แนะนำสถานที่น่าสนใจ ในโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ (Hokuriku/Shinetsu)

คะรุอิซะวะ (Karuizawa), นะงะโนะ (Nagano)

คะรุอิซะวะ (Karuizawa) เป็นสถานตากอากาศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พร้อมพรั่งด้วยบ้านพักตากอากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ โรงแรมและรีสอร์ท รวมถึงย่านการค้าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน

 

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่

 ฮารุนิเระเทอเรส (Harunire Terrace) ตั้งอยู่ในพื้นที่ของคะรุอิซะวะ โฮะชิโนะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่สร้างอย่างกลมกลืนไปกับป่าและธรรมชาติโดย เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร มากมายนักท่องเที่ยวสามารถเดินเลือกซื้อสินค้า รับประทานอาหาร หรือจะจิบกาแฟในคาเฟ่ท่ามกลางธรรมชาติ

คิวคะรุอิซะวะ (Kyu-Karuizawa) เป็นย่านที่มีเสน่ห์แบบโบราณ มีถนนช้อปปิ้งความยาว 400 เมตร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนม เครื่องดื่ม ร้านกาแฟน่ารักๆ ร้านขายของใช้เครื่องประดับ ของพื้นเมือง ของที่ระลึกให้เราได้เลือกเดินช้อปและชิมกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมี โบสถ์อนุสรณ์บาทหลวงชอว์ (Shaw Memorial Chapel) ซึ่งเราสามารถเข้าไปเที่ยวชมเพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของสถานตากอากาศคะรุอิซะวะแห่งนี้ได้

 น้ำตกชิระอิโตะ (Shiraito Falls) เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาราวกับเส้นไหมหลายร้อยเส้น เป็น 1 ในสถานที่ที่เราจะได้รื่นรมย์กับธรรมชาติอันงดงามของคะรุอิซะวะ (Karuizawa) ได้อย่างเต็มอิ่มด้วยน้ำใสสะอาดที่ไหลตามความโค้งของผนังหินยาว 70 เมตร สูง 3 เมตร ในช่วงฤดูร้อนของทุกปีจะมีการจัดงานประดับไฟไลท์อัพสวยงามในตอนกลางคืนอีกด้วย

คะรุอิซะวะ พรินซ์ ช้อปปิ้งพลาซ่าแอนด์เอาท์เล็ต (Karuizawa Prince Shopping Plaza and Outlet) ซึ่งรวมร้านแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย รวมแล้วกว่า 240 ร้านค้า และกว่า 104 ร้านที่เป็นร้านค้าปลอดภาษี

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://karuizawa-kankokyokai.jp
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.jnto.go.jp/eng/regional/nagano/karuizawa.html
http://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1208_karuizawa.html
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/resort-in-summer/
http://www.go-nagano.net/th/killer/karuizawa

เกาะซาโดะ (Sado Island), นีงะตะ (Niigata)

เกาะซาโดะ (Sado Island) เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่จังหวัดนีงะตะไปเป็นระยะทางราว 40 กิโลเมตร เป็นที่อยู่อาศัยของนกโทะคิ (Toki) ซึ่งเป็นนกประจำชาติของญี่ปุ่น ที่เกาะซาโดะนี้ การเกษตรและการประมงเจริญรุ่งเรือง เราจึงสามารถเอร็ดอร่อยไปกับอาหารบนเกาะแห่งนี้ได้มากมาย เช่น อาหารทะเล เนื้อวัวชั้นดีซาโดะกิว (Sado Beef) และไวน์รสเลิศ เป็นต้น

จุดเด่นของเกาะนี้คือ เรืออ่างทะระอิ บุเนะ (Tarai-bune boat ride) เรือโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านโองิ (Ogi Town) มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับอ่างไม้ทรงกลมสำหรับอาบน้ำในอดีต โดยพื้นที่แถบหมู่เกาะซะโดเคยเป็นเมืองการค้าที่รุ่งเรืองมาก เพราะเป็นเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการขนส่งและกระจายสินค้าระหว่างภูมิภาคฮอกไกโดและภูมิภาคอื่นๆ ในญี่ปุ่น โดยชาวบ้านใช้เรือเพื่อเก็บหอยเชลล์และสาหร่ายทะเลที่เกาะตามโขดหิน เราสามารถลองล่องเรือไม้นี้ได้ โดยมีฝีพายหญิงในชุดยูนิฟอร์มสีสันสดใสและหมวกใบใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ พาเที่ยวชมความสวยงามของสถานที่และท้องทะเลแห่งเกาะซะโดแบบเต็มตาเต็มอารมณ์ หรือจะทดลองพายเรือน้อยกลมๆ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ตัวเองก็ได้เช่นกัน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่

 ถนนสายประวัติศาสตร์เคียวมะจิ (Kyomachi Street)
เหมืองทองซะโดคินซัง (Sado Kinzan Gold Mine) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยมีการทำเหมืองทองคำและเหมืองเงินมาราว 400 ปีแล้ว
 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซะโด (Sado History Museum)
 หมู่บ้านชุคุเนะงิ (Shukunegi Village)
 ถ้ำอิวะยะซังและปฏิมากรรมพระพุทธรูป (Iwayasan Cave & Buddha Statues)

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.visitsado.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.visitsado.com/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/niigata/#Sado-Island

เส้นทางสายเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route), โทยามะ (Toyama)

เส้นทางสายเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนเมษายนจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างทาเตยามะ (Tateyama) ในจังหวัดโทยามะ (Toyama) และโองิซาวะ (Ogisawa) ในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) รวมระยะทางราว 25 กิโลเมตร ต้องอาศัยพาหนะหลากหลายรูปแบบรวมถึงเคเบิลคาร์ รถบัส และกระเช้าไฟฟ้า  โดยตลอดเส้นทางนี้นักท่องเที่ยวจะได้รื่นรมย์กับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ตระการตาของเทือกเขาแอลป์เหนือซึ่งครอบคลุมระยะทางกว่า 3,000 เมตร

สิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจบนเส้นทางสายเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ 

 พื้นที่ชุ่มน้ำทุ่งมิดางะฮาระ (Midagahara Wetlands) สามารถเดินบนทางเดินที่ปูด้วยแผ่นไม้ไปรอบๆ บริเวณของที่นี่ได้ โดยแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
 กำแพงหิมะ ยุคิโนะโอทานิ (Yuki-no-Otani Snow Wall) สองฝั่งซึ่งมีความสูงเกือบ 10 เมตร
ที่ราบมุโระโดไดระ (Murodo-daira) จุดที่สูงที่สุดในเส้นทางเจแปนแอลป์บนความสูง 2,450 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็นเส้นทางเดินเขา (hiking) วนรอบบึงมิคุริงะอิเคะ (Mikurigaike)ได้หนึ่งรอบ ทางเดินปูด้วยหินจึงสามารถใส่รองเท้าผ้าใบเดินได้สบายๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปบรรดาพืชอัลไพน์ทั้งหลายก็จะเริ่มผลิดอกบาน และจะได้เห็นนกไรโจหรือนกป่าหิมะ (Ptarmigan) พร้อมสนุกสนานกับการเก็บภาพสวยๆ โดยมีภูเขาแอลป์เหนือสูงตระหง่านเป็นฉากหลัง
 กระเช้าไฟฟ้าทาเตยามะ (Tateyama Ropeway)เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ชื่นชมวิวพาโนรามาแห่งภูเขาแอลป์
 เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) ที่อยู่ในหุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge) ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนตุลาคมจะมีการปล่อยน้ำทุกวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพมวลน้ำขนาดมหึมาที่ถูกปล่อยออกมาดูทรงพลังอย่างมาก รอบๆ บริเวณเขื่อนมีวิวสวยๆ ที่ควรค่าแก่การถ่ายรูปอยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีบริการกล้องที่จุดชมวิวในการถ่ายภาพเขื่อนในระยะใกล้ ที่เรียกว่า “โฟโต้แดม (Photo Dam)” ซึ่งได้รับความนิยมมากอีกด้วย

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.alpen-route.com/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.alpen-route.com/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://www.alpen-route.com/th/

https://www.jnto.or.th/newsletter/tateyama-kurobe-alpine-route/

ทะกะโอกะ (Takaoka), โทยามะ (Toyama)

ทะกะโอกะ (Takaoka) จังหวัดโทยามะ(Toyama) เป็นบ้านเกิดของ Fujiko F. Fujio ผู้เขียนโดราเอมอน โดยที่ตัวเมืองทะกะโอกะ (Takaoka City)เราจะสามารถพบเจอกับตัวละครต่างๆ จากเรื่องโดราเอมอนได้ทุกหนทุกแห่ง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามและสถานที่ประวัติศาสตร์อยู่มากมาย

 

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่

 วัดทะกะโอกะซุยริวจิ (Takaoka Zuiryu-ji Temple) ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติ เป็นวัดที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่นและมีบรรยากาศเงียบสงบ กล่าวกันว่าทางวัดยังคงอนุรักษ์รูปแบบของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ราว 400 ปีก่อนเอาไว้เป็นอย่างดี ให้เราได้เดินเล่นในสวนกว้างใหญ่พลางชื่นชมวัดที่เงียบสงบงดงาม

 พระใหญ่ทะกะโอกะไดบุทสึ (Takaoka Daibutsu) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง องค์พระสูงราว 16 เมตร น้ำหนักราว 65 ตัน

 ย่านเมืองเก่าทะกะโอกะ (Old town district in Takaoka) หนึ่งในย่านเมืองเก่าของทะกะโอกะที่เจริญรุ่งเรืองในฐานะแหล่งผลิตเครื่องสำริดมาตั้งแต่ 400 ปีก่อน อาคารบ้านเรือนที่มีโครงไม้ขัดกันเป็นตารางกับทางเดินที่ปูด้วยหินดูกลมกลืนเข้ากัน และอาคารหลายๆ หลังก็ยังได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีให้อยู่ในสภาพเดิมเหมือนเมื่อ 100 ปีที่แล้ว

ชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast) สามารถที่จะไปนั่งพักผ่อนชมวิว ดื่มด่ำบรรยายกาศธรรมชาติ ที่มีเสียงคลื่นทะเลพัดสาดเข้าหาด พร้อมวิวทะเลสีฟ้าครามกับพื้นหลังเป็นเทือกเขาความสูงกว่า 3,000 เมตร ที่ทอดยาวในอ่าวโทยามะ ทำให้ที่นี่ติดอันดับ 1 ใน 100 วิวชายหาดที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีคาเฟ่ และร้านอาหารมากมายเรียงรายอยู่รอบๆ

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) https://www.takaoka.or.jp
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) https://www.takaoka.or.jp/en/?lang=en
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) https://www.jnto.or.th/newsletter/toyama/#Takaoka-City
https://www.jnto.or.th/newsletter/takaoshi-in-toyama/

คานาซาวะ (Kanazawa), อิชิคะวะ (Ishikawa)

คานาซาวะ (Kanazawa) ในจังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) เป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ จุดเด่นอยู่ที่งานหัตศิลป์โบราณหรือศิลปะการแสดงต่างๆ ซึ่งทาง UNESCO แต่งตั้งให้เมือง Kanazawa เป็นเมืองแห่งงานฝีมือและศิลปะพื้นบ้านในเครือข่าย Creative Cities Network จึงมีกิจกรรมมากมายรองรับตั้งเด็กจนถึงผู้สูงวัย นอกจากนี้ในตัวเมืองยังมีที่เที่ยวอีกมากมายที่เน้นความโบราณและความเป็นญี่ปุ่น

 

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่

ปราสาทคานาซาวะ (Kanazawa Castle) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติแห่งชาติ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ 21 คานาซาวะ (21st Century Museum of Contemporary Art, Kanazawa) นำเสนอศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินชาวญี่ปุ่นและทั่วโลก มีทั้งแกลเลอรี่ และโซนจัดแสดงถาวร ซึ่งมีผลงานที่มีชื่อเสียง อาทิ “Swimming pool” ของ Leandro Erlich

ย่านโรงน้ำชาฮิงาชิชายะ (Higashi Chaya District) เป็นเขตร้านน้ำชาเก่าสมัยโบราณมีอาคารเก่าแก่อายุไม่น้อยกว่า 180 ปีเรียงรายตลอดสองข้างทาง นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงโชว์ของเกอิชาได้ในย่านนี้ ตลอดทางมีร้านขายของที่ระลึกและร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นสวยๆ ให้ได้แวะดื่มชิมกันแบบหนำใจ ห้ามพลาดชิมซอฟท์ครีมเคลือบด้วยแผ่นทองคำเปลว

 ศาลเจ้าโอะยามะ (Oyama Shrine)ที่แห่งนี้ก็โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ดูทันสมัยราวกับโบสถ์คริสต์เลยทีเดียว หน้าต่างกรุด้วยกระจกสีหลากสีสัน เมื่อมีการเปิดไฟไลท์อัพในตอนกลางคืนจึงดูโรแมนติกมาก และที่นี่ยังมีโอมิคุจิ (Omikuji) หรือเซียมซีสำหรับเรื่องความรัก และเรื่องอื่นๆ สำหรับผู้หญิงอีกด้วย

 สวนเคนโระคุเอ็น (Kenroku-en Garden) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามสวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น

เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) http://www.kanazawa-kankoukyoukai.or.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) http://www.en.visitkanazawa.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) http://kanazawa-tourism.com/thai/main/index.php
https://www.jnto.or.th/newsletter/kanazawa/