าน Gokayama ซึ่งเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม

กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างของนักท่องเที่ยวคือการเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ Tateyama Kurobe Alpine Route แม้ว่าจะสามารถเยี่ยมชมได้แค่ระหว่างกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้นเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีหิมะตกหนัก หากมาที่นี่ คุณสามารถชมวิวทิวทัศน์ของท้องฟ้าใกล้กับเทือกเขาได้อย่างใกล้ชิดเพราะภูเขาที่นี่สูงกว่า 2,000 เมตร และหากคุณเดินทางมาในช่วงเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมคุณจะได้เห็นสถานที่เป็นเอกลักษณ์ที่โด่งดังเรียกว่า Yuki no Otani หรือ “กำแพงหิมะ” ซึ่งมีขนาดใหญ่มหึมา โดยใช้รถตักขุดหิมะออกจากผิวถนน ก่อให้เกิดเป็นกำแพงหิมะสองฝั่งที่สูงกว่า 5 เมตร (หากหิมะตกหนักบางปี กำแพงสูงได้ถึง 20 เมตร) นี่คือสุดยอดความงามที่คุณสามารถเห็นได้แค่ช่วงระยะเวลาดังกล่าวเท่านั้น

เพลิดเพลินไปกับ Kanazawa ที่ซึ่งประเพณีและความทันสมัยคงอยู่ร่วมกัน

การออกแบบสถานี Kanazawa อย่างงดงาม
สถานีรถไฟ Kanazawa เป็นที่ตั้งของสำนักงานจังหวัด Ishikawa ที่ตั้งอยู่สถานีสุดท้ายของ Hokuriku Shinkansen ในปี 2015 ได้รับการโหวตให้เป็น “สถานีที่สวยที่สุดในโลก” อันดับที่ 6 ในปี 2011 ผ่านการโหวตออนไลน์ของนิตยสารท่องเที่ยวของอเมริกาที่ชื่อว่า “Travel+Leisure”
สถานีนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาว Kanazawa เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงการผสานกันระหว่างการต้อนรับอย่างอบอุ่นและประเพณีแบบญี่ปุ่น
นอกจากนี้ หากมาที่พิพิธภัณฑ์ “21st Century Museum of Contemporary Art, Kanazawa” ใน Kanazawa คุณสามารถชื่นชมศิลปะสมัยใหม่จากทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ผู้คนมากมายที่เดินทางมาเยี่ยมชมตึกที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามโดย SANAA (หน่วยสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่ชนะรางวัล Pritzker Prize รางวัลที่ถูกเรียกว่ารางวัลโนเบล (Nobel Prize) ของสถาปัตยกรรม

Higashi Chayagai กับภูมิทัศน์เมืองแบบดั้งเดิม
ที่ Kanazawa ที่คุณสามารถชมภูมิทัศน์บ้านเมืองสมัยก่อนของญี่ปุ่นจากแหล่งท่องเที่ยวรวมทั้งที่บริเวณ Higashi Chayagai และสวน Kenrokuen Garden มีงานฝีมือดั้งเดิมมากมาย เช่น Kutani ware (เครื่องปั้นดินเผาแบบญี่ปุ่น) และสินค้าที่ทำจากแผ่นทองคำเปลว เป็นที่ให้คุณสนุกกับการช้อปปิ้งได้เช่นกัน
จังหวัด Toyama เป็นที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทั้งธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น และจังหวัด Ishikawa เป็นที่ซึ่งคุณสามารถพบทั้งความดั้งเดิมและความทันสมัยในเวลาเดียวกัน นับเป็นสถานที่ห้ามพลาดของการเดินทางโดย Hokuriku Shinkansen

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

Travel tips by JNTO

จดหมายข่าวอื่นๆ