เดินตามรอยศรัทธา ไหว้พระขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 3

วัดน้ำใส สายน้ำ 3 สายในกรุงเก่าเกียวโต

วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต ได้แก่ วัดคิโยมิสึเดระ (清水寺 Kiyomizu-dera) แปลเป็นภาษาไทยว่า “วัดน้ำใส” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 778 หรือ พ.ศ. 1321 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง

ประวัติวัดคิโยมิสึเดระ

สร้างขึ้นในสมัยช่วงต้นของยุคเฮอันเกียวหรือสร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น โดยตระกูลโตกุกาว่า (Tokugawa clan) เป็นผู้สร้างขึ้น ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่

เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว เนื่องจากช่างไม้ใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ

อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต จากบริเวณระเบียงวัด นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของทิวทัศน์รอบเมืองเกียวโต

news-temples-2014-04news-temples-2014-05

“โดดระเบียงวัดคิโยมิสึเดระ”

มีประโยควลียอดฮิตอยู่วลีหนึ่งเกี่ยวกับ วัดคิโยมิสึเดระ ได้แก่วลีที่ว่า “โดดระเบียงวัดคิโยมิสึเดระ” ที่มาของวลีนี้เกิดจากความเชื่อที่ว่า กระโดดลงจากระเบียงที่วัดคิโยมิสึเดระแล้วยังรอดชีวิตกลับมาได้ ความปรารถนาของคนๆนั้นจะเป็นจริง หลังจากที่วลีนี้แพร่หลาย มีชาวญี่ปุ่นมาโดดระเบียงนี้กันจริงๆ แต่ในปัจจุบัน ทางวัดป้องกันไม่ให้กระโดดแล้ว

news-temples-2014-06news-temples-2014-07

ที่มาของชื่อวัด

ชื่อวัดน้ำใส มาจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) เป็นน้ำตกที่แบ่งย่อยออกเป็นสามสายไหลลงมาภายในบริเวณวัด เนื่องจากน้ำดังกล่าวมีความใส จึงตั้งชื่อวัดตามลักษณะดังกล่าว ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า หากผู้ใดได้ดื่มน้ำใสที่วัดคิโยมิสึเดระ จะสมปรารถนาในสิ่งที่หวังไว้

น้ำบริสุทธิ์ อันมีที่มาจากเทือกเขา เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยมีความเชื่อว่า

หากดื่มน้ำจากแม่น้ำสายที่

  1. จะประสบความสำเร็จด้านการเรียน การศึกษา
  2. จะสมหวังเรื่องความรัก
  3. จะมีสุขภาพแข็งแรงทำให้มีอายุยืนยาว

news-temples-2014-08news-temples-2014-09news-temples-2014-10

news-temples-2014-11news-temples-2014-12news-temples-2014-13

ระหว่างทางเดินขึ้น วัดคิโยมิซึเดระ

ทางเดินขึ้นสู่วัดชาวไทยเรียกติดปากกันว่า “ถนนสายกาน้ำชา”ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Go-Jo zaka สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากเป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายตลอดสองข้างทาง มีกาน้ำชาวางขายเป็นจำนวนมาก

บริเวณนี้มีร้านขายของที่ระลึกมากมายให้เลือกชม ร้านขายของฝากของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่น อาทิ พัดสารพัดแบบ ร่ม เข็มกลัด ชุดกิโมโน ตุ๊กตาในชุดกิโมโน เป็นต้น อีกทั้งยังมีขนมขึ้นชื่อของเมืองเกียวโต พร้อมมีให้ชิมฟรีอีกด้วย

news-temples-2014-14news-temples-2014-15news-temples-2014-16

ทางเข้าวัดน้ำใส

มีซุ้มประตูเข้าวัดและเจดีย์ 3 ชั้นเด่นตระหง่าน บริเวณซุ้มประตูวัดมียักษ์ยืนอยู่ข้างประตูซุ้มทั้งสองด้าน ซุ้มประตูนี้เรียกว่า ประตูนิโอ (仁王門) ถัดไปทางขวาเล็กน้อยเป็นอีกซุ้มประตูอีกแห่ง เรียกว่า ประตูตะวันตก (西門) ไม่ได้เปิดให้ผ่าน เดินเลยขึ้นไปจะได้พบกับหอพระเรียกว่า หอซุยคุ (隋求) ภายในมีพระอวโลกิเตศวรประดิษฐานอยู่หนึ่งองค์

news-temples-2014-17news-temples-2014-18

news-temples-2014-19news-temples-2014-20news-temples-2014-21

ศาลเจ้าต่างๆภายในบริเวณวัด

ด้านหลังศาลาใหญ่มีศาลเจ้าเด่นๆที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ศาลเจ้าจิชุ (Jishu Shrine) หรือที่เรียกกันว่าศาลเจ้าแห่งความรัก เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพโอคุนินุชิ โนะ มิโคโตะ (Okuninushi no Mikoto) เทพแห่งความรักและความราบรื่นในชีวิตคู่ นับว่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในศาลเจ้าจะมีหินสองก้อนเรียกว่า “เมกุระอิชิ” แปลว่า หินตาบอด หรือ หินแห่งความรัก หินสองก้อนตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร นี่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของศาลเจ้า ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าถ้า

สามารถหลับตาแล้วเดินจากหินก้อนหนึ่งไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้โดยท่องชื่อคนรักไว้ในใจจะทำให้ผู้นั้นสมปรารถนาในความรัก หรือการสามารถพิสูจน์รักแท้ได้ โดยการให้คู่ของตนยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของหินแล้วปิดตา แล้วให้คนที่ปิดตาเดินมาหาคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งให้ได้ ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นรักแท้

 วัดคิโยมิสึเดระ
清水寺 (Kiyomizu-dera)
 วัดคิโยมิสึเดระสวยงามทุกฤดูกาล ฤดูใบไม้ผลิมีดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่ง ฤดูร้อนมีสีเขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้ร่วงก็เต็มไปด้วยสีแดงอมส้มของใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาวเห็นชาวญี่ปุ่นแต่งตัวในชุดยูคะตะหรือแต่งเป็นเกอิชามาถ่ายภาพที่วัด ทั้งยังมีเทศกาลประจำปีของวัดด้วย
 ช่วงเวลา:   เวลาเปิดให้เข้าชม 06.00 – 18.00 น. (ดูรายละเอียดในตารางด้านล่าง)
 ค่าเข้า :  ช่วงเวลาเปิด-ปิด (ปกติ) ผู้ใหญ่ 300 เยน / เด็ก 200 เยนช่วงเวลาเปิด-ปิด (Special night) ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 200 เยน
 สถานที่ :  1-294 Kiyomizu Higashiyama-ku, Kyoto CityTel.: +81-(0)75-551-1234
 การเดินทาง :  สายรถเมล์ที่ผ่าน 100,202,206,207 ลงที่ป้าย Kiyomizu-Michi แล้วเดินเข้าไปตามทาง
จาก สถานี Kyoto นั่งรถไฟสาย Keihan Line ไปลงที่สถานี Kiyomizu Gojo
 อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บไซต์ของวัดน้ำใส (ภาษาอังกฤษ)
http://www.kiyomizudera.or.jp/lang/01.htmlเว็บไซต์ทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (ภาษาอังกฤษ)
http://www.jnto.go.jp/eng/location/spot/shritemp/kiyomizudera.htmlเอกสารสามารถดาวโหลดได้ (ภาษาอังกฤษ)
http://www.jnto.go.jp/eng/location/rtg/pdf/pg-503.pdf เว็บไซต์การท่องเที่ยวเกียวโต (ภาษาอังกฤษ)
http://www.kyoto.travel/2009/11/kiyomizu-dera-temple.html
ตารางเวลาเปิด-ปิดของวัดคิโยมิสึเดระในปี 2014

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

(ปกติ)

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

(Special night)

เวลาเปิด เวลาปิด เวลาเปิด เวลาปิด
From Jan. 2 to Mar. 13 6:00 18:00
From Mar. 14 to 23(Special night opening in spring) 6:00 17:30 18:30 21:30
From Mar. 24 to 28 6:00 18:00
From Mar. 29 to Apr. 13(Special night opening in spring) 6:00 17:30 18:30 21:30
Weekdays from Apr. 14 to Jul. 31 6:00 18:00
Sat., Sun. and holidays from Apr. 14 to Jul. 31 6:00 18:30
From Aug. 1 to 13 6:00 18:30
From Aug. 14 to 16(Special night opening in summer) 6:00 18:00 19:00 21:30
From Aug. 17 to Sep. 30 6:00 18:30
Oct. 1 to Nov. 13 6:00 18:00
From Nov. 14 to Dec. 7(Special night opening in autumn) 6:00 17:30 18:30 21:30
From Dec. 8 to 30 6:00 18:00
Dec. 31 (the bells on New Year’s Eve) 6:00 18:00 22:00 เปิดตลอดคืน
Jan. 1 (New Year’s temple visit) เปิดตลอดทั้งวันทั้งคืน
จดหมายข่าวอื่นๆ